ฝันหวาน (Sweet Dream) 57

กระทู้สนทนา

.

https://ppantip.com/topic/40920902…..บทที่ 56


                 “ดูอะไรคะ ฮึ” เดินมานั่งที่โซฟากับแฟนสาวหลังอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ วันหยุดนี้ไม่ได้ออกไปไหน เพราะพรนภาบอกเอาไว้ว่าจะไม่ออกไปที่ไหนจนกว่าจะถึงวันเกิดของตนเอง เห็นสาวเจ้าตั้งอกตั้งดูมาก ๆ

                  พรนภาฉีกยิ้มให้ก่อนตอบ “ดูขั้นตอนการทำน้ำยาขนมจีนค่ะ” ตอบพร้อมยิ้มให้ผู้เป็นสามี ด้วยสายตาและความมุ่งมั่นที่จะทำให้ได้ ส่วนเจ้าตัวกลับหัวเราะเยาะเสียอย่างนั้น

                 “ยังไม่ล้มเลิกความคิดนี้อีกเหรอคะ ฮา ไปซื้อกินเหอะเชื่อพี่ค่ะ” พูดกลั้วหัวเราะด้วยความเอ็นดูภรรยาคราวลูกคนนี้มาก ๆ

                   “ไม่ ! ชิ ไม่ต้องมาพูดเลยถ้าไม่เห็นดีเห็นงามด้วยอ่ะ นภาจะทำแหมะ นภาอยากลองทำอ่ะ”

                   “ตามใจค่ะ เล่นเกมดีกว่า บ่เป็นตะได้กินหรอกเบิ่งทรงคนล่ะ” พูดพร้อมเดินไปเปิดเกมเล่น พรนภาไม่สนใจก้มหน้าก้มตาดูยูทูปขั้นการทำน้ำยาขนมจีนต่อไป พร้อมจดรายการวัตถุดิบที่ต้องซื้อไปด้วย

                     เธอเปิดดูซ้ำไปซ้ำมาหลายรอบ “โห่ยากอ่ะคลิปนี้ มีขั้นตอนการทำง่าย ๆ เข้าใจกว่านี้มั้ยอ่ะ” บ่นอุบอิบอยู่คนเดียว

                   “ออกไปซื้อน่าจะได้กินแล้วป่านนี้ ฮา “ เสียงพูดลอยมาให้ได้ยิน

                   “ไม่ต้องมาพูดเลย ! “ ค่อนขอดให้สามีรุ่นพ่อไปหนึ่งที จากนั้นก็ตั้งใจดูขั้นตอนการทำอีก พร้อมจนไปด้วย ทำความเข้าใจไปด้วย รู้สึกว่ามันดูทำง่ายแต่จริง ๆ แล้วมันก็ยากพอสมควร “หอมแดงเรามีแล้ว พริกแห้งก็มีอยู่ในครัว พริกสดเรามีปะพี่เมธี” เงยหน้าถามผู้เป็นสามี

                    “มีค่ะ !” ตอบทว่าไม่หันมามอง เขาเล่นเกมไม่อยากสนใจภรรยาแล้ว อยากทำก็ทำไป ไม่เคยห้ามความสุขของกันและกันอยู่แล้ว

                    “ป๊าด ! ซื้อตั้งหลายอย่าง ขาไก่ ลูกชิ้นอีก  ผักอีก หลายอย่างเว่อ“ เธอบ่นคนเดียวอีก ดูรายการที่ต้องซื้อตอนนี้ชักเริ่มหวั่นไหว สองจิตสองใจว่าจะทำดีหรือไม่

                     “ถ้าน้องจะซื้อมาทำเองอ่ะหมดเย๊อ ! “ ทำเสียงสูง “สู้ออกไปซื้อไม่กี่บาทก็อิ่มแล้ว” พูดพร้อมยักคิ้วให้อย่างทะเล้น “คิดดี ๆ แค่ซื้อเครื่องมาทำก็จะปาไปห้าร้อยละ ซื้อกินห้าสิบบาทก็อิ่ม”

                      “แต่นภาอยากลองทำหนิ ซื้อกินมันไม่ถูกปากอ่ะ” ทำหน้าละห้อย อย่างที่เขาว่านั่นแหละ แค่ซื้อวัตถุดิบมาทำก็จะปาเข้าไปเกือบห้าร้อยแล้ว

