ฝันหวาน (Sweet Dream) 49

กระทู้สนทนา

.


                “พี่เมธีวันนี้ไม่ต้องทำกับข้าวรอนภานะ นภาจะเข้าครัวเอง หาไรทานก่อนเลยก็ได้ ถ้ากลัวกินไม่ได้อ่ะ ฮา” พรนภาพิมพ์ไลน์หาสามี หัวเราะอึกอักกับคำพูดของตัวเอง สายตาจ้องไปที่หน้าจอโทรศัพท์ คอยคนปลายทางตอบกลับมา

                  คร๊อกแคร๊ก !! เสียงไลน์ …โอ้ววว มายก็อด !… เมธีส่งสติ๊กเกอร์มีเสียงกลับมา เป็นสติ๊กเกอร์รูปคนตกใจอ้าปากค้างตาถลนออกมาจากเบ้า ยิ่งทำให้เธอหัวเราะเข้าไปใหญ่ในช่วงรอเลิกงาน

                   “พี่เมธีจะตกใจทำไมเนี่ย เค้าแค่จะทำยำหนมจีนแหมะ พี่เมธีทานข้าวก่อนเลย นภาจะกลับไปทำยำหนมจีนกินเอง ฮ่วย ! ทำเป็นตกใจเด้อ ชิ !“ พิมพ์ตอบกลับไปพร้อมเสียงหัวเราะ นึกเอ็นดูกับความตกใจของเขานัก ถึงทุก ๆ วันจะเป็นเขาเองที่อาสาทำกับข้าว แต่ก็ใช่ว่าเธอจะทำอะไรไม่เป็นสักหน่อย

                   “มั่นใจว่ากินได้แน่นะ !” เขารีบพิมพ์ตอบกลับมา

                   “ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ กินด้วยเปล่าล๊า ฮา” เธอเองก็รีบพิมพ์ตอบกลับไปทันทีเหมือนกัน

                    “น้องมั่นใจพี่ก็มั่นใจละว๊า รอก็ได้ค๊าบ !”

                    “จ้า ! รับรองแซบ” ฉีกยิ้มให้กับหน้าจอ ก่อนจะลุกไปลงเวลาออกงานเมื่อถึงเวลาเลิกงานแล้ว จากนั้นเดินข้ามถนนไปยังตลาดสดเพื่อเลือกซื้อวัตถุดิบมาทำยำขนมจีนสูตรของเธอเอง ดูในยูทูปมาคร่าว ๆ พอเข้าใจและทำเป็น มั่นใจว่าต้องอร่อยด้วย

                   …………………………………..

              
                   ก๊อก  ๆ !! เคาะห้องเบา ๆ สองสามครั้งประตูก็ถูกเปิดออกมาจากคนข้างใน เมธียืนผายมือต้อนรับเธอเตรียมโอบกอดเต็มทีที่หน้าประตูห้อง และเธอก็ไม่รอให้เสียเวลา เดินเข้าไปในอ้อมแขนนั้น เมธีโอบกอดเธอเบา ๆ จูบริมฝีปากของเธอเบา ๆ ด้วยก่อนจะผละตัวออกและปิดประตูห้องให้เรียบร้อย

                “รอทานได้เลยค่ะ วันนี้นภาเข้าครัวเอง” พูดพร้อมชูถุงวัตถุดิบที่จะทำเมนูในวันนี้ให้เขาดู “วันนี้นภาไม่ออกกำลังกายด้วย” ยิ้มให้สามีคราวพ่อ ปรายตามองเรือนร่างสูงโปร่งในชุดทำงาน เขาสวมเสื้อโปโลสีแดงเลือดหมูกางเกงยีนส์ดูดีไปอีกแบบ เลิกงานกลับมาตั้งนานแล้วยังไม่ยอมถอดชุดอีก ถึงอย่างไรพี่เมธีก็น่ารักที่สุด นึกในใจพร้อมฉีกยิ้มให้อีกรอบ

                   “อ่านกินเค้าทำไมอะตัวเอง ไม่ต้องอ่านละมากินเลยมะ !”

