คิดถึง 2 บทที่ 56

กระทู้สนทนา


                  คิดถึงบทนี้มีภาษาถิ่นปนมา 100 % เลยไม่อยากเสียความรู้สึกในการอ่าน กรุณาอย่าเลื่อนอ่านค่ะ เราเตือนคุณแล้วนะ
**********************************************
                  ไดอารี่ความคิดถึง

                 เช้าวันจันทร์ที่สดใสหลังเข้าแถวเคารพธงชาติเสร็จพวกเธอนักเรียนชั้น ม.2/5 ขึ้นห้องเรียบร้อย ถอดรองเท้าเรียงกันไว้เป็นแถวเป็นแนวใต้ม้านั่งหน้าระเบียงที่ก่อติดกับตัวอาคาร วิชาแรกของวันนี้คือวิชาคณิตศาสตร์ของครูปกรณ์ บอสนั่งโต๊ะคู่กับน้ำตามเคย นั่งแถวกลางโต๊ะที่สามนับจากข้างหน้ามา

                     ก่อนเข้าเรียนวิชาแรกระหว่างรออาจารย์มาสอน ทั้งห้าห้องเล่นกันเสียงดังวุ่นวายทั้งอาคาร บางคนเข้าห้องนั้นออกห้องนี้ บางคนนั่งคุยกันตรงระเบียง บางคนจับกลุ่มคุยกันในห้องเรียน เนื่องจากระยะเวลาทั้งสองเทอมของชั้น ม.1 ทำให้พวกเธอก็รู้จักกันทุกห้องพอสมควร

                    “เฮ๊ยไหม เอาคณิตเฮ๊ยมาเบิ่งแน ทำการบ้านเสร็จยัง” บอสเดินไปหาพิศมัยเพื่อนต่างหมู่บ้านเรียนห้องเดียวกัน เป็นบุคคลที่เรียนเก่งหนึ่งในห้าคนของห้อง บอสขอดูการบ้านของเพื่อน แค่อยากดูคำตอบว่าได้เหมือนกันไหม “เฮาอยากเบิ่งว่าโตได้คำตอบคือเฮาบ่” บอสรีบชี้แจงเกรงว่าพิศมัยจะเข้าใจผิดว่าตนเองขอลอก คนอย่างบอสไม่มีวันจะทำแบบนั้นหรอกผิดก็ผิดไปค่อยมาแก้ใหม่ก็ได้

                    “เสร็จแล้ว แป๊บนะ” พิศมัยเปิดกระเป๋านักเรียนหยิบสมุดวิชาคณิตศาสตร์มากางให้เธอดูบนโต๊ะ เพื่อน ๆ คนอื่น ๆ ไม่ได้สนใจต่างพากันจับกลุ่มคุยกันถึงเรื่องราวในช่วงปิดเทอม และเรื่องราวบุญบั้งไฟบ้านของเธอที่ผ่านมา ปิดเทอมไปนานมีเรื่องราวมากมายมาเล่าสู่กันฟังไม่หยุดหย่อน ตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่เปิดเทอมมาได้

                      บอสเปรียบเทียบทีละข้อ ๆ เริ่มมั่นใจในฝีมือตนเองขึ้นมา เพราะคำตอบของเพื่อนเหมือนของตนเอง “เฮ๊ยไหมข้อนี่โตคือตอบแบบนี่วะ แมนบ่เฮ๊ย เฮาคือได้แบบนี่” ข้อสุดท้ายที่คำตอบไม่เหมือนกัน

                    “ไส เบิ่งดุ๊ !” พิศมัยขอดู “แมนบ่บอส แป๊บนะ โตล่ะเฮ๊ยบอสคือได้คำตอบแบบนี่” พิศมัยก็ลังเล ทว่าก็เชื่อในคำตอบของตัวเอง “เอาตัวนี่มาคูณนี่หารนี่แหมะบอส ตัด ๆ หกตัดหกไปเลย แปดสามยี่สิบสี่ ตอบยี่สิบสี” พิศมัยชี้แจงคำตอบ

