.
“ไปกับพี่ด้วยมั้ยคะ” ถามภรรยาที่นั่งมองตัวเองบนเตียงนอน ทราบอยู่แล้วว่าเธอต้องไปด้วย แค่อยากถามก็เท่านั้น เช้าอันสดใสที่บ้านนอก ที่บ้านของเขานั่นเอง วันนี้มีธุระส่วนตัวจะต้องทำให้แล้วเสร็จ ยืนส่องตัวเองหน้ากระจกตู้เสื้อผ้า สำรวจความเรียบร้อยก่อนจะออกจากบ้าน ที่ไม่ต้องละเมียดละไมอะไรมากมาย ไม่เหมือนผู้หญิง ไม่เหมือนภรรยาสาวน้อยที่กำลังมองเขาอยู่ จึงส่งยิ้มให้ผ่านกระจกไป
“นภาแต่งตัวขนาดนี้ไม่ไปมั้งคะ” พูดประชดไปที ถ้าไม่ไปด้วยคงไม่แต่งตัวสวยขนาดนี้หรอก ถามออกมาได้ นึกหมั่นไส้ที่ชอบถามอะไรไม่คิดนัก จ้องมองใบหน้าคมเข้มของเขาผ่านกระจกเช่นกัน เวลาไม่เคยทำให้เขาดูแก่ แม้อายุจะขนาดนี้แล้วก็ตาม ด้วยความที่ดูแลตัวเองอยู่เป็นประจำสม่ำเสมอของเขา
“เอ๋าเค้าก็ถามเฉย ๆ เฮ้ย! วันนี้พบคนตื่นเช้าหนึ่งอัตราแฮะ อิอิ” พูดพร้อมยิ้มให้กับเธอ ปกติไม่เคยตื่นหรอกตีห้าหกโมงเช้า พอทักท้วงเสร็จเท่านั้นแหละ พรนภาก็หาวโชว์ให้ดูเลย ทำเอานึกขันอยู่ในที น้องนภานะน้องนภา ทั้งสงสารก็มิปาน เธอไม่ค่อยได้ตื่นเช้าแบบนี้จริง ๆ
“ก็มาบ้านพี่เมธีน้อ ให้นภาตื่นสายแม่พี่เมธีบ่นนภาตายเลย ไปบ้านเค้าก่อนเถอะจะตื่นสาย ๆ ให้ดู” พูดจบเธอก็หาวไปอีก “พี่เมธีเค้าขอกาแฟด้วยนะ คิดว่าสาย ๆ ไม่น่ารอด ต้องพึ่งกาแฟแล้วล่ะ”
“ไม่ได้หรอกค่ะ ไปบ้านน้องพี่ก็จะปลุกให้ตื่นเช้า ๆ แบบนี้แหละ รับอากาศตอนเช้าดีจะตาย นาน ๆ กลับมาบ้านนาทั้งที ตื่นสายทำไมเล้า” หันมาส่งยิ้มให้พรนภาที่นั่งคอยเขาบนเตียงนอน นึกเอ็นดูลูกตาที่เหมือนจะเหม่อลอยเพราะความง่วงของเธอ “ว่าแต่จะชงกินหรือว่าจะแวะปั๊มซื้อคะ”
“ชงให้นภาก่อน! นภาไม่ไหว เดี๋ยวพอพี่เมธีทำธุระเสร็จพานภาไปกินกาแฟนะคะ นะ!” ยิ้มกริ่มแบบมีเลศนัย ตอนนี้ร้านคาเฟ่ร้านหนึ่งผุดขึ้นมาในหัวแล้ว ไม่รบเร้าให้พาไปแต่ต้องได้ไปร้านนี้เท่านั้น
“ค่ะ ไปร้านที่เอาให้พี่ดูนะเหรอ”
“ช่าย!” ทำหน้าตาออดอ้อนออเซาะสามีคราวพ่อสักหน่อย เผื่อได้มากกว่าไปร้านกาแฟ ตอนนี้อยู่ในห้องกันสองต่อสอง แสดงท่าทีออดอ้อนเมธีได้เต็มที่ “แต่ตอนนี้พี่เมธีไปชงกาแฟให้เค้าก่อนนะ เค้าไม่กล้าไปชงเอง เค้าอายบวกเกร็ง” ยอมรับกับเขาแบบตรง ๆ ไปเลย
“ค่ะ เดี๋ยวพี่จัดการให้ ปะเราออกไปกันได้แล้ว” เมธีดันให้เธอเดินนำหน้าไปก่อน ส่วนตัวเองเดินตามหลังมาติด ๆ พากันเดินเข้าไปในครัวเพื่อชงกาแฟดื่มสักหน่อย แก้ง่วง ชงให้ตัวเองด้วย พรนภานั่งคอยที่โต๊ะทานข้าวในครัว
แม่ของเขาไปวัดตั้งแต่เช้า วันนี้เป็นโอกาสดีเนื่องจากลูกชายมาบ้าน มีคนดูหลาน ๆ ให้ในตอนเช้า แม่จึงถือโอกาสทำกับข้าวไปทำบุญที่วัด น้องสาวกับน้องเขยออกไปทำงานแต่เช้า เด็ก ๆ ยังไม่ตื่น
