.
“แม่บอสเอาบุญเดือนสี่ก่อนนะ บอสถึงจะพาน้องบีมไปหาแม่” บอสคุยโทรศัพท์กับแม่เช่นทุกวัน หนุ่งทุ่มแม่จะโทรมาหา มาคุยด้วย เป็นกิจวัตรประจำวันไปแล้ว
“บุญบ้านเราวันไหนลูก” แม่ถาม “อยากกินข้าวเขียบเด้ เอามาฝากแม่ด้วยนะ”
“วันที่ห้าวันที่หก วันที่เจ็ดบอสเตรียมกระเป๋า วันที่แปดถึงจะไปนะ พี่แป้งก็ไป พี่บอมกับพี่บอลไม่ไป พี่ปาวก็ไม่ไป เพราะต้องเตรียมตัวเข้ามหาลัยอ่ะ” บอสบอกรายละเอียดแก่ผู้เป็นแม่ “แม่แค่นี้ก่อนนะ บอสไปดูหนังก่อน อ่ะคุยกับน้องบีม” แล้วเธอก็ยื่นโทรศัพท์ให้น้องสาวไปคุยต่อ
พรุ่งนี้ก็บุญเดือนสี่ เรียกบุญมหาชาติก็ได้ ที่บ้านของเธอยายทำข้าวเกรียบเอง สั่งขนมจีนไว้หลายโล เห็นว่าเพื่อน ๆ ต่างหมู่บ้านของพี่ปาวพี่แป้งจะมาเที่ยวหาด้วย ยายจึงสั่งไว้หลายโลพอสมควร ยายทำน้ำขนมจีนป่าอร่อยมาก...
เดือนมีนาคมตามฮีตสองคองสิบสี่ ที่หมู่บ้านของเธอจะจัดงานบุญเดือนสี่ขึ้นเป็นประจำทุกปี หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งคือ บุญเผวด นับตามเดือนลาวแล้ว เดือนมีนาคมเป็นเดือนสี่ของชาวอิสาน เผวดหรือพระเวชสันดรชาดกนั่นแหละ เป็นบุญประจำเดือน ตามประเพณีอิสาน แต่ละเดือนจะมีงานบุญ หรือพิธีกรรมต่าง ๆ เกิดขึ้น พอบุญเดือนสี่เสร็จ ก็จะเป็นบุญเดือนห้า ซึ่งก็คือสงกรานต์นั่นเอง
บุญเผวดจะมีการเทศน์ทั้งวันทั้งคืน มีการแห่อุปครุฑ มีการแห่กัณหาชารี และมีการแห่ต้นดอกเงินทั้งวันกันเลย แห่เป็นคุ้มของใครของมัน แห่รอบศาลาวัด ส่วนแห่อุปครุฑคือทำพิธีเชิญนาคมาบวช ต้องไปทำพิธีที่สระสาธารณะของหมู่บ้าน และสระนั้นมันก็อยู่ละแวกคุ้มของเธอ อยู่ที่นาของยายเรือง มีการจับฉลากเสี่ยงทายชะตาชีวิตครอบครัว เรียกว่าการจกกันณท์! ซึ่งในหมู่วัยรุ่นชอบเอามาพูดล้อส่อเสียด เช่น “ปะเราไปจกกัน อะไรแบบนี้ ขำขันกันไป”
นอกจากนั้นยังมีการทำข้าวเกรียบมาถวายวัดด้วย น้ำข้าวสาร สมุด ปากกา และธงเส้นด้าย นำมาประดับตกแต่งศาลา ส่วนสำคัญของบุญคือ ผ้าเผวด จะขาดไม่ได้เลย นำมาขึงตามผนังศาลาวัด แล้วพระท่านจะเทศน์ตามกัณฑ์นั้น ๆ มีพระหมู่บ้านอื่นมาช่วยเทศด้วย สลับกันไปจนสิ้นสุดพิธีกรรม
ตอนเด็ก ๆ บอสชอบมาก เป็นอีกบุญประเพณีที่บอสชอบที่สุด ได้กินทั้งข้าวเกรียบ ได้กินทั้งขนมจีนน้ำยา ไปเดินแห่เผวดกับตาทั้งวัน เพราะตาเป็นคณะกลองยาว ตาก็ต้องตีกลองแห่ต้นดอกเงินที่แต่ละคุ้มนำมาถวาย บอสก็เดินตาม กับน้องบีมกับพิมพ์แพรวจ๋อมด้วยอยู่อย่างนั้น นึกถึงตอนเด็ก ๆ ก็สนุกดี ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เดินแห่รอบศาลาวัดกับตาได้ทั้งวันพอ ๆ กับผู้ใหญ่กันเลย
ปีนี้เธอโตแล้ว ยังตื่นเต้นกับประเพณีประจำปีเหมือนเดิม ทว่าคงไม่ไปเดินแห่เหมือนสมัยก่อน นั่งฟังพระเทศน์ ฟังเสียงกลองยาวที่บ้านแทนก็ได้ งานบุญแบบนี้พวกเธอก็ต้องชุมนุมกัน ฐานปฏิบัติการก็เป็นบ้านของสองฝาแฝดเช่นเดิม เหมาะที่สุด พี่เม้าส์ก็มาหาแพรวที่บ้าน และเพื่อน ๆ พี่เม้าส์สองสามคน ล้วนแต่สนิทกันทั้งนั้น
