.
ตอนเด็ก ๆ เคยเข้าป่าหาของป่าไหม ป่าอะไรกันบ้าง หาอะไรกันบ้าง ลองนึกย้อนไปดูมันทรหดใช่ไหม?! ทว่าวันนี้มันกลับมีความสุข! เจอทั้งยุง เจอทั้งไม้ข่วนอีก สารพัดเจอ สำหรับเด็กต่างจังหวัด เป็นเรื่องที่ปกติมาก ถ้าไม่ขี้เกียจ สำหรับการเข้าป่าหาของป่ามาประกอบอาหาร
ในป่าเปรียบเสมือนในห้างสรรพสินค้า มีเกือบทุกอย่างโดยที่ไม่ต้องซื้อ อย่าไปเปรียบเทียบกับเนื้อสด ผลไม้นอกอะไรเลย หมายถึงมันมีอาหารป่า อาหารบ้าน ๆ อร่อยแบบบ้าน ๆ มันมีให้เลือกหามากมาย สำคัญคือ เคยไปหาบ้างไหม นี่แหละ ‘ไฮไลต์’ มานึกย้อนวันวานกันดู เคยเคยเข้าป่าไหม?
วันวานไม่ได้ชวนให้จมอยู่กับอดีต ทว่ามันเป็นการย้อนวันวานกลับไปมองตัวเองตอนเด็ก ๆ อย่างมีความสุขต่างหาก บางครั้งการมองตัวเองตอนเด็กมันก็มีความสุขดี สนุก ยิ้มได้ อยากกลับไปห้วงเวลานั้นอีก ไม่สะดวกสบายแต่มีความสุข ก็แค่มองย้อนกลับไป ไม่ได้ให้จมปลักใด ๆ เลยทั้งสิ้น
เรื่องมีอยู่ว่า….
เดือนมีนาคมยังไม่หมดไป อากาศร้อนอบอ้าว เนื่องจากตอนกลางวันแดดแรงมาก บอสกับน้องบีมเที่ยวเปิดตู้เย็นดื่มน้ำเย็นและนมที่แช่ฟรีซเอาไว้ทั้งวัน สภาพภูมิอากาศแห้ง แดด หญ้าตามท้องนาตายหมด ในป่าต้นไม้แห้ง ใบไม้ร่วงเต็มไปหมด และ เกิดไฟไหม้ป้าด้วยบางครั้ง
“บอมพายายไปหาแม่ใหญ่ทำแน ยายอยากไปหาหน่อไม้มาเผา” บอสได้ยินยายคุยกับหลานชายคนโตในบ้าน บอสนั่งไกวเปลอยู่หน้าบ้านกับน้องบีม วันนี้บอสกับน้องบีมยังไม่ไปเล่นที่ไหน บอสรู้สึกว่าไม่อยากไป ขี้เกียจ อยากเล่นที่บ้านของตนเองมากกว่า
บ้านของยายทำที่ยายพูดถึง อยู่อีกหมู่บ้าน อยู่ถัดไปจากหมู่บ้านของเธอ คือ หมู่ 3 ตำบลเดียวกัน ขับรถออกจากหมู่บ้านไปไม่ไกล พี่บอมขับมอเตอร์ไซค์เป็นแล้ว ยายจึงชวนพี่บอมให้พาไปธุระ ถ้าไม่อยากไปเอง นั่งรถสองแถวไปก็ได้ เป็นทางผ่านของรถสองแถวพอดี
“ยาย! อี่ยายสิไปหยัง ไปหาใหญ่ทำเฮ็ดหยังยาย” บอสตะโกนถามยายอยู่ด้านนอกด้วยความสนใจ อยากตามไปด้วย พร้อมใช้เท้าถีบพื้นไกวเปลไม่หยุดกับน้องสาว
“ไปหาหน่อไม้ป่า หน่อไม้ไฟไหม้อยู่นาเรา ปะบอมมาพายายไปแน ไปส่งยายกะได้ ยามแลงไปจังไปฮับยาย หือจะไปหานำยายกะได้ หาซอยกันจังได้หลาย ๆ เอามาเผาหมก เอามาเฮ็ดหน่อไม้ส้มกิน” ยายตอบเธอพร้อมคะยั้นคะยอหลานชายให้พาไป พวกเธอคุ้นเคยกับยายทำเป็นอย่างดี ยายทำเคยมาที่บ้านอยู่บ่อย ๆ และ ยายก็พาไปบ้านของยายทำบ่อย ๆ เช่นกัน
นอกจากตาเนาว์ที่เป็นอาของยาย เป็นญาติผู้ใหญ่ฝั่งพ่อของยายคนเดียวที่เหลืออยู่แล้ว ยายทำก็เป็นน้าของยายเช่นกัน ญาติฝั่งแม่ของยายคนเดียวที่เหลืออยู่ ยายทำก็คือทวดของพวกเธออีกคน
“ยายบอสไปหานำเด้อ” บอสเดินไปยืนหน้าประตูบ้านคุยกับยาย ซึ่งยายคุยกับพี่บอมอยู่ในบ้าน คุยไปด้วยเตรียมตะกร้า หมวก และ เสียมในการไปขุดหน่อไม้ด้วย ส่วนพี่บอมก็ยังนอนดูทีวีอยู่อย่างนั้น ฟังยายพูดไปยังไม่มีท่าทีปฏิเสธหรือทำตาม