“กาแฟค่า นี่ของน้อง” เมธีเดินถือแก้วกาแฟมาเสิร์ฟให้ กลิ่นหอมโชยเตะจมูกมาก ๆ เธอรับเอาพร้อมจิบเบา ๆ รสชาติขมของเม็ดกาแฟและไอร้อนของน้ำทำให้สดชื่นมาก แบบนี้สิถึงจะอยู่ได้ทั้งวัน
“พี่เมธีเราไปกันแค่สองคนเหรอ ลิพูลไม่ไปกับเราด้วยเหรอคะ ไปเที่ยวร้านกาแฟไง” เธอถามสามีด้วยความสงสัย ทำไมป่านนี้ลูกชายยังไม่ตื่นอีก หรือว่าไม่ไป นี่ก็จวนจะได้เวลาต้องออกไปแล้ว
“อือนั่นสิคะ เดี๋ยวพี่ไปปลุกดีกว่า” เขาลุกขึ้นถือถ้วยกาแฟเดินไปยังห้องนอนของมารดา เมื่อคืนเขาให้ลูกชายนอนกับผู้เป็นย่า เพราะห่วงพรนภามากเกินกว่าจะให้นอนในห้องเดิมของตัวเองคนเดียว ถึงห้องจะติดกันก็เถอะ ถึงพรนภาจะยืนยันว่านอนคนเดียวได้เขาก็ไม่ยอม
“พี่พูล! ลิพูลตื่นลูกไปกับพ่อมั้ยหนิ” เสียงเคาะประตูห้องและเสียงเรียกลูกชายดังมาถึงห้องครัว เธอนั่งฟังพ่อลูกคุยกันไป จิบกาแฟไปด้วยอย่างสบายใจ ถ้าจะต้องรอลูกชายสามีแต่งตัวก็ไม่เป็นไร สบายใจอยู่แล้วสำหรับเธอ ทว่าคนที่สายคือเมธีต่างหาก
สรุปลูกชายไม่ขอตามไปด้วย ขอรออยู่ที่บ้านดีกว่า “ไปร้านกาแฟนะไม่ไปเหรอ ถ้าไม่ไปอยู่บ้านรอย่าก่อนเพราะน้องยังไม่ตื่น ถ้าจะกลับบ้านให้ย่ากลับมาจากวัดก่อนนะ”
“ครับ” พูดเสียงงัวเงีย เหมือนพร้อมจะล้มตัวลงนอนทุกเมื่อถ้าพ่อหันหลังให้ ไม่เซ้าซี้ลูกชายจึงปล่อยให้นอนต่อแล้วเดินกลับมาหาเธอในครัว
“สรุปไม่ตามไปด้วย” พรนภาเลิกคิ้วเป็นเชิงคำถาม ทั้งที่ก็ได้ยินเสียงพ่อลูกคุยกันอยู่แล้ว
“ค่ะ ไม่ไป” เมธีตอบพร้อมจิบกาแฟ หลังจากนั้นยกจนกาแฟหมดแก้วก็ชวนเธอออกไปข้างนอกได้แล้ว
วันนี้เธอตื่นเต้นมากในที่สุดก็ได้มาสักที เห็นเพื่อนเซลฟี่อวดแล้วอยากมามาก ๆ วันนี้อากาศก็ดีด้วย เหมือนฝนจะตกไม่มีแดดสักนิด ทว่าฝนก็ไม่ตกถือว่าอากาศฟ้าฝนเป็นใจ เมื่อเมธีทำธุระส่วนตัวเสร็จแล้ว เขาก็พาเธอเลยมายังร้านคาเฟ่ที่ว่านั่นเลย
“น้องร้านมันอยู่แถวไหนเปิดจีพีเอสดิ” ระหว่างทางเมื่อรถแล่นเข้าเขตอำเภอที่ว่าแล้ว
“แป๊บนะคะ” พรนภารีบทำตามคำสั่งทันที หยิบโทรศัพท์มาเปิดจีพีเอสหา สิริบอกให้ไปต่ออีกไม่กี่กิโลเมตร เลี้ยวซอยนั้นซอยนี้ก็ถึงแล้ว เมธีขับรถตามอย่างใจเย็น ไม่รีบ ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายโมงนิด ๆ ขับรถออกมาจากตัวเมืองเป็นระยะไกลพอประมาณ
มาถึงร้านคาเฟ่ที่ว่าก็สวยสมคำล่ำลือ เหมือนดั่งที่เพื่อนของเธอรีวิวให้ดูเลยไม่มีผิดเพี้ยน ไม่ผิดหวังที่ตามหาจนเจอ เสียอย่างเดียวสถานที่จอดรถแคบไปนิด ต้องขับไปจอดไกลจากร้านห่างออกไปอีก
“ตื่นเต้นเหรอคะ ฮึ!” เมื่อรถจอดสนิทที่ลานจอดรถด้านนอก เมธียกมือมาวางบนศีรษะของเธอ ปรายตามอง เห็นสีหน้าและแววตาของเธอมีความสุข เขาก็มีความสุขด้วย เรื่องเล็ก ๆ น้อยที่ทำให้ได้เขาพร้อมทำเสมอ “เป็นไง สมกับที่อยากมามั้ย”