เช้านี้ยายใช้ให้เธอกับพี่ปาวไปจกกัณฑ์ หรือจับฉลาก โดยยายเตรียมแซงมะพร้าวน้ำหอม มีลูกอยู่สี่ห้าลูกพร้อมกระสอบข้าวสารไปด้วย ข้าวเกรียบหลายแผ่นพอสมควรไปบริจาคให้กับทางวัด เธอกับพี่ปาวขับรถมอเตอร์ไซค์กันไป ทั้งที่วัดอยู่ใกล้แค่นี้จะเดินไปกันก็ได้ พี่ปาวไม่พาเดิน ขับรถไปดีกว่า ยายบ่นตามหลังมาได้ยินเสียงร่ำไร ก็ไม่สนใจ
ภายในบริเวณวัดมีผู้คนมากมาย ที่กำลังมาจกกัณฑ์ แม่ครัวทำหน้าที่ทำอาหารต้อนรับแขก กรรมการวัด มัคนายก กำลังทำหน้าที่ของตนอย่างตั้งใจ ส่วนเจ้าอาวาสกำลังเทศน์บทเทศน์บุญเผวดอยู่บนธรรมมาสในศาลาวัด
“มาจกกัณฑ์ให้ยายจ้า” บอสเป็นคนเดินไปหาผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 พร้อมลงชื่อเป็นชื่อยายว่านำอะไรมาบริจาคบ้าง
“นู่นนางปาว เอาวางไว้ตรงนู้นลูก” ผู้ใหญ่บ้านหมู่หนึ่งชี้มือไปที่มุมเก็บของ บอกให้พี่ปาวนำของที่นำมาบริจาคไปวางไปตรงนู้น และตรงกลางจะมีต้นโพธิ์ให้จับฉลาก บอสให้พี่ปาวเป็นคนจกกันฑ์ พอจับฉลากได้ก็นำไปให้ผู้ใหญ่บ้านหมู่สองประกาศว่ายายของเธอได้กัณฑ์อะไร และรอฟังพระเทศน์กัณฑ์นั้น จะเป็นศิริมงคลแก่ชีวิต
เมื่อเสร็จธุระเรียบร้อย บอสกับพี่ปาวก็พากันขับรถกลับบ้าน เล่าให้ยายฟังว่าได้กัณฑ์อะไร เป็นกัณฑ์ที่ไม่น่าจะดี เพราะได้ยินยายบ่นว่าจะได้ทำกระทงทำพิธีอะไรสักอย่างนี่แหละ รอตามาก่อน
บอสไม่ได้ใส่ใจ กลับมาถึงบ้านก็ขอยายไปเล่นที่บ้านแพรวเลย น้องบีมขอตามไปเล่นด้วยคน ไม่ยอมไปเล่นกับเพื่อนของตัวเองเลย บอสก็ไม่ห้าม ถือเป็นเรื่องปกติ สองพี่น้องถือชามน้ำยาขนมจีนมาด้วย เป็นน้ำยาป่ารสเผ็ดที่ยายทำ บ้านของเธอกินน้ำยาป่ากัน น้ำยาปลาดุกใส่ปลาร้าอร่อยที่สุด เธอถือไปให้ป้าแพงชิมเฉย ๆ นี่แหละ
มาถึงบ้านแพรว พวกเธอก็ออกมานั่งเล่นข้างนอก ที่หน้าบ้านรอจ๋อมกับพี่เม้าส์ ป้าแพงถามเรื่องจกกัณฑ์กับเธอนิดหน่อย ป้ายังไม่ทันได้ไปเลย เดี๋ยวสักพักก็จะไปแล้ว พิมพ์ถือถาดขนมจีนและชามน้ำยาออกมาต้อนรับ ใช้น้องบีมไปซื้อน้ำอัดลมและขนมขบเคี้ยวที่ร้านค้าของป้ามาแจมด้วย อยากมาเล่นด้วยก็ต้องโดนใช้แบบนี้แหละ ส่วนแอลกอฮอล์ถ้าพี่เม้าส์อยากกินก็ไปซื้อเอาเอง
สี่คนพี่น้องนั่งฟังพระเทศน์บุญเผวดอย่างสบายใจ ทานขนมจีนไปพร้อม พระเทศน์ก็ฟังเพลินเหมือนกัน โดยที่วันนี้พวกเธอไม่ต้องเปิดวิทยุฟังกันเลย นอกจากเสียงเทศนาแล้วยังมีเสียงกลองยาว ฟังเพลินไปอีก ไม่นานจ๋อมก็ขับรถมาหาพวกเธอ ครบแก๊งกันแล้ว เหลือก็แต่พี่เม้าส์ที่ยังไม่มา อีกไม่นานก็คงมาถึง
