ฝันหวาน (Sweet Dream) 51

กระทู้คำถาม

.

https://ppantip.com/topic/40866101…บทที่ 1-50

                “ตื่นเช้าจังค่ะ “ เมธีพูดพร้อมกอดเธอเอาไว้ เมื่อเธอขยับตัวจะลุกจากเตียงนอน

                  “นภาตื่นแล้วนี่นา จะไปอาบน้ำ” เธอบอกกับสามีก่อนจะแกะท่อนแขนที่กอดตนเองเอาไว้ ส่วนเจ้าตัวก็ยอมแต่โดยดี หลับต่ออย่างว่าง่าย เธอปรายตามองและยิ้มให้กับความน่ารักของสามีรุ่นพ่อคนนี้นัก แล้วเดินหยิบผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำไป

                   หลังอาบน้ำเสร็จเดินนุ่งผ้าเช็ดตัวออกมา ปรายตามองเมธียังหลับอยู่เลย เผยยิ้มส่ายหัวให้คนขี้เซาเล็กน้อยก่อนจะเลิกสนใจ และ แต่งตัวอย่างสบายใจ วันนี้ยังไม่มีแพลนไปไหนเลย อยู่ห้องก็ดีเหมือนกัน ปลอดภัยจากโรคต่าง ๆ ด้วย

                    แต่งตัวไปพร้อมเล่นโทรศัพท์ไปด้วย ไม่รีบร้อนอะไร ใช้ชีวิตอย่างสโลว์ไลฟที่สุดในวันหยุดนี้ ระหว่างนั้นก็เห็นคนในโซเชียลแชร์เพจร้านกาแฟมาหน้าฟีดข่าว เพราะเป็นคนชอบเที่ยวร้านกาแฟจึงสนใจ กดเข้าไปดูก็ไม่เสียหาย ถ้าสวยจะได้ชวนสามีไปกัน

                     เธอนั่งเลื่อนดูรูปเพจร้านกาแฟที่ว่านั่น หน้าตาปะแป้งทาครีมยังไม่เสร็จเลย เพราะมัวแต่ให้ความสนใจร้านกาแฟอยู่ เธอเลื่อนดูเรื่อย ๆ สวยมาก เป็นธรรมชาติถึงแม้ร้านจะอยู่ใจกลางเมืองก็ตาม มีน้ำตกปลอม มีบ่อปลาคราฟสวยงามเป็นธรรมชาติมาก นั่งกดดูจนครบทุกรูปตัดสินใจว่าไม่อยู่ห้องแล้ว วันนี้ไปร้านกาแฟดีกว่า

                    พอดูครบทุกรูป เป็นอันถูกใจร้านนี้จึงรีบแต่งหน้าทาปาก เขียนคิ้วหนีบผมให้แล้วเสร็จ ทว่าแปลกที่วันนี้ตนเองรู้สึกไม่พิถีพิถันกับเสื้อผ้านัก ใส่แบบธรรมดา ๆ สวมกางเกงขากระบอกตัวเก่งสำหรับใส่อยู่ห้อง ทั้งที่เธอมอบตำแหน่งให้มันเป็นกางเกงใส่อยู่ห้องเท่านั้น ไม่ใส่ออกงานเพราะมันเชยมาก เสื้อก็เหมือนกัน

                      วันนี้เธอกลับรู้สึกว่าใส่อะไรก็ใส่ไปเถอะ อยากไปแต่ทำไมครั้งนี้ใจมันไม่ละเมียดละไมกับเสื้อผ้าเลย ไม่กลัวถ่ายรูปออกมาไม่สวยด้วย เธอตัดสินใจสวมชุดนั้น สบาย ๆ สไตล์พรนภา สไตล์ชุดอยู่ห้องกันเลยทีเดียว

                   แต่งตัวเสร็จแล้วเมธีก็ยังไม่ตื่นอีก จึงเดินเข้าไปปลุก “พี่เมธี… พี่เมธีตื่นเร็วเค้าอยากไปร้านตาแพ” ทำเสียงออดอ้อนออเซาะสักหน่อย ออกเสียงเพี้ยน ๆ ให้ดูตลก นอนหมอบทับไปกับแผ่นหน้าอกของเมธี จับใบหน้าเขย่าเบา ๆ

