ฝันหวาน (Sweet Dream) 43

กระทู้สนทนา

.


                    “สวยแล้วค่า คุณแม่ของป่ะป๊า” เมธีเดินเข้ามาสวมกอดพรนภาจากด้านหลัง กอดหลวม ๆ พร้อมหอมแก้มไปฟอดใหญ่หน้ากระจกโต๊ะเครื่องแป้ง แก้มนิ่ม ๆ กลิ่นแป้งและกลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆ ให้ความละมุนจมูกเหลือเกิน

                    พรนภาตีแขนสามีรุ่นพ่อเบา ๆ ก่อนจะเอี้ยวตัวหันมามอง “นภาขอแต่งตัวให้เสร็จก่อนได้มั้ย สายแล้ว นี่จะไปทำบุญนะไม่ได้ไปส่งเพลพระ “ พูดจบหัวเราะด้วยความตลก เมื่อเช้าพวกเธอนอนตื่นสายทั้งคู่ เพราะมันเป็นวันหยุดถึงได้ลืมตัวว่าวันนี้มีทริปเที่ยว

                     ในวันนี้พวกเธอจะไปทำบุญในวันวิสาขบูชา และต่อด้วยไปชิมกาแฟร้านไหนดัง ร้านไหนสวย ร้านไหนเด็ดขอให้เปิดพรนภาจะไปลอง “ชอบแกล้งอ่ะพี่เมธี นภาก็เลยแต่งตัวไม่เสร็จสักที”

                    “กอดหน่อยไม่ได้เหรอคะ” พูดจบประทับรอยจูบไปที่ใบหน้าของเธออีกครั้งเบา ๆ ส่วนมือทั้งสองข้างยังโอบเอวเธอไว้อย่างนั้นไม่ยอมปล่อย

                    “มันใช่เวลามั้ยเนี่ยพี่เมธี แป้งออกจากหน้านภาหมดแล้ว ไปนั่งรอเลยค่ะ ! ไปนั่งรอเงียบ ๆ เลย” พรนภากรอกตามองค้อนพร้อมชี้มือออกคำสั่งให้เมธีไปนั่งรอที่โซฟา “จะเสร็จแล้วค่ะ อีกแป๊บนึง”

                     เขาทำตามอย่างว่าง่ายแค่อยากแกล้งเท่านั้น ได้แกล้งพรนภาแล้วมีความสุขเด็กน้อยของเขา พรนภาสวมชุดกระโปรงลายดอกไม้สั้นเลยเข่าขึ้นมานิดหน่อย นั่งมองภรรยาสาวแต่งตัวอย่างเพลิดเพลิน ไม่สวยเลิศเลอแต่สวยที่สุดในใจเขา พรนภาหมุนซ้ายหมุนขวาหน้าตู้กระจกก่อนจะหันมาบอกว่าเสร็จแล้วไปกันได้

                     สาย ๆ ของวันหยุดทางพระพุทธศาสนา พวกเขาสองคนตกลงกันว่าจะไปทำบุญถวายสังฆทานที่วัดใกล้ ๆ บ้านนี่แหละ และไปต่อที่ร้านกาแฟ สำหรับร้านกาแฟให้ภรรยาสุดที่รักเลือกได้เลยว่าจะไปที่ไหน ไปไหนไปกันเสมอแค่เธอมีความสุขก็พอ

                     เมธีขับรถครู่เดียวก็มาถึงวัด มีผู้คนมาเที่ยวทำบุญกันประปรายเนื่องจากด้วยเรื่องโรคระบาดและคนน่าจะกลับกันไปหมดแล้ว น่าจะมาตั้งแต่เช้า เพราะพวกเธอมาสายมาก ถึงอย่างไรในวัดก็แลดูวุ่นวาย ทุกคนต่างสวมผ้าปิดจมูกกันทั้งนั้น

                     “น้องมาทางนี้ก่อนค่ะ ไหว้พระตรงนี้ก่อน” เมธีดึงแขนเธอให้เดินตาม วัดนี้มาบ่อยมากเพราะอยู่ใกล้ที่พักและมีชื่อพอสมควร เมธีควักธนบัตรหนึ่งร้อยออกมา