“น้องบีมกะไปนำเด้อยาย” น้องบีมเดินมาหยุดยืนข้าง ๆ บอส ขอยายตามไปด้วยคน บอสหันไปกระตุกยิ้มพร้อมยักคิ้วให้น้องสาว
“บ่ ๆ! สิแลนไปนำหยัง สิอัดกันไปจังใดรถคันเดียวนึง ไผ่ป่าหนามหลายคือหยัง กอตาบอดล่ะบ่เห็นหุ่งนำเพิ่น ตะว่ากะบ่ฮกกะด้อหรอกหวา ยายทำว่าไฟไหม้แปนเบิด หน่อไม้ป๊งดี้ดีว่าซั่น มาพายายไปหามาแกงกิน ยายสิเอามาเฮ็ดหน่อไม้ส้มซูกิน” ยายดูเหมือนลังเล เนื่องจากมีรถเพียงคันเดียวของพี่บอมที่ลุงนำมาให้ใช้
“สั่นน้องบีมบ่ต้องไป! ไปอยู่นำใหญ่นงค์เลย” บอสออกตัวก่อน คนที่เสียสละคือน้องบีม
“บ่! อี่ยายน้องบีมไปนำเด้อ” น้องบีมงอแงกับยาย เดินไปหายาย เกาะแขนยายเอาไว้
“ไปสองรอบกะได้ยาย บอมไปส่งยายก่อน เดี๋ยวกลับมาฮับมัน” พี่บอมแก้ปัญหาให้พวกเธอกับยาย
“สิบ่เปลืองน้ำมันบ่ กลับไปกลับมา”
“บ่เปลืองหรอก!” บอสพูดแทรก และ ยายก็ไม่ได้บ่นอะไรด้วย ยอมให้เธอกับน้องบีมตามไปโดยดี
“ไปกะไปหาแต่งโต ใส่เสื้อแขนยาวซ่งแขนยาวแหมะ หาซอยยายให้ได้หลาย ๆ เด้อ สมอยากแลนไปนำ” ยายกำชับ จากนั้นบอสกับน้องบีมรีบไปแต่งตัวตามคำสั่งยายอย่างรวดเร็ว รวมถึงพี่บอมด้วย
ยายเตรียมตะกร้าไม้ไผ่ขนาดใหญ่ไปใส่หน่อไม้ ส่วนพี่บอมเตรียมถุงย่าม พวกเธอไม่ต้องเตรียมอะไรไปใส่ก็ได้
เก้าโมงเช้าพี่บอมขับรถพายายไปส่งที่บ้านของยายทำก่อนคนแรก พวกเธอสองพี่น้องรอที่บ้านก่อน ระหว่างรอพี่บอมกลับมารับ น้องบีมอยู่ไม่นิ่ง เที่ยวชะเง้อมองทางคอยพี่บอมอยู่อย่างนั้น ส่วนเธอนั่งเปลคอยอย่างสบายใจ
“บีมอย่ากะดึกกะดึ้นหลาย อยู่ซือ ๆ แน ย่านตะบ่ได้ไป จักนอยอ้ายบอมกะมาฮับหรอก” บอสเอ็ดน้องสาวด้วยความหมั่นไส้ กลัวแต่ไม่ได้ไป เที่ยวผุบ ๆ โผล่ ๆ ชะเง้อมองปากซอยเข้าบ้านอยู่อย่างนั้น พอโดนเอ็ดน้องบีมก็นิ่ง นิ่งได้ครู่เดียวก็เที่ยวไปส่องอีก
ระหว่างนั่งรอพี่บอมอยู่หน้าบ้าน สองฝาแฝดก็ปั่นจักรยานมาหาเธอที่บ้าน เนื่องจากเธอไม่ไปเล่นด้วย ทั้งสองจึงมาหา
“เอ้าบอส มืงจะไปไส พวกกูว่าจะมาเล่นนำมืง” พิมพ์ถาม เพราะดูจากการแต่งตัวของเธอกับน้องบีมนั่นเอง พอพี่สาวถามแบบนี้ บอสจึงเกิดความลังเล จะตามยายไปหาหน่อไม้หรือไม่ เกิดความลังเลขึ้นในใจ อยากเล่นกับสองฝาแฝดก็อยากเล่น อยากไปบ้านยายทำก็อยากไป
“ว่าจะไปหาหน่อไม้นาใหญ่ทำ พี่น้องยายกู เราอยู่บ้านหนอง หมู่ 3 แหมะ” บอสตอบ ตอนนี้ก็ยังสับสนในใจ จะไปหายายดีหรือไม่ หรือ จะเล่นกับสองฝาแฝด “ถ่าอ้ายบอมกลับมาฮับอยู่ อ้ายบอมไปส่งยายกูก่อน” ขณะนี้พี่บอมยังไม่กลับมา ยังมีเวลาให้ตัดสินใจว่าจะเลือกทางไหน
