ไข่เยี่ยวม้า หรือบางคนก็มักจะเรียกว่าไข่พันปี เป็นกรรมวิธีถนอมอาหารชนิดหนึ่ง โดยใช้ไข่เป็ดสดๆมาบ่มกับส่วนผสมที่มีความเป็นด่างสูง อย่าง ขี้เถ้า ดินประสิว หรือปูนหมัก ใช้เวลาบ่มประมาณ 1-2 เดือน ไข่ที่ได้หลังจากบ่มเสร็จจะมีลักษณะไข่ขาวเป็นวุ้น ไข่แดงเป็นยางมะตูมมันเหนียวๆ และมีกลิ่นฉุนอันเป็นเอกลักษณ์ สามารถเก็บไว้ได้ที่อุณหภูมิห้องประมาณ 1ปี
แล้วใครล่ะเป็นผู้อุตริริเริ่มกรรมวิธีดังกล่าว ตามตำนานจีนโบราณตำนานหนึ่งเล่าว่า มีครอบครัวชาวนาผู้ยากจนอยู่ครอบครัวหนึ่ง ทำนาและเลี้ยงเป็ดเลี้ยงไก่ไว้เพื่อเก็บไข่บริโภคไปวันๆ พอตกดึกก็มักจะก่อไฟเพื่อสุมไฟไล่ความหนาว แต่หลังจากกองไฟมอดดับดีแล้ว เจ้าเป็ดที่เลี้ยงไว้ก็มักจะแอบไปออกไข่และซุกไข่ไว้ในขกองขี้เถ้ามอดๆเหล่านั้น
ไข่เป็ดที่ได้ก็มีลักษณะแปลกๆ เหมือนจะเสียก็ไม่เชิง จึงได้แต่เก็บเอาไว้เฉยๆ ต่อมาภายหลังเมื่อภัยแล้งมาเยือน ครอบครัวชาวนาไม่มีอาหารกิน เก็บเกี่ยวผลผลิตใดๆก็ไม่ได้ จึงได้ลองเอาไข่ที่เจ้าแม่เป็ดชอบซุกขี้เถ้ามาลองปอกกินดู ผลที่ได้คือไข่นั้นไม่เน่าเสีย มีเนื้อสัมผัสขึ้นรูปมันๆเด้งๆและมีกลิ่นฉุนอย่างเป็นเอกลักษณ์ ด้วยไข่แปลกๆเหล่านี้เอง จึงช่วยทำให้ครอบครัวชาวนามีชีวิตอยู่รอดพ้นภัยแล้งมาได้ และภายหลังจึงได้ลองนำไข่เหล่านี้ออกขายแก่คนในหมู่บ้านจนกลายเป็นที่ชื่นชอบและกลายเป็นตระกูลขายไข่เยี่ยวม้าที่มั่งคั่งในเวลาต่อมา
ข้อควรแนะนำในการบริโภคไข่เยี่ยวม้า เนื่องด้วยกรรมวิธีการบ่มไข่มักจะมีสารตะกั่วปนเปื้อนอยู่บ้าง ซึ่งอาจจะส่งผลต่อระบบทางเดินอาหารและระบบประสาท ดังนั้นการบริโภคไข่เยี่ยวม้าจึงไม่สมควรเกิน 1-2 ฟองต่ออาทิตย์ก็จะยิ่งดี เพื่อให้ร่างกายได้มีเวลาขับสารเคมีตกค้างๆและเพื่อสุขภาพที่ยั่งยืน
เด็ดใบกะเพราเป็นใบๆแล้วนำไปทอดเสียส่วนหนึ่ง แล้วเก็บน้ำมันทอดเอาไว้ก่อน
ไข่เยี่ยวม้า เอามาเปลือกปอกและผ่าเป็นซีกๆ จากนั้นนำไปคลุกแป้งมันหรือแป้งข้าวโพดบางๆแล้วทอดไฟแรงด้วยน้ำมันเมื่อกี้แค่ไม่ถึงหนึ่งนาที
หมูสับวันนี้เราจะใช้หมูสับหมักเนื้อมันๆเด้งๆ
