วันวาน 19

กระทู้สนทนา

.


               ถ้าถามว่าไม่มีเงินคุณสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้ไหม คนเมืองคงตอบว่าอยู่ไม่ได้แน่นอน และความจริงมันก็เป็นเช่นนั้น ส่วนคนชนบทคงตอบว่าอยู่ได้ แถมยังสบายมาก ฉันเองก็เชื่อเช่นนั้น เพราะครอบครัวของฉันตอนเด็ก ๆ ไม่จำเป็นแทบจะไม่ต้องเสียเงินไปกับค่าใช้จ่ายในส่วนของการซื้อกับข้าวเลย เพราะธรรมชาติจัดสรรมาให้เรียบร้อย

                เคยได้ยินสุภาษิตนี้กันไหม ‘ทรัพย์ในดินสินในน้ำ’ นั่นแหละ ชีวิตชนบทอยู่กับสุภาษิตนี้ได้จริง ๆ ยิ่งเป็นหน้าฝน ยิ่งแทบไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายไปกับค่ากับข้าวเลย ครอบครัวของฉันก็เป็นหนึ่งในนั้น

               เชื่อว่าเด็กชนบททุกคน โดยเฉพาะภาคอีสานจะต้องรู้จักดี และ รู้วิธีการจัดการมันด้วย

                เรื่องมีอยู่ว่า…..

                สองสามวันมานี่ฝนตกเกือบตลอดทั้งวัน พึ่งจะซาลงและหยุดไปได้เพียงวันเดียว แสงแดดเริ่มออกมาให้ความอบอุ่นแก่มนุษย์ และสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย ตาบอกว่าปีนี้ฝนดีกว่าทุกปี ช่วงฝนตกทำให้สัตว์บางชนิดอพยพหนีน้ำเพื่อเอาตัวรอด จิ้งหรีดเรไรออกมาส่งเสียงร้องกันระงม

               ตัวร้ายที่สุดของการสร้างความรำคาญให้แก่มนุษย์ ในช่วงตอนกลางคืนคือ ‘จี่โป่ม’ หลังฝนตกพวกมันจะสร้างบ้าน หรือ สร้างรูของมันขึ้นมาใหม่ แทนรูเก่าที่โดนฝนชะล้างไป พอตกกลางคืนพวกมันจะพากันส่งเสียงร้องสร้างความรำคาญมาก

              ที่บ้านของบอสมีเนื้อที่ที่เหลือจากการปลูกบ้านกว้างพอสมควร ยายจัดสรรแบ่งพื้นที่ปลูกผักสวนครัวบ้าง ปลูกกล้วย และ มะม่วงบ้าง ทำให้จี่โป่มมันมีพื้นที่ในการสร้างรู แต่ไม่มากพอหากจะขุดมาประกอบอาหาร นอกจากพื้นที่ในสวนแล้ว บริเวณหน้าบ้านพวกมันยังกล้าขุดรูเพื่อมาอาศัยอยู่ แถมยังส่งเสียงร้องจนปวดแก้วหูให้อีกด้วย

                คืนนี้เป็นอีกคืนที่พวกเธอต้องทนรำคาญกับเสียงร้องของสัตว์ชนิดนี้ ที่หน้าบ้านของบอสจะมีรูจี่โป่มอยู่สามกอง มันจะสร้างขึ้นเป็นเนินดินเล็ก ๆ ด้านในมันจะขุดเป็นรูเพื่ออาศัยอยู่ เพียงสามรู สามตัว ก็สร้างความรำคาญให้ที่บ้านไม่น้อย

                “กิโป่มคือหลายแถะ พากันไปนาหาก่นแนเป็นหยังเสาร์อาทิตย์” ยายกล่าวอยู่บนกี่ทอผ้า ระหว่างรอเวลาละครหลังข่าว ยายมักจะมานั่งทอผ้าเสมอ ตานั่งเหลาตอกของตาในบ้าน บอสออกมานั่งไกวเปลเป็นเพื่อนยาย พี่ ๆ ดูโทรทัศน์อยู่ ส่วนน้องบีมก็วิ่งเข้าวิ่งออกในบ้านโดยไม่กลัวร้อนเลย

