ขอจองได้ไหมหัวใจดวงนี้…บทที่ 13

กระทู้สนทนา

.

             “ว่ายังไงครับคุณครูพิธา” พิสิฐทักทายพี่ชายเมื่อเดินมาถึง หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อย เดินมาหาคนทั้งสามที่นั่งอยู่ริมชายหาด ส่วนเด็กชายกำลังง่วนอยู่กับการเล่นทรายคนเดียว

              “สวัสดีค่ะพี่พิธา” ปีรติทักทายครูหนุ่มอีกคน พิธาโค้งศีรษะทักทายทั้งสองคนเช่นกัน “วานึกว่าคุณครูของพี่ลีเอ้ยของอคิณจะไม่มาซะแล้ว” ปีรติได้โอกาสพูดแซวพี่สะใภ้เสียเลย ทว่าโดนเจ้าตัวค่อนขวับกลับมาให้

               “สวัสดีครับคุณวา ผมต้องมาสิครับ! ผมพูดคำไหนคำนั้น” พูดกับปีรติแต่ว่าแอบชำเลืองไปมองอีกคน “ส่วนแก! เจ้าสิฐกลับบ้านฉันมีเรื่องต้องคุยกับแก” ชี้หน้าน้องชาย

               “ก็คุยกันตรงนี้เลยสิครับคุณครู จะไปคุยที่บ้านทำไม” พิสิฐพูดเย้าแหย่ มองพี่ชายด้วยสายตาทะเล้น มีโอกาสแกล้งพี่ชายทั้งทีมีหรือจะปล่อยให้ผ่านไปง่าย ๆ  “แหมบังเอิญจังเลยนะครับ วันก่อนพี่พึ่งคุยเรื่องแฟนให้ผมฟัง”

               “ไอ้พิสิฐ!” พิธาพูดแทรกเพื่อต้องการให้น้องชายหยุดพูด เพราะลึก ๆ ตัวเองเขินต่างหาก ไม่คิดว่ามันจะบังเอิญได้ขนาดนี้จริง ๆ กับปีรติเคยเจอกันมาบ้างแล้ว ก็ไม่คิดว่าจะเป็นคน ๆ เดียวกันกับอาวาที่เด็กชายอคิณพูดถึง

                 “เรียกน้องเรียกนุ่งให้มันดี ๆ หน่อยสิครับคุณครู ต่อหน้าคุณอัญชลีนะครับ” พิสิฐได้ทีก็เล่นใหญ่เลย ส่วนคนที่โดนล้อทำเลิ่กลั่กเหมือนกลัวความลับจะถูกเปิดเผย

                 อัญชลีมองทั้งสองคนคุยกัน พี่กับน้องแตกต่างกันจริง ๆ คนพี่ค่อนข้างสุขุม อ่อนโยนมาก ส่วนคนน้องค่อนข้างทะเล้นจริง ๆ เผยยิ้มให้กับทั้งสองคนแบบไม่รู้ตัว การมีพี่น้องคงแบบนี้สินะ ส่วนตนเองเป็นลูกสาวคนเดียวของบ้าน ไม่เคยรู้เลยว่าการมีพี่น้องเป็นความรู้สึกแบบไหน

                  “อ้อ!ใช่สิผมยังไม่ได้แนะนำน้องชายของผมให้คุณลีรู้จักเลย แต่ว่าคงไม่จำเป็นแล้วใช้มั้ยครับ คุณลีคงรู้จักไอ้เจ้านี่แล้ว” พิธาพูดแก้เขิน มองค้อนให้น้องชายไปอีก ก่อนจะกลับมายิ้มให้คู่สนทนา

               “ลีรู้จักคุณพิสิฐแล้วค่ะ แต่ว่าก็ไม่ยักรู้ว่าพวกคุณเป็นพี่น้องกัน” อัญชลีพูดปนยิ้ม