                     “พี่เมธีนภามีแบงค์ยี่สิบค่ะ เก็บแบงค์ร้อยก่อน แค่บูชาดอกไม้ธูปเทียนเอง ยี่สิบพอ” พรนภาพูด มันก็ตามศรัทธานั่นแหละทว่าเธอต้องการบูชาแค่สี่สิบบาทคนละยี่สิบบาทเท่านั้น เดี๋ยวค่อยไปบูชาสังฆทานอีก

                     เมื่อห้ามสามีไว้ทันตนเองก็นำธนบัตรใบยี่สิบสองใบหย่อนลงไปในตู้สี่เหลี่ยมเล็ก ๆ หยิบช่อดอกไม้มาสองช่อพร้อมชุดธูปเทียนให้เมธีด้วยคนละอัน หลังจากนั้นพวกเธอสองคนก็เดินไปจุดธูปเทียนอธิษฐานขอพร ทางวัดทำเป็นรางยาวไว้ปักธูปและทำที่ไว้เสียบดอกไม้ ข้าง ๆ กันมีคู่สามีภรรยาสองคู่ยืนอธิษฐานด้วย

                     เสร็จจากตรงนี้เมธีก็เดินจูงมือเธอเข้าไปในศาลาวัด เพื่อไปถวายสังฆทานต่อ ในวัดจะจัดสังฆทานให้บูชาหรือใครจะซื้อมาเองก็ได้ ทว่าพวกเธอไม่ได้นำมาเอง บูชาจากทางวัดได้เลยชุดละ 99 บาท เมธีบูชามา 2 ชุดให้เธอด้วย จากนั้นก็เข้าไปนั่งรอทำพิธี หลวงตาจะรอถวายพร้อมกันทีละหลาย ๆ คน เมื่อมีคนเยอะพอประมาณก็เริ่มทำพิธีเลย เสร็จพิธีก็ไปกรวดน้ำตามต้นไม้

                     “ดูรางวัลที่หนึ่งมั้ยคะ” เมธีโค้งศีรษะมาคุยกับเธอหลังจากถวายสังฆทานเสร็จ พวกเธอยืนดูกิจกรรมที่ทางวัดจัดขึ้น เสียดายที่ปีนี้ไม่มีเวียนเทียนในตอนกลางคืนเพราะโรควิด 19 นี่แหละ

                     “ตามใจป่ะป๊าเลยค่ะ” เธอยิ้มให้สามี วันนี้ทำอะไรก็ได้ อยากทำอะไรก็ทำเพราะวันพระใหญ่ มาทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้บรรพบุรุษ ไม่อยากอารมณ์เสีย ทำจิตใจให้สะอาดเบิกบานแจ่มใสที่สุด

                    “2 ชุด” เขาชูนิ้วให้เธอ พรนภาพยักหน้าเป็นการอนุมัติ ยิ้มให้คนตรงหน้าด้วยความรักมากเลย เอ็นดูในความแกล้งขอ ทีอย่างอื่นให้ขอดันแอบทำดีนัก พอจับได้ก็มาแก้ตัวน้ำขุ่น ๆ

                  “พี่เมธีไปร้านกาแฟของนภากันเถอะ พี่ออร์ดี้บอกว่าอยู่แถว ๆ บางแสนค่ะ” พรนภาเดินมาหาเขา เกาะแขนเอาไว้มีผู้คนที่มาทำบุญในวัดหันมามองบ้าง พรนภาก็ไม่แคร์สายตาใครสักคน

                 “อ่ะ คนละ 30 ล้านเอาไปเก็บไว้ค่ะจะได้ไม่ต้องขอแบ่งพี่”

                     พรนภาอ้าปากค้าง ไหนบอกจะซื้อแค่สองชุดไง ไหนซื้อมาเยอะขนาดนี้ คำว่าสองชุดไม่มีอยู่จริง มองค้อนให้เมธีแต่ก็ไม่ได้ต่อว่าอะไร ตนเองเป็นคนอนุญาตเองนี่ เสียรู้นิดหน่อยไม่เป็นไรหรอก วันนี้วันดีเธอจะไม่โกรธใคร รับล็อตเตอรี่จากเมธีมาเก็บไว้ในกระเป๋าตัวเอง “สองใบไม่มีอยู่จริงสำหรับผู้ชายคนนี้ หืย !”