“สมอยู่นะ สวยอยู่! ใช้ได้! ปะเราลงไปกันเถอะ” พรภาพูดพร้อมแกะสายเข็มขัดนิรภัยออกจากตัว หยิบกระเป๋าสะพายของตนเปิดประตูรถออกมา พร้อมเดินเข้าไปเซลฟี่มาก
“กล้องพร้อม ช่างภาพพร้อมมากค่ะ “ พูดพลางหัวเราะให้กันและกัน พี่เมธีน่ารักที่สุดเลย ไม่เคยบ่นสักครั้งกับเรื่องน่ารำคาญของเธอ
“ปะ” จับมือเขาเดินเข้าไปในร้าน ตอนนี้มีผู้คนมาใช้บริการมากมาย เป็นวัยรุ่นเสียส่วนใหญ่ ทว่าก็ไม่หนาแน่นอึดอัด เนื่องจากไม่ใช่เสาร์อาทิตย์ จึงพอมีความเป็นส่วนตัวอยู่บ้าง
ทั้งสองคนเดินเข้ามาภายในร้าน ตั้งแต่ปากทางเข้าร้านก็มีมุมให้ถ่ายรูปเยอะแยะมากมายแล้ว ระหว่างทางเดินเข้ามาพรนภาก็ได้ไปหลายรูปเหมือนกัน ทางร้านแจกคูปองส่วนลดให้ด้วย เพราะพึ่งเปิดใหม่จึงต้องการจัดโปรโมชั่นให้แก่คนที่มาใช้บริการ
“คุณสามีรับเอสเย็นเหมือนเดิมใช่มั้ยคะ” พรนภาหันไปถามเมธีเบา ๆ พวกเธอกำลังยืนต่อคิวสั่งออร์เดอร์กันอยู่ มีขนมเค้ก ไอศกรีม และชากาแฟมากมายให้เลือกสรร ซื้อน้ำแก้วเดียวเดินถ่ายรูปทั้งวันก็ได้
“เหมือนเดิมค่ะ” เขาตอบ ขยับเข้ามายืนใกล้ ๆ เธอ ลูกค้าที่มาปรายตาแอบมองนิดหน่อย ไม่แปลกเพราะพวกเธอโดนมองแบบนี้มานักต่อนักแล้ว พรนภากับเมธีได้แต่ยิ้มให้ในความสงสัยของพวกเขาเหล่านั้น ไม่จำเป็นต้องแคร์สายตาใครเลย เมื่อถึงคิวพรนภาก็เดินไปสั่งและรอรับ พอได้แล้วก็พากันเข้าไปด้านในร้าน อลังการงานสร้างมาก
ภายในร้านจัดมุมให้ถ่ายรูปได้จุใจกันเลยทีเดียว ทำเป็นสะพานไม้ให้เดิน มีบ้านทรงไทยให้เข้าไปนั่งเซลฟี่ มีส่วนดอกไม้ มีรังนกขนาดใหญ่ให้นั่งถ่ายรูป มีตาข่ายให้นอนเล่น มีชิงช้าและอีกเยอะแยะมากมาย ทุกคนสามารถเดินไปถ่ายรูปได้อย่างเต็มที่กันไปเลย พรนภาเองก็ตื่นตาตื่นใจไปกับสถานที่แห่งนี้ ไม่ผิดหวังเลยที่ได้มา ไม่ผิดหวังเลยจริง ๆ
“น้อง! มายืนมุมนี้เร็ว พี่ถ่ายรูปให้”
“โอเคค่ะ!”
“นี่ ๆ ให้เห็นป้าย ๆ เฮือนพ่อใหญ่หนิ” เมธีชี้ให้ดูต้องการที่จะถ่ายรูปคู่กับป้ายนี้
เมธีจัดแจงมุมถ่ายรูปให้กับเธอ เขากดชัตเตอร์ให้ไม่มีเบื่อ พรนภาเองก็เก๊กท่าถ่ายรูปได้ไม่มีเหนื่อยเช่นกัน ไปตรงนู้นทีตรงนี้ที และวันนี้จะต้องแอบถ่ายรูปพี่เมธีให้ได้คอยดู
“ไหนเค้าขอดูหน่อยซิ ได้มั้ย” พอถ่ายรูปเสร็จก็ขอดูผลงานฝีมือสักหน่อย “โอเคทำดีมาก!” พร้อมหันมาฉีกยิ้มคนคนข้าง ๆ
“ระดับไหนแล้วคุณ นี่ผมไปฝึกถ่ายรูปมาเพื่องานนี้เลยนะ มาเพื่อเมียของผมเลย ฮา ” ชมหน่อยไม่ได้นะพี่เมธี น่าหมั่นไส้นัก ไม่คิดจะถ่อมตัวเลย พรนภามองค้อนให้เบา ๆ ด้วยความหมั่นไส้สามี