                     “ร้านแถว ๆ สี่แยกสาธารณสุขน่ะก็ใช้ได้นะคะ พี่เคยซื้อมาลองอยู่ ก็ที่น้องกินวันก่อนไง อร่อยมั้ยล่ะ” เขามองหน้าพรนภาด้วยความเอ็นดูอีกครั้ง ชอบความตั้งใจของพรนภามาก ทว่าก็ตลกในความสองจิตสองใจเมื่อประเมินราคาค่าของที่ต้องซื้อ

                     “งั้นซื้อกินก็ได้ เดี๋ยวสักเที่ยง ๆ พี่เมธีพาเค้าออกไปซื้อนะ” สุดท้ายก็จำใจล้มเลิกความตั้งใจไปจนได้ เพราะค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง อีกอย่างไม่แน่ใจด้วยว่าตนเองจะทำออกมาอร่อยทานได้หรือเปล่า เพราะไม่เคยทำเองสักครั้งเลย

                     “ขอเล่นเกมก่อนนะคะสักตาสองตาเดี๋ยวพาไป”

                     “อือ…”

                     “อือจังใด ! ค่ะสั่นตั้วเว้านำพุใหญ่”

                     “ค่า !  ฮ่วย “ ทั้งสองคนยิ้มหัวเราะให้กันภายในคอนโดเล็ก ๆ เมธีเล่นเกมอย่างเมามันส์ ส่วนเธอก็ดูโซเชียลไปเรื่อย พูดคุยกันบ้างไม่อยู่ในโลกส่วนตัวมากเกินไป ทั้งสองคนต้องมีตัวตนในโลกของกันและกัน

                     “น้องนภาน้องว่าใครจะชนะ” เขาหันมาถาม ก่อนจะถอยหลังมานั่งที่ปลายเตียง

                    “ถามได้เนอะ ! ตัวเองก็ต้องเล่นทีมตัวเองชนะปะ กล้าถาม !” เธอตอบแบบประชด ก็รู้อยู่แก่ใจยังจะมาเสแสร้งถามอีก

                   “เอ๋าหาเรื่องบ่ ! ดูก่อนสิคะ พี่ไม่ได้เล่นพรีเมียร์หลีก พี่เล่นลาลีก้าสเปนค่ะ”

                     “เอ๋า ก็ไม่รู้น้อ ! พี่เมธีปะหิวข้าวแล้ว เที่ยงแล้วหนิไปซื้อหนมจีนกัน นภาอยากกินจริง ๆ นะคะ” ทำสายตาอ้อนวอนสามีรุ่นพ่อ ขออ้อนสักหน่อยวันหยุดทั้งที ไม่พอขยับเข้าไปกอดด้านหลัง ยกขาสอดเข้าไปที่ตักของเขาเพราะเขานั่งเล่นเกมที่ปลายเตียง

                       เมธีหันหน้ามาหอมหนึ่งฟอร์ดก่อนจะพูดขึ้น “เล่นตานี้จบก่อนนะคะ หิวมากมั้ย”

                     “ได้ค่ะ” พร้อมกระชับก่อนเข้าไปแน่น ๆ ด้วยความหมั่นเขียวนัก “ระวังศอกถืกคนเด้อ ขั้นถืกอย่าวาบ่เตือน”

                     “กะซางแล้ว ! ไผบอกมานั่งอยู่ข้างหลังน้อ ฮา “ พูดกลั้วหัวเราะให้แฟนสาว ไม่นานก็เล่นจบเกมแล้วพาเธออกไปข้างนอกเพื่อซื้อกับข้าวมื้อเที่ยง ซึ่งก็คือเมนูขนมจีนน้ำยาของเธอนั่นแหละ เขาพาเธอขับรถไปซื้อร้านที่เคยซื้อวันก่อน ทว่าต้องผิดหวังเมื่อไปถึงแล้วร้านปิด

                 “เอาไงดี” เขาหันมาถามพร้อมยกมือขึ้นมาวางบนศีรษะ นั่งคุยกันภายในรถ”

                   “ไม่กินก็ได้ !” ทำหน้ามุ่ยด้วยความผิดหวัง “งั้นเราไปร้านส้มตำยโสธรดีกว่า”

                     “โอค่า ! ตามนั้น วันหลังค่อยกินน้อ เดี๋ยวถ้าวันไหนพี่เจอเดี๋ยวพี่ซื้อมาฝากน้องนะคะ” พูดเอาใจด้วยความสงสารปนเอ็นดู เอ็นดูกับความผิดหวังของแม่สาวน้อยของเขา น่ารักน่าเอ็นดู และ น่าทะนุถนอมทุกเวลาจริง ๆ สำหรับพรนภาของเขา