                    “บู้ย ! ไม่ต้องเลยพี่เมธีอ่ะ ฮ่วย… จักอิหยัง ฮา !” เธออุทานออกมาแบบไม่คิด หัวเราะให้กับท่าทางของเขา “มองนิดมองหน่อยก็ไม่ได้ คิดแต่เรื่องเดียว คิดดีไม่ได้กะเค้าเลยใช่มั้ย หืย !” เอ็ดให้สักที “รออยู่นี่แหละ วันนี้นภาเข้าครัวเอง” พูดจบเดินตัวปลิวเข้าไปในครัว ไม่สนใจสายตาคู่ที่กำลังทำละห้อยอยู่สักนิด

                     “ให้เค้าช่วยเปล่า” พูดและเดินตามภรรยาสาวเข้ามาในครัว มองร่างบางในชุดทำงานกำลังกุลีกุจอทำยำขนมจีน

                    “ไม่เป็นไรค่า เกะกะ นั่งรอเฉย ๆ โลด” หันมาชำเลืองมองเมธีนิดหน่อย จากนั้นก็เลิกสนใจ เปิดแก๊สต้มน้ำเพื่อจะลวกหมูยอ

                       “ไม่ให้เป็นลูกมือ งั้นนั่งให้กำลังใจก็ได้ ระวังมีดเอามือแนล่ะ” มิวายกำชับ สำหรับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ห่วงหมด สาวเจ้าหันมายักคิ้วให้ ก่อนจะเลิกสนใจเขา

                    นั่งมองพรนภาทำกับข้าวเพลินตาดี นานทีปีหนจะเห็นเข้าครัว เพราะส่วนมากเขาเองที่อาสาทำเพราะความเคยชินและชอบทำกับข้าวอยู่แล้ว อยากทำให้เธอทุกอย่างถ้าทำได้

                   พรนภาหั่นหมูยอเสร็จก็นำไปต้มในหม้อที่กำลังเดือด จากนั้นก็หั่นถั่วฝักยาวเป็นชิ้นเล็ก ๆ หั่นต้นหอมและผักชีฝรั่งเป็นลำดับถัดไป พอหั่นเสร็จต่อไปก็จะหั่นหัวหอมต่อ หัวหอมก็ต้องใช้เป็นหอมแดง “แป๊บนะพี่เมธี” กำลังจะหั่นหอมแดงนึกอะไรขึ้นมาได้

                   “ไปไหนอ่ะ” เขาหันมองตามร่างบางที่เดินผ่านหน้าไปยังห้องโถงของคอนโด

                   “ใส่แว่นแป๊บ !” พรนภาตอบตามหลังมา ไม่นานก็เดินกลับเข้ามาในครัว

                    “ทำไมต้องใส่แว่นด้วยอ่ะ” ถามกลั้วหัวเราะ เขาทราบว่าทำไมถึงต้องสวมแว่น เพียงนึกตลกแกล้งถามไปอย่างนั้นเอง หัวเราะให้กับแม่ครัวจำเป็นในคืนนี้

                     “ก็มันจะแสบตาไง !! นภามีเทคนิคในการหั่นหัวหอมละ ถ้าเราสวมแว่นมันจะไม่แสบตา นภาเคยทำ ไม่เชื่อพี่เมธีลองทำดู” หันมาตอบเมธี นึกภูมิใจกับวิธีป้องกันการแสบตาของตนเองมาก จากนั้นก็หั่นหัวหอมต่อ

                    “จ้า สิได้กินบ่น้อมื้อหนิ ! ฮา “

                     “ได้กิน ! แซบพร้อม” พูดตอบไปพลางหั่นหัวหอมไปพลาง จากนั้นก็ตามด้วยหั่นผักชีลาว

                    “เฮ้ย ๆ ๆ !! เดี๋ยว !!!” เมธีร้องห้าม ทำเอาเธอตกใจไปด้วยรีบวางมีดและผักลงหันมาหาผู้เป็นสามี