                “ผมต้องขอโทษคุณลีอีกคนด้วยนะครับ ที่มาเจอคุณลีตั้งหลายครั้ง แต่ก็ไม่ได้บอกเรื่องพี่พิธา ว่าผมกับพี่พิธาเราเป็นพี่น้องกัน” พิสิฐพูดไถ่โทษ ไม่พอยังหันมายักคิ้วให้พี่ชายไปอีก อยากให้รู้ว่าตนเองมาบ้านอัญชลีบ่อยแค่ไหน ทว่าเป็นการมาในฐานะแฟนของปีรติ

                “อ้อไม่เป็นไรค่ะคุณสิฐ สบายใจเถอะค่ะ” อัญชลีตอบ รอยยิ้มที่บ่งบอกว่าไม่ถือสาจริง ๆ สมแล้วล่ะที่พี่ชายของตนเองตกหลุมรัก พิสิฐปรายตามองสาวเจ้าพร้อมนึกในใจ ก่อนจะชำเลืองหางตาไปมองคนเป็นพี่ชาย ทว่าโดนค้อนเข้าเต็ม ๆ

              พิสิฐกระตุกยิ้มหัวเราะหึหึให้พี่ชายเบา ๆ ก่อนจะลุกไปเล่นทรายกับอคิณ ปล่อยให้พี่ชายใช้เวลากับคนที่รักได้เต็มที่ ปีรติอีกคนที่ขอตัวไปสนุกกับหลานชายตัวน้อย ก่อทรายเล่นด้วยกัน ภายใต้รอยยิ้มและสายตาของอัญชลีกับพิธา ที่มองคนทั้งสามเล่นทราย

               เสียงคลื่นซัดเขาฝั่ง สายลมพัดเย็นสบาย เวลานี้นี้แสงแดดทอประกายกับผืนน้ำทะเลระยิบระยับ ถึงอย่างไรมันก็ไม่สามารถกระทบต่อการเล่นทรายของลูกศิษย์ตัวน้อยของเขาได้ เพราะยังมีร่มไม้ให้ได้เล่น ส่วนคู่ของพิสิฐก็ง่วนอยู่กับการเล่นไปตามจินตนาการของหลานชายด้วย ปั้นทรายย้อนวัยเล่นทรายไปด้วยกัน เสียงหัวเราะ เสียงพูดคุยของทั้งสามคนสร้างความสุขให้แก่คนนั่งมองอย่างอัญชลีมาก ๆ

               “คุณลีโกรธผมหรือเปล่าครับ เรื่องวันนี้” เมื่ออยู่กันแค่สองคนจึงเอ่ยถามสาวเจ้าออกไป แคร์ความรู้สึกของคนตรงหน้าที่สุด ทั้งเรื่องของกวิตาอีกคน “ผมติดปัญหาจริง ๆ ครับ”

                “ลีจะโกรธคุณพิธาเรื่องอะไรคะ แล้วทำไมลีต้องโกรธคุณด้วยล่ะ” อัญชลีจ้องหน้าครูหนุ่ม ทำไมต้องวุ่นวายใจด้วย ในเมื่อทั้งตนเองกับครูหนุ่มคนนี้เป็นแค่เพื่อนกัน

                “แล้วเรื่องวันก่อนที่โรงเรียนผมล่ะ” เขาถาม    แม้รู้ว่าตนเองเป็นได้แค่เพียงครูประจำชั้นของลูกชายก็ตาม

                “ก็บอกแล้วไงคะว่าเธอจะเป็นอะไรกับคุณก็ไม่เกี่ยวกับลี ส่วนเรื่องวันนี้คุณจะมาไม่มาก็ได้ ลีไม่โกรธค่ะ ลีเข้าใจ! แต่ลีแค่ห่วงความรู้สึกของอคิณเท่านั้นเอง เค้าอุตส่าห์ชวนคุณครูของเค้า พอถึงวันแล้วก็… เป็นแบบนี้” อัญชลีพูด