หมูสับประมาณ 2 ขีด คลุกเคล้ากับ ผงฟู 1/2 ช้อนชา แป้งมันหนึ่งช้อนโต๊ะ ไข่ขาว 1/2 ฟอง น้ำมันพืชหนึงช้อนโต๊ะ หมักทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้องประมาณ 1 ช่วโมง
จากนั้นนำไปรวนกับน้ำมันเมื่อกี้ด้วยไฟอ่อนๆประมาณ 5 นาที
เตรียมผัดกะเพรากันเลย ใช้น้ำมันเมื่อกี้ตั้งไฟแรงปานกลาง ผัดน้ำพริกแกงเผ็ดประมาณ 1/2 ช้อนชา กระเทียม 1-2 ช้อนโต๊ะ พริกสับ 1-2 ช้อนโต๊ะ ผัดจนส่งกลิ่นหอม
เติมน้ำเปล่าเล็กน้อย ปรุงรสด้วยน้ำปลา 1-2 ช้อนโต๊ะ ใส่น้ำตาลปรุงรสเพิ่มตามชอบ ไฟแรง ใส่น้ำละลายแป้งมันอีกสักหน่อย เร่งเป็นไฟแรงแล้วเคี่ยวจนน้ำซอสเริ่มข้น
ใส่หมูสับหมัก ไข่เยี่ยวม้า ลงไปผัดเร็วๆประมาณ 1 นาที จากนั้นโรยใบกะเพราสดตบท้ายสักกำแล้วปิดไฟคลุกเคล้าให้เข้ากันเร็วๆ
จัดใส่จานโรยใบกะเพราทอดกรอบก็เป็นอันเสร็จ
ผัดกะเพรากลิ่นหอมฉุนรสจัดจ้าน ผสมผสานกับเนื้อหมูสับหมักเด้งๆและไข่เยี่ยวม้าเนื้อมันๆ แถมมีใบกะเพราโปะหน้าอีก รับรองว่าเคี่ยวเพลินกินอร่อย ข้าวสวยร้อนๆต้องตามมาติดๆ
ไม่คิดเลยว่าไข่หมักขี้เถ้ามันจะอร่อยได้ถึงเพียงนี้ 55555
facebook page : เสือตะหลิว " อาหาร กับ ชายชาตรี "
เรื่องของเจ้าแม่เป็ดจอมซุก "กะเพราไข่เยี่ยวม้า"
แล้วใครล่ะเป็นผู้อุตริริเริ่มกรรมวิธีดังกล่าว ตามตำนานจีนโบราณตำนานหนึ่งเล่าว่า มีครอบครัวชาวนาผู้ยากจนอยู่ครอบครัวหนึ่ง ทำนาและเลี้ยงเป็ดเลี้ยงไก่ไว้เพื่อเก็บไข่บริโภคไปวันๆ พอตกดึกก็มักจะก่อไฟเพื่อสุมไฟไล่ความหนาว แต่หลังจากกองไฟมอดดับดีแล้ว เจ้าเป็ดที่เลี้ยงไว้ก็มักจะแอบไปออกไข่และซุกไข่ไว้ในขกองขี้เถ้ามอดๆเหล่านั้น
ไข่เป็ดที่ได้ก็มีลักษณะแปลกๆ เหมือนจะเสียก็ไม่เชิง จึงได้แต่เก็บเอาไว้เฉยๆ ต่อมาภายหลังเมื่อภัยแล้งมาเยือน ครอบครัวชาวนาไม่มีอาหารกิน เก็บเกี่ยวผลผลิตใดๆก็ไม่ได้ จึงได้ลองเอาไข่ที่เจ้าแม่เป็ดชอบซุกขี้เถ้ามาลองปอกกินดู ผลที่ได้คือไข่นั้นไม่เน่าเสีย มีเนื้อสัมผัสขึ้นรูปมันๆเด้งๆและมีกลิ่นฉุนอย่างเป็นเอกลักษณ์ ด้วยไข่แปลกๆเหล่านี้เอง จึงช่วยทำให้ครอบครัวชาวนามีชีวิตอยู่รอดพ้นภัยแล้งมาได้ และภายหลังจึงได้ลองนำไข่เหล่านี้ออกขายแก่คนในหมู่บ้านจนกลายเป็นที่ชื่นชอบและกลายเป็นตระกูลขายไข่เยี่ยวม้าที่มั่งคั่งในเวลาต่อมา