“อ่อ! กลับมาไปหาตุกูเด้อสั่น” แพรวตอบเพียงเท่านี้ ไม่นานพี่บอมก็กลับมารับพวกเธอสองคน ไม่ได้ขับรถเข้าซอย ทว่าจอดรถไว้ที่หน้าบ้านของป้าสุ่ม เดินมาเรียกพวกเธอ พอพี่บอมกลับมาเรียก ภายในใจบอสก็ยืนยันหนักแน่นว่าจะไปหาหน่อไม้กับยายในที่สุด
“ไปก่อนเด้อแฝด เดี๋ยวกลับมากูไปเล่นนำ ปะบีม! อ้ายบอมมาฮับแล้ว” บอสเอ่ยกับพี่สาวทั้งสองคน พร้อมชวนน้องบีมด้วย พี่บอมมารับแล้วไปกันได้สักที
“เอ้อ ๆ มื้อแลงเดี๋ยวพวกกูมาเล่นนำใหม่” จากนั้นพวกเธอก็แยกย้ายกัน บอสกับน้องบีมเดินไปขึ้นรถมอเตอร์ไซค์กับพี่บอม พี่บอมขับมอเตอร์ไซค์เป็นตั้งแต่อยู่ ป.4 ยายไว้ใจให้ขับได้ อีกทั้งตัวสูงด้วย ตอนนี้ก็ขึ้น ป.6 แล้ว
พี่บอมพาขับมอเตอร์ไซค์มายังบ้านยายทำขับออกจากหมู่บ้านใช้เวลาครู่เดียวก็ถึง พี่บอมจอดรถมอเตอร์ไซค์ไว้ที่หน้าบ้าน ยายกับยายทำนั่งเคี้ยวหมากรอที่แคร่หน้าบ้านรอการมาของพวกเธอ พวกเธอสามคนเดินเข้าบ้านไปหายายอย่างคุ้นเคย
“บักหนิลูกของผู้ใหญ่ข่อย ของอ้าย สองคนหนิของน้องมู ของลูกหล่าข่อย” ยายแนะนำให้ยายทวดรู้จักพวกเธอ พวกเธอสองคนยกมือไหว้อย่างรู้งาน ยายทวดแก่มากแล้ว ตัดทรงผมสั้นรองทรงเหมือนผู้ชาย ผมขาวโพลนทั่วหัว แก่กว่ายายมาก ๆ ผิวขาวตกกะ นั่งเหยียดเท้าเคี้ยวหมากกับยาย
“ของบักแอ้ดบ่ มาตะสุรินทร์พุ่นบ่คำ พ่อมาส่งบ่” ยายทวดถามพี่บอม พร้อมถ่มน้ำหมากลงกระโถน
“บ่เหล่ว!!! คนละคนตั้วเฒ่าหนิกะดาย ของบักได้เมียอยู่สุรินทร์ใหญ่เบิดแล้วลูกมัน เป็นบ่าวเป็นสาวแล้วเด้ เข้าโรงเรียนมอเบิดล่ะ” ยายรีบตอบปฏิเสธยายทวดอย่างเร็ว
“อุบาดไปอยู่ไกลเด้น้อมันกะหลาย มาหยามแมจักเทือบ่” ยายทวดถามข่าวคราวลุงแอ้ดต่อเสียเลย
“มา! วังใดมันกะมากับลูกหล่ามัน ผู้เอื้อยบ่ค่อยมาหาย่าถ้าแม่บ่มานำ มีตะน้องเที่ยวมานำพ่อ”
ตามจริงลูกคนแรกของยายคือลุงแอ้ดตามที่ยายทำเข้าใจ ทว่าเป็นลูกเกิดกับสามีคนแรกของยาย ก่อนจะมาแต่งงานกับตา บอสนั่งหัวเราะยายกับยายทำคุยกัน ต่างคนต่างเข้าใจไปคนละคนกัน ยายพูดไปอมหมากไปด้วย คุยกันเพลินอยู่สองคนน้าหลาน
“แมนยูยาย มีตะอ้ายบิวมาเฮือนเฮาตลอดเลยน้อ เอื้อยอาร์บ่ค่อยมาจักเทือถ้าป้าอางบ่มา” พี่บอมพูดแทรก
“หน่อไม้ป่าอยู่ห้วยไฟไหม้ มันแตกหน่อขึ้นมาหลายคัก ไทบ้านบ่ทันฮู้อยู่อี่ห่า ไค้ตั้วมืงมาเร็วอยู่ สิมีให้หาหลายอยู่” ยายทวดพูดกับยาย สองน้าหลานนั่งเคี้ยวหมากคุยกัน แก่พอ ๆ กัน
“อี่ยายสิไปหาหน่อไม้ยามใดหนิ” บอสถามยาย เพราะภายในใจอยากรีบหา อยากกลับไปเล่นกับสองฝาแฝด
“อย่าฟ้าวหลาย ให้ยายมืงเคี้ยวหมากก่อนแน” ยายทวดเป็นคนตอบคำถามของเธอแทน
“ยายคลองตั้วไปบอกข่อย เข้ามาบ้านใหญ่ มาหาอยู่เฮือน มื้ออื่นไปหาหน่อไม้ป่าเด้อยายว่าซั่น ไฟไหม้แล้วฝนตกฮวยใส่ แตกหน่อหลายคักว่าซั่น ไปมื้ออื่นหนิล่ะคนสิไปหาก่อนว่าซั่น ข่อยกะเลยชวนเด็กน้อยมาโลดแหล่วมื้อหนิ” ยายคลองที่ยายพูดถึงก็คือลูกพี่ลูกน้องของยายเอง ยายคลองเป็นลูกสาวของยายทวดทำ