                     “ผู้ชายคนที่รักเธอ ! ” พูดลอยหน้าลอยตาเม้มปากยิ้มให้คนตรงหน้า พร้อมยกมือขึ้นแตะหัวไหล่ชวนคอเธอเดินไปที่รถ ได้ยินเสียงหัวเราะอึกอักของพรนภาเบา ๆ ด้วยระหว่างที่เดินตามแรงฉุดของตนเอง

                     ทั้งสองคนสดชื่นกันมาก ๆ ได้มาทำบุญในวันนี้ นานหลายเดือนเลยที่พวกเธอไม่ได้เข้าวัดกัน สบายกายสบายใจที่สุดรู้สึกเบามาก “เปิด GPS เลยค่ะ” เมธีเอ่ยก่อนจะสตาร์ทรถขับออกไป

                     “ไปทางบางแสนเลยค่ะพี่เมธี พี่ออร์ดี้บอกว่าไปเส้นนั้นเลย เดี๋ยวถึงหนองมนค่อยเปิดก็ได้มั้ง”

                     “เอางั้นเหรอ แล้วร้านชื่ออะไรคะ ร้านเปิดชัวร์นา ไม่ใช่เหมือนคราวที่แล้ว ไม่อยากเห็นคนร้องไห้ผิดหวังอีก ฮา “ พูดจบหันมามองเธอแว๊บเดียวก่อนจะหันไปดูทางต่อ ยกมือข้างซ้ายมาแตะศีรษะลูบผมของเธอเบา ๆ

                     เธอเงยหน้ามองเขานิดหน่อยพร้อมยิ้มให้ ชอบเหลือเกินที่เขาทำแบบนี้ ชอบที่ถูกเขาใส่ใจ เอาใจ ตามใจเหลือเกิน “อยู่ตามใจหนูแบบนี้ตลอดไปนะคะพี่เมธี” ปรายตามองพร้อมนึกในใจ มีความสุขที่สุดที่ได้ใช้ชีวิตคู่กับผู้ชายคนนี้ก่อนจะพูดตอบ “ช่าย แน่นอนเปิดแน่นอนค่ะ พี่ออร์ดี้ไปมาแล้ว” เอี้ยวตัวมาตอบเขานิดหน่อย ฉีกยิ้มกว้างด้วยความตื่นเต้น ไม่ว่าจะไปใกล้หรือไกลแค่ได้ไปกับเมธีพรนภาคนนี้ก็มีความสุข

                     ระหว่างทางนั่งรถพวกเธอคุยกันไปเรื่อยเปื่อย ฟังเพลงเบา ๆ สไตล์เมธีไปด้วย วันนี่ทั้งวันเธอจะยอมเมธีหมด อยากฟังเพลงสมัยไหนจัดมาเลย เธอฟังตามไปด้วยได้สบาย

                   “พี่เมธี...” เรียกพร้อมหลับตาพริบ ๆ ให้ดูตลก ๆ อมยิ้มให้ก่อนจะพูด และเมธีก็ตบมุกได้จังหวะตลอด

                     “ขา... ว่าไงคะ” หันมาตอบเธอก่อนจะผละไปดูถนนเหมือนเดิม เมื่อเมธีตอบมาแบบนี้ก็กลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่ หัวเราะอย่างพอใจมาก สมแล้วที่เป็นสามีภรรยากัน มันต้องทันมุกกันแบบนี้สิ

                   “โอกาสหน้าพาไปร้านกาแฟในเมืองได้มั้ยอ่ะ ในกรุงเทพไรงี้ ส่วนเรื่องหาร้านไม่ต้องห่วงเค้าหาได้ “