                   “แมนบ่ ! เฮาคือตอบทอนี่วะ โตแทนค่าสูตรผิดบ่ไหม แมนบ่วะ ! ถามพี่ชินดีกว่า ” บอสยังไม่กล้าฟันธงแก้คำตอบ เพราะก็เชื่อในคำตอบของตัวเองเช่นกัน เดินไปหาชินพงศ์ชายรูปร่างท้วมอ้วนถ้วนสมบูรณ์กว่าใคร ๆ ในห้อง และเรียนเก่งที่สุดของห้องเป็นที่หนึ่งของห้องเสมอมา “บักอ้วนเอาการบ้านคณิตข้อห้ามืงมาเบิ่งดุ๊” มาถึงบอสก็เข้าเรื่องเลยไม่รีรอ เพราะใกล้เวลาอาจารย์ปกรณ์จะมาละ

                        “เป็นหยัง !” นั่นไงกลัวแต่ลอก บอสมองค้อนให้เพื่อนนิดหน่อย

                  “กูกับอี่ไหมได้คำตอบบ่คือกันบักห่า ข้อห้ามืงตอบทอใด” บอสอธิบายให้เพื่อนชายฟัง ชินพงศ์ยอมเปิดสมุดการบ้านให้ดู พบว่าคำตอบของเพื่อนเหมือนกับคำตอบของเธอ ใช้สูตรเดียวกันเป๊ะ ได้คำตอบเท่ากัน แค่หลักวิธีทดเลขต่างกัน ไม่เป็นไรคำตอบเหมือนกันสูตรเหมือนกันก็พอ

                    บอสยิ้มหน้าบานมาหาเพื่อนสาว “เฮ๊ยไหม เฮ๊ยผิดละ บักอ้วนได้คำตอบคือเฮา ไปเบิ่งเลย ใช้สูตรคือเฮาพร้อม เฮาบ่แก้ละ ผิดกะผิด ! มาถ่าเบิ่งไผสิผิดสิถืก ฮา “

                     “ไสเฮ๊ยบอส เฮาเบิ่งของโตใหม่แน” พิศมัยขอดูข้อห้าอีกรอบ “กูแก้เอง ฮา “ พูดจบพิศมัยก็ลบข้อห้าทำใหม่

                    “เบิ่งสูวิถีเด็กเรียนเขาเว้ากัน เว้าเรื่องการบงการบ้าน เฮาคือบ่มีการบ้านคือเขา ฮา ” น้ำผึ้งแซวพวกเธอสองคน ทว่าก็ไม่ได้อะไร เนื่องจากน้ำผึ้งก็ลอกการบ้านเธอนี่แหละ ลอกกันทั้งห้อง คำตอบเหมือนกัน ผิดถูกเหมือนกันและคะแนนเท่ากันไปเลย

                   “เฮ๊ยบอสมื้อบุญบั้งไฟเฮ๊ยไปไส พวกเฮาขับรถไปหาอยู่เฮือน ยายโตว่าไปเล่นเฮือนสาวแพรวว่าซั้น พวกเฮาเลยไปเฮือนน้ำแทน” ปุ้ยกับตั๊กถามเมื่อเธอเดินผ่านโต๊ะจะกลับไปหาน้ำผึ้งเพื่อนคู่โต๊ะด้วยกัน

                 “อ่อ ซุมโตมาหาเฮาติ คือบ่โทรหาสั่น” บอสตอบไม่มีท่าทีเสียดายอะไร

                   “เป็นหยังโตคือบ่ไปเล่นนำซุมเฮ๊ยน้ำ ซุมอี่แพทอี่จอย” ปุ้ยถามด้วยความสงสัยและอยากรู้

                       “เฮาเล่นนำญาติเฮาตั้วเฮ๊ย จักสิว่าจังใดให้ฟัง ฮา ” บอสตอบยิ้ม ๆ ไม่มีเหตุผล อยากเล่นกับใครก็เล่น