“หืย! ไม่ค่อยจะเลยนะคะ! พี่เมธีมาเค้าถ่ายรูปให้ตัวเองบ้าง” เธอเตรียมกล้องมือถือไว้พร้อมแล้ว อยากถ่ายรูปเขาเก็บไว้บ้าง อุตส่าห์มาที่สวย ๆ ขนาดนี้แล้ว
“ไม่เป็นไรค่ะ น้องถ่ายคนเดียวไปเลย”
“สักหน่อยนะพี่เมธี!” เงยหน้าทำหน้ามองเขาทำสายตาละห้อยออดอ้อน “สวยออก สักรูปนะคะ นภาถ่ายรูปให้นะ” พูดจบยกโทรศัพท์ขึ้นกดชัตเตอร์อย่างเร็ว กดรัว ๆ กันไปเลย
เมธีหัวเราะกับความเจ้าเล่ห์ของภรรยาตัวเอง พรนภาทำแบบนี้บ่อยจนเขาจับทางได้แล้ว ทว่าก็ยังเผลอจนได้ ไม่ทันได้ตั้งตัวจนได้ ทั้งที่ก่อนมาระวังตัวอย่างดีแล้วเชียว พลาดจนได้อีกเช่นเคย
“เร็วคักน้อมือน้อย ๆ หนิ ก็ได้สักรูปก็ได้ค่ะ”
“ฮ่วย ซางแล้ว!” พูดลอยหน้าลอยตายิ้มเยาะเย้ยให้อย่างผู้ชนะ “มาเค้าถ่ายรูปให้ เรามาถ่ายรูปคู่กันด้วยมา ไปนั่งตรงเรือนนู้นดีกว่า ท่านเจ้าคุณ! ฮา ท่านเจ้าคุณเมธี พุ้นเฮือนพ่อใหญ่ปะ” พอเมธีเปิดโอกาศให้เธอก็ไม่รีรอ รีบจัดการเลือกมุมสวย ๆ เพื่อเก็บภาพซะเลย
พวกเธอเดินหาถ่ายรูปกันจนครบทุกมุม ทั้งรูปเดี่ยวของกันและกัน และรูปคู่หลาบรูปมาก ๆ เมื่อพอใจแล้วก็พากันเลือกมุมที่เหมาะ ๆ นั่งพัก มองออกไปเห็นวิวทุ่งนาหมู่บ้านที่ยังไม่เจริญเท่าอำเภอเมือง ยังคงกลิ่นอายของความเป็นบ้านนอกเอาไว้
“หล่อมั้ย นี่เค้าแต่งรูปให้พี่เมธี อ่ะนภาส่งให้ในไลน์ ลงรูปในเฟซด้วย ไม่งั้นเค้างอน! เอาดิ! หึหึ” ขู่เขาไปในตัวซะเลย ชอบดื้อไม่ชอบอัพเดทรูปตัวเองเลยพี่เมธี
“เอาเก็บไว้ก็พอมั้งคะ พี่เซฟเก็บไว้ในคอมด้วย”
“ก็เค้าอยากให้ลงอ่ะ นี่ลงรูปคู่เราด้วย เดี๋ยวสาวน้อยสาวใหญ่ที่หมู่บ้านมาจีบเอา” พูดไปอย่างนั้นเอง เธอไว้ใจเมธีเสมอและมากด้วย
“ใครจะมาชอบพี่เล้า มีน้องอยู่ทั้งคน” มองหน้าภรรยาด้วยความเอ็นดู ต่อให้มีคนมาชอบเขาก็ไม่เอา จะเอาพรนภาคนนี้คนเดียวเท่านั้น ไว้ใจเขาได้เลยสาวน้อย นึกในใจพลางมองใบหน้ารูปไข่ขาวเนียนของเธอ
“จะไปรู้เหรอ เผื่อมีคนชอบน้อ นภาไม่ยอมเด้อใครบอกนภาใจดีนภาไม่ใจดีนะ ฮา” พูดจบก็หัวเราะกับคำพูดของตัวเอง ที่พูดแบบนั้นออกมาได้อย่างไร
“เหรอ! น้องโหดเหรอ” เขาเองก็ขำตาม คุยกันที่เรือนไทยกะหนุงกะหนิง ไม่สนสายตาผู้ใดที่มองมาเลย พร้อมดูดกาแฟเย็นชื่นใจเข้าไปอีก ได้บรรยากาศมาก ๆ
“ช่าย! อย่าคิดจะนอกลู่นอกทางเชียวนะพี่เมธี”
“ค๊าบ! กลัวแล้วครับ คุณแม่ดุจัง เมื่อไหร่ลูกสาวป่ะป๊าจะมาสักทีเนี่ยรอนานแล้วนะ” ไม่พูดเฉยยื่นมือมาจับหน้าท้องของเธออีก ทำอย่างกะมีลูกแล้ว น่าหมั่นไส้นัก ทำอะไรเว่อวังอลังการเสียจริง
“ถ้ามีจริง ๆ ให้เห่อแบบนี้ด้วยนะ ทำคือมาก!!” พวกเธอนั่งคุยกันไปสักพักใหญ่ ๆ มีหมอนใบนุ่มให้เอนหลังด้วย ยังไม่อยากกลับกันเลย บรรยากาศดีมาก ๆ ฟ้าหม่น ๆ ไม่แดดและฝนไม่ตก
ฝันหวาน (Sweet Dream) 32
.