                    เมธีลืมตาตื่นตามแรงเขย่า “ไปไหนนะ” ถามเสียงเอื่อย ๆ เพราะยังไม่ส่างเท่าไหร่นัก

                    “ไปร้านกาแฟกัน เค้าอยากไปร้านกาแฟ มันสวยมากเลยนะพี่เมธี มันมีปลาคราฟด้วย” พูดสาธยายให้ฟังด้วยรอยยิ้มและความอยากไปมาก

                   “อยู่ที่ไหนค่ะ ไปก็ไป” เขาตอบ พรนภาเผยยิ้มด้วยความดีใจ ต้องแบบนี้สิพี่เมธีของพรนภา ไม่เคยขัดใจเลย ทว่าคนพูดตอบตกลงกลับผล็อยหลับไปต่อหน้าต่อตาซะอย่างนั้น

                  “ฮือ… พี่เมธีอ่ะจะหลับทำไม” ค่อนขอดให้สามีและจุ๊บไปที่ริมฝีปากของเขา ตัวยังทับหน้าอกของเขาอยู่ ไม่สนใจว่าจะหนักหรือไม่นัก ส่วนเจ้าตัวตื่นเพราะโดนแกล้งโอบกอดเธอไว้ “ ตื่น ๆ มีเรื่องแล้วเนี่ย นภาเจอร้านกาแฟสวย ๆ แล้วเนี่ย ฮา “ พูดกลั้วหัวเราะ

                   “เค ๆ กี่โมงแล้วคะ” เขาพูดพร้อมจับตัวเธอออกจากตัวของตนเอง ลุกขึ้นนั่ง

                   “เก้าโมงแล้ว จะทานข้าวก่อนไปมั้ยหรือจะไปทานหนมปังกับกาแฟที่นู่นเลย” เธอตอบ “เร็ว ๆ ไปอาบน้ำเลย จะดูมั้ยสวยมาก “ พูดพร้อมยื่นหน้าจอโทรศัพท์ให้เขาดูด้วยรอยยิ้มเปื้อนใบหน้า อารมณ์ดีเพราะจะได้ไปร้านกาแฟสวย ๆ มีมุมให้ถ่ายรูปสวย ๆ ไม่หวั่นเลยกับโรคระบาด

                   “ไปทานที่นู่นเลยก็ได้ค่ะ ขากลับค่อยหาซื้ออะไรเข้ามาทำ กินไรดีเรา” เขาถามพร้อมยันตัวลุกขึ้นเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวเพื่อจะไปอาบน้ำ

                     เธอมองตามวันนี้เขาน่ารักที่สุดเลย น่ารักทุกวันนั้นแหละ ไม่เคยขัดใจ ไม่เคยทำให้ผิดหวัง มีบ้างที่ผิดหวังทว่าก็ชดเชยให้อย่างสมน้ำสมเนื้อเสมอ “ไม่รู้เลย ไปอาบน้ำก่อนไป ไปร้านกาแฟก่อนขากลับค่อยว่ากัน”

                    “ก็ได้ ! รอแป๊บนะขอรับอาบน้ำแป๊บเดียว”

                     “แจ้ ! ฮา “ พูดกลั้วหัวเราะ มองตามร่างกำยำเข้าไปในห้องน้ำ ไม่นานเขาก็อาบน้ำเสร็จแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยพวกเธอก็เดินทางไปร้านกาแฟที่ว่านั่น

                     เหมือนเดิม เปิดจีพีเอสไปเหมือนเดิมเพราะไม่รู้จักร้านเลย “ร้านอยู่ตรงไหนน้องนภา” เขาถามเมื่อจีพีเอสบอกว่าจุดหมายของคุณอยู่ฝั่งขวามือ

                      “มันจะเขียนว่าคราฟราเฟ่นาพี่เมธี นั่นไง ! ร้านนั้น ! “ พรนภาชี้มือไปยังร้านกาแฟที่ตามหาอย่างตื่นเต้น กลัวมากกลัวว่าจะหาร้านไม่เจอ

