คิดถึงบทนี้มีภาษาถิ่นปนมาเกือบ 70% ของเรื่องค่ะ เราเตือนคุณแล้วนะ!!! แต่ฝืนอ่านก็เชิญค่า
.
ไดอารี่ความคิดถึง
หลังเปิดเรียนขึ้น ม.2 ได้ไม่กี่วันทางหมู่บ้านก็ได้จัดบุญบั้งไฟขึ้น เป็นประเพณีที่จัดขึ้นทุกปีตามฮีตสิบสองคองสิบสี่ โชคดีมากที่ปีนี้ทางผู้ใหญ่จัดงานขึ้นตรงกับวันเสาร์อาทิตย์ ให้ลูก ๆ หลาน ๆ ได้ร่วมสนุกด้วย วันเสาร์เป็นวันแห่บั้งไฟ วันอาทิตย์เป็นวันจุด การที่จะจัดบุญบั้งไฟไม่ใช่เลือกวันได้ตามใจชอบ ต้องมีการหาฤกษ์งามยามดีเช่นกัน ปีนี้เป็นปีที่โชคดีมาก ๆ ตรงกับวันหยุด
ปีไหนที่ไม่ตรงเสาร์อาทิตย์ ปีนั้นจะพบว่านักเรียนหมู่บ้านของเธอ ลาหยุดหรือหายไปกันเกือบครึ่งโรงเรียน
พอมีงานบุญบั้งไฟเกิดขึ้น ทุกหน่วยงานของหมู่บ้านร่วมไม้ร่วมมือกันเป็นอย่างดี รวมถึงกลุ่มเยาวชนของหมู่บ้านด้วย ความจริงไม่เพียงบุญบั้งไฟเท่านั้น แต่รวมทุกงานบุญที่ทุกภาคส่วนร่วมมือกัน หนึ่งในนั้นจะต้องมีกลุ่มเยาวชนเสมอ หากเป็นกิจกรรมนันทนาการ ทุก ๆ คนจะได้มีส่วนร่วมสนุกกันอย่างทั่วถึง
ก่อนหน้าจะจัดงานบุญบั้งไฟขึ้นแต่ละคุ้มในหมู่บ้านต่างพากันทำบั้งไฟไว้ลงแข่ง คุ้มละบั้ง สองบั้งก็ได้ จะเป็นบั้งไฟหมื่น บั้งไฟแสน บั้งไฟล้านก็ว่ากันไป คุ้มของเธอตาป้อมเป็นช่างบั้งไฟ ตาของเธอเป็นช่างบั้งตะไล ตะไลล้าน เอาไว้จุดเปิดงาน บั้งตะไลใหญ่จุดเปิดงานในวันจุด บั้งตะไลเล็ก ๆ ไว้จุดวันแห่ ตากับตาป้อมเป็นช่างทำพลุด้วยใช้จุดในงานบุญกฐิน การแข่งขันบั้งไฟมีเงินรางวัลถึงสามหมื่นบาท
นอกจากแต่ละคุ้มต้องทำบั้งไฟเพื่อลงแข่งขันแล้ว ทางโรงเรียนประถมยังจัดซ้อมนางรำเพื่อรำแห่บั้งไฟด้วย น้องบีมก็ได้เข้าร่วมกิจกรรม สมัยตอนบอสกับสองฝาแฝดกับพี่ ๆ ยังอยู่ประถมก็ได้รำเหมือนกัน พอขึ้นมัธยมทางโรงเรียนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ เลย
ในส่วนของกลุ่มเยาวชนพี่ส้มเป็นประธานชมรม ได้จัดกิจกรรมสอยดาวขึ้น เรี่ยรายเงินจากเยาวชนด้วยกันและขอความสนับสนุนจากผู้หลักผู้ใหญ่ในหมู่บ้าน เพื่อนำมาซื้อของรางวัลมาแจกในการสอยดาว ลงขันกันออกเงินกันบ้างตามศรัทธา ไม่ได้เพื่อใครเพื่อความสนุกของพวกเราเอง
เช้าวันเสาร์บอสนัดกับพิมพ์แพรวและจ๋อมเหมือนเดิม หากมีงานแบบนี้มีเหรอพวกเธอจะพลาด ต้องนัดประชุมกันทุกครั้งไป แขกคนอื่น ๆ ก็จะมีพี่เม้าส์เป็นหลัก และเพื่อนคนอื่น ๆ ประปราย
วันนี้มีแขกคนสำคัญมาด้วย คือเพื่อน ๆ ของแพรวกับพิมพ์เอง มาเที่ยวบุญบั้งไฟที่บ้าน ฐานปฏิบัติการจะเป็นบ้านใครไปไม่ได้ ก็เป็นบ้านของสองฝาแฝดเหมือนเดิม เพราะติดถนน ช่วงบ่ายขบวนแห่ก็จะผ่านหน้าบ้านของสองฝาแฝดด้วย
