คิดถึง 2 บทที่ 32

กระทู้สนทนา

.

               ไดอารี่ความคิดถึง

               สาย ๆ ของวันอาทิตย์บอสอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยตั้งแต่เช้า และสัปดาห์นี้ไม่มีการบ้านอะไร รายงานกลุ่ม รายงานเดี่ยวเคลียร์ส่งอาจารย์เจ้าของวิชาเรียบร้อยหมดแล้ว

               วันนี้บอสคิดว่าจะไปเล่นกับสองฝาแฝดเหมือนเดิม ก็มันไม่รู้จะไปไหน ช่วงนี้นาก็ไม่มีอะไรทำ ยายทอผ้ามัดหมี่อยู่บ้าน ไม่อยากไปเล่นกับพวกนินพวกจอย ทางเลือกสุดท้ายก็ต้องไปหาพี่สาวฝาแฝดนั่นเอง

               “บีม ไปเล่นบ้านลุงวิทย์ด้วยมั้ย” บอสชวนน้องสาวของตน วันนี้ตั้งใจชวนเอง อยากมีเพื่อนไปด้วย เพราะตั้งใจจะไม่ออกนอกบ้านไปไหนเลย มีน้องสาวเป็นไม้กันหมาได้

               น้องบีมนั่งพับเพียบลงกับพื้นดิน กำลังเล่นปั่นจักรยานคนเดียว ท่าทางจะเหงา น้องบีมคว่ำจักรยานลง เอาล้อชี้ฟ้าและนั่งใช้มือปั่นขาถีบของจักรยาน เอาหลอดมาคัดซี่จักรยานไว้ให้มันเกิดเสียงดังอยู่คนเดียว บ้างก็เอาดินมาโรย ไม่รู้น้องสาวจินตนาการอะไรอยู่ แต่เสียงดังน่ารำคาญชะมัด ยายก็ไม่บ่น ปล่อยให้น้องบีมทำอยู่ได้

                 น้องบีมหันมามองเธอ มีรอยน้ำมูกที่แก้ม หน้าแดงมีรอยแตกนิดหน่อย เพราะเป็นหน้าหนาว มกราคมยังหนาวอยู่ บอสเห็นสภาพน้องสาวแล้วก็หัวเราะลั่นบ้าน “อี่บีมคือขี้มูกก๊าดแถะ! ฮา” หัวเราะไม่ยอมหยุด ยายเองก็ขำไปพร้อมกับเธอขณะทอผ้าอยู่

               “ไปไหนนะ” น้องบีมตอบเสียงแหบ ๆ เพราะเป็นหวัด

               “ไปบ้านลุงวิทย์ ไปมั้ย”

               “ไป” พร้อมลุกปัดดินออกจากตัว และคว่ำจักรยานกลับคืนเอาไว้

                 “ยิ่งไม่สบายอยู่ จะตามเขาไปเล่นทำไม” ยายดุ ทว่าน้องบีมก็ไม่ยอมฟัง แค่เป็นหวัดเอง

               “ไปโลด ก่อนไปน่ะเช็ดน้ำมูกออกก่อน” บอสสั่งน้องสาว ก่อนจะพากันเดินชวนคอกันไปบ้านพิมพ์กับแพรว และบอสไม่ลืมที่จะให้น้องถือผ้าไปด้วย ต้องพกติดตัวตลอดเวลาช่วงนี้

               มาถึงก็เห็นทั้งสองคนนั่งอยู่หน้าบ้าน แพรวนั่งทำการบ้านอยู่โต๊ะม้าหินอ่อนสีส้มทรงกลม สภาพค่อนข้างเก่า ผ่านการใช้งานมาหลายปีพอควร ส่วนพิมพ์นอนบนเปลญวน เปิดวิทยุฟังเบา ๆ และคุยโทรศัพท์กับแฟนไปด้วย

                มาถึงน้องบีมก็เดินตรงเข้าไปนั่งเปลอีกอันที่ลุงวิทย์ผูกเอาไว้ ส่วนเธอนั่งที่โต๊ะม้าหินอ่อนดูแพรวทำการบ้าน และฟังวิทยุกับพิมพ์ไปในตัว