“ไปกับพี่ด้วยมั้ยคะ” ถามภรรยาที่นั่งมองตัวเองบนเตียงนอน ทราบอยู่แล้วว่าเธอต้องไปด้วย แค่อยากถามก็เท่านั้น เช้าอันสดใสที่บ้านนอก ที่บ้านของเขานั่นเอง วันนี้มีธุระส่วนตัวจะต้องทำให้แล้วเสร็จ ยืนส่องตัวเองหน้ากระจกตู้เสื้อผ้า สำรวจความเรียบร้อยก่อนจะออกจากบ้าน ที่ไม่ต้องละเมียดละไมอะไรมากมาย ไม่เหมือนผู้หญิง ไม่เหมือนภรรยาสาวน้อยที่กำลังมองเขาอยู่ จึงส่งยิ้มให้ผ่านกระจกไป
“นภาแต่งตัวขนาดนี้ไม่ไปมั้งคะ” พูดประชดไปที ถ้าไม่ไปด้วยคงไม่แต่งตัวสวยขนาดนี้หรอก ถามออกมาได้ นึกหมั่นไส้ที่ชอบถามอะไรไม่คิดนัก จ้องมองใบหน้าคมเข้มของเขาผ่านกระจกเช่นกัน เวลาไม่เคยทำให้เขาดูแก่ แม้อายุจะขนาดนี้แล้วก็ตาม ด้วยความที่ดูแลตัวเองอยู่เป็นประจำสม่ำเสมอของเขา
“เอ๋าเค้าก็ถามเฉย ๆ เฮ้ย! วันนี้พบคนตื่นเช้าหนึ่งอัตราแฮะ อิอิ” พูดพร้อมยิ้มให้กับเธอ ปกติไม่เคยตื่นหรอกตีห้าหกโมงเช้า พอทักท้วงเสร็จเท่านั้นแหละ พรนภาก็หาวโชว์ให้ดูเลย ทำเอานึกขันอยู่ในที น้องนภานะน้องนภา ทั้งสงสารก็มิปาน เธอไม่ค่อยได้ตื่นเช้าแบบนี้จริง ๆ
“ก็มาบ้านพี่เมธีน้อ ให้นภาตื่นสายแม่พี่เมธีบ่นนภาตายเลย ไปบ้านเค้าก่อนเถอะจะตื่นสาย ๆ ให้ดู” พูดจบเธอก็หาวไปอีก “พี่เมธีเค้าขอกาแฟด้วยนะ คิดว่าสาย ๆ ไม่น่ารอด ต้องพึ่งกาแฟแล้วล่ะ”
“ไม่ได้หรอกค่ะ ไปบ้านน้องพี่ก็จะปลุกให้ตื่นเช้า ๆ แบบนี้แหละ รับอากาศตอนเช้าดีจะตาย นาน ๆ กลับมาบ้านนาทั้งที ตื่นสายทำไมเล้า” หันมาส่งยิ้มให้พรนภาที่นั่งคอยเขาบนเตียงนอน นึกเอ็นดูลูกตาที่เหมือนจะเหม่อลอยเพราะความง่วงของเธอ “ว่าแต่จะชงกินหรือว่าจะแวะปั๊มซื้อคะ”
“ชงให้นภาก่อน! นภาไม่ไหว เดี๋ยวพอพี่เมธีทำธุระเสร็จพานภาไปกินกาแฟนะคะ นะ!” ยิ้มกริ่มแบบมีเลศนัย ตอนนี้ร้านคาเฟ่ร้านหนึ่งผุดขึ้นมาในหัวแล้ว ไม่รบเร้าให้พาไปแต่ต้องได้ไปร้านนี้เท่านั้น
“ค่ะ ไปร้านที่เอาให้พี่ดูนะเหรอ”
“ช่าย!” ทำหน้าตาออดอ้อนออเซาะสามีคราวพ่อสักหน่อย เผื่อได้มากกว่าไปร้านกาแฟ ตอนนี้อยู่ในห้องกันสองต่อสอง แสดงท่าทีออดอ้อนเมธีได้เต็มที่ “แต่ตอนนี้พี่เมธีไปชงกาแฟให้เค้าก่อนนะ เค้าไม่กล้าไปชงเอง เค้าอายบวกเกร็ง” ยอมรับกับเขาแบบตรง ๆ ไปเลย
“ค่ะ เดี๋ยวพี่จัดการให้ ปะเราออกไปกันได้แล้ว” เมธีดันให้เธอเดินนำหน้าไปก่อน ส่วนตัวเองเดินตามหลังมาติด ๆ พากันเดินเข้าไปในครัวเพื่อชงกาแฟดื่มสักหน่อย แก้ง่วง ชงให้ตัวเองด้วย พรนภานั่งคอยที่โต๊ะทานข้าวในครัว