วันนี้วัยรุ่นในหมู่บ้านมีบางคนที่ต้องไปแต่งหน้าเป็นผาแดงกับนางไอ่ นางสนมอะไรก็ว่ากันไป คัดหน้าตาดี ๆ สวยหล่อทั้งนั้น ในส่วนนี้พวกเธอขอไม่รับ มีผู้ใหญ่ในคุ้มติดต่อพิมพ์ด้วย แต่พิมพ์ปฏิเสธ มาทราบภายหลังว่าบ้านเหนือได้พี่ยุ้ยเป็นนางไอ่ พี่แอ็ดเป็นผาแดง บ้านใต้ได้พี่แตงเป็นนางไอ่ ได้พี่แบงค์เป็นผาแดง ทั้งสี่คนคือหน้าตาดีที่สุดในหมู่บ้านเลย
บอสแต่งตัวพร้อมมาก ทั้งเสื้อผ้าหน้าผม พอขึ้น ม.2 ก็เริ่มแต่งตัวเป็นขึ้นมานิดหน่อย เลิกใส่กางเกงวอร์มเสื้อยืด หันมาใส่กางเกงยีนส์ขาสั้นแทน กางเกงขาสั้นกำลังเป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่นผู้หญิงมาแรงมาก ๆ ใคร ๆ ก็ใส่ ใส่กันทั้งหมู่บ้าน
บอสเองก็ไปซื้อมาใส่หลายตัว ส่วนมากจะเป็นผ้ายีนส์ วันนี้บอสสวมกางเกงยีนส์ขาสั้นเลยเข่าขึ้นมานิดหน่อย เสื้อยืดลายดิสนีย์เหมือนเดิม พร้อมกระเป๋าสะพายลายดิสนีย์ด้วย อุปกรณ์แต่งหน้า แป้งหวีและลิปสติกพร้อม พอขึ้นม.2 อุทัยทิพย์ก็เลิกเป็นที่นิยมหันมาใช้ลิปสติกแทน ทว่าก็ยังมีคนใช้กันอยู่ เธอเองก็ยังใช้อยู่ในบางครั้ง
“ยายบอสไปบ้านลุงวิทย์นะ” ก่อนไปบอกยายไว้ก่อน จะได้ไม่ต้องเป็นห่วง พี่ปาวกับพี่แป้งไปบ้านของตน พี่บอมกับพี่บอลไปหาเพื่อน ๆ ของตนเองเช่นกัน
“อย่าออกนอกบ้านนะบอส เพิ่นเป็นบุญเป็นงานอย่าสิเป็นนำเพิ่น” ยายสั่งห้าม บอสเบะปากนิดหน่อยโดยที่ยายไม่เห็น ทำไมยายชอบคิดกับเธอไปในทางลบ ๆ จัง แค่ในบางครั้งแอบเข้าไปในเมืองกับพิมพ์แพรวเท่านั้นเอง ส่วนไปเลาะหมู่บ้านอื่นไม่เคยคิดจะไปอยู่แล้ว
“บอสไม่ไปหรอกยายเพื่อนบอสจะมา บีมไปกับพี่มั้ย” เธอตอบและชวนน้องสาวไปด้วยลืมว่าน้องบีมได้รำแห่บุญบั้งไฟ
“หื่อ ! น้องบีมจะไปแต่งหน้าเตรียมฟ้อนกับแจนกับเก๋” น้องบีมปฏิเสธ ก็ดีเหมือนกันจะได้ไม่มีใครขัดแข้งขัดขา
“อ่อลืมไปว่าได้ฟ้อนนี่นา ไปเองหรือให้ไปส่ง” เธอลืมว่าวันนี้น้องบีมต้องไปฟ้อนแห่บั้งไฟ ถึงว่าไม่ขอตามไปเลย
“น้องบีมจะไปเอง เดี๋ยวแม่เพชรแม่ของแจนจะไปส่งน่ะ แต่งหน้าที่บ้านพักครูพัฒนา” น้องบีมปฏิเสธ
“มูทางใดมา ! “ กำลังจะเดินไปยายก็ถามขึ้นมาอีก เธอก็ต้องหยุดตอบยายก่อนเหมือนกัน
“มูอี่แพรว คนในเมืองกับคนบ้านหามแห”
“หามแหโพนทองนี่บ่”
“แมน ! อีกคนบ้านกุดอ้อมั้ง มาหลายคนอยู่ยาย มูบอสกะสิมา”
“เขามากะมาหาเอาข้าวปุ้นไปสูเขากินแน่ล่ะ ข้าวบ่พอกินกะมาเอา” ยายกำชับเมื่อทราบว่าเพื่อน ๆ ของเธอจะมา ยายทำขนมจีนน้ำยาไว้ตั้งแต่เช้า เพราะจะมีญาติ ๆ ต่างหมู่บ้านมาเที่ยวเล่นบุญบั้งไฟที่บ้านเหมือนกัน
“บ่ยากหรอกยาย ป้าแพงเฮดยุมั้ง เอาเฮือนใหญ่นงค์กะได้” บอสหมายถึงบ้านย่าของตนเอง ป้าต้อยก็น่าจะทำไว้ เป็นบุญบ้านแบบนี้ทุกบ้านต้องทำขนมจีนน้ำยาไว้ ไม่มีแขกมาก็ทำทานกันเองกับคนในบ้าน