              “เกี่ยวสิครับคุณลี! เกี่ยวกับคุณโดยตรงเลย” เขารีบพูดแย้งขึ้นทันที เพราะมันเกี่ยวกับหัวใจของเขาล้วน ๆ ไม่อยากให้ต้องเข้าใจผิด “เรื่องเมื่อเช้าเดี๋ยวผมขอไถ่โทษกับอคิณเองครับ แต่เรื่องกวิตาผมอยากอธิบาย! คุณลีฟังผมอธิบายนะครับ” จ้องหน้าหญิงสาวขอความเห็นใจ

                อัญชลีพยักหน้า เขาเผยยิ้มออกมาด้วยความดีใจ “ผมทราบดีว่าเรื่องของผมไม่เกี่ยวกับคุณลี แต่ สำหรับผมมันสำคัญครับ เพราะผมเอ่อ ผม…” เขาลังเลว่าจะตัดสินใจพูดออกไปดีหรือไม่ สายตาพลันเหลือบไปเห็นรูปของใครบางคนวางอยู่ รูปของปวิน! พอเห็นดังนั้นจึงเก็บสิ่งที่อยากพูดออกไปเอาไว้ก่อน

                “เพราะอะไรคะ! “ เธอถาม เธอเข้าใจพิธา นี่อย่างไรถึงได้บอกลูกชายถือรูปคนเป็นพ่อลงมาด้วย เธอทราบดี ทราบเสมอมา ทว่าก็ยังไม่พร้อมที่จะรับใครเข้ามา แต่ก็ไม่ปิดโอกาส พิธาคนนี้จริงใจเธอรู้! ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าพิธารักเธอ แต่หากครูหนุ่มคนนี้กล้าเอ่ยความในใจออกมา เธอก็กล้าที่จะรับฟังเช่นกัน “คุณพิธาเพราะอะไรคะ” เธอถามย้ำอีกครั้ง

                “เพราะผมอยากเล่าให้คุณลีฟังครับ!” พูดจบก็คลี่ยิ้มให้กับเจ้าตัวไป อยากเขกหัวตนเองนักแค่เห็นรูปสามีของเธอก็ดันไม่กล้าพูดซะอย่างนั้น สามีของเธอตายไปแล้ว ตายแล้วก็ตายไป! ทำไมต้องเกรงใจด้วย “ผมกับกวิตาเราเคยรักกันครับ คนที่ผมเคยเล่าให้คุณลีฟังไงตอนพาอคิณไปเล่นเครื่องเล่นที่ห้าง คุณลีจำได้มั้ย” เขาเลิกคิ้วถาม

              อัญชลีพยักหน้าเบา ๆ จำได้  “แล้วทำไมเธอถึงได้มาหาคุณล่ะคะ”

              พิธายิ้มไม่รู้จะตอบอย่างไรดี “ไม่รู้เหมือนกันครับ” โกหกตอบไปอย่างนั้น “เธอคงพึ่งจำชื่อผมขึ้นมาได้มั้งครับ” ตอบปนยิ้ม ไม่รู้จะพูดแบบไหนดี ที่กวิตากลับมาหาตนเองเพราะอะไร “แต่ว่าคุณลีอย่าเข้าใจผมผิดนะครับ ผมกับกวิตาเราไม่มีอะไรต่อกันอีกแล้ว คุณลีต้องเชื่อผมนะ” พิธาพูดจริงจัง จ้องใบหน้าเรียวมลนั้นด้วยความใสซื่อบริสุทธิ์ ไม่ได้โกหกเลยสักนิด สบตากับเธออยากให้เธอเชื่อในสิ่งที่ตนเองพูด เพราะตอนนี้หัวใจของตนเองมอบให้เธอคนนี้ไปหมดแล้ว

               “คุณแน่ใจเหรอคะ ดูเหมือนเธอยังรักคุณอยู่นะ” อัญชลีถาม ทว่ามันกลับอุ่นใจแปลก ๆ เชื่อในสิ่งที่เขาพูด เชื่อว่าที่เขาพูดมาเป็นความจริง ทำไมต้องดีใจด้วย ปวินก็อยู่ตรงนี้ จะเกินไปแล้วอัญชลี เอ็ดตนเองในใจ ทำไมต้องดีใจกับสิ่งที่ครูหนุ่มคนนี้พูดด้วย

