.
เด็กต่างจังหวัด เด็กบ้านนอกจะรู้จักการเล่น ‘กิกเส้น และ โยนหลุม’ เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะใช้เงินเหรียญจริง ๆ หรือ ‘ฝา’
ฝาในที่นี้ คือ ฝาเบียร์ ฝาน้ำอัดลมที่เป็นขวดแก้ว นำมาทุบให้แบน ๆ มันจะแบนและกลม คล้าย ๆ เหรียญนั่นแหละ นำมาเล่นโยนฝากัน โยนชนะกินฝากันจริง ๆ กินในที่นี้ คือ ยึดฝากันจริง ๆ บางคนเล่นได้เยอะ มีการซื้อขายกันก็มี ร้อยฝายี่สิบบาท สามสิบบาทก็ว่ากันไป
ลองมานั่งมองตนเองในวันวานก็มีความสุขดี สนุก ได้ยิ้ม ได้หัวเราะกับตนเองตอนนั้น! เอาเงินจริง ๆ ไปซื้อฝาเบียร์มาโยนเล่น ฮา! แค่นึกย้อนไปก็ขำ แต่ตอนนั้นมันสนุกและมีความสุข ไม่เสียดายเงินด้วย แต่เสียดายฝามากกว่า เมื่อเล่นเสีย
ไม่ได้ชวนให้จมปลักกับอดีต อดีตก็คืออดีต ปล่อยผ่านไป ทว่าบางคราอดีตก็สวยงามและมีความสุข ลองย้อนมองกลับไปเล่น ๆ กับความสุขที่เคยเกิดขึ้นในวัยเด็กกัน
เรื่องมันมีอยู่ว่า….
สาย ๆ ในวันปิดภาคเรียนที่สอง วันนี้พวกเธอปิดเทอมแล้ว คุณครูนัดให้ไปรับนมโรงเรียนคนละลังที่โรงเรียน สวมชุดปกติอยู่บ้านไป ไม่ต้องสวมชุดนักเรียน นี่แหละวันที่พวกเธอทุกคนรอคอย
วันนี้ก่อนไปโรงเรียน เธอเดินไปหาสองฝาแฝดที่บ้าน บอกยายว่าจะไปเอง ส่วนน้องบีมให้พี่บอมพาไป เนื่องจากหิ้วมาไม่ไหว ทานข้าวเช้าเสร็จเธอเดินไปยังบ้านของพิมพ์กับแพรวตามที่ได้นัดกันเอาไว้ ตั้งแต่เมื่อวาน จากนั้นก็จะไปรับจ๋อมที่บ้าน และ พากันเดินไปยังโรงเรียน ซึ่งระยะทางก็ไกลประมาณหนึ่ง
“แฝดเฮ็ดหยัง ปะ! ไปโรงเรียน” มาถึงบอสก็เรียกพี่ ๆ เลย ทั้งที่มองเห็นว่าพี่ ๆ กำลังดูโทรทัศน์อยู่ เพียงถามไปอย่างนั้น บอสเดินมาพิงประตูบ้าน ยืนคุยกับพี่สาวทั้งสองคน
“ถ่ามืงอยู่หนิล่ะ” พิมพ์หันมาตอบ จากนั้นทั้งสองคนก็ลุกปิดโทรทัศน์เดินออกมาหาเธอ “ปะ! ออกไปหาอี่จ๋อมนำ” พวกเธอทั้งสามคนสะพายกระเป๋าไปใส่นมในวันนี้กัน
“บอสไผไปเอานมให้น้องบีม” แพรวถามถึงน้องสาวของเธอ เนื่องจากไม่เห็นน้องบีมตามมาด้วย น้องบีมอยู่ชั้นอนุบาลก็ได้นมเหมือนกัน
“อ้ายบอมพาไป!” บอสตอบ แพรวพยักหน้าหงึก ๆ เข้าใจ จากนั้นพวกเธอสามคนพี่น้องก็เดินไปยังโรงเรียน ซึ่งจะแวะรับจ๋อมก่อน
พวกเธอเดินไปคุยกันไปด้วย คุยถึงเรื่องเปิดเทอม ทั้งที่พึ่งจะปิดเทอมเอง คุยถึงเรื่องสงกรานต์ด้วยความตื่นเต้น คุยถึงเรื่องนั้นเรื่องนี้ไปเรื่อยในระหว่างทางอย่างสนุก
ระหว่างนั้นก็เห็นเพื่อน ๆ นักเรียนด้วยกันปั่นจักรยานผ่านหน้าไปโรงเรียน ต่างก็ไปรับนมเหมือนกัน บางคนพ่อแม่ก็พาไป ส่วนพวกเธอไปกันเอง หิ้วมากันเอง พวกเธอไม่ได้ขอให้ลุงวิทย์ขับรถพาไป เพราะอยากแวะเล่นกับจ๋อมด้วย