คุยกับยายเสร็จก็รีบวิ่งแจ้นมาบ้านหาสองฝาแฝดเลย มาถึงพบว่าจ๋อมมาก่อนแล้ว วันนี้พวกเธอรวมแก๊งกันอีกวัน และเหมือนจะเป็นแก๊งใหญ่ด้วย เพราะว่าเพื่อน ๆ ของพิมพ์กับแพรวจะมาเที่ยวหากันหลายคน บุญบั้งไฟบ้านของเธอก็ไม่ใช่จัดน้อย ๆ ยิ่งใหญ่อลังการงานสร้างมาก
“แพรวพวกนั้นจะมาจริงมั้ยเนี่ย เพื่อนมืงอ่ะ” มาถึงก็ถามหาเพื่อน ๆ แพรวเลยเพราะยังไม่เห็นมานั่นแหละ ไหนบอกจะมา แต่ไม่มาก็ดีเหมือนกันจะได้ไม่วุ่นวาย
“จะมาแล้วมืง กำลังเดินทางว่าซั่นกุโทรถาม” แพรวตอบ
“อ่อ เอ้อ ! พี่เม้าส์จะมามั้ยหนิ หรืออยู่กับประธานส้ม มหาส้ม! ฮา “ พอพูดถึงพี่ส้มก็พากันหัวเราะ ใบหน้าของพี่ส้มลอยเข้ามาในหัวเลย เป็นคนเฉิ่มแบบไหนก็ไม่รู้แต่เรียนเก่งชะมัด
“อี่บอสมืงก็พูดไป มีหรือจะไม่มา มีสักครั้งมั้ย” พิมพ์แซวพี่สาว เจ้าตัวยิ้มแหย ๆ ให้ที่โดนแซว เธอกับจ๋อมหัวเราะให้ด้วยความขบขัน วันนี้พวกเธอแต่งตัวเหมือนกัน คือ สวมกางเกงยีนส์ขาสั้นเสื้อยืด ผมสั้นเท่าติ่งหู ดูรวม ๆ ก็ใช้ได้พอไปวัดไปวาได้ ไม่แต่งตัวเชย ๆ เหมือนตอน ม.1 กันแล้ว
เพราเป็นแก๊งเดียวกันจึงต้องแต่งตัวให้เหมือนกันที่สุด ฮิตอะไรก็ฮิตตาม ๆ กัน เป็นผู้นำเทรนด์ของหมู่บ้านของวัยเดียวกันเลย สำหรับสองฝาแฝดพิมพ์แพรว โดยเฉพาะพิมพ์ที่เป็นเจ้าแม่นำเทรนด์การแต่งตัว เทรนด์แบบเด็กต่างจังหวัด พอพิมพ์กับแพรวแต่งตัวหรือใช้อะไร ทุกคนก็จะทยอยใช้ตาม เธอเองก็เช่นกัน ที่ตามเทรนด์พิมพ์ เป็นอย่างนั้นจริง ๆ
ฐานปฏิบัติการของพวกเธอคือโต๊ะม้าหินอ่อนและแคร่หน้าบ้าน บ้านของพิมพ์กับแพรวติดถนน จึงเป็นทำเลที่เหมาะที่สุดในการรวมตัว รถราวิ่งผ่านไปมาน่ารำคาญแต่มันก็ไม่เป็นปัญหา ได้มองหนุ่ม ๆ ที่ขับผ่านหน้าบ้านก็เพลินตาดี โดยเฉพาะหนุ่ม ๆ ต่างหมู่บ้าน เสียงเพลงตามบ้านคน เสียงป่าวประกาศของผู้ใหญ่บ้านดังมาเป็นระยะ ๆ อยู่ในวัด วันนี้มีสอยดาวด้วย เด็ก ๆ กับผู้ใหญ่พากันไปสอยดาวไม่ขาดสาย เงินที่ได้ก็พากันถวายวัดอีกที
ป้าแพงทำขนมจีนน้ำยาไว้หม้อใหญ่ ไว้ต้อนรับเพื่อน ๆ ของพวกเธอที่จะมา และก็มีน้ำอัดลมซื้อมาไว้พร้อมมาก ๆ ทีแรกพวกเธอกะจะดื่มแอลกอฮอล์กันสักหน่อย พอเพื่อน ๆ จะมาก็ไม่พากันดื่ม กลัวว่าเพื่อน ๆ จะกลับไม่ได้ ห่วงเรื่องอุบัติเหตุ
“พวกนั้นมาเราไปสอยดาวกันมั้ย” จ๋อมพูดชวน บอสเห็นด้วยกับจ๋อม เพื่อน ๆ มาน่าจะชวนไปสอยดาวสักหน่อย ได้ผงซักผ้ามาสักซองก็ยังดี ร่วมทำบุญไปในตัว
“เออ ๆ รอให้พวกมันมาก่อน” แพรวตอบ ระหว่างนั้นก็พากันนั่งกินขนมจีนน้ำยาไปพลาง ๆ ไม่นานก็มีมอเตอร์ไซค์สามคันขับเข้ามาจอดที่บ้านของแพรว ผู้หญิงสองคนซ้อนมาด้วยกัน ส่วนผู้ชายขับมากันคนละคัน เป็นใครไปไม่ได้ นอกจากเพื่อน ๆ ของแพรวนั่นเอง
พวกเธอยืนขึ้นต้อนรับแขกผู้มาใหม่ ทั้งสี่คนถอดหมวกกันน็อกออก เซ็ตผมจัดเสื้อผ้าอะไรให้เรียบร้อยก่อนจะเดินเข้ามา “ไฮ ! เป็นไงไกลมั้ย ฮา” จ๋อมแซวเพื่อน ๆ ทุกคนส่งยิ้มต้อนรับเป็นกันเองที่สุด
