ฝันหวาน (Sweet Dream) 99

กระทู้สนทนา

.

             * โลกใบนี้ไม่เคยขาดเรื่องเล่าที่สวยงาม หมึกอักษรในหนังสือทั้งจริงและเท็จ ไม่มีใครสนใจจุดจบ ไม่มีใครซักไซ้ อย่างไรสาวงามกับวีรบุรุษต่างก็ร่วงโรยแก่ชรา บทสรุปกับคำตอบล้วนเป็นปริศนา

             ** คนมีชีวิตอยู่ย่อมมีเรื่องราวกับความปรารถนามากมาย แต่ขอเพียงแบกรับกับผลที่ตามมาได้ ไม่ว่าจะเลือกทางไหนก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร

            “น้องพรุ่งนี้ตื่นสาย ๆ นะคะ ห้ามปลุกพี่ และ ห้ามปลุกตัวเอง นาฬิกาปลุกปิดให้หมด” เมธีพูดเอาไว้เมื่อคืนก่อนนอน พรนภานึกพร้อมคลี่ยิ้มขณะนั่งจิบกาแฟอยู่บนโซฟา ปรายตามองสามีคราวพ่อที่นอนอย่างกับซ้อมตายอยู่บนเตียงนอน ส่วนตนเองก็ตื่นเช้าเหมือนเดิม ล้างหน้าแปรงฟันยังไม่รีบอาบน้ำ ไม่ปลุกสามีด้วยปล่อยให้นอนไปอย่างนั้น

             เมื่อวานก่อนจะหยุดชวนเมธีไปเที่ยวนครปฐม เธออยากไป! เพราะไม่เคยไป เมธีก็มีข้ออ้างร้อยแปดพันอย่างมาหักล้าง เพื่อจะได้ไม่ต้องไป นึกแล้วก็เบื่อ ไม่ใช่ครั้งแรกที่โดนขัดใจ เป็นขัดใจแบบสมเหตุสมผล เธอเถียงไม่ได้ ต้องจำยอมเท่านั้น

             เธอนั่งเล่นเฟซบุ๊กเลื่อนไปเลื่อนมาแบบเบื่อ ๆ วันนี้หยุดตรงกับวันอาทิตย์ทั้งที มันก็ไม่อยากอยู่ห้อง อยากไปที่ไหนสักที่ คาเฟ่ก็ได้ เธอเลื่อนเฟซบุ๊กไปเจอโพสต์ของ ‘ดาวฟินเวอร์’ ที่เธอติดตามเอาไว้ เพราะเป็นคนชอบเที่ยวเหมือนกันกัน เผื่อพี่ดาวมีที่เด็ด ๆ ในจังหวัดที่เธอทำงานอยู่

             เป็นเพจของพี่ดาว เธอแทนหล่อนว่าพี่ พี่ดาวเป็นคนจังหวัดศรีสะเกษ พี่ดาวเป็นนักรีวิวสถานที่ท่องเที่ยว รีวิวมาแล้วหลายที่ ล้วนแต่เป็นที่สวย ๆ น่าไปทั้งนั้น รอบนี้พี่ดาวมารีวิวให้กับร้านกาแฟแห่งหนึ่งในจังหวัดที่เธอทำงานอยู่ เธอกดดูรูปภาพแล้วชอบ ถูกใจมาก! ไป! มันต้องไปเท่านั้น ชื่อว่าร้าน ‘สมถวิลคาเฟ่’

             เมื่อนึกได้เช่นนั้นแล้วพรนภาไม่รอช้า ยกแก้วกาแฟดื่มอึกสุดท้าย ลุกจากโซฟาเดินหยิบผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำ กะให้ตนเองอาบน้ำแต่งตัวเสร็จค่อยปลุกเมธีก็ได้ รายนั้นแต่งตัวเร็วอยู่แล้ว อาบน้ำเสร็จเดินมานั่งแต่งตัวหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ทาครีมไปฮัมเพลงไปอย่างมีความสุข นครปฐมไม่ไปก็ได้ ไปพัทยาก็ได้