บ้านใหญ่ที่ยายพูดถึงก็คือหมู่บ้านของเธอ เนื่องจากหมู่ 3 ถึงหมู่ 5 เป็นหมู่บ้านที่แยกออกจากหมู่บ้านของเธอนานหลายสิบ ๆ ปีแล้ว เกือบร้อยปีได้ ทว่าผู้คนก็ยังกลมกลืน ถูกปลูกฝังว่าพวกเรามาจากหมู่บ้านเดียวกัน อพยพแยกออกมาเพราะความแห้งแล้ง
หมู่บ้านของเธอเป็นหมู่บ้านขนาดใหญ่มาก แยกออกเป็น 2 หมู่ หมู่ 1 กับ หมู่ 2 ดังนั้นหมู่ 3 ถึงหมู่ 5 คนจึงมักเรียกหมู่บ้านของเธอว่าบ้านใหญ่จนทุกวันนี้
“ไป ๆ ยาย พร้อมแล้วบ่” ไม่ทันพูดขาดคำ ยายคลองซึ่งบ้านอยู่ติด ๆ กับยายทำก็ตะโกนเรียกยาย ยายคลองไม่ได้จะหาเอง แต่จะไปหาช่วยยายต่างหาก
“ไป ๆ” ยายตะโกนตอบ “ปะนางเฮา ย่างไปหาแม่ใหญ่คลอง” ยายหันมาพูดกับพวกเธอ
“หาเพ็กมานำเด้อ เพ็กกะหลายเด้อยู่หั่น หามาแกงแน” ยายทวดกำชับยายของเธอ ผู้ซึ่งเป็นหลานสาว ยายเคยเล่าให้ฟังว่าพี่น้องของแม่ของยายมีหลายคนมาก ไม่รู้จักกันแล้วก็มี หลังพ่อแม่ตายไป แต่ยายจำลุงป้าน้าอาได้ทุกคน
มียายทำเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ อายุก็ห่างกับยายไม่เท่าไหร่ เพราะยายทำเป็นลูกคนเล็กสุด เหมือนตาเนาว์ที่เป็นลูกชายคนเล็กสุด อาคนเล็กสุดของยาย อายุห่างกันไม่เท่าไหร่เช่นกัน ทว่าตาเนาว์กับยายอยู่หมู่บ้านเดียวกัน จึงไปมาหาสู่กันง่าย
“บ่ยาย! มาเว้าเป็นตะสะออนแถะหั่นบาดหนิ” ยายตอบยายทำอย่างตื่นเต้น ลุกถือตะกร้าไม้ไผ่และเสียมเดินตามพวกเธอมาหายายคลองที่บ้าน พวกเธอก็ได้เสียมคนละด้ามกัน เอาไว้เขี่ยใบไผ่ เศษไม้ที่ปกคลุมหน้าดิน และ ขุดสับหน่อไม้
“ปะเฮา!” ยายคลองชวน เตรียมตะกร้าเตรียมเสียม สวมหมวกผ้าเสื้อแขนยาวเสื้อแขนยาวพร้อมดั่งพวกเธอ ก่อนจะเดินนำพวกเธอกับยายไปที่ป่าไผ่ ที่เกิดเองตามธรรมชาติไม่ได้มีใครปลูกเอาไว้ “น้อย ๆ หนิกะไปนำยายบ่ มาบ่อยู่นำยายเฒ่าว้า ตามยายไปหยังมันแฮงฮกอยู่” ยายคลองบ่นน้องบีมอย่างนึกห่วง
“ให้มันไปโลดคลอง มันอยากไป ฮ่ายไว้บอกไปอยู่นำย่าจะของกะบ่ฟัง ลูกชาวนาต้องบ่ย่านหยัง” ยายตอบปนยิ้ม ส่วนเจ้าตัวไม่ได้พูดจาอะไร เธอให้น้องสาวเดินนำหน้า พี่บอมเดินปิดท้าย
“มันกะบ่ฮกปานใดหรอกหวา ไฟไหม้แปนเอิดเติดอยู่ยาย ฝนตกใส่วังใดคือสิแตกหน่อคัก ข่อยแนมไปเบิ่ง ลองเข้าไปหาหน่อไม้เบิ่งกันน้าวะ แตกหน่อบักหลายอิหลิยาย เข้าไปบอกยายหนิกันน้าวะสั่นหรอก” ยานคลองเล่าถึงความเป็นมา ทำไมตนเองถึงได้มาบอกกับยายเรื่องหน่อไม้
“เมื่อยบ่?!” บอสถามน้องบีมขณะเดินมุ่งหน้าไปยังป่าไผ่ที่อยู่ตรงหน้านั้น อีกไม่ไกลก็จะถึงแล้ว บรรยากาศทุ่งนาที่นี่ก็เหมือน ๆ ทุ่งนาที่บ้านของบอส แห้งแล้งไม่ต่างกัน เสียงจักจั่นร้องประสานเสียงกันระงมให้ได้ยินมาแต่ไกล ๆ ฟังจากเสียงน่าจะเยอะพอดู
วันวาน 8
.