“ไกลมาก ! ไกลจริง ๆ “ แพมเป็นคนตอบ พูดกลั้วหัวเราะ “นั่งรถจนปวดก้นหมดและ”
“เว้าบาป ใกล้ ๆ นึง” บอสออกตัวพูดด้วยน้ำเสียงตลกไม่ได้จะต่อว่าจริงจัง จะมาว่าบ้านของเธอภูธรได้อย่างไร “มันกะบ่ใกล้คือบ้านกุดอ้อน้อสู ฮา “ บอสเลือกที่จะคุยกับเพื่อนผู้หญิงของแพรวมากกว่าผู้ชายสองคนนั้น ความรู้สึกมันยังติดมาจากวันก่อนนั้นอยู่ ส่วนทั้งสองคนก็ยิ้มให้ไม่พูดอะไรเหมือนกัน สายตามีเลสนัยแค่มองก็รู้แล้วว่าคิดอะไร
“มื้อนึงกุพ้อผุนึงผุนออยู่ในเมืองน้อสู นั่งเฮดตุ๊กซุกอยู่ผู้เดียว ฮา” แก๊บตัวดีแซวเธออีกแล้ว เพราะเป็นคนมองโลกในแง่ดีเฮฮาแบบไม่ต้องปรุงแต่งแบบนี้แหละ อุตส่าห์ไม่พูดด้วยโทษฐานที่หยิ่งใส่เธอวันก่อนนั้นแล้วเชียว ยังจะมาแซวอีก
ทุกคนหัวเราะให้ และเข้ามานั่งแคร่หน้าบ้าน เจ้าของบ้านอย่างพิมพ์หาน้ำหาแก้วมาเสิร์ฟ ดื่มน้ำเย็น ๆ คลายร้อนกันสักหน่อย มาถึงก็โดนแซวเลย บอสอมยิ้มเขิน มองสองคนด้วยสายตาดุผสมงอน อีกคนก็หัวเราะเยาะเธอเหลือเกิน ตลกมากมั้ง ยังจะมาหัวเราะเยาะอีก มาทำยืนรอให้เค้าทัก ยืนจะค่อมหัวเธออยู่แล้วก็ไม่ยอมทัก ไม่บอกว่าหยิ่งจะให้บอกว่าอะไร นึกหมั่นไส้มาก ๆ
“เอ้า เฮาเลือกสมุดอยู่แหมะ โตสิให้เฮายืนเลือกบ่ สมุดมันวางยุพื้นแหมะปุ้ม” บอสพูดประชดแบบห้วน ๆ ไปทีพร้อมหันไปหาปุ้ม “โตสิให้เฮาก้มเลือกจังสิบ่ เฮากะนั่งตั้ว” ไม่พูดเฉยทำท่าประกอบด้วย พอมีเพื่อนเยอะ ๆ แบบนี้ก็คุยกับเธอเหมือนสนิทกันมาก แต่พอเจอส่วนตัวแบบนั้นไม่เห็นกล้าคุย ส่วนอีกคนก็เอาแต่ยิ้ม คงสนุกมากมั้งที่ได้แกล้งเธอ
“มันปึกน้อบอส !” ปุ้มตอบมองแก๊บด้วยหางตา บอสได้ข่าวมาว่าสองคนนี้กำลังจีบกันอยู่ ก็เหมาะสมกันดีปุ้มก็สวย แก๊บก็ถือว่าหน้าตาดี อีกคนก็หน้าตาใช้ได้ แพมก็สวย คู่ใครคู่มันกันเลย
พอมีเพื่อนมาเพิ่มความเสียงดัง ความวุ่นวายก็เพิ่มขึ้น พวกเธอคุยกันเสียงดังหัวเราะเสียงดังจนบ้านข้าง ๆ ต้องมองกันเลยทีเดียว แต่ก็ไม่แคร์อยู่แล้ว ใครที่ผ่านไปผ่านมาก็ชอบหันมอง โดยเฉพาะพวกวัยรุ่นผู้ชาย ถ้าจะมีเรื่องกับเพื่อน ๆ ของเธอจะบอกให้ไม่ยอมท่าเดียวเลย ไม่ชอบนักสายตาที่มองเข้ามา
“กินไรมายังหนิทุกคน กินหนมจีนมั้ย” บอสถาม สงบศึกความกวนไว้ก่อน “กินหนมจีนมั้ย” บอสหันไปถามอีกคน ไม่ให้ใครได้ตอบตกลงหรือปฏิเสธ บอสก็ชวนจ๋อมไปยกขนมจีนน้ำยามาเสิร์ฟเลย หิวไม่หิวก็ต้องทาน ถึงจะอิ่มบ้างแล้วก็ยังทานต่อได้อีก ทุกคนนั่งทานขนมจีนกันที่แคร่ของพิมพ์ พอมีเพื่อน ๆ มาเพิ่มมันทานได้เยอะจริง ๆ ทั้งที่อิ่มไปแล้ว อร่อยกว่าเดิมด้วยทั้งที่น้ำยาหม้อเดิมนั่นแหละ
คิดถึง 2 บทที่ 55
คิดถึงบทนี้มีภาษาถิ่นปนมาเกือบ 70% ของเรื่องค่ะ เราเตือนคุณแล้วนะ!!! แต่ฝืนอ่านก็เชิญค่า
.