               “รายงานวิชาอ่ะไรแพรว” เธอถาม ทราบแล้วว่าต้องเป็นรายงาน เพราะพิจารณาจากสมุดที่แพรวใช้เขียน

               “วิทยาศาสตร์” แพรวตอบ พร้อมเขียนไปด้วย แพรวบรรจงคัดลายมือมาก ๆ ปกติตัวหนังสือของแพรวจะไม่สวยขนาดนี้ ซึ่งใคร ๆ ก็ต้องตั้งใจเขียนกันทั้งนั้นแหละ เดี๋ยเสียคะแนนตรงนี้ไป เพราะครูอ่านไม่ออก คัดตัวต่อตัวกันเลยทีเดียว

                “เรื่องอะไรอ่ะ เรื่องดอกไม้เหรอ” เพราะเห็นแพรวเอาดอกไม้แห้งมาแปะใส่สมุดรายงาน เขียนชื่อและโครงสร้างต่าง ๆ ของมันเอาไว้

               “อือ” พอได้คำตอบ บอสก็ไม่เซ้าซี้พี่สาวต่อ ปล่อยให้เขียนการบ้านไป ขอตัวจากแพรวเดินขึ้นมานั่งบนเปลญวนกับพิมพ์ เล่นโทรศัพท์มือถือไปด้วย ฟังเพลงไปด้วย วันหยุดที่แสนมีความสุข

               “บีมไกวแรงเดี๋ยวเชือกขาด” แพรวเงยหน้าจากการเขียนรายงาน เห็นน้องบีมไกวเปลแรงเข้าพอดี จึงพูดเตือนไป และน้องบีมก็ผ่อนลงตามคำสั่ง ไม่นานก็เริ่มแรงขึ้นอีก ทั้งไอ ทั้งจาม ทั้งน้ำมูก บอสมองแล้วก็สงสารน้องอยู่หรอก แต่ก็ปล่อยตามธรรมชาติ

               “ไม่สบายเหรอน้องบีม” แพรวถามอีก

               “หื่อ เป็นหวัดเฉย ๆ “ น้องบีมตอบ พร้อมใช้เท้าดันพื้นไกวเปลอย่างมีความสุข

               “กินยายัง”

               “กินแล้ว”

               ส่วนเธอกับพิมพ์นอนฟังเพลงที่ดีเจกำลังเปิดให้ฟังอย่างสบายใจเช่นกัน กับวิทยุคู่ใจของพิมพ์ ซื้อเมื่อตอนไปเดินงานกาชาดปีที่แล้ว ปีนี้กุมภาพันธ์ก็ครบปีที่ซื้อมาพอดี งานกาชาดจังหวัดของเธอจัดขึ้นช่วงปลายกุมภาพันธ์ไปถึงต้นเดือนมีนาคมของทุกปี

               พิมพ์กำลังฟังวิทยุคลื่น FM อยู่ ในวิทยุจะมีสองคลื่นให้ฟังคือ AM กับ FM คลื่นที่ฮ็อตที่สุดก็คือ FM นั่นเอง และช่องที่พวกเธอชอบฟังคือช่อง ฮ็อตเวฟ มีพี่ดีเจหลายคนมาจัดรายการ เป็นช่องของเพลงสตริง อาทิ พี่จอร์น วินยู คนนี้ไอดอลเลย พี่เป๊ก เปรมมนัส เป็นต้น เสียงหล่อมาก หน้าตาก็หล่อ และก็คนอื่น ๆ อีกมากมายหลายคน

               พิมพ์ชอบฟังเพลงสตริงมาก ๆ เธอฟังได้ ไม่ซีเรียส ทว่าความชอบจริง ๆ ค่อนไปทางลูกทุ่ง ชอบฟังลูกทุ่งมากกว่า ที่บ้านของเธอก็มีวิทยุ วิทยุธานินทร์ แต่มันเป็นของยาย อยากมีเป็นของตัวเองเหมือนพิมพ์ จะเข้าไปในเมืองซื้อก็ใช่เรื่อง เธอมองว่าเป็นเรื่องไร้สาระอยู่ รองานกาชาดประจำปีดีกว่าค่อยหาซื้อ