“เด็ก ๆ อย่าลืมไปปักต้นดอกเงินที่บ้านย่านะ ทำบุญลูก ชีวิตจะได้มีแต่ความสุข” ป้าแพงบอกพวกเธอ ป้าแต่งตัวดูดีมาก ๆ ใส่ผ้าซิ้นผืนใหม่ เสื้อคอกระเช้าลายลูกไม้สีเหลืองอ่อน น่าจะไปวัดนั่นแหละ “แพรวแม่ไปวัดก่อนนะลูก เดี๋ยวสาย ๆ พี่เจก็น่าจะมาถึง” ส่วนลุงวิทย์ไปช่วยงานที่วัดตั้งแต่เมื่อเช้า
“จ้า” พวกเธอตอบรับคำป้า แล้วป้าก็เดินไปวัด เดินไปทางบ้านของย่า คุ้มของแพรวอยู่คุ้มเดียวกันกับย่า ที่บ้านนั้นกำลังทำต้นดอกเงินกันอยู่ ปีนี้ไม่รู้บ้านไหนจกกัณฑ์ได้กัณหากับชารี และไม่รู้ว่าบ้านไหนจกกัณฑ์ได้เป็นพราหมณ์ท้องแตก มันไม่ตื่นเต้นเหมือนตอนเด็ก ๆ ที่ต้องตามไปดู ทว่ามันก็ลุ้นในใจอยู่ดี
“น้องบีมมานี่พี่แพรวถักเปียให้” แพรวเรียกน้องบีมให้มานั่งตรงหน้า น้องบีมสวมกางเกงเจเจขาสั้น เสื้อยืด ผมสั้นหน้าม้าผมฟูนิดหน่อย ไม่ได้ใส่ใจในการแต่งตัวนัก “โอยทำไมไม่แต่งตัวสวย ๆ หน่อย วันนี้บุญบ้านเรานา มาพี่แพรวถักเปียให้ แล้วไปเปลี่ยนใส่ชุดสวยนะ อี่บอสมืงก็ไม่แต่งตัวให้น้องบ้างน้อ” น้องบีมเดินมานั่งให้แพรวถักเปียให้อย่างว่าง่าย ถักเปียกก้างปลา ก็สวยดีดูเป็นผู้เป็นคนขึ้นมาหน่อย
“เอ้า ก็มันอยากใส่ชุดนี้น้อ” เธอไม่ใด้ใส่ใจ อยากใส่อย่างไรก็ใส่ไปเลย “บีมไปใส่ชุดที่ซื้อตอนไปกาชาดไป พี่ซักแล้ว อยู่ในตู้นั่นแหละ “
“เดี๋ยวถักเปียเสร็จก่อน” น้องบีมตอบ พร้อมเคี้ยวขนมเกียบกุ้งที่ซื้อมาไม่หยุดปาก “นู้นพี่เม้าส์มาแล้ว” น้องบีมชี้ให้ทุกคนดู พี่เม้าส์ขับรถมอเตอร์ไซค์เข้ามาจอดหน้าบ้าน เดินเข้ามาอย่างคนคุ้นเคย
“แม่กับพ่อไปไหนแพรว” พี่เม้าส์ถาม เดินมาหยิบน้ำแข็งใส่แก้ว พร้อมเทน้ำโค๊กดื่ม และหยิบขนมของน้องบีมกินอย่างอร่อย
“พี่เม้าส์กินขนมน้องบีมทำไม! ฮ่วย!” น้องบีมร้องห้าม กัดริมฝีปากใส่พี่เม้าส์ หน้าตาขึงขังจริงจังจะเอาเรื่อง ก็ดันมากินขนมที่เธอแกะแล้ว อย่างอื่นมีตั้งมากมายไม่เลือกกิน
“บีมขนมมีตั้งเยอะแยะน่า นิสัยนะ!” บอสดุน้อง สองคนนี้เป็นคู่กัดกันประจำ เจอกันหน่อยไม่ได้ ต้องได้แกล้งสักหน่อยถึงจะกลับไปนอนหลับฝันดีได้
“บีม ๆ ฮา” พี่เม้าส์ไม่ยอมหยุด แถมยังกินขนมของน้องบีมเยาะเย้ยไปอีก เคี้ยวกรุบกริบอย่างน่าเอร็ดอร่อยล้อต่อหน้าต่อตา น้องบีมได้แต่จ้องตาเขม่น ทำอะไรไม่ได้ เพราะแพรวกำลังถักเปียให้อยู่
“ชิ! ซื้อใหม่ก็ได้ เอาเงินมาเลยนะ น้องบีมจะไปซื้อใหม่” พร้อมชี้หน้าพี่เม้าส์ จ้องหน้าขึงตาใส่ ทว่าพี่เม้าส์ก็ไม่ถือสา แถมยังถือเป็นเรื่องตลกไปอีก แพรวหัวเราะ พี่เม้าส์ก็ขำ
“แพรว เอาเงินมาเลยนะว่าสั้น เอ๋า ขนมมีตั้งเยอะ จะซื้อใหม่ทำไมล่ะบีม หนมจีนก็มี” พี่เม้าส์หันไปคุยกับแพรว พูดล้อน้องบีม
“ก็พี่เม้าส์กินของน้องบีมหมดอ่ะ”
“หมดอะไรกินชิ้นเดียวเอง” พูดพร้อมหยิบขนมเกรียบกุ้งของน้องบีมกินโชว์ไปอีก ทั้งสองคนเถียงกันไปเถียงกันมาไม่หยุดปาก ชี้มือชี้ไม้ให้กันทว่าก็ทำอะไรไม่ได้ นี่ถ้าแพรวไม่ถักเปียกให้อยู่ คงได้ต่อยกันไปแล้ว