แม่ของเขาไปวัดตั้งแต่เช้า วันนี้เป็นโอกาสดีเนื่องจากลูกชายมาบ้าน มีคนดูหลาน ๆ ให้ในตอนเช้า แม่จึงถือโอกาสทำกับข้าวไปทำบุญที่วัด น้องสาวกับน้องเขยออกไปทำงานแต่เช้า เด็ก ๆ ยังไม่ตื่น
“กาแฟค่า นี่ของน้อง” เมธีเดินถือแก้วกาแฟมาเสิร์ฟให้ กลิ่นหอมโชยเตะจมูกมาก ๆ เธอรับเอาพร้อมจิบเบา ๆ รสชาติขมของเม็ดกาแฟและไอร้อนของน้ำทำให้สดชื่นมาก แบบนี้สิถึงจะอยู่ได้ทั้งวัน
“พี่เมธีเราไปกันแค่สองคนเหรอ ลิพูลไม่ไปกับเราด้วยเหรอคะ ไปเที่ยวร้านกาแฟไง” เธอถามสามีด้วยความสงสัย ทำไมป่านนี้ลูกชายยังไม่ตื่นอีก หรือว่าไม่ไป นี่ก็จวนจะได้เวลาต้องออกไปแล้ว
“อือนั่นสิคะ เดี๋ยวพี่ไปปลุกดีกว่า” เขาลุกขึ้นถือถ้วยกาแฟเดินไปยังห้องนอนของมารดา เมื่อคืนเขาให้ลูกชายนอนกับผู้เป็นย่า เพราะห่วงพรนภามากเกินกว่าจะให้นอนในห้องเดิมของตัวเองคนเดียว ถึงห้องจะติดกันก็เถอะ ถึงพรนภาจะยืนยันว่านอนคนเดียวได้เขาก็ไม่ยอม
“พี่พูล! ลิพูลตื่นลูกไปกับพ่อมั้ยหนิ” เสียงเคาะประตูห้องและเสียงเรียกลูกชายดังมาถึงห้องครัว เธอนั่งฟังพ่อลูกคุยกันไป จิบกาแฟไปด้วยอย่างสบายใจ ถ้าจะต้องรอลูกชายสามีแต่งตัวก็ไม่เป็นไร สบายใจอยู่แล้วสำหรับเธอ ทว่าคนที่สายคือเมธีต่างหาก
สรุปลูกชายไม่ขอตามไปด้วย ขอรออยู่ที่บ้านดีกว่า “ไปร้านกาแฟนะไม่ไปเหรอ ถ้าไม่ไปอยู่บ้านรอย่าก่อนเพราะน้องยังไม่ตื่น ถ้าจะกลับบ้านให้ย่ากลับมาจากวัดก่อนนะ”
“ครับ” พูดเสียงงัวเงีย เหมือนพร้อมจะล้มตัวลงนอนทุกเมื่อถ้าพ่อหันหลังให้ ไม่เซ้าซี้ลูกชายจึงปล่อยให้นอนต่อแล้วเดินกลับมาหาเธอในครัว
“สรุปไม่ตามไปด้วย” พรนภาเลิกคิ้วเป็นเชิงคำถาม ทั้งที่ก็ได้ยินเสียงพ่อลูกคุยกันอยู่แล้ว
“ค่ะ ไม่ไป” เมธีตอบพร้อมจิบกาแฟ หลังจากนั้นยกจนกาแฟหมดแก้วก็ชวนเธอออกไปข้างนอกได้แล้ว
วันนี้เธอตื่นเต้นมากในที่สุดก็ได้มาสักที เห็นเพื่อนเซลฟี่อวดแล้วอยากมามาก ๆ วันนี้อากาศก็ดีด้วย เหมือนฝนจะตกไม่มีแดดสักนิด ทว่าฝนก็ไม่ตกถือว่าอากาศฟ้าฝนเป็นใจ เมื่อเมธีทำธุระส่วนตัวเสร็จแล้ว เขาก็พาเธอเลยมายังร้านคาเฟ่ที่ว่านั่นเลย
“น้องร้านมันอยู่แถวไหนเปิดจีพีเอสดิ” ระหว่างทางเมื่อรถแล่นเข้าเขตอำเภอที่ว่าแล้ว
“แป๊บนะคะ” พรนภารีบทำตามคำสั่งทันที หยิบโทรศัพท์มาเปิดจีพีเอสหา สิริบอกให้ไปต่ออีกไม่กี่กิโลเมตร เลี้ยวซอยนั้นซอยนี้ก็ถึงแล้ว เมธีขับรถตามอย่างใจเย็น ไม่รีบ ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายโมงนิด ๆ ขับรถออกมาจากตัวเมืองเป็นระยะไกลพอประมาณ