               “ไปก่นไสยาย” บอสถามยาย ทั้งไกวเปลไปด้วย นาทีนี้สบายใจที่สุดเนื่องจากไม่มีใครออกมาแย่งเปลนั่ง แต่ไม่นานน้องบีมคงออกมาขอนั่งด้วยแน่

                “กะนาเฮานั่นเด้มาสิอึดสิยาก ฝนตกเซาใหม่จังสิอ้นคือหยังหนิ ไฮมันพ่อใหญ่ป้อดแฮงหลาย เพิ่นกู้มันออกล่ะ” ระหว่างที่เธอกับยายคุยกัน เสียงจี่โป่มก็ดังระงมแทรกเข้ามาไม่ขาดระยะ “ห่าหนิกะจะแมนฮ้องดี้ดีเด้ อยากไล่หู” ยายบ่นให้ตัวจี่โป่ม ที่มันร้องไม่หยุดในขณะนี้

               บอสหัวเราะท่าทางของยาย บอสมองตามเสียงร้องของมัน สายตาไปปะทะเข้ากับขวยของมันเข้าพอดี เห็นกองดินเล็ก ๆ อยู่ใกล้ ๆ เสาบ้าน อยู่ถัดจากกี่ของยายไปนั่นเอง

                “นั้นเด้ยายขวยมัน” บอสชี้มือบอกยาย เห็นต้นตอที่มาของเสียงร้องอันแสบแก้วหูแล้ว ขณะนั้นน้องบีมก็วิ่งออกมาจากในบ้านพอดี

                “บีมไปเอาน้ำมาฮายกิโป่มแนน้า มันมาฮ้องตายมันแถะ” ยายสั่งน้องบีม “ฮ่ายไว้ถ่ากี่กิน แซ่บคือหยังกิโป่มยามหนิ มันไข่แล้ว”

                “กิโป่มอยู่ไสอี่ยาย?” น้องบีมถาม เดินไปนั่งบนไม้แป้นกี่กับยาย โดยไม่กลัวว่าไม้สวยจะโดนหัวคิ้วเอาเสียเลย

                “มานั่งเคืองคนหยัง ไม้สวยถืกหัวเด้” ยายเตือนน้องบีม “นั่นเด้ขวยมันเห็นบ่พุ่น อยู่เสาต้นพุ่นไปเอาน้ำมาฮ่ายไป” นี่เป็นวิธีกำจัดตัวจี่โป่มของยาย โดยการนำน้ำมาเทใส่ในรูหรือขวยของมัน พอน้ำเต็มรูแล้ว มันก็จะไต่ขึ้นมายังพื้นดินเอง โดยไม่จำเป็นต้องออกแรงใช้เสียมขุดให้เหนื่อย

                “บีมปะเอาน้ำมาฮ่ายปะ” บอสนึกอยากทำด้วย ถ้าได้ตัวจี่โป่มจะเก็บไว้ย่างในตอนเช้า

                “ปะ” น้องบีมเอาด้วย พวกเธอสองคนพี่น้องเดินเข้าไปในบ้าน นำถังไปตักน้ำเพื่อมาเทใส่รูจี่โป่มที่ว่า

                “ยายฮ่ายจังใด เทน้ำใส่เลยบ่” บอสถามขั้นตอนเพราะยังไม่เคยทำเลย

                “เขี่ยขวยมันออกจักนอยแล้วเทน้ำใส่เลย อย่าเอามือไปจกเด้อ เทือมีงูมีแง้วอยู่ในนั้น ถ่ามันไต่ขึ้นมาเอง” ยายบอกขั้นตอนในการทำ พอฟังจบบอสก็จัดการทำตามทันที ใช้รองเท้าเขี่ยเนินดินเล็ก ๆ ออก หารูของจี่โป่ม พอเจอรูแล้วก็เทน้ำลงไปในรู แน่ใจว่าเต็มแล้วจึงหยุดเท และรอเวลาให้ตัวจี่โป่มมันไต่ขึ้นมา