ไดอารี่ความคิดถึง
หลังเปิดเรียนขึ้น ม.2 ได้ไม่กี่วันทางหมู่บ้านก็ได้จัดบุญบั้งไฟขึ้น เป็นประเพณีที่จัดขึ้นทุกปีตามฮีตสิบสองคองสิบสี่ โชคดีมากที่ปีนี้ทางผู้ใหญ่จัดงานขึ้นตรงกับวันเสาร์อาทิตย์ ให้ลูก ๆ หลาน ๆ ได้ร่วมสนุกด้วย วันเสาร์เป็นวันแห่บั้งไฟ วันอาทิตย์เป็นวันจุด การที่จะจัดบุญบั้งไฟไม่ใช่เลือกวันได้ตามใจชอบ ต้องมีการหาฤกษ์งามยามดีเช่นกัน ปีนี้เป็นปีที่โชคดีมาก ๆ ตรงกับวันหยุด
ปีไหนที่ไม่ตรงเสาร์อาทิตย์ ปีนั้นจะพบว่านักเรียนหมู่บ้านของเธอ ลาหยุดหรือหายไปกันเกือบครึ่งโรงเรียน
พอมีงานบุญบั้งไฟเกิดขึ้น ทุกหน่วยงานของหมู่บ้านร่วมไม้ร่วมมือกันเป็นอย่างดี รวมถึงกลุ่มเยาวชนของหมู่บ้านด้วย ความจริงไม่เพียงบุญบั้งไฟเท่านั้น แต่รวมทุกงานบุญที่ทุกภาคส่วนร่วมมือกัน หนึ่งในนั้นจะต้องมีกลุ่มเยาวชนเสมอ หากเป็นกิจกรรมนันทนาการ ทุก ๆ คนจะได้มีส่วนร่วมสนุกกันอย่างทั่วถึง
ก่อนหน้าจะจัดงานบุญบั้งไฟขึ้นแต่ละคุ้มในหมู่บ้านต่างพากันทำบั้งไฟไว้ลงแข่ง คุ้มละบั้ง สองบั้งก็ได้ จะเป็นบั้งไฟหมื่น บั้งไฟแสน บั้งไฟล้านก็ว่ากันไป คุ้มของเธอตาป้อมเป็นช่างบั้งไฟ ตาของเธอเป็นช่างบั้งตะไล ตะไลล้าน เอาไว้จุดเปิดงาน บั้งตะไลใหญ่จุดเปิดงานในวันจุด บั้งตะไลเล็ก ๆ ไว้จุดวันแห่ ตากับตาป้อมเป็นช่างทำพลุด้วยใช้จุดในงานบุญกฐิน การแข่งขันบั้งไฟมีเงินรางวัลถึงสามหมื่นบาท
นอกจากแต่ละคุ้มต้องทำบั้งไฟเพื่อลงแข่งขันแล้ว ทางโรงเรียนประถมยังจัดซ้อมนางรำเพื่อรำแห่บั้งไฟด้วย น้องบีมก็ได้เข้าร่วมกิจกรรม สมัยตอนบอสกับสองฝาแฝดกับพี่ ๆ ยังอยู่ประถมก็ได้รำเหมือนกัน พอขึ้นมัธยมทางโรงเรียนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ เลย
ในส่วนของกลุ่มเยาวชนพี่ส้มเป็นประธานชมรม ได้จัดกิจกรรมสอยดาวขึ้น เรี่ยรายเงินจากเยาวชนด้วยกันและขอความสนับสนุนจากผู้หลักผู้ใหญ่ในหมู่บ้าน เพื่อนำมาซื้อของรางวัลมาแจกในการสอยดาว ลงขันกันออกเงินกันบ้างตามศรัทธา ไม่ได้เพื่อใครเพื่อความสนุกของพวกเราเอง
เช้าวันเสาร์บอสนัดกับพิมพ์แพรวและจ๋อมเหมือนเดิม หากมีงานแบบนี้มีเหรอพวกเธอจะพลาด ต้องนัดประชุมกันทุกครั้งไป แขกคนอื่น ๆ ก็จะมีพี่เม้าส์เป็นหลัก และเพื่อนคนอื่น ๆ ประปราย
วันนี้มีแขกคนสำคัญมาด้วย คือเพื่อน ๆ ของแพรวกับพิมพ์เอง มาเที่ยวบุญบั้งไฟที่บ้าน ฐานปฏิบัติการจะเป็นบ้านใครไปไม่ได้ ก็เป็นบ้านของสองฝาแฝดเหมือนเดิม เพราะติดถนน ช่วงบ่ายขบวนแห่ก็จะผ่านหน้าบ้านของสองฝาแฝดด้วย