               ช่วงที่ชอบก็คือช่วงที่ดีเจจัดรายการพูดมากกว่า พูดสนุกดี ไม่ใช่ต้องการฟังเพลง แต่ต้องการฟังคนจัดรายการฟังเพลินดี  พิมพ์จึงปิ้งไอเดียร์ขึ้นมา ขณะเปลี่ยนชั่วโมง ชั่วโมงต่อไปจะเป็นคณะดีเจที่พิมพ์โปรดปรานมากที่สุด

                กรี๊ด! “พี่จอร์นมาแล้ว” พิมพ์ตื่นเต้นที่ช่วงรายการของดีเจคนโปรดมาถึง ถ้าช่วงไหนเป็นข่าวก็จะปิดวิทยุไว้ เป็นการให้วิทยุพักไปในตัว พิมพ์ปรับเสาสัญญาณวิทยุให้พร้อม พลิกตัวนอนฟังดี ๆ พวกเธอนอนในเปลเดียวกัน หันหัวไปคนละทาง ให้เท้ามาบรรจบกัน บอสส่ายหัวให้พี่สาว เป็นอะไรมากมั้ย! พร้อมนึกในใจ

               เธอเองก็ชอบเช่นกัน มีรายการทางช่องห้าที่พี่จอร์นกับพี่เป๊กจัดรายการอยู่ เป็นรายการเพลงสตริง จัดเฉพาะบ่ายโมงวันเสาร์ นั่นก็คือรายการ O.I.C(โอ ไอ ซี) พวกเธอจะพลาดไม่ได้กันเลยทีเดียว เพราะชอบพี่จอร์นมาก และคนอื่น ๆ ในรายการด้วย รายการนี้จะมีสัญลักษณ์ ทำมือเป็นสัญลักษณ์กัน พวกเธอก็ทำตามเป็น ร้องเพลงประกอบรายการได้ด้วย

               “บอส!” จู่ ๆ พิมพ์ก็เรียกเธอ นึกอะไรขึ้นมาได้เหรอ เธอมองเป็นเชิงคำถาม “ไปขอเพลงกัน ไปโทรที่ตู้โทรศัพท์”

               “จะไปตู้ทำไม มืงก็โทรไปสิโทรศัพท์มืงอ่ะ” บอสทักท้วง

                “บ่! เปลืองตังค์”

                ฮา! “อี่พิมพ์แล้วโทรตู้มันไม่เปลืองเหรอ” แพรวพูด พร้อมหัวเราะกับคำตอบของพิมพ์

               “เอ๋า ก็นาทีโทรของกูมันแพงไง ถ้าไม่ใช่เครือข่ายเดียวกัน ไปหยอดตู้ก็แค่สี่ห้าบาท” พิมพ์ตอบไขข้อข้องใจแก่พวกเธอ

               “มันต่างกันตรงไหนวะ” แพรวยังงง ๆ กับสิ่งที่พิมพ์พูด พร้อมหัวเราะหึหึในลำคอให้  “หยอดตู้นาทีละบาท กับมืงโทรเบอร์มือถือเนี่ย”

               “แพรวโทรตู้มันถูกกว่า ทั้งที่ก็นาทีละบาทเหมือนกัน ฮา “ บอสหันไปคุยกับแพรว ก็งงกับพิมพ์ ไม่เข้าใจสิ่งที่พิมพ์คิดเช่นกัน

               “สู! บีมเบิ่งเอื้อยมืงสองคนคือโง่แถะ” พิมพ์ทำหน้าเบื่อโลกให้พวกเธอสองคนหันไปหาน้องบีมแทน น้องบีมหัวเราะให้เป็นคำตอบ เพราะตลกกับท่าทางอาการเซ็งของพิมพ์ “กูโทรนอกเครือข่ายนาทีละห้าบาท โทรในเครือข่ายนาทีละยีบห้าสตางค์ เพราะฉะนั้นโทรตู้ถูกกว่า”

                   “อ่อ งั้นก็ปะ อี่แพรวมืงรอฟังเสียงกูนะ มืงห้ามเปลี่ยนคลื่น” บอสออกคำสั่งแพรว

                “เออ ไป ๆ “ แพรวตอบอย่างคนรำคาญเต็มที แล้วพวกเธอก็ขับรถมอเตอร์ไซค์ไปยังตู้โทรศัพท์สาธารณะหน้าวัด