             พรนภาแต่งหน้าทำผมเสร็จ สวมเสื้อไหมพรมแขนยาวเอวลอย อุตส่าห์แพลงก์มานานหลายปี ขออวดทรวดทรงองค์เอวของตนหน่อยแล้วกัน สวมกางเกงขายาว เตรียมไปสู้แดดของวันนี้เต็มที่ พอแต่งตัวเสร็จจึงเดินไปปลุกสามีให้ตื่นไปอาบน้ำ นี่ก็ปาเข้าไปสิบโมงเช้าแล้ว สายแล้ว! นอนตื่นสายแค่นี้พอ

             “พี่เมธีคะ พี่เมธีตื่นได้แล้วค่ะ สายแล้วไง จะนอนไปถึงไหน” พรนภาเดินมาเขย่าตัวของสามี ปลุกครู่เดียวเมธีก็ลืมตาตื่น

             เมธีลืมตามองภรรยาสาวแบบไม่กะพริบ กำลังมึนงงว่าวันนี้พรนภาจะพาไปไหนกัน ไหนบอกไม่ไปเที่ยว แล้วนี่แต่งตัวจะไปไหน เมธีสะบัดคอนิดหน่อยเพื่อสลัดความง่วงทิ้ง

             “น้องจะไปไหนเหรอคะ แต่งตัวสวยเชียว จะพาพี่ไปไหน” เขาถามเสียงแหบพร่า ยังไม่ยอมลุกจากที่นอน

             “ไปนครปฐม!” พรนภาแกล้งตอบ หมั่นไส้นัก ชวนไปก็ไม่อยากไป บอกว่าไปเที่ยวหาพี่เกนก็ไม่อยากจะไป ไม่ต้องเช่าโรงแรม ค้างกับพี่เกนก็ได้ ก็ไม่ยอม! เดี๋ยวเถอะจะงอแงไปให้ได้

             “หื้อ! ใครจะไปคะ ไกลแหมน้องนภา เราคุยกันแล้วไง โอเคตกลงกันแล้วไงคะน้องนภา” เมธีขมวดคิ้ว ทำหน้าตาเหมือนเด็กกำลังจะงอแงไม่อยากไป “ไกล! สายแล้วด้วยค่ะ”

             “พูดงี้แปลว่าจะพาไปใช่มั้ยคะ งั้นวันหลังตื่นเช้า ๆ เลย ไกลก็ต้องไปมั้ยอ่ะ ไม่งั้นจะบอกว่าเที่ยวเหรอ”

             “ก็ใช่! แต่แบบไปดูไร… ไม่เถียงเรื่องนี้ด้วยแล้ว ว่าแต่น้องจะแต่งตัวไปไหนคะวันนี้ ไปแถวบ้านเราพี่พาไปอยู่ นครปฐมไม่ไป กรุงเทพก็ไม่ไป บางนงบางนาก็ไม่ไป” เขาปฏิเสธกึ่งบ่น จากนั้นก็ลุกขึ้นนั่งจ้องหน้าภรรยา คนอะไรชอบเที่ยว เห็นใครลงอะไรในเฟซบุ๊กไม่ได้ จะตามเขาไปหมด

             “แล้วแต่! ไปคือเก่าเดือนหน้า”

             “ได้! ไปก็ได้ต้องมีค่าจ้างให้พี่ด้วยค่ะ หนี้สี่พันบาทที่พี่ค้างน้องนภาหายกัน เอามั้ย! เดี๋ยวพี่พาไปนครปฐมสามวันสองคืนเลยเป็นไง แต่หนี้ของพี่หายกัน ฮา” เขาพูดปนหัวเราะอย่างสะใจ

             “บ่อ! หนี้คือหนี้ เงินให้โดยเสน่ห์หาก็คือเงินให้โดยเสน่ห์หาทุกเดือนมั้ยพี่เมธี ห่วย! ใช้หนี้พร้อมดอกด้วย!”