วันนี้วัยรุ่นในหมู่บ้านมีบางคนที่ต้องไปแต่งหน้าเป็นผาแดงกับนางไอ่ นางสนมอะไรก็ว่ากันไป คัดหน้าตาดี ๆ สวยหล่อทั้งนั้น ในส่วนนี้พวกเธอขอไม่รับ มีผู้ใหญ่ในคุ้มติดต่อพิมพ์ด้วย แต่พิมพ์ปฏิเสธ มาทราบภายหลังว่าบ้านเหนือได้พี่ยุ้ยเป็นนางไอ่ พี่แอ็ดเป็นผาแดง บ้านใต้ได้พี่แตงเป็นนางไอ่ ได้พี่แบงค์เป็นผาแดง ทั้งสี่คนคือหน้าตาดีที่สุดในหมู่บ้านเลย
บอสแต่งตัวพร้อมมาก ทั้งเสื้อผ้าหน้าผม พอขึ้น ม.2 ก็เริ่มแต่งตัวเป็นขึ้นมานิดหน่อย เลิกใส่กางเกงวอร์มเสื้อยืด หันมาใส่กางเกงยีนส์ขาสั้นแทน กางเกงขาสั้นกำลังเป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่นผู้หญิงมาแรงมาก ๆ ใคร ๆ ก็ใส่ ใส่กันทั้งหมู่บ้าน
บอสเองก็ไปซื้อมาใส่หลายตัว ส่วนมากจะเป็นผ้ายีนส์ วันนี้บอสสวมกางเกงยีนส์ขาสั้นเลยเข่าขึ้นมานิดหน่อย เสื้อยืดลายดิสนีย์เหมือนเดิม พร้อมกระเป๋าสะพายลายดิสนีย์ด้วย อุปกรณ์แต่งหน้า แป้งหวีและลิปสติกพร้อม พอขึ้นม.2 อุทัยทิพย์ก็เลิกเป็นที่นิยมหันมาใช้ลิปสติกแทน ทว่าก็ยังมีคนใช้กันอยู่ เธอเองก็ยังใช้อยู่ในบางครั้ง
“ยายบอสไปบ้านลุงวิทย์นะ” ก่อนไปบอกยายไว้ก่อน จะได้ไม่ต้องเป็นห่วง พี่ปาวกับพี่แป้งไปบ้านของตน พี่บอมกับพี่บอลไปหาเพื่อน ๆ ของตนเองเช่นกัน
“อย่าออกนอกบ้านนะบอส เพิ่นเป็นบุญเป็นงานอย่าสิเป็นนำเพิ่น” ยายสั่งห้าม บอสเบะปากนิดหน่อยโดยที่ยายไม่เห็น ทำไมยายชอบคิดกับเธอไปในทางลบ ๆ จัง แค่ในบางครั้งแอบเข้าไปในเมืองกับพิมพ์แพรวเท่านั้นเอง ส่วนไปเลาะหมู่บ้านอื่นไม่เคยคิดจะไปอยู่แล้ว
“บอสไม่ไปหรอกยายเพื่อนบอสจะมา บีมไปกับพี่มั้ย” เธอตอบและชวนน้องสาวไปด้วยลืมว่าน้องบีมได้รำแห่บุญบั้งไฟ
“หื่อ ! น้องบีมจะไปแต่งหน้าเตรียมฟ้อนกับแจนกับเก๋” น้องบีมปฏิเสธ ก็ดีเหมือนกันจะได้ไม่มีใครขัดแข้งขัดขา
“อ่อลืมไปว่าได้ฟ้อนนี่นา ไปเองหรือให้ไปส่ง” เธอลืมว่าวันนี้น้องบีมต้องไปฟ้อนแห่บั้งไฟ ถึงว่าไม่ขอตามไปเลย
“น้องบีมจะไปเอง เดี๋ยวแม่เพชรแม่ของแจนจะไปส่งน่ะ แต่งหน้าที่บ้านพักครูพัฒนา” น้องบีมปฏิเสธ
“มูทางใดมา ! “ กำลังจะเดินไปยายก็ถามขึ้นมาอีก เธอก็ต้องหยุดตอบยายก่อนเหมือนกัน
“มูอี่แพรว คนในเมืองกับคนบ้านหามแห”
“หามแหโพนทองนี่บ่”
“แมน ! อีกคนบ้านกุดอ้อมั้ง มาหลายคนอยู่ยาย มูบอสกะสิมา”
“เขามากะมาหาเอาข้าวปุ้นไปสูเขากินแน่ล่ะ ข้าวบ่พอกินกะมาเอา” ยายกำชับเมื่อทราบว่าเพื่อน ๆ ของเธอจะมา ยายทำขนมจีนน้ำยาไว้ตั้งแต่เช้า เพราะจะมีญาติ ๆ ต่างหมู่บ้านมาเที่ยวเล่นบุญบั้งไฟที่บ้านเหมือนกัน
“บ่ยากหรอกยาย ป้าแพงเฮดยุมั้ง เอาเฮือนใหญ่นงค์กะได้” บอสหมายถึงบ้านย่าของตนเอง ป้าต้อยก็น่าจะทำไว้ เป็นบุญบ้านแบบนี้ทุกบ้านต้องทำขนมจีนน้ำยาไว้ ไม่มีแขกมาก็ทำทานกันเองกับคนในบ้าน