                    “พิมพ์มืงจะไปตู้หน้าวัดเหรอ ไปตู้คุ้มใต้มั้ยอ่ะ หน้าบ้านผู้ใหญ่บ้านอ่ะ หรือมืงจะไปตู้คุ้มเหนือ หน้าโรงเรียนน้อย หรือร้านส้มตำยายกัน หรือหน้าบ้านอี่เมย์” บอสเสนอพี่สาว หมู่บ้านของพวกเธอมีตู้โทรศัพท์ทั้งหมดสี่ตู้สี่จุด ไปไหนก็ได้ยกเว้นตู้หน้าวัดเพราะมันใกล้เกินไป ไม่ได้ขับรถเลาะ

               “ไปตู้คุ้มใต้ดีกว่า หน้าบ้านพ่อใหญ่บ้าน” พิมพ์หันมาตอบ

               “จัดไปเพื่อน!”

               พิมพ์พาเธอขับรถคู่ใจไปคุ้มใต้ ไปจอดหน้าตู้โทรศัพท์ตรงหน้าบ้านผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 พอดี ที่หน้าบ้านมีป้ายชื่อและสถานะทางสังคมของผู้ใหญ่เอาไว้ตัวใหญ่มาก พวกเธอก็ไม่ได้สนใจ พิมพ์จอดรถแล้วพวกเธอก็เข้าไปในตู้พร้อมกันสองคน

               พิมพ์หยอดเหรียญห้าบาทลงไป ก่อนกดหมายเลขต้องกด 1234 ก่อน หมายถึงการลดอัตราค่าโทร ไม่รู้ใครพาทำ พวกเธอก็พากันทำตาม ๆ กัน ไม่รู้ว่ามันลดจริงหรือเปล่าด้วย 123402276... ต่อไปเก้าตัว เสียงสัญญาณดังตู๊ดยาว ๆ แปลว่าโทรติด หรือปลายสายเปิดเครื่องอยู่

              “สวัสดีครับ” ดีเจเสียงหล่อมากรับสาย พิมพ์หันมาทำตาโตตื่นเต้นให้กับโทรศัพท์ บ่งบอกว่าพี่จอร์นรับสายแล้ว

               “เอ่อ ขอเพลงหน่อยค่ะ”

               “ขอเพลงอะไรครับ ฝากให้ใครเป็นพิเศษมั้ย “
              “ขอเพลงพี่ปั๊ปโปเตโต้ค่ะ” พิมพ์ลนลานมากเพราะตื่นเต้น เป็นเพราะได้คุยกับพี่จอร์นดีเจคนโปรด เธอเองก็เอียงหูฟังด้วย และตื่นเต้นไปตาม ๆ กัน

               เหมือนพี่จอร์นจะหัวเราะ “เพลงพี่ปั๊ปโปเตโต้ เพลงอะไรอ่ะตัวเอง”

               “อ่อ เพลงรักแท้ดูแลไม่ได้ค่ะ จากพิมพ์”

               “เพลงรักแท้ดูแลไม่ได้ของพี่ปั๊ปโปเตโต้ จากน้องพิมพ์นะครับ ส่งให้ใครเป็นพิเศษมั้ยครับน้องพิมพ์”

                “ไม่ค่ะ แค่นี้นะคะ” ตามด้วยเสียงสัญญาณเพราะพิมพ์วางสายไป กรี๊ด!!!!! “กุได้คุยกะพี่จอร์นแล้ว ฮา “

                 “พี่เป๊กหรือเปล่า!” บอสทำหน้าทะเล้นให้พี่สาว แหย่ให้ลังเลเล่น ๆ

               “พี่จอร์น! ว่าแต่มืงจะขอเพลงด้วยมั้ย”

                “ขอ กูจะขอเพลงอะไรนะ เพลงใครดีวะ” พอถึงสถานการณ์แบบนี้ มันก็นึกชื่อเพลงที่ชอบไม่ออก ทั้งที่ก็ชอบฟังเพลงประจำ ครั้นจะขอเพลงลูกทุ่งก็ไม่ได้ เพราะเป็นช่องเพลงสตริง “คิดออกแล้ว”