มาถึงร้านคาเฟ่ที่ว่าก็สวยสมคำล่ำลือ เหมือนดั่งที่เพื่อนของเธอรีวิวให้ดูเลยไม่มีผิดเพี้ยน ไม่ผิดหวังที่ตามหาจนเจอ เสียอย่างเดียวสถานที่จอดรถแคบไปนิด ต้องขับไปจอดไกลจากร้านห่างออกไปอีก
“ตื่นเต้นเหรอคะ ฮึ!” เมื่อรถจอดสนิทที่ลานจอดรถด้านนอก เมธียกมือมาวางบนศีรษะของเธอ ปรายตามอง เห็นสีหน้าและแววตาของเธอมีความสุข เขาก็มีความสุขด้วย เรื่องเล็ก ๆ น้อยที่ทำให้ได้เขาพร้อมทำเสมอ “เป็นไง สมกับที่อยากมามั้ย”
“สมอยู่นะ สวยอยู่! ใช้ได้! ปะเราลงไปกันเถอะ” พรภาพูดพร้อมแกะสายเข็มขัดนิรภัยออกจากตัว หยิบกระเป๋าสะพายของตนเปิดประตูรถออกมา พร้อมเดินเข้าไปเซลฟี่มาก
“กล้องพร้อม ช่างภาพพร้อมมากค่ะ “ พูดพลางหัวเราะให้กันและกัน พี่เมธีน่ารักที่สุดเลย ไม่เคยบ่นสักครั้งกับเรื่องน่ารำคาญของเธอ
“ปะ” จับมือเขาเดินเข้าไปในร้าน ตอนนี้มีผู้คนมาใช้บริการมากมาย เป็นวัยรุ่นเสียส่วนใหญ่ ทว่าก็ไม่หนาแน่นอึดอัด เนื่องจากไม่ใช่เสาร์อาทิตย์ จึงพอมีความเป็นส่วนตัวอยู่บ้าง
ทั้งสองคนเดินเข้ามาภายในร้าน ตั้งแต่ปากทางเข้าร้านก็มีมุมให้ถ่ายรูปเยอะแยะมากมายแล้ว ระหว่างทางเดินเข้ามาพรนภาก็ได้ไปหลายรูปเหมือนกัน ทางร้านแจกคูปองส่วนลดให้ด้วย เพราะพึ่งเปิดใหม่จึงต้องการจัดโปรโมชั่นให้แก่คนที่มาใช้บริการ
“คุณสามีรับเอสเย็นเหมือนเดิมใช่มั้ยคะ” พรนภาหันไปถามเมธีเบา ๆ พวกเธอกำลังยืนต่อคิวสั่งออร์เดอร์กันอยู่ มีขนมเค้ก ไอศกรีม และชากาแฟมากมายให้เลือกสรร ซื้อน้ำแก้วเดียวเดินถ่ายรูปทั้งวันก็ได้
“เหมือนเดิมค่ะ” เขาตอบ ขยับเข้ามายืนใกล้ ๆ เธอ ลูกค้าที่มาปรายตาแอบมองนิดหน่อย ไม่แปลกเพราะพวกเธอโดนมองแบบนี้มานักต่อนักแล้ว พรนภากับเมธีได้แต่ยิ้มให้ในความสงสัยของพวกเขาเหล่านั้น ไม่จำเป็นต้องแคร์สายตาใครเลย เมื่อถึงคิวพรนภาก็เดินไปสั่งและรอรับ พอได้แล้วก็พากันเข้าไปด้านในร้าน อลังการงานสร้างมาก
ภายในร้านจัดมุมให้ถ่ายรูปได้จุใจกันเลยทีเดียว ทำเป็นสะพานไม้ให้เดิน มีบ้านทรงไทยให้เข้าไปนั่งเซลฟี่ มีส่วนดอกไม้ มีรังนกขนาดใหญ่ให้นั่งถ่ายรูป มีตาข่ายให้นอนเล่น มีชิงช้าและอีกเยอะแยะมากมาย ทุกคนสามารถเดินไปถ่ายรูปได้อย่างเต็มที่กันไปเลย พรนภาเองก็ตื่นตาตื่นใจไปกับสถานที่แห่งนี้ ไม่ผิดหวังเลยที่ได้มา ไม่ผิดหวังเลยจริง ๆ
“น้อง! มายืนมุมนี้เร็ว พี่ถ่ายรูปให้”
“โอเคค่ะ!”