คุยกับยายเสร็จก็รีบวิ่งแจ้นมาบ้านหาสองฝาแฝดเลย มาถึงพบว่าจ๋อมมาก่อนแล้ว วันนี้พวกเธอรวมแก๊งกันอีกวัน และเหมือนจะเป็นแก๊งใหญ่ด้วย เพราะว่าเพื่อน ๆ ของพิมพ์กับแพรวจะมาเที่ยวหากันหลายคน บุญบั้งไฟบ้านของเธอก็ไม่ใช่จัดน้อย ๆ ยิ่งใหญ่อลังการงานสร้างมาก
“แพรวพวกนั้นจะมาจริงมั้ยเนี่ย เพื่อนมืงอ่ะ” มาถึงก็ถามหาเพื่อน ๆ แพรวเลยเพราะยังไม่เห็นมานั่นแหละ ไหนบอกจะมา แต่ไม่มาก็ดีเหมือนกันจะได้ไม่วุ่นวาย
“จะมาแล้วมืง กำลังเดินทางว่าซั่นกุโทรถาม” แพรวตอบ
“อ่อ เอ้อ ! พี่เม้าส์จะมามั้ยหนิ หรืออยู่กับประธานส้ม มหาส้ม! ฮา “ พอพูดถึงพี่ส้มก็พากันหัวเราะ ใบหน้าของพี่ส้มลอยเข้ามาในหัวเลย เป็นคนเฉิ่มแบบไหนก็ไม่รู้แต่เรียนเก่งชะมัด
“อี่บอสมืงก็พูดไป มีหรือจะไม่มา มีสักครั้งมั้ย” พิมพ์แซวพี่สาว เจ้าตัวยิ้มแหย ๆ ให้ที่โดนแซว เธอกับจ๋อมหัวเราะให้ด้วยความขบขัน วันนี้พวกเธอแต่งตัวเหมือนกัน คือ สวมกางเกงยีนส์ขาสั้นเสื้อยืด ผมสั้นเท่าติ่งหู ดูรวม ๆ ก็ใช้ได้พอไปวัดไปวาได้ ไม่แต่งตัวเชย ๆ เหมือนตอน ม.1 กันแล้ว
เพราเป็นแก๊งเดียวกันจึงต้องแต่งตัวให้เหมือนกันที่สุด ฮิตอะไรก็ฮิตตาม ๆ กัน เป็นผู้นำเทรนด์ของหมู่บ้านของวัยเดียวกันเลย สำหรับสองฝาแฝดพิมพ์แพรว โดยเฉพาะพิมพ์ที่เป็นเจ้าแม่นำเทรนด์การแต่งตัว เทรนด์แบบเด็กต่างจังหวัด พอพิมพ์กับแพรวแต่งตัวหรือใช้อะไร ทุกคนก็จะทยอยใช้ตาม เธอเองก็เช่นกัน ที่ตามเทรนด์พิมพ์ เป็นอย่างนั้นจริง ๆ
ฐานปฏิบัติการของพวกเธอคือโต๊ะม้าหินอ่อนและแคร่หน้าบ้าน บ้านของพิมพ์กับแพรวติดถนน จึงเป็นทำเลที่เหมาะที่สุดในการรวมตัว รถราวิ่งผ่านไปมาน่ารำคาญแต่มันก็ไม่เป็นปัญหา ได้มองหนุ่ม ๆ ที่ขับผ่านหน้าบ้านก็เพลินตาดี โดยเฉพาะหนุ่ม ๆ ต่างหมู่บ้าน เสียงเพลงตามบ้านคน เสียงป่าวประกาศของผู้ใหญ่บ้านดังมาเป็นระยะ ๆ อยู่ในวัด วันนี้มีสอยดาวด้วย เด็ก ๆ กับผู้ใหญ่พากันไปสอยดาวไม่ขาดสาย เงินที่ได้ก็พากันถวายวัดอีกที
ป้าแพงทำขนมจีนน้ำยาไว้หม้อใหญ่ ไว้ต้อนรับเพื่อน ๆ ของพวกเธอที่จะมา และก็มีน้ำอัดลมซื้อมาไว้พร้อมมาก ๆ ทีแรกพวกเธอกะจะดื่มแอลกอฮอล์กันสักหน่อย พอเพื่อน ๆ จะมาก็ไม่พากันดื่ม กลัวว่าเพื่อน ๆ จะกลับไม่ได้ ห่วงเรื่องอุบัติเหตุ
“พวกนั้นมาเราไปสอยดาวกันมั้ย” จ๋อมพูดชวน บอสเห็นด้วยกับจ๋อม เพื่อน ๆ มาน่าจะชวนไปสอยดาวสักหน่อย ได้ผงซักผ้ามาสักซองก็ยังดี ร่วมทำบุญไปในตัว
“เออ ๆ รอให้พวกมันมาก่อน” แพรวตอบ ระหว่างนั้นก็พากันนั่งกินขนมจีนน้ำยาไปพลาง ๆ ไม่นานก็มีมอเตอร์ไซค์สามคันขับเข้ามาจอดที่บ้านของแพรว ผู้หญิงสองคนซ้อนมาด้วยกัน ส่วนผู้ชายขับมากันคนละคัน เป็นใครไปไม่ได้ นอกจากเพื่อน ๆ ของแพรวนั่นเอง