“ บีมอยู่นิ่ง ๆ หน่อยจะเสร็จแล้วเนี่ย พี่เม้าส์ก็ไปกินของน้องทำไม แกล้งมันอยู่ได้ และก็ถักเสร็จแล้วไปเลยนะ ใส่ชุดสวย ๆ เดี๋ยวเราจะไปแห่ต้นดอกเงินกับป้าต้อย กับย่ากันตอนบ่าย “โดนแพรวบ่นไปอีกทั้งสองคน พร้อมถักเปียให้น้องสาวอย่างหน้าเอ็นดู บอสปรายตามองเธอไม่ค่อยจะใส่ใจมากนัก อย่างว่านั่นแหละ สองฝาแฝดไม่มีน้องสาวหนิ เธอนี่เบื่อชะมัด
พี่เม้าส์มาถึงก็ไม่มีอะไร นั่งเล่นคุยกันตามประสา พิมพ์ก็คุยโทรศัพท์กับแฟน จ๋อมก็นั่งเล่นมือถือบนเปล อยู่มุมใครมุมมัน ขอแค่ได้มารวมตัวกันก็พอ พี่เม้าส์นั่งเล่นเกมโทรศัพท์ที่โต๊ะม้าหินอ่อนกับแพรว นั่งดูแพรวถักเปียให้น้องบีม และก็เถียงกับน้องบีม พอแพรวถักเสร็จน้องบีมก็รีบวิ่งแจ้นกลับบ้านไปเปลี่ยนชุดตามที่แพรวบอก กลับมาก็ดูดีเปลี่ยนเป็นคนละคนกับเมื่อสักครู่ไปเลย ก็น่ารักดี
บรรยากาศถึงจะร้อนแต่ก็สบายใจ มีความสุข อาจเป็นเพราะเสียงเทศน์เสียงกลองยาวทำให้เพลิดเพลินใจก็ได้ พากันนั่งเล่นที่หน้าบ้าน มีลมพัดโกกเข้ามาเป็นระยะ ก็ทำให้รู้สึกเย็นสบายดี ตอนนี้ห้าโมงเช้า เดี๋ยวช่วงบ่ายพวกเธอจะเดินไปถวายปัจจัยทำกฐินกับป้าต้อยกัน และจะไปแห่กับป้าต้อยด้วย ส่วนคุ้มของเธอ เป็นคนอื่นทำ เธอไม่ใส่ใจปล่อยให้เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ พี่เม้าส์ไม่สะใจก็เดินไปซื้อเบียร์มากินคนเดียว
“เราทำอะไรกินกันมั้ย กินยำมั้ยบีม หรือจะกินแต่หนมจีนนี่บ่” แพรวหันมาคุยกับน้องบีม ลูบผมถักเปียของน้องบีมด้วยความเอ็นดู เพราะนั่งโต๊ะติดกันที่โต๊ะม้าหินอ่อน รวมทั้งเธอกับจ๋อมกับพี่เม้าส์ด้วยที่นั่งด้วยกัน ยกเว้นพิมพ์แยกตัวไปนั่งเปล
“กิน น้องบีมกินอยู่พี่แพรวทำเลย” น้องบีมตอบ ในปากก็ยังเคี้ยวขนมอยู่ พร้อมมีแก้วน้ำอัดลมวางตรงหน้า นี่ยังไงล่ะถึงอยากตามเธอมาเล่นด้วย ไม่ยอมไปเล่นกับเพื่อนตัวเอง เพราะจะได้กินขนมแบบนี้อย่างไร
สุดท้ายก็ต้องได้พากันทำยำวุ้นเส้นกิน พร้อมส้มตำทำเอง เพื่อนพี่เม้าส์ก็มาได้เวลามาก พี่เอ็กซ์กับอุ้มขับรถมาหาพวกเธอที่บ้าน พี่เจก็มาถึงพอดี พี่บอมพี่โจก็แวะมาเล่นด้วย เมื่อสมาชิกเพิ่มขึ้นมันก็ต้องหาอะไรทานเพิ่ม และเครื่องดื่มก็ต้องเพิ่มด้วย ทั้งน้ำแข็งน้ำอัดลม
“น้องบีมไปซื้อน้ำแข็งกับน้ำอัดลมนะพี่แพรว” น้องบีมขออาษาเอง เพราะจะเอาเงินทอนซื้อขนมของตัวเองอย่างไรล่ะ
“บีมไม่ต้องไป ให้พี่เค้าไป พี่เม้าส์จะไปซื้อเอง” บอสห้ามน้องไว้ จะเดินหิ้วอะไรนักหนา รอบนี้ซื้อของมาตั้งเยอะ หนักจะตาย อีกทั้งต้องหาซื้อของมาทำกับแก้มเพิ่มอีก บอสจึงไม่ให้น้องไป เพราะพี่เม้าส์กับแพรวจะไปเอง
“ฮ่า กะจะเอาเงินทอนซื้อขนมน่ะสิ บีมน้อยเอ้ย” จ๋อมแซวน้องบีม น้องบีมก็ไม่สะทกสะท้าน ไม่ให้ไปก็ไม่ไป นั่งทานขนมต่อ กินทั้งวันกันเลย อีกทั้งข้าวเกรียบปิ้งที่แสนอร่อย ทำเอง
คิดถึง 2 บทที่ 42
.