                     “อี่บอสเวลาอยู่บ้านมันบ่ค่อยออกมาเล่นนำซุมตุกูหรอก มันเล่นนำญาติมัน” น้ำผึ้งช่วยตอบ ถึงไม่ค่อยได้เล่นด้วยกัน เวลามาเรียนก็ยังเล่นด้วยกันอยู่ นั่งโต๊ะคู่กันเหมือนเดิม ความสนิทสนมก็ยังอยู่เหมือนเดิมเช่นกัน ยกเว้นก็แต่พวกจอย ชมพู่ นิน เตย พวกนั้นอยู่คนละห้องบวกกับที่เธอไม่ค่อยไปเล่นด้วยเวลาอยู่บ้าน ทำให้เกิดความห่างเหินมีระยะห่างพอสมควร

                   “เฮ๊ยเป็นญาติสองคนนั่นบ่ สาวพิมพ์กับสาวแพรวน่ะ สาวแพรวเป็นผู้สาวอ้ายเม้าส์แมนบ่” ตั๊กถาม

                      “แมน ! เป็นหยังเฮ๊ยตั๊กมักอ้ายเม้าส์ติ ฮา” บอสแซวตั๊กเสียเลย

                      “บ้าบ่ โตกะเว้าไปน้อ ฮา “ พวกเธอทั้งห้องพูดคุยกันเสียงดัง รอแล้วรอเล่าอาจารย์ปกรณ์ก็ไม่เข้ามาสอนสักที หรือ ไม่มากันแน่ ขอให้เป็นแบบนั้นเถอะขี้เกียจเรียน ระหว่างนั้นพวกเธอก็ต่างพูดต่างคุยเสียงดังเจี๊ยวจ๊าวในขณะที่ห้องอื่นเขาเงียบสงบกันหมด เพราะมีอาจารย์เข้าสอนแล้ว บางคนปั้นกระดาษเป็นก้อนเขวี้ยงใส่กันก็มี เล่นเป็นเด็ก ๆ ประถมกันสำหรับพวกผู้ชาย

                  พวกเธอหันหลังให้ประตูห้อง นั่งจับกลุ่มคุยกันอย่างเมามัน บางคนเดินมานั่งประจำโต๊ะตัวเองเรียบร้อย บ้างก็ยังเล่นอยู่ บอสและเพื่อน ๆ ไม่ทันได้เห็นว่ามีคนกำลังยืนพิงประตูฟังพวกเธอเม้าส์กัน

                   ปุ้ยมองตรงไปยังประตูห้องยิ้มค้างอีกทั้งตั๊กด้วยอีกคนที่ฉีกยิ้มสายตาจับจ้องไปทางประตู ทำให้เธอน้ำและเพื่อนหลาย ๆ คนหันไปมองตาม เฮ้ย ! บรรจง ! เอ้ยจารย์บรรจงมาทำไมวะ บอสอุทานในใจ ก่อนที่พวกเธอจะแยกย้ายกันไปนั่งประจำโต๊ะของใครของมันอย่างเรียบร้อย

                   อาจารย์บรรจงยิ้มให้ไม่ได้ว่าอะไรพร้อมเดินเข้ามายืนอยู่หน้ากระดานดำ “พูดเรื่องอะไรกัน เมื่อวันเสาร์น่ะบุญบั้งไฟมวนบ่ ไอ้ตัวเล็ก” อาจารย์บรรจงถามเธอด้วยน้ำเสียงใส นุ่ม ปิดหน้าไว้ฟังแค่เสียงนี่เธอจินตนาการว่าอาจารย์หล่อแน่นอน

                     “ค่ะ สนุกค่ะอาจารย์” บอสตอบพร้อมฉีกยิ้มให้ ในใจคิดว่าอย่าบอกนะว่าอาจารย์จะมาสอนแทนอาจารย์ปกรณ์ แล้วอาจารย์ปกรณ์ไปไหน