                     “อะไรพี่เมธี ! เรียกเค้าซะตกใจหมดเลย” หันมาทำหน้าบึ้งให้

                      “น้องจะทำอะไรอ่ะ หยุด! หยุดเลยค่ะ หยุดก่อน” เขาพูดต่อ

                     “หั่นผักชีไง ! พี่เมธีจะห้ามนภาทำไม” จ้องมองใบหน้าขาวสะอาดเกลี้ยงเกลานั้นแบบไม่เข้าใจ ทว่าก็ไม่ใส่ใจนักเดินไปปิดแก๊สที่ต้มหมูยออยู่

                   “ไม่เอาผักชีลาว ! เหม็นค่ะ ไม่เอาไม่ใส่ พี่ไม่กิน “ เขาตอบ ทำหน้าเหเกเมื่อได้กลิ่นของมัน เอามือปิดจมูกตัวเองด้วย

                  “เอ้า ! พี่เมธีไม่กินผักชีลาวเหรอ นภาไม่รู้น้อ ก็ไม่บอกตั้งแต่ทีแรกนภาจะได้ไม่ซื้อมา ไม่เป็นไรนภากินคนเดียวก็ได้ หอมออก” ไม่พอยังสูดดมโชว์ไปอีก “อ่ะ ดมดูไม่เชื่อ หอมนะ” ยื่นให้เมธีดมด้วย พร้อมหัวเราะกับท่าทางขยาดและขยะแขยงของสามี

                    “ไม่เอาน้องนภาอย่างแกล้งพี่ดิ พี่เหม็นแหมะหล่า ไม่กินตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว” เขาเบือนหน้าหนีกลิ่นของมันเมื่อเธอยื่นให้ดม พรนภาแสยะยิ้ม นึกในใจ เสร็จแน่พี่เมธีอยากแกล้งเรื่องอึ่งอ่างนัก ต่อไปนี้โดนผักชีลาวคืนแน่ หึหึ “มันเหม็นค่ะ สงสารพี่เถอะ ห้ามใส่ น้องใส่พี่ก็ไม่กินนะ จริง ๆ พี่เหม็นจริง ๆ นะคะ” พูดออดอ้อนท่ามกลางความฉุนของกลิ่นผักชี

                  พอเห็นหน้าตาละห้อยน่าสงสารของเมธีจึงหยุดแกล้ง รีบทำรีบเสร็จดีกว่าจะได้ทานเร็ว ๆ ฝากไว้ก่อนไว้แกล้งคราวหลัง

                  “ก็ได้ค่ะ นภาไม่ใส่ลงไปก็ได้ !” ตอบพร้อมเผยยิ้มให้ แล้วหันมาปรุงน้ำยำ “แต่นภาเอาไปกินเป็นผักได้มั้ยอ่ะ เหม็นมากมั้ย” พูดพร้อมคลุกเครื่องปรุงยำขนมจีนอย่างตั้งใจ

                  “โถ่ ! ยังจะเอาไปด้วยเหรอคะ ก็ได้เค้ายอมน้องก็ได้ แค่ไม่ใส่ลงไปในยำขนมจีนก็พอ” ทำเสียงระห้อยอีก จำใจต้องยอมเธอล่ะ แค่ไม่ใส่ลงไปในส่วนผสมก็พอ รักเธอมากเกินกว่าจะขัดใจ เล็ก ๆ น้อย ๆ พอยอมได้ยอมให้เสมอ “พี่กินไปด้วยปิดจมูกไปด้วยก็ได้ “