               “มืงจะขอเพลงอะไร”

               “อะไรก็ยอม”

               “จัดไปเพื่อน!” พิมพ์ให้การสนับสนุนเต็มที่ “อ่ะเงินกุเหลือห้าบาท” พร้อมยื่นเหรียญห้าให้กับเธอ บอสกดหมายเลขโทรศัพท์ และไม่ลืมที่จะกด 1234 ก่อนกดหมายเลขเสมอ พร้อมเสียงสัญญาณตู๊ดยาว ๆ พิมพ์เอียงหูฟังด้วย

               “สวัสดีครับ พี่เป๊ก เปรมมนัสคุยกับใครอยู่ครับ”

                กรี๊ด ๆ ! บอสกรี๊ดแบบไม่มีเสียง ก่อนจะตอบ “บอสค่ะ ขอเพลงหน่อยค่ะ ขอเพลงอะไรก็ยอมของพี่เสกโลโซค่ะ”

              “ครับ น้องบอสจะส่งให้ใครเป็นพิเศษมั้ยครับน้องบอสครับ “

               “น้องบอสครับ พวกพี่อยู่จนถึงบ่ายสามโมงครึ่งครับ ไม่รีบ ฮา” เสียงพี่จอร์นพูดแทรกแบบตลก พี่เป๊กก็ขำตามและคุยกับเธอต่อ

               “ไม่ค่ะ เพลงอะไรก็ยอมนะคะ เอ่อพี่เป๊กคะ ส่งให้ค่ะ ๆ “

               “ตกลงส่งเพลงให้คนอื่นนะครับ ฮา น้องบอสจะส่งให้ใครครับ”

               “ส่งให้แพรวค่ะ จากบอส”

               “เพลงอะไรก็ยอมนะครับ ของพี่เสกโลโซ มอบให้กับน้องแพรวนะครับ โห เพลงนานมาก ๆ เลยครับ แต่ยังเพราะตลอดกาล”

                “ค่ะ แค่นี้นะคะ” แล้วบอสก็รีบตัดสายทิ้งไป โดยที่ไม่รู้เลยว่า ดีเจพี่เป๊กกับพี่จอร์นพูดอะไรต่อ ต้องไปถามเอากับแพรวที่บ้าน ก่อนจะกลับพวกเธอก็แวะซื้อส้มตำเข้ามาด้วย

                   “อี่บอส! มืงขอเพลงให้กูทำไม ฮา” เมื่อมาถึงแพรวก็ร้องถามพร้อมหัวเราะ “ กูก็ฟังอยู่ดี ๆ ขอเพลงให้แพรวค่ะ ว่าซ้าน ฮา อี่ห่าบอสกวนตีนอิหลิวะ” ทั้งพิมพ์ก็หัวเราะกับสิ่งที่พวกตนทำในวันนี้

                  “เอ้า กูก็อยากขอเพลงให้มืงไงแพรว อะไรก็ยอม พี่เม้าส์ให้ทำอะไรก็ยอม” เธอตอบ แพรวโต้แย้งอะไรไม่ได้ ได้แต่ยิ้มและก็หัวเราะ “เอาจานมากินตำป่ากัน อี่บีมไปไหนเนี่ย” เมื่อไม่เห็นน้องสาวของตนจึงถามหาตามมารยาท

               “กลับบ้านแล้ว พี่แพรวบีมกลับก่อนนะนางบอกกู สงสัยไม่สบายตัว กูจับตัวน้องดูตัวร้อนอยู่นะ”

                 “อือ มันไม่สบาย ไข้หวัดน่ะ “ น้องบีมไม่สบายมาสองสามวันได้ “แพรวแกะตำป่ารอกูนะ เดี๋ยวกูกลับไปบ้านแป๊บ ไปเอาขนมหมกมาให้กินก่อน พี่ปาวพากูห่อเมื่อวานนี้” บอสนึกอะไรขึ้นมาได้ ไปเอาขนมเทียนมากินด้วยดีกว่า พี่ปาวทำไว้เมื่อวานกับยายและพวกเธอ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่