                     “ตกลงมันร้านกาแฟหรือร้านล้างรถกันแน่เนี่ย” เขาบ่นอุบอิบ ขับรถเลี้ยวเข้าไปข้างในหลังชะลอรถอ่านป้ายร้านอยู่นาน

                   “เจ้าของเดียวกันแน่เลยพี่เมธีว่าปะ แบบทูอินวันไง มาล้างรถได้ทั้งล้างรถและจิบกาแฟด้วย แล้วล้างรถมั้ยล่ะ” เธอพูดปนยิ้มอย่างคนมีความสุข เธอมีความสุขตลอดที่โดนเมธีตามใจ และ ได้มาในที่ ๆ ชอบใจแบบนี้ ได้เที่ยวแค่นี้ก็มีความสุข

                  “ไม่ล้างค่ะ เดี๋ยวฝนตก ฮา “ เมธีหันมาพูดกลั้วหัวเราะกับเธอ พวกเธอหัวเราะให้กันและกัน เมธีค่อย ๆ ขับหาที่จอดรถ หลังจากนั้นพวกเธอก็เดินไปที่ร้านกาแฟกันเลย พวกพนักงานล้างรถมองกันใหญ่ พวกเธอก็ไม่ใส่ใจชินเสียแล้ว

                 “น้องนภา วันนี้เค้าเอาเอสร้อนนะ “ เมธีกระซิบบอกเธอระหว่างเดินเข้าไปในร้าน

                  “ได้ค่ะ เค้กเอามั้ย”

                “เอาค่ะ” เขาตอบพร้อมยกมือขึ้นมาแตะไหล่ของเธอเดินเข้าไปภายในร้านด้วยกัน ทั้งร้านมีพนักงานอยู่สามคน เป็นร้านเล็ก ๆ ทว่ามุมถ่ายรูปและบรรยากาศหลักพันเลยล่ะ

                    พวกเธอเดินไปยังเค้าน์เตอร์เพื่อสั่งเมนู “เอาลาเต้เย็นกับเอสร้อนค่ะ ส่วนเค้กเอาช็อกโกแลตอันนี้กับอันนี้ค่ะ” พรนภาเก็นคนสั่งเมนูทั้งหมด สั่งแค่นี้พอเพราะเธอเน้นบรรยากาศและมุมถ่ายรูปสวย ไม่ได้เน้นทาน ไปทุกที่จึงสั่งเพียงเท่านี้พอ

                    พนักงานแอบมองและอมยิ้ม พวกเธอก็ฉีกยิ้มให้ เข้าใจในสายตาคู่นั้นของพวกพนักงานกัน พูดในใจแฟนของเธอนะไม่ใช่พ่อหยะ

                   “เดี๋ยวเอาไปเสิร์ฟนะคะ คุณลูกค้าหาที่นั่งตามสบายเลยค่ะ” หนึ่งในพนักงานบอก

                 “โอเคค่ะ “ ตอบพนักงานพร้อมยิ้มให้ “อือ พี่เมธีเราไปนั่งข้างนอกดีกว่า” หันมาคุยกับสามี เขาพยักหน้าจากนั้นพวกเธอก็พากันออกมาข้างนอก เลือกโต๊ะเลือกมุมที่สวยที่สุด

                  พรนภายืนมองมุมที่อยู่ติดบ่อปลาคราฟ มีปลาแหวกว่ายอยู่ในบ่อหลายตัวเยอะมาก มีหน้าผาพร้อมน้ำตกจำลองสวยมาก ๆ มีหมอกเทียมด้วยยิ่งเพิ่มบรรยากาศให้น่านั่งและถ่ายภาพยิ่งนัก เสียอย่างเดียวติดห้องน้ำไปหน่อย ทว่าในภาพรวมมุมนี้ใช้ได้

                   “น้องตรงนี้ดีกว่าค่ะ” เขาจูงมือเธอเดินมาอีกฝั่งของร้าน “มุมนี้ก็ดีนะพี่ว่า”