ตอนเด็ก ๆ เคยเข้าป่าหาของป่าไหม ป่าอะไรกันบ้าง หาอะไรกันบ้าง ลองนึกย้อนไปดูมันทรหดใช่ไหม?! ทว่าวันนี้มันกลับมีความสุข! เจอทั้งยุง เจอทั้งไม้ข่วนอีก สารพัดเจอ สำหรับเด็กต่างจังหวัด เป็นเรื่องที่ปกติมาก ถ้าไม่ขี้เกียจ สำหรับการเข้าป่าหาของป่ามาประกอบอาหาร
ในป่าเปรียบเสมือนในห้างสรรพสินค้า มีเกือบทุกอย่างโดยที่ไม่ต้องซื้อ อย่าไปเปรียบเทียบกับเนื้อสด ผลไม้นอกอะไรเลย หมายถึงมันมีอาหารป่า อาหารบ้าน ๆ อร่อยแบบบ้าน ๆ มันมีให้เลือกหามากมาย สำคัญคือ เคยไปหาบ้างไหม นี่แหละ ‘ไฮไลต์’ มานึกย้อนวันวานกันดู เคยเคยเข้าป่าไหม?
วันวานไม่ได้ชวนให้จมอยู่กับอดีต ทว่ามันเป็นการย้อนวันวานกลับไปมองตัวเองตอนเด็ก ๆ อย่างมีความสุขต่างหาก บางครั้งการมองตัวเองตอนเด็กมันก็มีความสุขดี สนุก ยิ้มได้ อยากกลับไปห้วงเวลานั้นอีก ไม่สะดวกสบายแต่มีความสุข ก็แค่มองย้อนกลับไป ไม่ได้ให้จมปลักใด ๆ เลยทั้งสิ้น
เรื่องมีอยู่ว่า….
เดือนมีนาคมยังไม่หมดไป อากาศร้อนอบอ้าว เนื่องจากตอนกลางวันแดดแรงมาก บอสกับน้องบีมเที่ยวเปิดตู้เย็นดื่มน้ำเย็นและนมที่แช่ฟรีซเอาไว้ทั้งวัน สภาพภูมิอากาศแห้ง แดด หญ้าตามท้องนาตายหมด ในป่าต้นไม้แห้ง ใบไม้ร่วงเต็มไปหมด และ เกิดไฟไหม้ป้าด้วยบางครั้ง
“บอมพายายไปหาแม่ใหญ่ทำแน ยายอยากไปหาหน่อไม้มาเผา” บอสได้ยินยายคุยกับหลานชายคนโตในบ้าน บอสนั่งไกวเปลอยู่หน้าบ้านกับน้องบีม วันนี้บอสกับน้องบีมยังไม่ไปเล่นที่ไหน บอสรู้สึกว่าไม่อยากไป ขี้เกียจ อยากเล่นที่บ้านของตนเองมากกว่า
บ้านของยายทำที่ยายพูดถึง อยู่อีกหมู่บ้าน อยู่ถัดไปจากหมู่บ้านของเธอ คือ หมู่ 3 ตำบลเดียวกัน ขับรถออกจากหมู่บ้านไปไม่ไกล พี่บอมขับมอเตอร์ไซค์เป็นแล้ว ยายจึงชวนพี่บอมให้พาไปธุระ ถ้าไม่อยากไปเอง นั่งรถสองแถวไปก็ได้ เป็นทางผ่านของรถสองแถวพอดี
“ยาย! อี่ยายสิไปหยัง ไปหาใหญ่ทำเฮ็ดหยังยาย” บอสตะโกนถามยายอยู่ด้านนอกด้วยความสนใจ อยากตามไปด้วย พร้อมใช้เท้าถีบพื้นไกวเปลไม่หยุดกับน้องสาว
“ไปหาหน่อไม้ป่า หน่อไม้ไฟไหม้อยู่นาเรา ปะบอมมาพายายไปแน ไปส่งยายกะได้ ยามแลงไปจังไปฮับยาย หือจะไปหานำยายกะได้ หาซอยกันจังได้หลาย ๆ เอามาเผาหมก เอามาเฮ็ดหน่อไม้ส้มกิน” ยายตอบเธอพร้อมคะยั้นคะยอหลานชายให้พาไป พวกเธอคุ้นเคยกับยายทำเป็นอย่างดี ยายทำเคยมาที่บ้านอยู่บ่อย ๆ และ ยายก็พาไปบ้านของยายทำบ่อย ๆ เช่นกัน
นอกจากตาเนาว์ที่เป็นอาของยาย เป็นญาติผู้ใหญ่ฝั่งพ่อของยายคนเดียวที่เหลืออยู่แล้ว ยายทำก็เป็นน้าของยายเช่นกัน ญาติฝั่งแม่ของยายคนเดียวที่เหลืออยู่ ยายทำก็คือทวดของพวกเธออีกคน
“ยายบอสไปหานำเด้อ” บอสเดินไปยืนหน้าประตูบ้านคุยกับยาย ซึ่งยายคุยกับพี่บอมอยู่ในบ้าน คุยไปด้วยเตรียมตะกร้า หมวก และ เสียมในการไปขุดหน่อไม้ด้วย ส่วนพี่บอมก็ยังนอนดูทีวีอยู่อย่างนั้น ฟังยายพูดไปยังไม่มีท่าทีปฏิเสธหรือทำตาม