                ปฏิบัติการกำจัดจี่โป่มครั้งแรกของบอสกับน้องบีมถือว่าสำเร็จ มันไต่ขึ้นมาจากรูจริง ๆ ตัวอ้วนมาก บอสรีบใช้มือคุบตัวมันเอาไว้ด้วยความตื่นเต้น จับมันขึ้นมาชูอวดยาย

               “อี่ยายเบิ่ง บอสได้แล้ว มันไต่ขึ้นมา” บอสพูดปนยิ้ม อย่างคนดีใจที่จับตัวจี่โป่มได้ น้องบีมก็ด้วยอีกคน มีท่าทางดีใจกับเธอไปด้วยไม่แพ้กัน

                “นั่นล่ะเอาใส่ขวดไว้ ไว้กี่มื้ออื่น” ยายแนะนำ หาอีกเทือมีขวยอื่น” บอสกลับเข้าไปในบ้านนำขวดน้ำเปล่ามาใส่ตัวจี่โป่มเอาไว้

                “ปะบีมย่างหาขวยกิโป่มอีก” บอสติดใจ ชวนน้องสาวเดินหา อย่างน้อยก็ขอให้เจออีกขวย จะได้แบ่งกันคนละตัวกับน้องสาว หากจะย่างตัวเดียวแล้วแบ่งกันคงไม่อิ่มแน่ เพราะตัวของมันเล็กนิดเดียว

                พวกเธอสองคนพี่น้องช่วยกันเดินหาในเขตบริเวณหน้าบ้าน ได้ยินเสียงของพวกมันร้องเซ็งแซ่แต่หาขวยไม่เจอ แถมตัวที่จับได้ก็ยังส่งเสียงร้องในขวดให้ได้ยินอีก โชคดีที่พวกเธอเดินหาจนเจออีกขวย มันซ่อนอยู่ที่ประตูบ้านอีกฝั่ง

                บอสกับน้องบีมก็นำน้ำเทใส่รูของมันจนได้มาอีกตัว พวกเธอตื่นเต้นและดีใจมาก อย่างน้อยพรุ่งนี้ก็ได้ย่างกินคนละตัวล่ะ บอสนึกได้ว่าควรไปหาที่บ้านของป้าลีด้วย จึงชวนน้องบีมไปเดี๋ยวนั้นเลย

                มาถึงก็ไม่ผิดหวัง มีขวยจี่โป่มให้ได้จับอีกหนึ่งขวย ทว่าไม่มีปัญหาในการแบ่งแน่นอน ตัวที่สามแบ่งกันคนละครึ่งก็ได้ ไม่นานยายก็เรียกให้เข้าบ้านเพราะดึกแล้ว ละครหลังข่าวเริ่มเล่นแล้ว ยายจึงเรียกพวกเธอให้กลับมา

                “เสาร์อาทิตย์ไปหาก่นอยู่ไฮใหญ่ป้อดมาคั่วเฮา ยายสิพาไป พากันไปหาก่นเด้อ” ยายบอกกับพี่ ๆ พวกเธอตกลงว่าจะไปด้วยกันหมดทั้งบ้านเลย จะได้ตัวจี่โป่มมาเยอะ ๆ

                …………………………………………

                วันเสาร์เวียนมาถึงอีกครั้ง โชคดีที่ฝนไม่ตก ยายบอกจะพาพวกเธอไปนา เพื่อไปหาขุดจี่โป่มมาทำกับข้าว จุดหมายคือนาของตาป้อดที่อยู่ติด ๆ กับนาของเธอเอง

                ยายเตรียมเสียมและข้องให้กับพี่ ๆ คนที่ยายไหว้วานคือพี่ปาวกับพี่บอม ส่วนพวกเธอสี่คนตามอัตภาพ ยายไม่คาดหวังอะไรด้วยอยู่แล้ว แต่ก็ยังเตรียมเสียมให้คนละด้าม แม้แต่น้องบีมก็ยังได้อุปกรณ์