ข้อควรแนะนำในการบริโภคไข่เยี่ยวม้า เนื่องด้วยกรรมวิธีการบ่มไข่มักจะมีสารตะกั่วปนเปื้อนอยู่บ้าง ซึ่งอาจจะส่งผลต่อระบบทางเดินอาหารและระบบประสาท ดังนั้นการบริโภคไข่เยี่ยวม้าจึงไม่สมควรเกิน 1-2 ฟองต่ออาทิตย์ก็จะยิ่งดี เพื่อให้ร่างกายได้มีเวลาขับสารเคมีตกค้างๆและเพื่อสุขภาพที่ยั่งยืน
เด็ดใบกะเพราเป็นใบๆแล้วนำไปทอดเสียส่วนหนึ่ง แล้วเก็บน้ำมันทอดเอาไว้ก่อน
ไข่เยี่ยวม้า เอามาเปลือกปอกและผ่าเป็นซีกๆ จากนั้นนำไปคลุกแป้งมันหรือแป้งข้าวโพดบางๆแล้วทอดไฟแรงด้วยน้ำมันเมื่อกี้แค่ไม่ถึงหนึ่งนาที
หมูสับวันนี้เราจะใช้หมูสับหมักเนื้อมันๆเด้งๆ
หมูสับประมาณ 2 ขีด คลุกเคล้ากับ ผงฟู 1/2 ช้อนชา แป้งมันหนึ่งช้อนโต๊ะ ไข่ขาว 1/2 ฟอง น้ำมันพืชหนึงช้อนโต๊ะ หมักทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้องประมาณ 1 ช่วโมง
จากนั้นนำไปรวนกับน้ำมันเมื่อกี้ด้วยไฟอ่อนๆประมาณ 5 นาที
เตรียมผัดกะเพรากันเลย ใช้น้ำมันเมื่อกี้ตั้งไฟแรงปานกลาง ผัดน้ำพริกแกงเผ็ดประมาณ 1/2 ช้อนชา กระเทียม 1-2 ช้อนโต๊ะ พริกสับ 1-2 ช้อนโต๊ะ ผัดจนส่งกลิ่นหอม
เติมน้ำเปล่าเล็กน้อย ปรุงรสด้วยน้ำปลา 1-2 ช้อนโต๊ะ ใส่น้ำตาลปรุงรสเพิ่มตามชอบ ไฟแรง ใส่น้ำละลายแป้งมันอีกสักหน่อย เร่งเป็นไฟแรงแล้วเคี่ยวจนน้ำซอสเริ่มข้น
ใส่หมูสับหมัก ไข่เยี่ยวม้า ลงไปผัดเร็วๆประมาณ 1 นาที จากนั้นโรยใบกะเพราสดตบท้ายสักกำแล้วปิดไฟคลุกเคล้าให้เข้ากันเร็วๆ
จัดใส่จานโรยใบกะเพราทอดกรอบก็เป็นอันเสร็จ
ผัดกะเพรากลิ่นหอมฉุนรสจัดจ้าน ผสมผสานกับเนื้อหมูสับหมักเด้งๆและไข่เยี่ยวม้าเนื้อมันๆ แถมมีใบกะเพราโปะหน้าอีก รับรองว่าเคี่ยวเพลินกินอร่อย ข้าวสวยร้อนๆต้องตามมาติดๆ
ไม่คิดเลยว่าไข่หมักขี้เถ้ามันจะอร่อยได้ถึงเพียงนี้ 55555
facebook page : เสือตะหลิว " อาหาร กับ ชายชาตรี "