“บอสปิดเทอมมืงไปกรุงเทพอยู่บ่” แพรวถาม นัยตาดูหม่นลง เพราะเหงา! ถึงจะมีพิมพ์เป็นเพื่อนมันก็ยังเหงาอยู่ดี “บ่ต้องไปหรอก เล่นอยู่บ้านหนิล่ะ”
“เบิ่งก่อน!” บอสตอบ ใจหนึ่งก็อยากไป อีกใจก็ไม่อยากไปเหมือนกัน อยากเล่นกับพิมพ์แพรว ไปกรุงเทพไม่มีเพื่อนเล่น มีเพียงน้องบีมเล่นกันอยู่สองคน นาน ๆ พ่อแม่ถึงจะพาไปเที่ยวเพราะต้องทำงาน
“หาหมามาเลี้ยงบ่เฮา! มีนมให้มันกินแล้วเด้” พิมพ์ชวน แววตาของพิมพ์ดูเป็นประกายขึ้นมา เมื่อนึกถึงเรื่องราวอะไรบางอย่าง คือ หาหมามาเลี้ยงนั้นเอง
“นมจืดเนี่ยนะ! หมาคือสิกิน มันบ่หวาน” แพรวเถียงน้องสาวฝาแฝดของตน
“กินเด้อ! มื้อนั่นกูเอาให้หมาป้าต้อยกิน มันยังกิน” พิมพ์ตอบแบบมั่นใจ
“หาหมาอยู่ไสมาเลี้ยง หมาไผออกลูก” บอสเห็นด้วย แต่ปัญหาอยู่ที่พวกเธอจะหาหมาเกิดใหม่มาจากไหน อีกอย่างไม่รู้เลยว่ายายจะให้เลี้ยงไหม ที่บ้านก็มีแมวแล้วสองตัว
“บ่ฮู้! ฮ่า! กูเว้าไว้ก่อนน้อสู” พิมพ์ตอบ พร้อมเสียงหัวเราะของพวกเธอ เดินไปตามถนนสนทนากันไป รถราวิ่งสวนกันเป็นระยะ ๆ เพราะเป็นถนนในหมู่บ้านรถแต่ละคันจึงวิ่งไม่เร็วนัก พวกเธอเองก็เดินริม ๆ ถนนกัน
“ไปหยังอี่นาง” ยายทวดที่มีศักดิ์เป็นอาสะใภ้ของยายถามพวกเธอ ยายทวดนั่งบนแคร่หน้าบ้าน พวกเธอสามคนเดินผ่านหน้าบ้านของยายทวด แล้วยายทวดก็ทักทายเธอ ตลอด! วันไหนที่เธอเดินผ่านไม่ว่าตาทวดหรือยายทวด ถ้าเห็นจะทักทายเธอเสมอ
“ไปโรงเรียนจ้า บอสไปเอานม” บอสตอบ
“ยายมืงคือสิต่ำแต่หูกน้อ”
“จ้า!” บอสตอบเพียงเท่านี้ พวกเธอยืนพูดคุยกับยายทวดกันก่อน
“หือพากันไป ย่างฮิม ๆ ถนนแนล่ะ รถสิตำเด๊” ยายทวดพูดเท่านี้ พวกเธอก็เดินจากมา มุ่งหน้าไปบ้านของจ๋อมกันต่อ
กว่าจะถึงบ้านของจ๋อมก็ใช้เวลาเดินหลายนาที ระหว่างทางเดินบอสเจอฝาเบียร์และฝาน้ำอัดลมที่เป็นฝาจีบหรือฝากระเบื้องวางอยู่ริมถนน บอสก็ก้มเก็บมาด้วย เพราะจะเอาไปทุบเล่น
เล่นฝาก็สนุกพอ ๆ กับเล่นกระโดดยางหรือเป่ายางนั่นแหละ เล่น ‘กิกเส้น โยนหลุม’ ก็ได้ ใช้แทนเงินเหรียญ
“บอสมืงเก็บฝาเบียร์ไปเฮ็ดหยังอิหนิ” แพรวถาม เพราะเห็นเธอก้มเก็บฝาไปตามทาง มองหารอบ ๆ บริเวณทางเดินด้วย เห็นอยู่ไกล ๆ ก็รีบวิ่งไปเก็บมาใส่ในกระเป๋าไว้
“สู! ไปเอานมมาไว้แล้ว หาเก็บฝามาทุบเล่นบ่เฮา” บอสชวนพี่ ๆ ตอนนี้ก็จวนจะถึงบ้านของจ๋อมแล้ว อีกไม่กี่หลังก็ถึง
“หื้อ… ขี้คร้าน!” พิมพ์ตอบ
“แล้วแต่มืง!” แล้วบอสก็เดินก้มหาฝาต่อไป
ไม่นานพวกเธอก็มาถึงบ้านของจ๋อม พวกเธอสามคนเดินเข้าไปหาจ๋อมในบ้านอย่างคุ้นเคย จ๋อมนั่งรอที่แคร่หน้าบ้านแล้ว พร้อมถุงหูหิ้วใบใหญ่เพื่อจะนำไปใส่นมที่โรงเรียน