                   พรนภาหัวเราะกับคำพูดประโยคท้ายของเมธี “ฮา พี่เมธีเป็นเอามากขนาดนั้น” หันหน้ามาหัวเราะให้สามี เขาพยักหน้าแบบยอมแพ้กับผักชนิดนี้จริง ๆ “ก็ได้ค่า นภาไม่เอาไปกินด้วยก็ได้ เอาทิ้งก็ได้สิบบาทเอง”

                    “เฮ้ยไม่ต้องทิ้งค่ะ น้องก็แบ่งยำของน้องใส่จานต่างหากไง ก็หั่นใส่ลงไปด้วยไงคะ” เขานึกเสียดายแม้จะไม่ทานเลยก็ตาม

                    “หื่อไม่เอาอ่ะ กลัวคนได้กลิ่นแล้วกินไม่อร่อย กินไปปิดจมูกไปงี้เหรอ ไม่ดีกว่าค่ะ เอาไว้ในตู้เย็นนี่แหละเอาไว้แกล้งใครบางคน” พูดปนยิ้มลอยหน้าลอยตาประจวบกับทำยำขนมจีนเสร็จพอดี ยกมาวางเสิร์ฟให้เขาที่โต๊ะทานข้าว

                    “ว๊าว ! น่าทานจังเลย ไหนลองชิมซิ รสชาติใช้ได้หรือเปล่า” พูดพร้อมตักใส่จานของตนเอง ชิมนำไปก่อนหนึ่งคำ “ใช้ได้นะเนี่ย” ชิมเสร็จก็ชมฝีมืออย่างไม่บันยะบันยังกันเลย ทำเอาคนถูกชมค่อนขอดให้เพราะชมเกินเบอร์มากไป

                   “ไม่ต้องมาแกล้งชมหลอกใช้เค้าเลยพี่เมธี “ ประชดเข้าให้ หมั่นไส้นัก

                   “เอ๋า ไม่ได้แกล้งชมค่ะ อร่อยจริง ๆ ได้อยู่ ๆ รู้แบบนี้บอกให้ทำให้กินตั้งนานละ” เขารีบตอบแก้ตัวไป

                    “ได้อยู่แปลว่าไม่ได้ใช่มะ ฮา “ พูดกลั้วหัวเราะ พร้อมทานยำขนมจีนฝีมือตัวเองอย่างอร่อย

                    “ได้อยู่ก็แปลว่าได้ค่ะ อร่อยจริง ๆ  !” ที่โต๊ะอาหารในครัวของคอนโดเล็ก ๆ วันนี้กับข้าวมื้อเย็นเป็นยำขนมจีนแทน เธอซื้อแตงกวา และ ผักอื่น ๆ มาทานร่วมกันด้วย ยิ่งเพิ่มความอร่อยเป็นสองเท่า

                   “รอบต่อไปนภาเปลี่ยนจากหมูยอเป็นปลาหมึกกับกุ้งดีมั้ย น่าจะอร่อยนะคะ” ระหว่างนั่งทานคุยกันไปเรื่อยเปื่อย เธอเสนอความคิดเห็น

                     “ตามใจนภาเลยค่ะ แต่พี่เคยเห็นเขาใส่ปลาทูนะคะ “ เมธีตอบ พร้อมกัดแตงกวาลูกเล็ก ๆ เคี้ยวอย่างอร่อย เธอมองทำให้อดยิ้มตามไม่ได้ ดีใจที่เมธีอร่อยกับฝีมือของตน

                    “ใส่ก็ได้ค่ะ งั้นรอบหน้านภาใส่ปลาทูให้พี่เมธีด้วยก็ได้ “

                   “ค่ะ !” เขายิ้มให้

                  “พี่เมธีเค้าถามอะไรหน่อยดิ “ พูดพร้อมวางช้อนลงที่จาน หยิบทิชชูเช็ดริมฝีปากตามด้วยจิบน้ำตามนิดหน่อย “พี่เมธีไม่กินผักชีลาวจริงเหรอ นิดเดียวก็ไม่เลยเหรอคะ แล้วที่บ้านแม่ปลูกมั้ยตอนเด็ก ๆ อ่ะ ” ถามจากความรู้สึกจริง ๆ เธอไม่เคยทราบเลย ไม่เคยถามและเมธีเองก็ไม่เคยบอก