                “ก่นเก่ง ๆ เด้อ ให้มันได้พอคั่ว” ยายพูดกับหลานสาวคนเล็ก รอยยิ้มผุดขึ้นบนใบหน้า พูดขณะสวมเสื้อแขนยาวให้กับน้องบีม เสียมด้ามเล็ก ๆ ที่ตาทำไว้ให้ กลายเป็นเสียมประจำตัวของน้องบีมไปแล้ว ใบมีดของเสียมไม่คมนัก ยายจึงไว้ใจให้น้องบีมใช้ขุด

                “ยายก่นจักโตจังพอ” น้องบีมถาม

                “สิบโต” ยายตอบน้องบีมแบบไม่รำคาญ “คนละสิบโต หกคนกะหกสิบโตพอกินแล้ว”

                “หาโตได้บ่ยาย?” น้องบีมต่อรอง สองยายหลานคุยกัน

                “ฮ่วยมันหน่อยโพด บ่พอกิน สิบโตจังพอ” ยายก็ยังคุยเล่นกับน้องบีมโดยไม่รำคาญ พอน้องบีมแต่งตัวเสร็จ พวกเธอก็พากันเดินทางไปนา วันนี้ยายพาเดินไปตามถนน ไม่ลัดเลาะไปตามคันนาเช่นทุกรอบเพราะลำบาก กว่าจะข้ามฝายได้ใช้เวลานาน

                ระหว่างทางที่เดินไปนามีแต่คนพูดทักทายยายไม่ขาดระยะ สำหรับคนที่มีบ้านติดถนน บ้างก็แซวน้องบีม เอ็นดูในความมุ่งมั่นที่จะไปขุดจี่โป่มของน้องบีมกัน น้องบีมจะเป็นคนถูกโดนทักถามเสียส่วนใหญ่ในระหว่างเดินทาง

                ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงนาของเธอ ตอนนี้กล้าในนาเขียวขจี ยายกับตายังไม่ถอนไปดำ มันยังไม่โตพอ ส่วนตาก็พาวัวไปเลี้ยงเล็มหญ้าอยู่กลางนานู่น

                “ไปฮั่น พากันไปก่นอยู่ไฮ่มันใหญ่ป้อดพุ่น ยายสิเฮ็ดนำฮั่วนำสวน” ยายบอกกับพวกเธอ “ก่นนำไฮ่นากะก่นโลดเราบ่ฮ่ายหรอก ว่าตะอย่าไปก่นคันแทนาเรา กับอย่าไปเหยียบไฮ่ตากล้าเรากะพอ” ยายกำชับ

                “จ้า” พี่ปาวรับคำ จากนั้นก็เดินนำพาพวกเธอไปยังนาของตาป้อด ขณะนี้เจ้าของไม่มีใครมานาเลยสักคน มีเพียงพวกเธอหกคนพี่น้องที่อยู่ที่นี่

                ไร่มันสำปะหลังของตาป้อดถูกเก็บเกี่ยวไปขายแล้ว เป็นเพียงผืนดินว่างเปล่ามีหญ้าขึ้นเขียวชะอุ่มมากมาย แต่ก็ยังพอให้มองเห็นขวยของจิโป่มได้ มีรอยขุดเก่าของคนที่มาหาก่อนด้วย ทว่าแม้จะมีคนขุดไปก่อนหน้าแล้ว ก็ยังมีขวยจี่โป่มหลงเหลือให้ได้ขุดอีกเหมือนเดิม ไม่มีหมด

                “อี่น้องบีมบ่ต้องขุด มีตะสิเฮ็ดใหฮูกิโป่มเสียซือ ๆ พวกอ้ายสิขุดเอง” พี่บอมห้ามน้องบีม เพราะเห็นว่าไม่มีความสามารถมากพอ รังแต่จะทำให้ขวยจิโป่มเสียหายก็เท่านั้น ยิ่งหายากยิ่งไม่อยากให้หลุดมือไปแม้แต่ตัวเดียว

                “บอสกับแป้งกะคือกัน บักบอลพร้อม ขุดดี ๆ เด้อ ตามให้มันได้ตัว เป็นไปได้บ่ต้องขุด ซอยกันหาขวยให้อ้ายกะพอ เอาไม้ปักไว้ถ้าหาพ่อ” นอกจากน้องบีมแล้ว พวกเธอก็โดนห้ามด้วย เพราะศักยภาพฝีมือในการขุดยังไม่มากพอนั่นเอง มีแต่จะทำให้รังหรือขวยของมันเสียหาย