                    “มืงชื่ออะไรน่ะ” อาจารย์พยักหน้าถามเธอ

                   “สุนิสาค่ะ” บอสตอบ ทุกคนเงียบกริบ เนื่องจากเป็นอาจารย์สายโหด ทุกคนในห้องจึงค่อนข้างจะเกร็ง อาจารย์บรรจงถามเธอนิดหน่อยก็คุยเรื่องอื่นต่อ

                      “พอดีว่าอาจารย์ปกรณ์ลา ครูก็เลยมาแทน อยู่เงียบ ๆ นะนักเรียน รบกวนเพื่อนห้องอื่นเขา ใครมีการบ้านมีอะไรก็เอาออมาทำเลย อย่าเสียงดัง “ อาจารย์บรรจงนั่งบนโต๊ะครูหย่อนขายันพื้นไม่ยอมนั่งที่เก้าอี้ดี ๆ คุยกับพวกเธอ เวลาแบบนี้อาจารย์ที่ว่าโหดก็น่ารักไปอีกแบบ บอสปรายตามองนินทาในใจ

                      “ล่ามนุ่ม ลาทู หลูกู ลู่ฮู้ ลาวู หลานจูน ปะหลอนกูน บ่อลามูนะ ลูกู บ่อเล็ดฮุด หลานกูนล่านบู้นหรอก / น้ำถ้ากูรู้ว่าจารย์ปกรณ์บ่มานะ กูบ่เฮ็ดการบ้านหรอก” บอสแอบซุบซิบเป็นภาษาดอกไม้กับน้ำระหว่างฟังอาจารย์บรรจงพูด พวกเธอชอบใช้ภาษาส่วนตัวคุยกัน

                  “แลนมูน หลักจุก ลามู อิหลังยุง ล่อยปุย ให้เล่นลุ่น แน่กะบ่อไล่ดุ้ยน้อ / แมน จักมาหยัง ปล่อยให้เล่นแนกะบ่ได้” น้ำจ้องมองไปที่อาจารย์ทว่าปากก็ตอบเธอกลับมาเป็นภาษาดอกไม้เช่นกัน

                  “น้ำผึ้ง !”

                  “ค่า ! “ น้ำตอบอย่างเร็วด้วยความตกใจ อยู่ ๆ อาจารย์บรรจงก็เรียกชื่อตนเองซะอย่างนั้น ทุกคนหัวเราะกันทั้งห้อง บอสเองก็ขำและเสียวทำไมต้องเรียกชื่อน้ำด้วยเพราะมันไกลตัวเองเหลือเกิน ทำไมไม่เรียกชื่อคนอื่น

                    “พวกมืงพูดภาษาอะไรกัน ยังไม่เลิกพูดกันอีกเหรอ ภาษาดองมงดอกไม้อะไรของพวกมืงเนี่ย นินทาครูบ่ “ อาจารย์บรรจงจะชอบใช้ภาษาพ่อขุนกับนักเรียน ซึ่งก็ไม่มีใครโกรธเลย

                        “ป่าวค่า ฮา “ น้ำกับเธอปฏิเสธอย่างเร็วและพร้อมเพรียงกัน ไม่อยากให้อาจารย์สนใจ

                          “ขึ้น ม.2 กันแล้ว เป็นพี่ของน้อง ๆ ม.1 กันแล้วทำให้น้องมันเคารพนะนักเรียน ไม่ใช่ให้น้องมันพูดว่าทีพี่นั่นพี่นี่ ชั้น ม.2 ยังทำเลย ทีพี่วันลบยังโดดเรียนได้เลย แบบนี้ก็ไม่เอานะ” ทุกคนหัวเราะเมื่ออาจารย์บรรจงเน้นไปที่วันลบ เพราะวันลบเป็นคนที่ขึ้นชื่อเรื่องโดดเรียน โดนอาจารย์ทำโทษเป็นประจำ มีดีก็แต่เรียนเก่งได้อยู่ห้องคิงนี่แหละ