                     เขายิ้มกลั้วหัวเราะเบา ๆ “โถ่ นึกว่าจะขออะไร ไปก็ไปค่ะ ! พี่เชื่อว่าน้องหาได้แน่นอน ฮา “ พูดปนหัวเราะ “แต่ดูโควิดก่อนนะคะ “

                     “ทุกทีเลย ทุกทีอ่ะ ! อยากออกข้างนอกเป็นแบบนี้ทุกที” เธอเข้าใจแต่แบบมันก็ขัดใจอยู่ในอารมณ์เดียวกัน ใช่ว่าจะงอแงไปที่ไหนเมื่อไม่ได้ก็คือไม่ได้แต่มันก็ขัดใจเหลือเกิน หน้างอง้ำขึ้นมาทันที ทว่าทำแบบตลก ๆ ให้เมธีหัวเราะ ไม่อยากให้เขาไม่สบายใจที่เธองอน แต่ก็งอนอยู่ในใจลึก ๆ งอนไปทั่วงอนอะไรก็ไม่รู้

                     “เอ๋า น้องนภาก็ ! ถ้าไปแล้วกลับมาโดนกักตัวก็ไม่คุ้มกันนะคะ “

                     “เค้าก็ยังไม่ได้ว่าอะไรเลย”

                     “ก็น้องงอนพี่ ! นี่ไงคนกำลังงอนอยู่ไม่รู้ตัว”

                     “ไม่ได้งอน งอนตรงไหนนี่ยิ้มอยู่เห็นมั้ย” พูดจบเธอก็หันมาฉีกยิ้มให้กับเขาแบบตลก ทั้งสองหัวเราะให้แก่กันและกัน “กล่าวหากันลอย ๆ ไม่ได้นะ ยิ้มอยู่งอนตรงไหน”

                     “เหรอ... ไม่งอนก็ไม่งอน” ยกมือขึ้นมาลูบผมเธอเบา ๆ ก่อนจะปล่อยมือบังคับพวงมาลัยรถต่อ และขับมุ่งหน้าไปร้านกาแฟที่ว่า

                     พวกเธอขับรถมาตาม GPS เรื่อย ๆ มาแถว ๆ บางแสนตามหาร้านกาแฟที่พรนภาอยากมา ไม่นานก็พบร้านที่ตามหาเมื่อเสียง GPS บอกทางสิ้นสุดลง เมธีขับรถเข้ามาจอดตรงลานจอดรถของทางร้านจัดไว้ให้ ไม่ต้องกลัวไม่มีที่จอด ลาดจอดรถกว้างมาก จอดได้หลายสิบคันกันเลย

                     ร้านกาแฟที่พวกเธอมามีชื่อว่า Chapter koff ตัวร้านทาด้วยสีเทาเข้มเกือบดำทั้งหลัง เป็นร้านโทนเทานั่นแหละ ถูกอกถูกใจพรนภาเป็นอย่างมาก ไม่เสียแรงที่ดั้นด้นมา เขาแอบมองภรรยาสาวก็อดยิ้มไม่ได้ เมื่อพรนภามีความสุขเขาเองก็มีความสุข อะไรที่เป็นความสุขของพรนภาเขาพร้อมทำเสมอ

                     “โอเคมั้ยร้านนี้” เมธีเดินมาหยุดยืนข้าง ๆ หลังลงจากรถ ชวนคอพรนภาอย่างรักใคร่ เป็นสิ่งที่เขาทำเป็นประจำแบบไม่สนสายตาใครทั้งนั้น “สวยนะพี่ว่าแต่มุมถ่ายรูปน้อยไป”

                     “นั่นรู้ด้วย ! ฮา” เธอหันมาหัวเราะให้เขา “ดีมาก ! เริ่มรู้และดูออกแล้วคุณพ่อสุดที่รักของเค้า สีร้านสวยนะพี่เมธีว่ามั้ย นภาชอบบ้านสีเทาแบบนี้แหละ “

                     “เหรอคะ พี่ว่าเข้มไป จะออกเป็นดำด้วยซ้ำ ใครเค้าทาบ้านสีดำกัน”