“นี่ ๆ ให้เห็นป้าย ๆ เฮือนพ่อใหญ่หนิ” เมธีชี้ให้ดูต้องการที่จะถ่ายรูปคู่กับป้ายนี้
เมธีจัดแจงมุมถ่ายรูปให้กับเธอ เขากดชัตเตอร์ให้ไม่มีเบื่อ พรนภาเองก็เก๊กท่าถ่ายรูปได้ไม่มีเหนื่อยเช่นกัน ไปตรงนู้นทีตรงนี้ที และวันนี้จะต้องแอบถ่ายรูปพี่เมธีให้ได้คอยดู
“ไหนเค้าขอดูหน่อยซิ ได้มั้ย” พอถ่ายรูปเสร็จก็ขอดูผลงานฝีมือสักหน่อย “โอเคทำดีมาก!” พร้อมหันมาฉีกยิ้มคนคนข้าง ๆ
“ระดับไหนแล้วคุณ นี่ผมไปฝึกถ่ายรูปมาเพื่องานนี้เลยนะ มาเพื่อเมียของผมเลย ฮา ” ชมหน่อยไม่ได้นะพี่เมธี น่าหมั่นไส้นัก ไม่คิดจะถ่อมตัวเลย พรนภามองค้อนให้เบา ๆ ด้วยความหมั่นไส้สามี
“หืย! ไม่ค่อยจะเลยนะคะ! พี่เมธีมาเค้าถ่ายรูปให้ตัวเองบ้าง” เธอเตรียมกล้องมือถือไว้พร้อมแล้ว อยากถ่ายรูปเขาเก็บไว้บ้าง อุตส่าห์มาที่สวย ๆ ขนาดนี้แล้ว
“ไม่เป็นไรค่ะ น้องถ่ายคนเดียวไปเลย”
“สักหน่อยนะพี่เมธี!” เงยหน้าทำหน้ามองเขาทำสายตาละห้อยออดอ้อน “สวยออก สักรูปนะคะ นภาถ่ายรูปให้นะ” พูดจบยกโทรศัพท์ขึ้นกดชัตเตอร์อย่างเร็ว กดรัว ๆ กันไปเลย
เมธีหัวเราะกับความเจ้าเล่ห์ของภรรยาตัวเอง พรนภาทำแบบนี้บ่อยจนเขาจับทางได้แล้ว ทว่าก็ยังเผลอจนได้ ไม่ทันได้ตั้งตัวจนได้ ทั้งที่ก่อนมาระวังตัวอย่างดีแล้วเชียว พลาดจนได้อีกเช่นเคย
“เร็วคักน้อมือน้อย ๆ หนิ ก็ได้สักรูปก็ได้ค่ะ”
“ฮ่วย ซางแล้ว!” พูดลอยหน้าลอยตายิ้มเยาะเย้ยให้อย่างผู้ชนะ “มาเค้าถ่ายรูปให้ เรามาถ่ายรูปคู่กันด้วยมา ไปนั่งตรงเรือนนู้นดีกว่า ท่านเจ้าคุณ! ฮา ท่านเจ้าคุณเมธี พุ้นเฮือนพ่อใหญ่ปะ” พอเมธีเปิดโอกาศให้เธอก็ไม่รีรอ รีบจัดการเลือกมุมสวย ๆ เพื่อเก็บภาพซะเลย
พวกเธอเดินหาถ่ายรูปกันจนครบทุกมุม ทั้งรูปเดี่ยวของกันและกัน และรูปคู่หลาบรูปมาก ๆ เมื่อพอใจแล้วก็พากันเลือกมุมที่เหมาะ ๆ นั่งพัก มองออกไปเห็นวิวทุ่งนาหมู่บ้านที่ยังไม่เจริญเท่าอำเภอเมือง ยังคงกลิ่นอายของความเป็นบ้านนอกเอาไว้
“หล่อมั้ย นี่เค้าแต่งรูปให้พี่เมธี อ่ะนภาส่งให้ในไลน์ ลงรูปในเฟซด้วย ไม่งั้นเค้างอน! เอาดิ! หึหึ” ขู่เขาไปในตัวซะเลย ชอบดื้อไม่ชอบอัพเดทรูปตัวเองเลยพี่เมธี
“เอาเก็บไว้ก็พอมั้งคะ พี่เซฟเก็บไว้ในคอมด้วย”
“ก็เค้าอยากให้ลงอ่ะ นี่ลงรูปคู่เราด้วย เดี๋ยวสาวน้อยสาวใหญ่ที่หมู่บ้านมาจีบเอา” พูดไปอย่างนั้นเอง เธอไว้ใจเมธีเสมอและมากด้วย
“ใครจะมาชอบพี่เล้า มีน้องอยู่ทั้งคน” มองหน้าภรรยาด้วยความเอ็นดู ต่อให้มีคนมาชอบเขาก็ไม่เอา จะเอาพรนภาคนนี้คนเดียวเท่านั้น ไว้ใจเขาได้เลยสาวน้อย นึกในใจพลางมองใบหน้ารูปไข่ขาวเนียนของเธอ
“จะไปรู้เหรอ เผื่อมีคนชอบน้อ นภาไม่ยอมเด้อใครบอกนภาใจดีนภาไม่ใจดีนะ ฮา” พูดจบก็หัวเราะกับคำพูดของตัวเอง ที่พูดแบบนั้นออกมาได้อย่างไร
“เหรอ! น้องโหดเหรอ” เขาเองก็ขำตาม คุยกันที่เรือนไทยกะหนุงกะหนิง ไม่สนสายตาผู้ใดที่มองมาเลย พร้อมดูดกาแฟเย็นชื่นใจเข้าไปอีก ได้บรรยากาศมาก ๆ
“ช่าย! อย่าคิดจะนอกลู่นอกทางเชียวนะพี่เมธี”
“ค๊าบ! กลัวแล้วครับ คุณแม่ดุจัง เมื่อไหร่ลูกสาวป่ะป๊าจะมาสักทีเนี่ยรอนานแล้วนะ” ไม่พูดเฉยยื่นมือมาจับหน้าท้องของเธออีก ทำอย่างกะมีลูกแล้ว น่าหมั่นไส้นัก ทำอะไรเว่อวังอลังการเสียจริง
“ถ้ามีจริง ๆ ให้เห่อแบบนี้ด้วยนะ ทำคือมาก!!” พวกเธอนั่งคุยกันไปสักพักใหญ่ ๆ มีหมอนใบนุ่มให้เอนหลังด้วย ยังไม่อยากกลับกันเลย บรรยากาศดีมาก ๆ ฟ้าหม่น ๆ ไม่แดดและฝนไม่ตก