“แม่บอสเอาบุญเดือนสี่ก่อนนะ บอสถึงจะพาน้องบีมไปหาแม่” บอสคุยโทรศัพท์กับแม่เช่นทุกวัน หนุ่งทุ่มแม่จะโทรมาหา มาคุยด้วย เป็นกิจวัตรประจำวันไปแล้ว
“บุญบ้านเราวันไหนลูก” แม่ถาม “อยากกินข้าวเขียบเด้ เอามาฝากแม่ด้วยนะ”
“วันที่ห้าวันที่หก วันที่เจ็ดบอสเตรียมกระเป๋า วันที่แปดถึงจะไปนะ พี่แป้งก็ไป พี่บอมกับพี่บอลไม่ไป พี่ปาวก็ไม่ไป เพราะต้องเตรียมตัวเข้ามหาลัยอ่ะ” บอสบอกรายละเอียดแก่ผู้เป็นแม่ “แม่แค่นี้ก่อนนะ บอสไปดูหนังก่อน อ่ะคุยกับน้องบีม” แล้วเธอก็ยื่นโทรศัพท์ให้น้องสาวไปคุยต่อ
พรุ่งนี้ก็บุญเดือนสี่ เรียกบุญมหาชาติก็ได้ ที่บ้านของเธอยายทำข้าวเกรียบเอง สั่งขนมจีนไว้หลายโล เห็นว่าเพื่อน ๆ ต่างหมู่บ้านของพี่ปาวพี่แป้งจะมาเที่ยวหาด้วย ยายจึงสั่งไว้หลายโลพอสมควร ยายทำน้ำขนมจีนป่าอร่อยมาก...
เดือนมีนาคมตามฮีตสองคองสิบสี่ ที่หมู่บ้านของเธอจะจัดงานบุญเดือนสี่ขึ้นเป็นประจำทุกปี หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งคือ บุญเผวด นับตามเดือนลาวแล้ว เดือนมีนาคมเป็นเดือนสี่ของชาวอิสาน เผวดหรือพระเวชสันดรชาดกนั่นแหละ เป็นบุญประจำเดือน ตามประเพณีอิสาน แต่ละเดือนจะมีงานบุญ หรือพิธีกรรมต่าง ๆ เกิดขึ้น พอบุญเดือนสี่เสร็จ ก็จะเป็นบุญเดือนห้า ซึ่งก็คือสงกรานต์นั่นเอง
บุญเผวดจะมีการเทศน์ทั้งวันทั้งคืน มีการแห่อุปครุฑ มีการแห่กัณหาชารี และมีการแห่ต้นดอกเงินทั้งวันกันเลย แห่เป็นคุ้มของใครของมัน แห่รอบศาลาวัด ส่วนแห่อุปครุฑคือทำพิธีเชิญนาคมาบวช ต้องไปทำพิธีที่สระสาธารณะของหมู่บ้าน และสระนั้นมันก็อยู่ละแวกคุ้มของเธอ อยู่ที่นาของยายเรือง มีการจับฉลากเสี่ยงทายชะตาชีวิตครอบครัว เรียกว่าการจกกันณท์! ซึ่งในหมู่วัยรุ่นชอบเอามาพูดล้อส่อเสียด เช่น “ปะเราไปจกกัน อะไรแบบนี้ ขำขันกันไป”
นอกจากนั้นยังมีการทำข้าวเกรียบมาถวายวัดด้วย น้ำข้าวสาร สมุด ปากกา และธงเส้นด้าย นำมาประดับตกแต่งศาลา ส่วนสำคัญของบุญคือ ผ้าเผวด จะขาดไม่ได้เลย นำมาขึงตามผนังศาลาวัด แล้วพระท่านจะเทศน์ตามกัณฑ์นั้น ๆ มีพระหมู่บ้านอื่นมาช่วยเทศด้วย สลับกันไปจนสิ้นสุดพิธีกรรม
ตอนเด็ก ๆ บอสชอบมาก เป็นอีกบุญประเพณีที่บอสชอบที่สุด ได้กินทั้งข้าวเกรียบ ได้กินทั้งขนมจีนน้ำยา ไปเดินแห่เผวดกับตาทั้งวัน เพราะตาเป็นคณะกลองยาว ตาก็ต้องตีกลองแห่ต้นดอกเงินที่แต่ละคุ้มนำมาถวาย บอสก็เดินตาม กับน้องบีมกับพิมพ์แพรวจ๋อมด้วยอยู่อย่างนั้น นึกถึงตอนเด็ก ๆ ก็สนุกดี ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เดินแห่รอบศาลาวัดกับตาได้ทั้งวันพอ ๆ กับผู้ใหญ่กันเลย
ปีนี้เธอโตแล้ว ยังตื่นเต้นกับประเพณีประจำปีเหมือนเดิม ทว่าคงไม่ไปเดินแห่เหมือนสมัยก่อน นั่งฟังพระเทศน์ ฟังเสียงกลองยาวที่บ้านแทนก็ได้ งานบุญแบบนี้พวกเธอก็ต้องชุมนุมกัน ฐานปฏิบัติการก็เป็นบ้านของสองฝาแฝดเช่นเดิม เหมาะที่สุด พี่เม้าส์ก็มาหาแพรวที่บ้าน และเพื่อน ๆ พี่เม้าส์สองสามคน ล้วนแต่สนิทกันทั้งนั้น