“น้องบีมกะไปนำเด้อยาย” น้องบีมเดินมาหยุดยืนข้าง ๆ บอส ขอยายตามไปด้วยคน บอสหันไปกระตุกยิ้มพร้อมยักคิ้วให้น้องสาว
“บ่ ๆ! สิแลนไปนำหยัง สิอัดกันไปจังใดรถคันเดียวนึง ไผ่ป่าหนามหลายคือหยัง กอตาบอดล่ะบ่เห็นหุ่งนำเพิ่น ตะว่ากะบ่ฮกกะด้อหรอกหวา ยายทำว่าไฟไหม้แปนเบิด หน่อไม้ป๊งดี้ดีว่าซั่น มาพายายไปหามาแกงกิน ยายสิเอามาเฮ็ดหน่อไม้ส้มซูกิน” ยายดูเหมือนลังเล เนื่องจากมีรถเพียงคันเดียวของพี่บอมที่ลุงนำมาให้ใช้
“สั่นน้องบีมบ่ต้องไป! ไปอยู่นำใหญ่นงค์เลย” บอสออกตัวก่อน คนที่เสียสละคือน้องบีม
“บ่! อี่ยายน้องบีมไปนำเด้อ” น้องบีมงอแงกับยาย เดินไปหายาย เกาะแขนยายเอาไว้
“ไปสองรอบกะได้ยาย บอมไปส่งยายก่อน เดี๋ยวกลับมาฮับมัน” พี่บอมแก้ปัญหาให้พวกเธอกับยาย
“สิบ่เปลืองน้ำมันบ่ กลับไปกลับมา”
“บ่เปลืองหรอก!” บอสพูดแทรก และ ยายก็ไม่ได้บ่นอะไรด้วย ยอมให้เธอกับน้องบีมตามไปโดยดี
“ไปกะไปหาแต่งโต ใส่เสื้อแขนยาวซ่งแขนยาวแหมะ หาซอยยายให้ได้หลาย ๆ เด้อ สมอยากแลนไปนำ” ยายกำชับ จากนั้นบอสกับน้องบีมรีบไปแต่งตัวตามคำสั่งยายอย่างรวดเร็ว รวมถึงพี่บอมด้วย
ยายเตรียมตะกร้าไม้ไผ่ขนาดใหญ่ไปใส่หน่อไม้ ส่วนพี่บอมเตรียมถุงย่าม พวกเธอไม่ต้องเตรียมอะไรไปใส่ก็ได้
เก้าโมงเช้าพี่บอมขับรถพายายไปส่งที่บ้านของยายทำก่อนคนแรก พวกเธอสองพี่น้องรอที่บ้านก่อน ระหว่างรอพี่บอมกลับมารับ น้องบีมอยู่ไม่นิ่ง เที่ยวชะเง้อมองทางคอยพี่บอมอยู่อย่างนั้น ส่วนเธอนั่งเปลคอยอย่างสบายใจ
“บีมอย่ากะดึกกะดึ้นหลาย อยู่ซือ ๆ แน ย่านตะบ่ได้ไป จักนอยอ้ายบอมกะมาฮับหรอก” บอสเอ็ดน้องสาวด้วยความหมั่นไส้ กลัวแต่ไม่ได้ไป เที่ยวผุบ ๆ โผล่ ๆ ชะเง้อมองปากซอยเข้าบ้านอยู่อย่างนั้น พอโดนเอ็ดน้องบีมก็นิ่ง นิ่งได้ครู่เดียวก็เที่ยวไปส่องอีก
ระหว่างนั่งรอพี่บอมอยู่หน้าบ้าน สองฝาแฝดก็ปั่นจักรยานมาหาเธอที่บ้าน เนื่องจากเธอไม่ไปเล่นด้วย ทั้งสองจึงมาหา
“เอ้าบอส มืงจะไปไส พวกกูว่าจะมาเล่นนำมืง” พิมพ์ถาม เพราะดูจากการแต่งตัวของเธอกับน้องบีมนั่นเอง พอพี่สาวถามแบบนี้ บอสจึงเกิดความลังเล จะตามยายไปหาหน่อไม้หรือไม่ เกิดความลังเลขึ้นในใจ อยากเล่นกับสองฝาแฝดก็อยากเล่น อยากไปบ้านยายทำก็อยากไป
“ว่าจะไปหาหน่อไม้นาใหญ่ทำ พี่น้องยายกู เราอยู่บ้านหนอง หมู่ 3 แหมะ” บอสตอบ ตอนนี้ก็ยังสับสนในใจ จะไปหายายดีหรือไม่ หรือ จะเล่นกับสองฝาแฝด “ถ่าอ้ายบอมกลับมาฮับอยู่ อ้ายบอมไปส่งยายกูก่อน” ขณะนี้พี่บอมยังไม่กลับมา ยังมีเวลาให้ตัดสินใจว่าจะเลือกทางไหน