                       พอร้านขนมจีนน้ำยาไม่เปิดพวกเขาจึงวนรถกลับมาแถว ๆ ใกล้ ๆ กับคอนโดที่อยู่ เพราะจะมาซื้อกับข้าวนี่แหละ สุดท้ายก็ได้เมนูอีสานเจ้าประจำไป อร่อยแทนกันได้ ขนมจีนน้ำยาไว้ทานวันหลังแล้วกัน

                    กลับมาถึงห้องพักพรนภาเป็นคนจัดแจงนำสำรับกับข้าวไปจัด และ ยกมาเสิร์ฟสามี ทานข้าวไปพร้อมดูทีวีไปด้วย พูดคุยกันไปเรื่อยเปื่อย เพียงเท่านี้ก็มีความสุขที่สุด ไม่มีภัตตาคาร ไม่มีอะไรใต้แสงเทียน ไม่มีเซอร์ไพรส์ แค่นี้ก็มีความสุขสุดจะบรรยาย อะไรจะมีความสุขเท่ากับการได้นั่งทานข้าวกับคนที่รัก และ เอาใจใส่เรา

                    “วันเกิดไปวัดอะไรนะคะ คิดไว้ยัง” เขาถามเมื่อนึกขึ้นมาได้ เห็นว่าจะชวนไปวัดเขายังไม่รู้เลยว่า ภรรยาสุดที่รักคนนี้จะให้พาไปที่ไหน

                   “อยากไปวัดหลวงพ่อโสธรค่ะ วัดสมานด้วย ได้มั้ยอ่ะ” มองสามีหลับตาปริบ ๆ อ้อน ทำเอาเขาหัวเราะได้เสมอ

                   “ได้สิคะ พี่เคยขัดใจน้องที่ไหนถ้าทำให้ได้ แต่เวลาพี่ติดงานจริง ๆ พาไปไม่ได้ขอให้น้องเข้าใจพี่ก็พอ” เขาพูดพร้อมเผยยิ้มให้คนตรงหน้า ระหว่างนั่งทานข้าวด้วยกัน

                    “ได้ดิ ! นภาเคยขัดใจที่ไหน”

                   “แล้วใครงอแงไปเขาใหญ่ !” เขารำลึกความหลังเมื่อครั้งทะเลาะกันเรื่องไปนครราชสีมาที่ผ่านมาเมื่อช่วงต้นเดือน

                   “ใครงอแง ! นภาเป็นคนเลื่อนเองเด้อ”

                   “ถ้าน้องไม่เลื่อนน้องก็งอนพี่อ่ะ แล้วใครงอนพี่ว่าพี่ไม่อยากพาไป ว่าพี่ดีใจที่น้องขอเลื่อน”

                   พรนภาทำตาโอ อ้าปากเหวอ เมื่อได้ยินในสิ่งที่เขาพูด ก่อนจะปรับอารมณ์ทำหน้าบึ้งให้ “พูดงี้อยากมีเรื่องกับพรนภาใช่มั้ยคุณเมธี ! หึหึ”

                    “เมธีเปล่าคร๊าบ ! แฮ่ “ พูดพร้อมยิ้มให้ รู้สึกจะมีลางไม่ดีเกิดขึ้นเสียแล้ว “ทานข้าว ๆ ค่ะ ชวนพูดอะไรก็ไม่รู้ อ่ะเค้าป้อน” จากนั้นก็ตักกับข้าวยื่นป้อนภรรยาเด็ก

                     “ไม่ ! เดี๋ยวเหอะ !” สาวเจ้าค้อนให้

                   “เร็ว อ่ะตัวเองเค้าป้อนอ่ะ อั้มเร็ว อ่ะเร็ว ๆ น้องนภา เค้าป้อนตัวเองแหมะ” สุดท้ายสาวเจ้าก็ยอมอ้าปากรับข้าวจากช้อนของเขา เพราะไม่อยากให้เรื่องบานปลายเป็นเรื่องใหญ่ ไม่คิดจะทะเลาะด้วยแต่แรกอยู่แล้ว แค่แกล้งทำเท่านั้นเอง

                   จากนั้นเหตุการณ์ก็กลับมาปกติ นาทีนี้ทำให้ภายในห้องมีเพียงกลิ่นหอมของความรักซึ่งกันและกันตลอดไปตราบนานเท่านานเท่านั้น….

จบบท…
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่