เช้านี้ยายใช้ให้เธอกับพี่ปาวไปจกกัณฑ์ หรือจับฉลาก โดยยายเตรียมแซงมะพร้าวน้ำหอม มีลูกอยู่สี่ห้าลูกพร้อมกระสอบข้าวสารไปด้วย ข้าวเกรียบหลายแผ่นพอสมควรไปบริจาคให้กับทางวัด เธอกับพี่ปาวขับรถมอเตอร์ไซค์กันไป ทั้งที่วัดอยู่ใกล้แค่นี้จะเดินไปกันก็ได้ พี่ปาวไม่พาเดิน ขับรถไปดีกว่า ยายบ่นตามหลังมาได้ยินเสียงร่ำไร ก็ไม่สนใจ
ภายในบริเวณวัดมีผู้คนมากมาย ที่กำลังมาจกกัณฑ์ แม่ครัวทำหน้าที่ทำอาหารต้อนรับแขก กรรมการวัด มัคนายก กำลังทำหน้าที่ของตนอย่างตั้งใจ ส่วนเจ้าอาวาสกำลังเทศน์บทเทศน์บุญเผวดอยู่บนธรรมมาสในศาลาวัด
“มาจกกัณฑ์ให้ยายจ้า” บอสเป็นคนเดินไปหาผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 พร้อมลงชื่อเป็นชื่อยายว่านำอะไรมาบริจาคบ้าง
“นู่นนางปาว เอาวางไว้ตรงนู้นลูก” ผู้ใหญ่บ้านหมู่หนึ่งชี้มือไปที่มุมเก็บของ บอกให้พี่ปาวนำของที่นำมาบริจาคไปวางไปตรงนู้น และตรงกลางจะมีต้นโพธิ์ให้จับฉลาก บอสให้พี่ปาวเป็นคนจกกันฑ์ พอจับฉลากได้ก็นำไปให้ผู้ใหญ่บ้านหมู่สองประกาศว่ายายของเธอได้กัณฑ์อะไร และรอฟังพระเทศน์กัณฑ์นั้น จะเป็นศิริมงคลแก่ชีวิต
เมื่อเสร็จธุระเรียบร้อย บอสกับพี่ปาวก็พากันขับรถกลับบ้าน เล่าให้ยายฟังว่าได้กัณฑ์อะไร เป็นกัณฑ์ที่ไม่น่าจะดี เพราะได้ยินยายบ่นว่าจะได้ทำกระทงทำพิธีอะไรสักอย่างนี่แหละ รอตามาก่อน
บอสไม่ได้ใส่ใจ กลับมาถึงบ้านก็ขอยายไปเล่นที่บ้านแพรวเลย น้องบีมขอตามไปเล่นด้วยคน ไม่ยอมไปเล่นกับเพื่อนของตัวเองเลย บอสก็ไม่ห้าม ถือเป็นเรื่องปกติ สองพี่น้องถือชามน้ำยาขนมจีนมาด้วย เป็นน้ำยาป่ารสเผ็ดที่ยายทำ บ้านของเธอกินน้ำยาป่ากัน น้ำยาปลาดุกใส่ปลาร้าอร่อยที่สุด เธอถือไปให้ป้าแพงชิมเฉย ๆ นี่แหละ
มาถึงบ้านแพรว พวกเธอก็ออกมานั่งเล่นข้างนอก ที่หน้าบ้านรอจ๋อมกับพี่เม้าส์ ป้าแพงถามเรื่องจกกัณฑ์กับเธอนิดหน่อย ป้ายังไม่ทันได้ไปเลย เดี๋ยวสักพักก็จะไปแล้ว พิมพ์ถือถาดขนมจีนและชามน้ำยาออกมาต้อนรับ ใช้น้องบีมไปซื้อน้ำอัดลมและขนมขบเคี้ยวที่ร้านค้าของป้ามาแจมด้วย อยากมาเล่นด้วยก็ต้องโดนใช้แบบนี้แหละ ส่วนแอลกอฮอล์ถ้าพี่เม้าส์อยากกินก็ไปซื้อเอาเอง
สี่คนพี่น้องนั่งฟังพระเทศน์บุญเผวดอย่างสบายใจ ทานขนมจีนไปพร้อม พระเทศน์ก็ฟังเพลินเหมือนกัน โดยที่วันนี้พวกเธอไม่ต้องเปิดวิทยุฟังกันเลย นอกจากเสียงเทศนาแล้วยังมีเสียงกลองยาว ฟังเพลินไปอีก ไม่นานจ๋อมก็ขับรถมาหาพวกเธอ ครบแก๊งกันแล้ว เหลือก็แต่พี่เม้าส์ที่ยังไม่มา อีกไม่นานก็คงมาถึง