             “หื้ย… คนหยังมางกแถะ ทวงฮอดหนี้ผัว” เขาพูดกลั้วยิ้ม หัวเราะอึกอักเบา ๆ ปรายตามองพรนภาอย่างเอ็นดู ยืมนิดยืมหน่อยทำเป็นทวงคิดดอกเบี้ยไปอีก เขาเต็มใจให้มากกว่านั้นเป็นหลายร้อยเท่า

             “รีบไปอาบน้ำเลยค่ะ เร็ว ๆ นภาจะพาพี่เมธีไปร้านกาแฟที่พัทยา สมถวินคาเฟ่รู้จักมั้ย ตามรอยพี่ดาวฟินเวอร์ไง สวยนะ พี่ดาวฟินเวอร์รีวิว” เธอกล่าวกับสามีพร้อมยื่นหน้าจอโทรศัพท์ให้ดูด้วย จากนั้นเมธีก็เดินหยิบผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำ

             พวกเธอพร้อมกันแล้วก็ออกเดินทางกันได้ โดยการเปิดจีพีเอสไป

             “นภาว่ามันน่าจะไปทางเดียวกันนะกับมองช้างคาเฟ่ค่ะ ดูดิ!” ภายในรถพรนภายื่นหน้าจอโทรศัพท์ให้เมธีดูด้วย เปิดจีพีเอสแบบดาวเทียม จะได้รู้ตำแหน่งชัดเจน

             “อ่อพี่รู้แล้วว่าไปทางไหน อยู่บางละมุงหนิ”

             “ช่าย! ไปโลดค่า” จากนั้นพวกเธอก็บึ่งรถจากคอนโด มุ่งหน้าไปสมถวิลคาเฟ่ คาดคะเนไว้ว่าวันอาทิตย์คนต้องเยอะน่าดู ผ้าปิดจมูกเจลแอลกอฮอล์พกเตรียมไปด้วย ป้องกันไว้ก่อนดีกว่าแก้ ทุกวันนี้ยิ่งไม่ได้รักษาโควิดฟรีแล้ว ทางที่ดีคือไม่ต้องออกจากบ้าน แต่พวกเธอก็อยากจะเที่ยว ดังนั้นจึงป้องกันกันเอาเอง

             ณ สมถวิลคาเฟ่

             มาถึงสมถวิลคาเฟ่เป็นไปตามคาด คนแน่นเอี๊ยด กำลังต่อแถวเข้าคิวกันสั่งออร์เดอร์ เนื่องจากวันนี้เป็นวันอาทิตย์ คนจึงเยอะเป็นพิเศษ แถมแดดเต็มพิกัดด้วย

             “เราน่าจะมาวันปกติเนอะน้อง คนเยอะจัด! เดี๋ยวโควิดก็ถามหา” กลัวแต่ก็เต็มใจมา

             “นภาทำใจไว้แล้ว! วันอาทิตย์คนเยอะแหง ๆ” พรนภาพูดเบา ๆ ขณะนั่งอยู่ในรถตรงลานจอดรถของร้าน จากนั้นพวกเธอก็ลงจากรถพร้อมเดินเข้าไปในร้าน มีคนเดินสวนเข้าสวนออกมากมาย บ้างมากันเบื่อแล้วก็กลับ และ มีคนมากมายที่พึ่งเดินทางมาถึงพร้อมพวกเธอ

             “พี่เมธีตัวเองรอเค้าอยู่ข้างนอกก็ได้ เดี๋ยวเค้าสั่งให้เองค่ะ” หน้าที่ตรงนี้เป็นหน้าที่ของเธอเอง เมธีมีหน้าที่ขับรถพาไปทุกที่ ๆ อยากไปก็พอ

             “เหมียนเดิมค่ะ เอส…”

             “เย็น!” พรนภาตอบปลายประโยค

             “อื้อฮึ!” เขาตอบพร้อมพยักหน้า “น้อง… พี่นั่งรอตรงนี้นะคะ” เขาชี้มือไปยังโต๊ะนั่งคอยออร์เดอร์ของทางร้าน พรนภาพยักหน้าก่อนจะเดินเข้าไปในร้านเพื่อสั่งกาแฟ

             ใช้เวลาไม่นานพรนภาก็เดินถือกาแฟเย็นมาเสิร์ฟเมธี ทว่าพวกเธอไม่ต้องการที่จะนั่งบริเวณนี้ เดินหามุมเงียบ ๆ นั่งกัน แต่! ทุกมุมเต็มไปด้วยลูกค้าที่มาในวันนี้หมด เต็มจริง ๆ ไม่มีโต๊ะว่างให้นั่งจริง ๆ ทำเอาพรนภาออกอาการเซ็ง ดีที่ว่ามุมถ่ายรูปเยอะ พอให้อภัยทางร้านได้