“อ่อ! กลับมาไปหาตุกูเด้อสั่น” แพรวตอบเพียงเท่านี้ ไม่นานพี่บอมก็กลับมารับพวกเธอสองคน ไม่ได้ขับรถเข้าซอย ทว่าจอดรถไว้ที่หน้าบ้านของป้าสุ่ม เดินมาเรียกพวกเธอ พอพี่บอมกลับมาเรียก ภายในใจบอสก็ยืนยันหนักแน่นว่าจะไปหาหน่อไม้กับยายในที่สุด
“ไปก่อนเด้อแฝด เดี๋ยวกลับมากูไปเล่นนำ ปะบีม! อ้ายบอมมาฮับแล้ว” บอสเอ่ยกับพี่สาวทั้งสองคน พร้อมชวนน้องบีมด้วย พี่บอมมารับแล้วไปกันได้สักที
“เอ้อ ๆ มื้อแลงเดี๋ยวพวกกูมาเล่นนำใหม่” จากนั้นพวกเธอก็แยกย้ายกัน บอสกับน้องบีมเดินไปขึ้นรถมอเตอร์ไซค์กับพี่บอม พี่บอมขับมอเตอร์ไซค์เป็นตั้งแต่อยู่ ป.4 ยายไว้ใจให้ขับได้ อีกทั้งตัวสูงด้วย ตอนนี้ก็ขึ้น ป.6 แล้ว
พี่บอมพาขับมอเตอร์ไซค์มายังบ้านยายทำขับออกจากหมู่บ้านใช้เวลาครู่เดียวก็ถึง พี่บอมจอดรถมอเตอร์ไซค์ไว้ที่หน้าบ้าน ยายกับยายทำนั่งเคี้ยวหมากรอที่แคร่หน้าบ้านรอการมาของพวกเธอ พวกเธอสามคนเดินเข้าบ้านไปหายายอย่างคุ้นเคย
“บักหนิลูกของผู้ใหญ่ข่อย ของอ้าย สองคนหนิของน้องมู ของลูกหล่าข่อย” ยายแนะนำให้ยายทวดรู้จักพวกเธอ พวกเธอสองคนยกมือไหว้อย่างรู้งาน ยายทวดแก่มากแล้ว ตัดทรงผมสั้นรองทรงเหมือนผู้ชาย ผมขาวโพลนทั่วหัว แก่กว่ายายมาก ๆ ผิวขาวตกกะ นั่งเหยียดเท้าเคี้ยวหมากกับยาย
“ของบักแอ้ดบ่ มาตะสุรินทร์พุ่นบ่คำ พ่อมาส่งบ่” ยายทวดถามพี่บอม พร้อมถ่มน้ำหมากลงกระโถน
“บ่เหล่ว!!! คนละคนตั้วเฒ่าหนิกะดาย ของบักได้เมียอยู่สุรินทร์ใหญ่เบิดแล้วลูกมัน เป็นบ่าวเป็นสาวแล้วเด้ เข้าโรงเรียนมอเบิดล่ะ” ยายรีบตอบปฏิเสธยายทวดอย่างเร็ว
“อุบาดไปอยู่ไกลเด้น้อมันกะหลาย มาหยามแมจักเทือบ่” ยายทวดถามข่าวคราวลุงแอ้ดต่อเสียเลย
“มา! วังใดมันกะมากับลูกหล่ามัน ผู้เอื้อยบ่ค่อยมาหาย่าถ้าแม่บ่มานำ มีตะน้องเที่ยวมานำพ่อ”
ตามจริงลูกคนแรกของยายคือลุงแอ้ดตามที่ยายทำเข้าใจ ทว่าเป็นลูกเกิดกับสามีคนแรกของยาย ก่อนจะมาแต่งงานกับตา บอสนั่งหัวเราะยายกับยายทำคุยกัน ต่างคนต่างเข้าใจไปคนละคนกัน ยายพูดไปอมหมากไปด้วย คุยกันเพลินอยู่สองคนน้าหลาน
“แมนยูยาย มีตะอ้ายบิวมาเฮือนเฮาตลอดเลยน้อ เอื้อยอาร์บ่ค่อยมาจักเทือถ้าป้าอางบ่มา” พี่บอมพูดแทรก
“หน่อไม้ป่าอยู่ห้วยไฟไหม้ มันแตกหน่อขึ้นมาหลายคัก ไทบ้านบ่ทันฮู้อยู่อี่ห่า ไค้ตั้วมืงมาเร็วอยู่ สิมีให้หาหลายอยู่” ยายทวดพูดกับยาย สองน้าหลานนั่งเคี้ยวหมากคุยกัน แก่พอ ๆ กัน
“อี่ยายสิไปหาหน่อไม้ยามใดหนิ” บอสถามยาย เพราะภายในใจอยากรีบหา อยากกลับไปเล่นกับสองฝาแฝด
“อย่าฟ้าวหลาย ให้ยายมืงเคี้ยวหมากก่อนแน” ยายทวดเป็นคนตอบคำถามของเธอแทน
“ยายคลองตั้วไปบอกข่อย เข้ามาบ้านใหญ่ มาหาอยู่เฮือน มื้ออื่นไปหาหน่อไม้ป่าเด้อยายว่าซั่น ไฟไหม้แล้วฝนตกฮวยใส่ แตกหน่อหลายคักว่าซั่น ไปมื้ออื่นหนิล่ะคนสิไปหาก่อนว่าซั่น ข่อยกะเลยชวนเด็กน้อยมาโลดแหล่วมื้อหนิ” ยายคลองที่ยายพูดถึงก็คือลูกพี่ลูกน้องของยายเอง ยายคลองเป็นลูกสาวของยายทวดทำ