                “หื่อ… บอสอยากขุด” บอสยืนยันที่จะช่วยขุด เธอขุดได้แน่นอน เชื่อในฝีมือของตนเองมาก

                “ตามใจ ถ้าขุดแล้วฮูเสียบอกอ้ายเด้อ อ้ายจะมาหาต่อ”

                “อือ” พอตกลงกันแล้ว จากนั้นพวกเธอก็ช่วยกันเดินหาขุดจิโป่มต่อไป ยกเว้นน้องบีมที่ขุดดินไปทั่ว พี่ ๆ ก็ไม่ห้ามปล่อยให้เล่นไป หกคนพี่น้องช่วยกันขุดจิโป่มอยู่ในไร่ของตาป้อด บริเวณเนื้อที่มีทั้งหมดห้าไร่ ก็มากพอที่จะมีขวยจิโป่มให้ขุด หาหมดแล้วก็ไปเดินหาตามตานาต่ออีก

                บอสเดินหาขวยจิโป่มไปเรื่อย ๆ ใช้เสียมค่อย ๆ เขี่ยใบหญ้าออก เพราะบางทีมันอาจซ่อนอยู่ใต้โพรงใบหญ้า ต้องใจเย็น ๆ ไม่รีบร้อน สุดท้ายบอสก็หาขวยของมันเจอ บอสดีใจมาก รีบนั่งคุกเข่าเพื่อลงมือขุด

                เธอค่อย ๆ ใช้ใบมีดของเสียมเขียขวยของมันออก เปิดหน้าดินช้า ๆ เป็นบริเวณกว้าง ๆ รอบ ขวยของมันเพื่อหารู เขี่ยไม่กี่รอบก็เจอรูของมันแล้ว บอสยิ้มดีใจ ก่อนจะลงมือปักใบมีดของเสียมลงดิน ทำการขุดไปตามรู เพื่อหาตัวของมัน

               ทว่าเหมือนจะมีบุญแต่กรรมบัง เมื่อบอสขุดไล่ไปตามรูเรื่อย ๆ ดันเกิดมีรูสองรูให้เลือก บอสขมวดคิ้วเข้าหากัน ทำไมเจอของยากแบบนี้ แค่รูเดียวก็ไล่ล่าจนเหนื่อยแล้ว บอสทราบจากพี่ ๆ มาแล้ว ว่าระวังรูหลอกของมัน ให้เลือกขุดรูใดรูหนึ่งที่คิดว่าเป็นรูจริง บอสพิจารณาแล้วจึงเลือกขุดรูฝั่งขวาก่อน และก็ต้องจำรูฝั่งซ้ายไว้ด้วย เผื่อรูที่เลือกเป็นรูหลอก ก็จะได้กลับมาขุดอีก

                บอสนั่งไปกับพื้นดินขุดตามรูไปเรื่อย ๆ สุดท้ายรูตัน ไม่เจอตัวจิโป่มเลย แสดงว่าเธอเลือกผิด! จะต้องกลับไปขุดอีกรูที่ทิ้งเอาไว้ บอสทำหน้าเบื่อหน่ายให้กับตนเอง ก่อนจะเขี่ยดินที่ขุดกลบเอาไว้เปิดหาอีกรู หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ สุดท้ายก็ยอมแพ้ต่อโชคชะตา จำต้องเรียกพี่สาวให้มาช่วยหา ครั้นจะทิ้งไปก็เสียดาย เพราะตัวเดียวก็มีค่า

                “เอื้อยปาว เอื้อยปาวมาขุดฮูหนิแน บอสขุดบ่พ่อ” บอสเรียกพี่สาวคนโตให้มาช่วย

                พี่ปาวกำลังเดินหาขวยของมันอยู่ก็รีบเดินมาหาเธอในทันที “ฮูเสียบ่?” พี่ปาวถาม
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่