             “ไม่มีที่นั่งเลยค่ะน้องนภา” เมธีเดินมือแตะไหล่ของภรรยาสาว มองหาที่นั่งก็เต็มไปหมด ไม่อายสายตาของใครที่มองมาสักนิด เพราะมีหลายคู่ที่ต่างวัยมาเที่ยวที่นี่เหมือนกัน มองแล้วชวนให้ยิ้มดี “งั้นเดินถ่ายรูปกันเลย มา! กระเป๋าน้องมาพี่ถือให้ กาแฟด้วยค่ะ”

             พรนภาพยักหน้าแบบเซ็ง ๆ แถมแดดตอนเที่ยงจ้าอย่างกับอะไร แดดก็แดด ร้อนก็ร้อน คนก็เยอะ ที่นั่งก็เต็ม!

             “มาเริ่มเลยก็ได้ค่ะ อุตส่าห์อยากมา รีบเก็บภาพรีบกลับ ร้อน!” พรนภากล่าวแบบผิดหวัง “แป๊บนะนภาขอดูพี่ดาวเซลฟี่ก่อนว่าเขาเซลฟี่ตรงไหนบ้าง” พูดพลางกดโทรศัพท์ดูเพจของบุคคลที่ว่าด้วย เพื่อจะดูมุมถ่ายรูปและเก๊กท่าตาม

             ความจริงมุมถ่ายรูปของร้านก็มีเยอะแยะละลานตาเต็มไปหมด แถมยังเต็มไปด้วยผู้คนที่มาเที่ยว ต่างยืนต่อคิวกันเข้าไปเก็บภาพตามจุดต่าง ๆ ไม่มีใครกลัวแดดกันสักนิดแม้แต่เธอ

             “พี่เมธีเอามุมนี้ก่อน นี่ไงมุมโต๊ะกาแฟ เดี๋ยว ๆ นภาดูพี่ดาวเค้าถ่ายรูปแบบไหนก่อน” พรนภาเห็นจุดถ่ายรูปที่ว่างแล้ว ชวนสามีรุ่นพ่อไปถ่ายรูปตรงนู้น

             “น้องถอดแมสก์ออกค่ะ ไม่ต้องสวมแมสก์ คนอื่นเค้าก็ยังถอดเลย ถ่ายรูปเสร็จค่อยสวม” เมธีช่างถ่ายรูปประจำตัวกล่าว รู้หน้าที่ดีมาก ๆ ไม่ต้องให้บอกอะไรมากมาย แถมยังรู้ฉากรู้มุมกล้องดีด้วย

             พรนภาเข้าไปนั่ง ให้เมธีถ่ายรูปให้สองสามภาพ ทว่าเจ้าตัวกดชัตเตอร์รัว ๆ กันไปเลย ให้เธอมานั่งเลือกอีกที

             “ได้มั้ยพี่เมธีดูหน่อย!” เธอขอดู ขณะนี้สวมแมสแล้ว ฝีมือของสามีรุ่นพ่อใช้ได้! เป็นที่น่าพอใจเป็นอย่างยิ่ง

             “ตรงไหนอีกคะ?! น้องตรงดอกทานตะวันว่างค่ะ” เขาชี้มือไปยังจุดถ่ายรูปที่ว่างอีก เขาสนุกกับการเป็นตากล้องให้ภรรยารุ่นลูกทุกครั้ง เริ่มรู้งาน เริ่มรู้ว่าต้องทำอะไรยังไง เห็นเธอมีความสุขมีหรือเขาจะไม่รีบทำให้ และ สนุกไปกับกิจกรรมของภรรยาเสมอ ไม่เคยมองเป็นเรื่องไร้สาระหรือรำคาญสักนิด

             “ได้! ป่ะรีบ ๆ เลย นู่นน่ะคู่นั้นเดินมาล่ะ” พรนภาบุ้ยปากไปยังคู่รักต่างวัยเช่นพวกเธอกำลังเดินมา แน่ชัดชัวร์ว่าคู่รัก ไม่ใช่คู่พ่อลูก! เพราะไม่มีแม่ตามมาด้วย ท่าทางก็ไม่ใช่พ่อลูกกันสักนิด