“เด็ก ๆ อย่าลืมไปปักต้นดอกเงินที่บ้านย่านะ ทำบุญลูก ชีวิตจะได้มีแต่ความสุข” ป้าแพงบอกพวกเธอ ป้าแต่งตัวดูดีมาก ๆ ใส่ผ้าซิ้นผืนใหม่ เสื้อคอกระเช้าลายลูกไม้สีเหลืองอ่อน น่าจะไปวัดนั่นแหละ “แพรวแม่ไปวัดก่อนนะลูก เดี๋ยวสาย ๆ พี่เจก็น่าจะมาถึง” ส่วนลุงวิทย์ไปช่วยงานที่วัดตั้งแต่เมื่อเช้า
“จ้า” พวกเธอตอบรับคำป้า แล้วป้าก็เดินไปวัด เดินไปทางบ้านของย่า คุ้มของแพรวอยู่คุ้มเดียวกันกับย่า ที่บ้านนั้นกำลังทำต้นดอกเงินกันอยู่ ปีนี้ไม่รู้บ้านไหนจกกัณฑ์ได้กัณหากับชารี และไม่รู้ว่าบ้านไหนจกกัณฑ์ได้เป็นพราหมณ์ท้องแตก มันไม่ตื่นเต้นเหมือนตอนเด็ก ๆ ที่ต้องตามไปดู ทว่ามันก็ลุ้นในใจอยู่ดี
“น้องบีมมานี่พี่แพรวถักเปียให้” แพรวเรียกน้องบีมให้มานั่งตรงหน้า น้องบีมสวมกางเกงเจเจขาสั้น เสื้อยืด ผมสั้นหน้าม้าผมฟูนิดหน่อย ไม่ได้ใส่ใจในการแต่งตัวนัก “โอยทำไมไม่แต่งตัวสวย ๆ หน่อย วันนี้บุญบ้านเรานา มาพี่แพรวถักเปียให้ แล้วไปเปลี่ยนใส่ชุดสวยนะ อี่บอสมืงก็ไม่แต่งตัวให้น้องบ้างน้อ” น้องบีมเดินมานั่งให้แพรวถักเปียให้อย่างว่าง่าย ถักเปียกก้างปลา ก็สวยดีดูเป็นผู้เป็นคนขึ้นมาหน่อย
“เอ้า ก็มันอยากใส่ชุดนี้น้อ” เธอไม่ใด้ใส่ใจ อยากใส่อย่างไรก็ใส่ไปเลย “บีมไปใส่ชุดที่ซื้อตอนไปกาชาดไป พี่ซักแล้ว อยู่ในตู้นั่นแหละ “
“เดี๋ยวถักเปียเสร็จก่อน” น้องบีมตอบ พร้อมเคี้ยวขนมเกียบกุ้งที่ซื้อมาไม่หยุดปาก “นู้นพี่เม้าส์มาแล้ว” น้องบีมชี้ให้ทุกคนดู พี่เม้าส์ขับรถมอเตอร์ไซค์เข้ามาจอดหน้าบ้าน เดินเข้ามาอย่างคนคุ้นเคย
“แม่กับพ่อไปไหนแพรว” พี่เม้าส์ถาม เดินมาหยิบน้ำแข็งใส่แก้ว พร้อมเทน้ำโค๊กดื่ม และหยิบขนมของน้องบีมกินอย่างอร่อย
“พี่เม้าส์กินขนมน้องบีมทำไม! ฮ่วย!” น้องบีมร้องห้าม กัดริมฝีปากใส่พี่เม้าส์ หน้าตาขึงขังจริงจังจะเอาเรื่อง ก็ดันมากินขนมที่เธอแกะแล้ว อย่างอื่นมีตั้งมากมายไม่เลือกกิน
“บีมขนมมีตั้งเยอะแยะน่า นิสัยนะ!” บอสดุน้อง สองคนนี้เป็นคู่กัดกันประจำ เจอกันหน่อยไม่ได้ ต้องได้แกล้งสักหน่อยถึงจะกลับไปนอนหลับฝันดีได้
“บีม ๆ ฮา” พี่เม้าส์ไม่ยอมหยุด แถมยังกินขนมของน้องบีมเยาะเย้ยไปอีก เคี้ยวกรุบกริบอย่างน่าเอร็ดอร่อยล้อต่อหน้าต่อตา น้องบีมได้แต่จ้องตาเขม่น ทำอะไรไม่ได้ เพราะแพรวกำลังถักเปียให้อยู่
“ชิ! ซื้อใหม่ก็ได้ เอาเงินมาเลยนะ น้องบีมจะไปซื้อใหม่” พร้อมชี้หน้าพี่เม้าส์ จ้องหน้าขึงตาใส่ ทว่าพี่เม้าส์ก็ไม่ถือสา แถมยังถือเป็นเรื่องตลกไปอีก แพรวหัวเราะ พี่เม้าส์ก็ขำ
“แพรว เอาเงินมาเลยนะว่าสั้น เอ๋า ขนมมีตั้งเยอะ จะซื้อใหม่ทำไมล่ะบีม หนมจีนก็มี” พี่เม้าส์หันไปคุยกับแพรว พูดล้อน้องบีม
“ก็พี่เม้าส์กินของน้องบีมหมดอ่ะ”
“หมดอะไรกินชิ้นเดียวเอง” พูดพร้อมหยิบขนมเกรียบกุ้งของน้องบีมกินโชว์ไปอีก ทั้งสองคนเถียงกันไปเถียงกันมาไม่หยุดปาก ชี้มือชี้ไม้ให้กันทว่าก็ทำอะไรไม่ได้ นี่ถ้าแพรวไม่ถักเปียกให้อยู่ คงได้ต่อยกันไปแล้ว