                “แน่ใจครับ! ผมกับเธอเราไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก ตั้งแต่เธอเลือกผู้ชายคนนั้นพร้อมกับ…” เขาเงียบไป

               “คุณพิธา!” อัญชลีเรียกชื่อของเขา “ไม่ต้องพูดแล้วค่ะ ลีเข้าใจ” อัญชลีสบตาและก็ยิ้มให้ชายตรงหน้า เข้าใจเขาทุกอย่าง รู้ว่าเขาเจ็บปวดแค่ไหน และ เชื่อในสิ่งที่เขาพูดมาทั้งหมด “ปล่อยวางนะคะ”

                 “คุณลีครับ มีอีกเรื่องที่ผมอยากจะพูดกับคุณ”

                “คะ!” อัญชลีเลิกคิ้วเป็นเชิงคำถาม

                พิธาปรายตาไปมองรูปของปวินที่วางอยู่ในตะกร้าของเล่นของลูกศิษย์ตัวน้อย มองพิสิฐผู้เป็นน้องชายกับปีรติ อีกทั้งลูกศิษย์ตัวน้อยที่กำลังเพลิดเพลินกับการเล่นทรายอยู่ห่าง ๆ พอที่จะไม่ได้ยินสิ่งที่ตนเองจะพูดต่อไปนี้แน่นอน เขาสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด “คุณวินต้องเข้าใจผมกับคุณลีนะครับ ผมขอดูแลคุณลีกับอคิณแทนคุณเอง” ชำเลืองมองรูปของปวินอีกครั้งพร้อมพูดกับคนในรูปในใจ

                 “ผมไม่สามารถกลับไปรักกวิตาได้อีกแล้วครับ ผมกับเธอเราเป็นได้แค่เพื่อนกันจริง ๆ ที่ผ่านมาผมก็ยอมรับนะว่าผมรักกวิตามากเหมือนกันครับ เราเป็นครูอาสาด้วยกัน แต่ว่าผมคงยังดีไม่พอ ยังไม่ดีพอเท่าที่เธอต้องการ เธอทำได้ทุกอย่างเพื่อชีวิตที่ดีกว่าอยู่กับผม ยอมฆ่าผมให้ตายทั้งเป็น ผมให้อภัยเธอนะครับ คุณลีสบายใจได้ แต่ผมคงกลับไปรักเธออีกครั้งไม่ได้ อีกอย่างเพราะผมมีคนที่ผมรักอยู่แล้วครับ คน ๆ นั้นคือ คุณลิ…”

                “คุณแม่ครับ! อคิณหิวข้าว” เด็กชายวิ่งเข้ามาคนเป็นแม่ที่นั่งอยู่กับคุณครู

                 “โถ่อคิณค้าบ! มาทำไมตอนนี้” มองลูกศิษย์ตัวน้อยพูดเบา ๆ ออกมา พร้อมเกาศีรษะของตนเอง เผยยิ้มให้กับคนทั้งคู่ อีกทั้งปรายตาไปมองรูปของปวิน “คุณแกล้งผมสินะ ถึงยังไงผมก็จะขอคบคุณลีเป็นแฟนครับ คุณวินต้องอนุญาตผม!” พูดในใจให้กับคนในรูปอีกครั้ง

                ……………………………….