บ้านใหญ่ที่ยายพูดถึงก็คือหมู่บ้านของเธอ เนื่องจากหมู่ 3 ถึงหมู่ 5 เป็นหมู่บ้านที่แยกออกจากหมู่บ้านของเธอนานหลายสิบ ๆ ปีแล้ว เกือบร้อยปีได้ ทว่าผู้คนก็ยังกลมกลืน ถูกปลูกฝังว่าพวกเรามาจากหมู่บ้านเดียวกัน อพยพแยกออกมาเพราะความแห้งแล้ง
หมู่บ้านของเธอเป็นหมู่บ้านขนาดใหญ่มาก แยกออกเป็น 2 หมู่ หมู่ 1 กับ หมู่ 2 ดังนั้นหมู่ 3 ถึงหมู่ 5 คนจึงมักเรียกหมู่บ้านของเธอว่าบ้านใหญ่จนทุกวันนี้
“ไป ๆ ยาย พร้อมแล้วบ่” ไม่ทันพูดขาดคำ ยายคลองซึ่งบ้านอยู่ติด ๆ กับยายทำก็ตะโกนเรียกยาย ยายคลองไม่ได้จะหาเอง แต่จะไปหาช่วยยายต่างหาก
“ไป ๆ” ยายตะโกนตอบ “ปะนางเฮา ย่างไปหาแม่ใหญ่คลอง” ยายหันมาพูดกับพวกเธอ
“หาเพ็กมานำเด้อ เพ็กกะหลายเด้อยู่หั่น หามาแกงแน” ยายทวดกำชับยายของเธอ ผู้ซึ่งเป็นหลานสาว ยายเคยเล่าให้ฟังว่าพี่น้องของแม่ของยายมีหลายคนมาก ไม่รู้จักกันแล้วก็มี หลังพ่อแม่ตายไป แต่ยายจำลุงป้าน้าอาได้ทุกคน
มียายทำเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ อายุก็ห่างกับยายไม่เท่าไหร่ เพราะยายทำเป็นลูกคนเล็กสุด เหมือนตาเนาว์ที่เป็นลูกชายคนเล็กสุด อาคนเล็กสุดของยาย อายุห่างกันไม่เท่าไหร่เช่นกัน ทว่าตาเนาว์กับยายอยู่หมู่บ้านเดียวกัน จึงไปมาหาสู่กันง่าย
“บ่ยาย! มาเว้าเป็นตะสะออนแถะหั่นบาดหนิ” ยายตอบยายทำอย่างตื่นเต้น ลุกถือตะกร้าไม้ไผ่และเสียมเดินตามพวกเธอมาหายายคลองที่บ้าน พวกเธอก็ได้เสียมคนละด้ามกัน เอาไว้เขี่ยใบไผ่ เศษไม้ที่ปกคลุมหน้าดิน และ ขุดสับหน่อไม้
“ปะเฮา!” ยายคลองชวน เตรียมตะกร้าเตรียมเสียม สวมหมวกผ้าเสื้อแขนยาวเสื้อแขนยาวพร้อมดั่งพวกเธอ ก่อนจะเดินนำพวกเธอกับยายไปที่ป่าไผ่ ที่เกิดเองตามธรรมชาติไม่ได้มีใครปลูกเอาไว้ “น้อย ๆ หนิกะไปนำยายบ่ มาบ่อยู่นำยายเฒ่าว้า ตามยายไปหยังมันแฮงฮกอยู่” ยายคลองบ่นน้องบีมอย่างนึกห่วง
“ให้มันไปโลดคลอง มันอยากไป ฮ่ายไว้บอกไปอยู่นำย่าจะของกะบ่ฟัง ลูกชาวนาต้องบ่ย่านหยัง” ยายตอบปนยิ้ม ส่วนเจ้าตัวไม่ได้พูดจาอะไร เธอให้น้องสาวเดินนำหน้า พี่บอมเดินปิดท้าย
“มันกะบ่ฮกปานใดหรอกหวา ไฟไหม้แปนเอิดเติดอยู่ยาย ฝนตกใส่วังใดคือสิแตกหน่อคัก ข่อยแนมไปเบิ่ง ลองเข้าไปหาหน่อไม้เบิ่งกันน้าวะ แตกหน่อบักหลายอิหลิยาย เข้าไปบอกยายหนิกันน้าวะสั่นหรอก” ยานคลองเล่าถึงความเป็นมา ทำไมตนเองถึงได้มาบอกกับยายเรื่องหน่อไม้
“เมื่อยบ่?!” บอสถามน้องบีมขณะเดินมุ่งหน้าไปยังป่าไผ่ที่อยู่ตรงหน้านั้น อีกไม่ไกลก็จะถึงแล้ว บรรยากาศทุ่งนาที่นี่ก็เหมือน ๆ ทุ่งนาที่บ้านของบอส แห้งแล้งไม่ต่างกัน เสียงจักจั่นร้องประสานเสียงกันระงมให้ได้ยินมาแต่ไกล ๆ ฟังจากเสียงน่าจะเยอะพอดู