“ บีมอยู่นิ่ง ๆ หน่อยจะเสร็จแล้วเนี่ย พี่เม้าส์ก็ไปกินของน้องทำไม แกล้งมันอยู่ได้ และก็ถักเสร็จแล้วไปเลยนะ ใส่ชุดสวย ๆ เดี๋ยวเราจะไปแห่ต้นดอกเงินกับป้าต้อย กับย่ากันตอนบ่าย “โดนแพรวบ่นไปอีกทั้งสองคน พร้อมถักเปียให้น้องสาวอย่างหน้าเอ็นดู บอสปรายตามองเธอไม่ค่อยจะใส่ใจมากนัก อย่างว่านั่นแหละ สองฝาแฝดไม่มีน้องสาวหนิ เธอนี่เบื่อชะมัด
พี่เม้าส์มาถึงก็ไม่มีอะไร นั่งเล่นคุยกันตามประสา พิมพ์ก็คุยโทรศัพท์กับแฟน จ๋อมก็นั่งเล่นมือถือบนเปล อยู่มุมใครมุมมัน ขอแค่ได้มารวมตัวกันก็พอ พี่เม้าส์นั่งเล่นเกมโทรศัพท์ที่โต๊ะม้าหินอ่อนกับแพรว นั่งดูแพรวถักเปียให้น้องบีม และก็เถียงกับน้องบีม พอแพรวถักเสร็จน้องบีมก็รีบวิ่งแจ้นกลับบ้านไปเปลี่ยนชุดตามที่แพรวบอก กลับมาก็ดูดีเปลี่ยนเป็นคนละคนกับเมื่อสักครู่ไปเลย ก็น่ารักดี
บรรยากาศถึงจะร้อนแต่ก็สบายใจ มีความสุข อาจเป็นเพราะเสียงเทศน์เสียงกลองยาวทำให้เพลิดเพลินใจก็ได้ พากันนั่งเล่นที่หน้าบ้าน มีลมพัดโกกเข้ามาเป็นระยะ ก็ทำให้รู้สึกเย็นสบายดี ตอนนี้ห้าโมงเช้า เดี๋ยวช่วงบ่ายพวกเธอจะเดินไปถวายปัจจัยทำกฐินกับป้าต้อยกัน และจะไปแห่กับป้าต้อยด้วย ส่วนคุ้มของเธอ เป็นคนอื่นทำ เธอไม่ใส่ใจปล่อยให้เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ พี่เม้าส์ไม่สะใจก็เดินไปซื้อเบียร์มากินคนเดียว
“เราทำอะไรกินกันมั้ย กินยำมั้ยบีม หรือจะกินแต่หนมจีนนี่บ่” แพรวหันมาคุยกับน้องบีม ลูบผมถักเปียของน้องบีมด้วยความเอ็นดู เพราะนั่งโต๊ะติดกันที่โต๊ะม้าหินอ่อน รวมทั้งเธอกับจ๋อมกับพี่เม้าส์ด้วยที่นั่งด้วยกัน ยกเว้นพิมพ์แยกตัวไปนั่งเปล
“กิน น้องบีมกินอยู่พี่แพรวทำเลย” น้องบีมตอบ ในปากก็ยังเคี้ยวขนมอยู่ พร้อมมีแก้วน้ำอัดลมวางตรงหน้า นี่ยังไงล่ะถึงอยากตามเธอมาเล่นด้วย ไม่ยอมไปเล่นกับเพื่อนตัวเอง เพราะจะได้กินขนมแบบนี้อย่างไร
สุดท้ายก็ต้องได้พากันทำยำวุ้นเส้นกิน พร้อมส้มตำทำเอง เพื่อนพี่เม้าส์ก็มาได้เวลามาก พี่เอ็กซ์กับอุ้มขับรถมาหาพวกเธอที่บ้าน พี่เจก็มาถึงพอดี พี่บอมพี่โจก็แวะมาเล่นด้วย เมื่อสมาชิกเพิ่มขึ้นมันก็ต้องหาอะไรทานเพิ่ม และเครื่องดื่มก็ต้องเพิ่มด้วย ทั้งน้ำแข็งน้ำอัดลม
“น้องบีมไปซื้อน้ำแข็งกับน้ำอัดลมนะพี่แพรว” น้องบีมขออาษาเอง เพราะจะเอาเงินทอนซื้อขนมของตัวเองอย่างไรล่ะ
“บีมไม่ต้องไป ให้พี่เค้าไป พี่เม้าส์จะไปซื้อเอง” บอสห้ามน้องไว้ จะเดินหิ้วอะไรนักหนา รอบนี้ซื้อของมาตั้งเยอะ หนักจะตาย อีกทั้งต้องหาซื้อของมาทำกับแก้มเพิ่มอีก บอสจึงไม่ให้น้องไป เพราะพี่เม้าส์กับแพรวจะไปเอง
“ฮ่า กะจะเอาเงินทอนซื้อขนมน่ะสิ บีมน้อยเอ้ย” จ๋อมแซวน้องบีม น้องบีมก็ไม่สะทกสะท้าน ไม่ให้ไปก็ไม่ไป นั่งทานขนมต่อ กินทั้งวันกันเลย อีกทั้งข้าวเกรียบปิ้งที่แสนอร่อย ทำเอง