                    “ว๊าว…เริส !” เธออุทานเบา ๆ “ร้านเล็ก ๆ นึงคือจัดเลิศแท้วะ ไม่เสียแรงเลยที่สุ่มมา ไม่ผิดหวัง อิอิ”  อีกมุมของร้านจัดเหมือนสวนย่อม มีมุมถ่ายรูปสวย ๆ ทั้งนั้น มีรูปหัวใจไว้สำหรับนั่งถ่ายรูป อีกมุมมีจักยานและเกวียนเอาไว้ให้นั่งถ่ายรูปเช่นกัน มีต้นไม้ทุกอย่างภายในร้านเป็นสีเขียวทั้งหมด เป็นธรรมชาติมาก ๆ

                    พวกเธอเลือกนั่งมุมกล้วยไม้ เพราะเธอชอบดอกกล้วยไม้เป็นการส่วนตัว จึงเลือกนั่งมุมนี้ ดอกกล้วยไม้ก็สวย ๆ ทั้งนั้นทั้งสีขาวสีเหลืองและสีม่วง เธอชอบสีขาวที่สุด ด้านหลังจะเป็นป้ายเขียนชื่อร้านเอาไว้

                      “พี่เมธี… มาเริ่ม ! เร็ว ๆ รอกาแฟยังไม่มา” เธอพูดปนยิ้ม

                      “ได้ค่ะ มุมไหนก่อน” ระหว่างรอกาแฟที่สั่งเธอก็ถ่ายรูปฆ่าเวลา ตรงนี้ถึงจะสวยก็จริง แต่ มันยังไม่เด็ดพอ เพราะฉะนั้นเธอจึงไม่บังคับให้เมธีถ่ายรูปเก็บเอาไว้

                      “พี่เมธีไปตรงเกวียนค่ะ “ เปลี่ยนจากถ่ายรูปมุมนี้เสร็จก็เปลี่ยนไปถ่ายรูปอีกมุม เป็นเกวียนสมัยเก่า สวยดี จากนั้นก็พากันมานั่งอีกโต๊ะใต้ต้นไม้ดูรูปที่ถ่ายเสร็จไปเมื่อครู่

                     “โอ้ยแมงอะไรเนี่ยมาตอมหัวนภา” นั่งดูรูปอยู่ดี ๆ รู้สึกว่ามีแมลงอะไรก็ไม่รู้บินตอมอยู่บนศีรษะของตน ตรงข้ามกันก็มีคู่หนุ่มสาวนั่งอยู่ พวกเธอก็ไม่แคร์สายตาที่มองมา

                     “แมงอะไรคะ” เขาถามพร้อมปรายตามองมาที่ศีรษะของเธอ

                      “แมง…แมงตอมควายแหมะ ที่มันตอมหลังควายน่ะ มันไม่ตอมพี่เมธีเหรอ ปะกลับไปนั่งที่เดิมเราเหอะ ฮ่วย… นภาสระผมอยู่นะ นู่นน่ะตอมหัวพี่เมธีด้วย ธรรมชาติเกิ๊น ฮา “ เธอบ่นรู้สึกไม่ชอบใจนักที่โดนแมลงตอมศีรษะ หลังจากนั้นพวกเธอจึงกลับไปนั่งโต๊ะเดิม ไม่นานกาแฟกับเค้กที่สั่งก็นำมาเสิร์ฟ

                     ของเธอเป็นลาเต้เย็นส่วนของเมธีเป็นเอสร้อน พวกเธอใช้เวลาอยู่ที่ร้านกาแฟเกือบชั่วโมงได้ จากนั้นก็เดินทางกลับเมื่อเธอถ่ายรูปจนพอใจแล้ว

                    “ใครบอกน๊าว่าจะอยู่ห้องอ่ะวันหยุดนี้ !” ระหว่างขับรถกลับเมธีพูดลอย ๆ หันมามองพร้อมยิ้มให้เธอแว่บเดียวก็หันกลับไปมองถนนเช่นเดิม “มาจนได้ !”