                   พอทราบและนึกย้อนกลับไปทุก ๆ วันที่ผ่านมา เมธีไม่เคยทำกับข้าวใส่ผักชีชนิดนี้เลยสักครั้ง ไม่เคยซื้อ เอาจริง ๆ เธอไม่เคยเห็นเลยด้วยซ้ำตั้งแต่คบกันมา

                 เขาพยักหน้าตอบ “อือ จริงค่ะ ที่บ้านก็ปลูก แม่ปลูกเป็นสวนพุ่นน่ะ วันไหนแม่พี่ทำกับข้าวใส่ผักชีนะพี่ไม่กินข้าวด้วยเลย เหม็นค่ะ เหม็นจริง หลัง ๆ มาแม่ก็ไม่ทำ เพราะแกรู้ว่าพี่ไม่กิน ถ้าวันไหนเอามาทำเป็นผัก พี่จะรีบกินรีบอิ่ม เค้าทนไม่ไหวอ่ะตัวเอง ฮา “ เขาพูดปนหัวเราะ เธอเองก็หัวเราะตาม สนุกกับสิ่งที่เขาเล่าให้ฟัง นึกตลกคนอะไรกลัวผักชี แต่ก็ไม่แปลกหรอก ยังมีคนที่กลัวเรื่องแปลกกว่านี้ก็มี ส่วนเธอกลัวอึ่งอ่างยังพอทำเนานะ

                  “เสร็จแน่พี่เมธี หึหึ ได้เวลาเอาคืนและ” ทำเป็นจ้องมองใบหน้าของเขา แสยะยิ้มให้อย่างมีเลศนัย

                    “อะไร ! เสร็จอะไร รู้แล้วก็อย่านะ ฮา ที่จริงพี่ก็ทนได้ ทานได้ด้วย พี่ก็พูดหลอกน้องไปอย่างงั้นแหละ “ เขายิ้มสู้เธอ เธอเองก็ยิ้มให้เหมือนกัน พยักหน้าเข้าใจกับสิ่งทีเขาพูด

                    “เหรอ ! อ่อ… เค” หัวเราะให้คนตรงหน้า

                    “ค๊าบ ! ฮา “

                    พวกเธอหัวเราะให้กันและกัน วันไหนงอนพี่เมธี วันไหนโดนขัดใจเธอจะซื้อผักชีลาวมาไว้ในห้อง จัดแจกันตั้งโตะไว้ในห้องเลยคอยดู กระตุกยิ้มที่มุมปากเมื่อนึกถึงเรื่องนี้ จ้องมองไปที่ใบหน้าขาวสะอาดนั้น

                    ภายในห้องครัวเล็ก ๆ ที่อบอวนไปด้วยความรัก ความเข้าใจ และ การเอาใจใส่ซึ่งกันและกันของพวกเธอสองคน ถ้ามีเด็กตัวน้อย ๆ มานั่งด้วยสักหนึ่งคน คงจะเฮฮาแน่นอนเลย พูดถึงมันก็เลยกำหนดวันที่ประจำเดือนของเธอมาแล้ว เลยมาเพียงไม่กี่วันเองพอจะลุ้นให้พี่เมธีได้ไหมนะ นึกถึงเรื่องนี้ก็อดยิ้มไม่ได้อีก

                    “ยิ้มอะไรคะ คิดจะแกล้งพี่เหรอ” เขาถาม

                   “อะไรพี่เมธี ! ฮ่วย… ระแวงล่ะสิท่า เป็นไงล่ะเวลาเค้ากลัวอึ่งอ่างอ่ะ รู้ซึ้งหรือยัง”
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่