                         “เกี่ยวไรกับผมครับจารย์” วันลบตอบ  ทุกคนหันไปมองและหัวเราะชอบใจมาก นาทีนี้หายเกร็งกันแล้ว

                      “ไม่เกี่ยวกับมืงกูยกตัวอย่างมืงเฉย ๆ “ อาจารย์ยิ้มหัวเราะหึหึในลำคอเบา ๆ “ผมขอโทษครับลูกพี่ พี่วันลบนิสัยดี เด็กเรียน เรียนเก่งไม่เคยโดดเรียนเลยครับ” อาจารย์บรรจงประชด

                        “ฮา !” พวกเธอหัวเราะอีก อาจารย์ปกครองสายโหดพูดอะไรในตอนนี้ก็ดูตลกไปซะหมด พูดทีพวกเธอก็ขำกันทั้งห้อง

                       “เอ้อ ขึ้น ม.2 แล้วเพื่อนใครหายบ้างครับ เพื่อนในแก๊งอยู่ครบกันมั้ย มีใครไปทำหน้าที่คุณพ่อคุณแม่ที่ดีของลูกบ้างยัง” อาจารย์ถาม ขณะนี้พวกเธอก็หัวเราะกัน “ถึงจะเป็นลูกที่แย่แต่จะเป็นพ่อแม่ที่ดีแบบนี้ก็ไม่เอานะนักเรียนนะ อย่าไปหาทำนะ เราเป็นเด็ก เป็นนักเรียน มีหน้าที่เรียนก็เรียนไป เราอย่าพึ่งไปอยากเป็นพ่อแม่ใครในตอนนี้นะ แล้วจะรู้ว่าความลำบากมันมีอยู่จริง”  อาจารย์พูดจบพวกเธอก็หัวเราะอีก หัวเราะทุกประโยคคำพูดกันเลยทีเดียวเพราะอาจารย์พูดออกแนวตลก ๆ ไม่น่าเบื่อ

                 “อาจารย์คะ อาจารย์ปกรณ์ไปไหนคะ” ช่อเอื้องยกมือถาม

                      “เหอะ ๆ “ อาจารย์หัวเราะก่อนจะตอบ“กูจะไปรู้มั้ยเนี่ย อาจารย์เค้าไปธุระนั่นแหละ ดีมั้ยไม่ได้เรียน”

                       “ไม่ดีเลยค่ะอาจารย์ หนูอยากเรียน “ ช่อเอื้องตอบ เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองสูงมาก พูดเก่ง ตัวสูงกว่าใครในห้อง ผิวดำ ตาโต จมูกโด่งเป็นสัน ถ้าเกิดช่อเอื้องผิวขาวคงจะสวยน่าดู ขนาดผิวดำขลับยังสวยเหมือนแขกแบบนี้เลย

                    “เหรอ !” อาจารย์ตอบแบบประชดลากเสียงยาว พวกเธอก็พากันหัวเราะอีก ไม่เฉพาะพวกเธออาจารย์ก็ยังขำด้วย “เดี๋ยวครูบอกครูปกรณ์ให้คะแนนจิตพิสัยเธอนะ “ พูดจบก็ยิ้มหัวเราะให้ช่อเอื้อง “วันนี้ได้ข่าวว่าบุญบั้งไฟบ้านใครเหรอ วันเสาร์อาทิตย์บ้านของมืงสองตัวใช่มั้ยน้ำผึ้ง สุนิสามืงทำอะไรเนี่ย มืงฟังกูอยู่มั้ยเนี่ย กินลูกอมในห้องเสย กูอยู่ทั้งคนกินลูกอมต่อหน้ากูเสย” ขนาดนั้นพวกเธอก็พากันหัวเราะ อาจารย์แค่แซวไม่ได้จะต่อว่าจริงจัง ถึงจะกินจริงแต่ก็ปฏิเสธให้ถึงที่สุด
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่