             “น้องขึ้นไปนั่งชั้นบนสุดค่ะ เนี่ยคุณดาวฟินเวอร์เขานั่งชั้นบนสุดนะ” เมธีแนะนำ ดูเพจไปกับเธอด้วย

             “เคค่ะ! พุ่นน่า เพิ่นคือฮู้งานดีแถะวะ ฮา” อดแซวสามีไม่ได้ รู้งานมาก! นี่สิช่างภาพในดวงใจนิรันดร์ตลอดไป

             พรนภาเก็บภาพตรงนี้เสร็จก็ไปตรงโน้น พอตรงโน้นเสร็จก็มาตรงนี้ เก็บภาพทุกมุมของร้านกันเลยทีเดียว ถ่าย ๆ เก็บไว้ก่อนค่อยไปเลือกรูปที่ดีที่สุด

             “ตัวเอง! พี่เมธีมานภาถ่ายรูปให้ตัวเองบ้าง” พรนภาขอ “จะเก๊กถ่ายหล่อ ๆ ดี ๆ หรือจะให้แอบถ่าย ฮะ?!” ไม่ขอเพียงเท่านั้นขู่ไปด้วยเสียเลย

             เมธีหัวเราะพร้อมยีผมของภรรยาสาวอย่างหมั่นเขี้ยว มีสายตาของบางคนมองมา พวกเธอก็แค่ยิ้มให้แก้เขิน เมธีไม่ชอบถ่ายรูปเท่าไหร่นัก ไม่อยากอัปเดตชีวิตประจำวัน เป็นคนไม่ชอบถ่ายรูปมาแต่ไหนแต่ไร ทว่าก็ยอมทุกคราวที่โดนขู่แบบนี้

             “นภาขอถ่ายรูปพี่เมธีสิบรูปพอนะ พี่เมธีนับไปเลยสิบครั้ง เร็ว! ตัวเอง ห่วย! มันสวยนะร้านนี้ มาเที่ยวทั้งทีมีแต่รูปนภา ไม่มีรูปพี่เมธีเลย” พรนภาบ่น

             “เคค่ะ! ต้องให้พี่เก๊กหล่อท่าไหนบอกมา” เขาพูดปนหัวเราะ เธอเองก็หัวเราะตามไปด้วย มีความสุขที่สุด อะไรจะมีความสุขเท่าพวกเธอสองคนได้ใช้เวลาร่วมกันแบบนี้ ถ้ามีใครสักคนเข้ามาเติมเต็มให้ความสุขมันสมบูรณ์แบบกว่านี้ คงจะสุขไม่น้อยแน่ ๆ

             คราวนี้เป็นเธอที่เป็นตากล้องให้กับเมธี “ดู! ดูฝีมือนภากากที่ไหนล่ะ เนี่ยพี่เมธี ตัวเองถ่ายให้มันได้สวย ๆ แบบนภาบ้าง” ทำเป็นแกล้งติ แต่ภาพทุกภาพที่เมธีถ่ายให้ก็สวยทั้งนั้น

             “ป้าด! คือมาเป็นตะน้อยใจแถะบาดหนิ ไปไสมาไสเขากะถ่ายรูปให้ บาดสิวา ไม่สวยพะนะ” เมธีทำน้อยใจ

             “โอ๋ ๆ ขอโทษ ๆ สวยค่ะสวย! สวยก็ได้! พี่เมธีถ่ายรูปสวยที่สู้ดเลย แฮ่ ๆ” เมธีทำงอนเธอก็ทำง้อได้เช่นกัน ใครมารยากว่าใครก็ไม่รู้

             พวกเธอใช้เวลาอยู่ที่นี่ถึงบ่ายสองจากนั้นก็กลับคอนโด เพราะไม่มีที่ให้นั่งเลย กะจะทานมื้อเที่ยงนี้โต๊ะเต็มไปหมด สุดท้ายพวกเธอก็แวะร้านลาบข้างทางเช่นทุกรอบที่ไปเที่ยวร้านคาเฟ่

             ………………………………………..
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่