พวกเธอยืนขึ้นต้อนรับแขกผู้มาใหม่ ทั้งสี่คนถอดหมวกกันน็อกออก เซ็ตผมจัดเสื้อผ้าอะไรให้เรียบร้อยก่อนจะเดินเข้ามา “ไฮ ! เป็นไงไกลมั้ย ฮา” จ๋อมแซวเพื่อน ๆ ทุกคนส่งยิ้มต้อนรับเป็นกันเองที่สุด
“ไกลมาก ! ไกลจริง ๆ “ แพมเป็นคนตอบ พูดกลั้วหัวเราะ “นั่งรถจนปวดก้นหมดและ”
“เว้าบาป ใกล้ ๆ นึง” บอสออกตัวพูดด้วยน้ำเสียงตลกไม่ได้จะต่อว่าจริงจัง จะมาว่าบ้านของเธอภูธรได้อย่างไร “มันกะบ่ใกล้คือบ้านกุดอ้อน้อสู ฮา “ บอสเลือกที่จะคุยกับเพื่อนผู้หญิงของแพรวมากกว่าผู้ชายสองคนนั้น ความรู้สึกมันยังติดมาจากวันก่อนนั้นอยู่ ส่วนทั้งสองคนก็ยิ้มให้ไม่พูดอะไรเหมือนกัน สายตามีเลสนัยแค่มองก็รู้แล้วว่าคิดอะไร
“มื้อนึงกุพ้อผุนึงผุนออยู่ในเมืองน้อสู นั่งเฮดตุ๊กซุกอยู่ผู้เดียว ฮา” แก๊บตัวดีแซวเธออีกแล้ว เพราะเป็นคนมองโลกในแง่ดีเฮฮาแบบไม่ต้องปรุงแต่งแบบนี้แหละ อุตส่าห์ไม่พูดด้วยโทษฐานที่หยิ่งใส่เธอวันก่อนนั้นแล้วเชียว ยังจะมาแซวอีก
ทุกคนหัวเราะให้ และเข้ามานั่งแคร่หน้าบ้าน เจ้าของบ้านอย่างพิมพ์หาน้ำหาแก้วมาเสิร์ฟ ดื่มน้ำเย็น ๆ คลายร้อนกันสักหน่อย มาถึงก็โดนแซวเลย บอสอมยิ้มเขิน มองสองคนด้วยสายตาดุผสมงอน อีกคนก็หัวเราะเยาะเธอเหลือเกิน ตลกมากมั้ง ยังจะมาหัวเราะเยาะอีก มาทำยืนรอให้เค้าทัก ยืนจะค่อมหัวเธออยู่แล้วก็ไม่ยอมทัก ไม่บอกว่าหยิ่งจะให้บอกว่าอะไร นึกหมั่นไส้มาก ๆ
“เอ้า เฮาเลือกสมุดอยู่แหมะ โตสิให้เฮายืนเลือกบ่ สมุดมันวางยุพื้นแหมะปุ้ม” บอสพูดประชดแบบห้วน ๆ ไปทีพร้อมหันไปหาปุ้ม “โตสิให้เฮาก้มเลือกจังสิบ่ เฮากะนั่งตั้ว” ไม่พูดเฉยทำท่าประกอบด้วย พอมีเพื่อนเยอะ ๆ แบบนี้ก็คุยกับเธอเหมือนสนิทกันมาก แต่พอเจอส่วนตัวแบบนั้นไม่เห็นกล้าคุย ส่วนอีกคนก็เอาแต่ยิ้ม คงสนุกมากมั้งที่ได้แกล้งเธอ
“มันปึกน้อบอส !” ปุ้มตอบมองแก๊บด้วยหางตา บอสได้ข่าวมาว่าสองคนนี้กำลังจีบกันอยู่ ก็เหมาะสมกันดีปุ้มก็สวย แก๊บก็ถือว่าหน้าตาดี อีกคนก็หน้าตาใช้ได้ แพมก็สวย คู่ใครคู่มันกันเลย
พอมีเพื่อนมาเพิ่มความเสียงดัง ความวุ่นวายก็เพิ่มขึ้น พวกเธอคุยกันเสียงดังหัวเราะเสียงดังจนบ้านข้าง ๆ ต้องมองกันเลยทีเดียว แต่ก็ไม่แคร์อยู่แล้ว ใครที่ผ่านไปผ่านมาก็ชอบหันมอง โดยเฉพาะพวกวัยรุ่นผู้ชาย ถ้าจะมีเรื่องกับเพื่อน ๆ ของเธอจะบอกให้ไม่ยอมท่าเดียวเลย ไม่ชอบนักสายตาที่มองเข้ามา
“กินไรมายังหนิทุกคน กินหนมจีนมั้ย” บอสถาม สงบศึกความกวนไว้ก่อน “กินหนมจีนมั้ย” บอสหันไปถามอีกคน ไม่ให้ใครได้ตอบตกลงหรือปฏิเสธ บอสก็ชวนจ๋อมไปยกขนมจีนน้ำยามาเสิร์ฟเลย หิวไม่หิวก็ต้องทาน ถึงจะอิ่มบ้างแล้วก็ยังทานต่อได้อีก ทุกคนนั่งทานขนมจีนกันที่แคร่ของพิมพ์ พอมีเพื่อน ๆ มาเพิ่มมันทานได้เยอะจริง ๆ ทั้งที่อิ่มไปแล้ว อร่อยกว่าเดิมด้วยทั้งที่น้ำยาหม้อเดิมนั่นแหละ