                   “เค้าเอง ! ฮา “ พรนภาเองก็พูดกลั้วหัวเราะตอบกลับไปพร้อมชูมือขึ้น เมธีหัวเราะเธอ ไม่โกรธ ไม่หงุดหงิด ไม่คัดค้านเลยตามใจเสมอ “เอ๋าพี่เมธีก็ นภาแต่งตัวอยู่ใช่มั้ย…”

                 “ค่ะ แล้วไงต่อ” เขาพูดแทรก พยักหน้าหงึก ๆ ฟังที่เธอพูดอย่างตลก ทำให้เธอเขินและหัวเราะออกมา ทว่าก็ยังอยากเล่าต่อ ไม่อยากนั่งรถกลับบ้านแบบบรรยากาศเงียบสงบ

                   “นภาก็ดูเฟซบุ๊ก คราวนี้นภาก็เลยเห็นใครแชร์ร้านคราฟคาเฟ่มาก็ไม่รู้ นภาก็เลย เฮ้ย ! สวยว่ะ ที่ไหนอ่ะ นภาก็เลยหยุดเขียนคิ้วใช่มั้ย แล้วบาดหนินภาก็ค้น ๆ ดู ดูรูปที่เขารีวิวมา เฮ้ย ! มันได้ว่ะ สวยมากไรงี้ นภาก็เลย ไป ! ชั้นต้องไป ต้องไปปลุกพี่เมธีตื่นเดียวนี้ ต้องไปปลุกผัวให้ตื่นด่วนประมาณนี้ค่ะ ฮา “ พวกเธอสองคนหัวเราะให้กัน เธอเล่าเป็นต่อยหอยแบบเด็ก ๆ ทำตัวไร้เดียงสาแค่ไหนก็ได้ ส่วนเมธีก็รับฟังพยักหน้าตาม แกล้งฟังอย่างตลก

                 “อิหล่าน้อยเอ๊ย ฮา “ เขาหัวเราะตลกกับคำพูดของเธอ เอ็นดูภรรยารุ่นลูกคนนี้นัก ทำอะไรก็ดูน่ารักไปหมด ใส ๆ ตรง ๆ ซื่อ ๆ ดี เธอไม่ได้แกล้งเสแสร้ง เธอเป็นตัวของเธอเอง เธอเป็นแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไร ตั้งแต่คบกันเธอก็เป็นแบบนี้

                    “ทีแรกก็ว่าจะหยุดอยู่หรอก แต่มันสวยไง มันดูแล้วอยากไปอ่ะ ก็เลยอดใจไม่ไหว ก็เลยชวนผัวไง”

                     “ถูกใจมั้ยคะ”

                     “ที่สุดค่ะ ถูกใจทั้งคนพามาทั้งสถานที่ด้วย” หันมายิ้มให้กับเขา รักที่สุดเลย อยากกอดแล้ว กอดเพื่อขอบคุณที่ตามใจเมียคนนี้เสมอ ๆ เลย เมื่อไหร่จะถึงห้องนะ จะกระโดดกอดขี่หลังให้สะใจไปเลย ปรายตามองพร้อมพูดในใจ

                    “มองอะไรตัวเอง อ่านกินเค้าอีกแล้ว นี่เค้าขับรถอยู่นะ ไม่ต้องอ่านหรอก กลับถึงห้องได้กินแน่” ประจวบเหมาะกับที่เขาหันมามองปะทะเข้ากับสายตาของเธอพอดี

                   “อะไรพี่เมธี ! คิดดีไม่ได้เลยน้อว่าแต่เค้าอ่านกินตัวเอง มองไม่ได้เลยหรือไง”

                  “มองทีนี่เคลิ้มเชียวนะ ฮา “ เธอเองก็ขำที่โดนล้อ

                  มาถึงแถว ๆ ที่พักเมธีพาเธอขับไปซื้อของที่จะมาทำกับข้าวก่อน ซื้อกุ้งสดนำมาย่างในวันนี้ เพราะเธอบ่นว่าอยากทานอีกนั่นแหละ วันหยุดนี้เมธีจึงจัดการพาไปซื้อมาทานเสียเลย

                  มาถึงเขาเป็นคนตำน้ำพริก ส่วนเธอมีหน้าที่ย่างรอเพราะทำน้ำพริกไม่เป็น ปาร์ตี้เล็ก ๆ กันสองคนวันนี้คือย่างกุ้งกับเหล้าพอหอมปากหอมคอ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่