                     “อือ ปะเราเข้าไปข้างในกันเถอะ ป่ะป๊าเอาเอสเย็นเหมือนเดิมใช่มั้ย เค้าสั่งให้” พวกเธอยืนคุยกันพิจารณาร้านสักหน่อยก่อนเดินเข้าไป ส่วนข้างในร้านเป็นห้องโถงกว้าง มีโต๊ะอยู่ไม่กี่โต๊ะจัดระยะนั่งให้ห่างกันพอสมควรตามกฎระเบียบของโรคระบาด

                     เธอกับเมธีเดินเข้ามาภายในร้านภายใต้สายตาที่มองมาหลายคู่ เดินเข้ามาเจอเค้าน์เตอร์อยู่ด้านซ้ายมือ พนักงานแต่งชุดแบบฟอร์มสีดำโทนดำ พวกเธอเดินไปสั่งเมนูกับพนักงาน พนักงานยิ้มต้อนรับอย่างเป็นมิตร แม้จะมีสายตาที่มองมาเป็นเชิงสงสัยแปลกใจอยู่ไม่น้อย พรนภากับเมธีชินมันเสียแล้วกับสายตาประเภทนี้

                     “ลาเต้เย็นและก็เอสเย็นค่ะ ส่วนขนมก็อันนี้กับอันนี้” พรนภาพูดสั่งเมนูกับพนักงานสาวข้ามเพศ ร่างกายเป็นหญิงใจเป็นชายตัดผมรองทรง เลดี้ออร์คงชอบใจน่าดูที่มาวันก่อน พรนภานึกถึงหัวหน้างานของตัวเอง เม้มปากยิ้มนิดหน่อยเพราะภาพของพี่ออผุดขึ้นมาในหัว ชี้นิ้วไปที่เมนูที่เขากางแผ่หลาไว้บนเค้าน์เตอร์

                    “ของลูกค้าเป็น 4 รายการนะครับ ทั้งหมด 350 บาท เชิญเลือกโต๊ะนั่งได้ตามสบายเลยครับ “

                     “พนักงานมาเสิร์ฟหรือว่าเราเดินมารับเองคะ” เธอถามเพื่อความเข้าใจก่อน ส่วนมากจะเป็นลูกค้าเดินมารับเอง แต่ บางร้านก็เดินมาเสิร์ฟ

                     “อ่อ คุณลูกค้าต้องมารับเองครับ เรามีอุปกรณ์สัญญาณให้ ถ้าเมนูที่สั่งได้แล้วไอ้เจ้าตัวนี้มันจะดังขึ้นครับ” พนักงานหนุ่มข้ามเพศแนะนำ เธอกับเมธีพยักหน้าเข้าใจ รับเงินทอนพร้อมตัวส่งสัญญาณแล้วก็เดินหาโต๊ะนั่งรอ

                     “น้องระหว่างรอเราออกไปดูข้างหลังกันมั้ย ถ่ายรูปเลยมั้ย ซามไม่แดด ! ” เมธีเสนอ พรนภาอมยิ้มรู้ใจจริง ๆ เลย นับวันยิ่งรู้หน้าที่ของตัวเองมากขึ้นนะพี่เมธี ดีมาก ! เป็นสามีแห่งชาติที่ดีมาก อมยิ้มปรายตามองคนตรงหน้า และเหมือนเขาจะรู้ ยิ้มให้ตอบเธอกลับมาด้วย

                     “แหม... เค้าก็รู้หน้าที่เค้าหรอก ก็เป็นตากล้องที่หล่อเสมออ่ะ” พูดจบเธอเบะปากมองบนแบบตลก ๆ ให้กับเขา คนอะไรชอบชมตัวเองจริง ๆ พวกเธอสองคนพูดคุยกันกระหนุงกระหนิงไม่แคร์ลูกค้าคนอื่น ๆ ไม่เพียงคู่ของเธอที่ห่างกันแบบนี้ มีอีกคู่ที่เหมือนกัน ทว่าดูแล้วผู้ชายน่าจะอายุน้อยกว่า ส่วนผู้หญิงก็คงประมาณไร่เรี่ยกับเธอ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่