               หลังทานมื้อเย็นเสร็จก่อนเข้านอนปีรติเข้าไปเล่นในห้องของอัญชลีกับหลานชาย ส่วนพิสิฐขอมาหาพี่ชายดีกว่า ชวนดื่มเหมือนที่ผ่าน ๆ มาที่มาเจอกัน

               “ได้บอกรักคุณลีมั้ยพี่ ขอเธอเป็นแฟนหรือยัง!” พิสิฐนั่งที่ปลายเตียง กะดกเหล้าไปค่อนแก้ว ก่อนจะเติมใหม่อีกรอบ

                “ยังว่ะ! “ พิธาตอบหน้าตาเฉย ยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มเหมือนกัน

                “โถ่พี่พิธาให้มันได้อย่างนี้สิพี่ชายผม! นี่ผมกับวาอุตส่าห์หลอกล่ออคิณไม่ให้ไปกวนพี่กับคุณลีแล้วนะ พี่ยังไม่ได้บอกรักเธอเลยเหรอ” พิสิฐพูดด้วยอาการเซ็งพี่ชายมาก ๆ เป็นเขาหน่อยไม่ได้ จะพูดความในใจออกมาให้หมดเลย “จะเป็นพระเอกไปถึงไหน พี่เป็นครูนะพี่ไม่ได้เป็นพระเอกในละคร” ไม่ได้ดั่งใจเอาเสียเลยพี่ชายคนเดียวของตนเอง

               “นี่! แกเป็นน้องหรือแกเป็นพ่อฉัน ก็มันไม่กล้านี่หว่า ใครจะไปเหมือนพ่อคลาสโนว่าล่ะ มีอีกกี่คนที่ซ่อนคุณวาเอาไว้” พิธาได้ทีเอาคืนบ้าง

               “หยุดเลย! ผมมีวาคนเดียว พี่จะไปยากอะไร ก็ทำเหมือน ๆ ที่เคยทำกับคุณกวิตานั่นแหละ” พูดจบพิสิฐหยุดกึกทันที รู้ตัวว่าพูดอะไรไม่เข้าท่าออกไปเสียแล้ว “เอ่อ….ผมขอโทษครับพี่” กล่าวขอโทษพี่ชาย

                 “ไม่เป็นไรหรอก! ฉันลืมไปหมดแล้ว” พิธายกแก้วเหล้าดื่มไปจนหมดแก้วแล้วเทใหม่ พิสิฐมองตามกลืนน้ำลายดังเอือก ตั้งแต่กลับมาจากเหนือพี่ชายก็เป็นคนดื่มเหล้าหนักมาก หลวงลุงเตือนสติก็ไม่ค่อยจะฟัง ดีที่ยังมีชีวิตอยู่ต่อมาได้จนทุกวันนี้ หลัง ๆ มาตั้งแต่รู้จักกับอัญชลี พึ่งจะเห็นพี่ชายเบาลงบ้าง ทว่าก่อนหน้านั้นก็ไม่เคยเป็นแบบนี้

                “แล้วเธอกลับไปหรือยัง พี่จะเอายังไงเรื่องนี้ ไหนจะคุณลีอีก” พิสิฐตัดสินใจถาม หนักใจกับเรื่องนี้แทนคนเป็นพี่ชายที่สุด “ถ้าเกิดคุณกวิตาเธอไม่ยอมกลับล่ะ พี่จะเอาไง”

               “ไม่รู้เลยสิฐ เมื่อเช้ากวิตาไปหาฉันที่บ้าน ฉันถึงได้ผิดนัดกับคุณลีนี่ไง ดีที่คุณลีไม่โกรธฉัน” เล่าให้น้องชายฟังพร้อมครุ่นคิดไปด้วย จะแก้ปัญหานี้อย่างไร เล่าสาเหตุให้พิสิฐฟังว่าทำไมกวิตาถึงมาที่กรุงเทพ

               “พี่ต้องเด็ดขาดนะพี่พิธา! ถ้าพี่ไม่เด็ดขาดพี่จะเสียใจ ผมพูดแค่นี้แหละ” จากนั้นพิสิฐก็ยกแก้วเหล้าดื่มจนหมด สองคนพี่น้องคุยกันภายในห้องพักของพิธา พิสิฐยังไม่มีท่าทีว่าจะกลับห้องพักของตนเองง่าย ๆ ปีรติอนุญาตขนาดนี้ตนเองจะกลับง่าย ๆ ได้อย่างไร

จบบท
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่