“ป้าด!!! อี่จ๋อมคือเตรียมถุงใบใหญ่แถะ ฮา” แพรวแซวเพื่อนซี้ด้วยเสียงหัวเราะ พวกเธอทั้งสองคนด้วยก็หัวเราะตาม ๆ กัน “บ่ต้องฟ้าวหรอก ครูแบ่งให้ทอ ๆ กันคือเก่าล่ะ อีกอย่างคร้านไปต่อแถวนำ คนออกไปบักหลายกูเห็น” แพรวเอ่ย จ๋อมกับพวกเธอพยักหน้าเห็นด้วย
“จ๋อมมืงมีถุงหูหิ้วใบน้อย ๆ บ่! กูขอแน… กูจะเอามาใส่ฝาเบียร์” บอสเอ่ยขอ
“เอาฝาไปทุบบ่” จ๋อมถามอย่างรู้ดี พร้อมเดินเข้าไปในบ้าน ส่วนบอสเดินไปดูที่ถังขยะหน้าบ้านของจ๋อม เผื่อจะมีฝาเบียร์อยู่ในนั้น และก็ไม่ผิดหวัง บอสเจอฝาเบียร์ตั้งหลายฝาในถังขยะด้วย
บอสดีใจมากหาสะสมไว้ กลับไปบ้านจะนำไปทุบให้แบน ๆ หาได้ร้อยฝาขายได้ตั้งยี่สิบบาท ขายให้พวกพี่บอมพี่โจนำไปเล่นก็ได้
ช่วงนี้พวกเธอกำลังฮิตเล่นโยนฝากัน จะมีการเล่น ‘กิกเส้น,โยนหลุม’ ใช้ฝาแทนเหรียญ ใครมีเยอะก็แบ่งขาย ได้เงินกินขนมกันไป ลานประลองฝีมือจะเป็นหน้าบ้านของพี่แซม
“บอสมีถุงใบซำหนิได้บ่” จ๋อมชูถุงให้ดู เป็นใบขนาดพอดี ไม่เล็กและไม่ใหญ่เกินไป บอสพยักหน้าพร้อมรับถุงหูหิ้วจากจ๋อม “ปะมาไปเถาะ! ปานหนิครูแจกนมเบิดล่ะ”
“ปะสั่นเฮา!” จากนั้นพวกเธอทั้งสี่คนก็เดินเกาะกลุ่มกันไปโรงเรียน มีนักเรียนหลายคนที่ไปรับนมเช่นพวกเธอ บ้างก็เดินกันไปเหมือนพวกเธอ บ้างก็ปั่นจักรยานไป
พวกเธอทั้งสี่คนเดินมาถึงโรงเรียน เดินตรงไปยังอาคารปูน ที่โรงเรียนของพวกเธอจะมีเพียงสองอาคาร เป็นอาคารครึ่งตึกครึ่งไม้ และ อาคารปูนทั้งหลัง
อาคารครึ่งตึกครึ่งไม้ เป็นอาคารเก่าแก่มีมาตั้งแต่สมัยแม่ของพวกเธอ พวกเธอทุกคนในโรงเรียนจะเรียกอาคารหลังนี้ว่าอาคารไม้ และ เรียกอาคารใหม่ว่า อาคารปูน เพราะเป็นตึกเป็นปูนทั้งหลัง มีเพียงสองชั้น และมีใต้ถุนอาคารสำหรับไว้ใช้เอนกประสงค์
พวกเธอมองไปยังอาคารปูน ใต้ถุนอาคารเห็นนักเรียนกำลังยืนต่อแถวกันเรียงรายเพื่อรับนม ตั้งแต่ชั้นอนุบาลถึงชั้น ป.4
“เห็นบ่! ขนาดเฮามาช้าแล้วคนยังบ่เมิดอยู่” แพรวบ่นลอย ๆ ขี้เกียจจะไปยืนต่อคิว อยากไปถึงแล้วรับนมกลับบ้านเลย
“ไปโลด! ไปต่อแถวเอาแล้วกะแล้ว” จ๋อมตอบ จากนั้นพวกเธอก็สาวท้าวเดินเร็ว ๆ เพื่อไปให้ถึงอาคารปูน
ใต้ถุนอาคารจะมีครูเสมียน ครูสหรัฐ ครูบัญชา และ ภารโรงยืนควบคุมการแจกกล่องนมของนักเรียน แต่ละคนนำถุงหูหิ้วใบใหญ่มาใส่กล่องนมด้วย ส่วนพวกเธอนำกระเป๋ามาใส่กล่องนมกัน บางคนก็ใส่ลังนมกลับไปทั้งลังกันเลย
เห็นพี่บอมกับน้องบีมมายืนต่อคิวรอรับนมด้วย ทว่ากำลังจะถึงคิวแล้ว บอสยิ้มให้พี่ชายกับน้องสาว ส่วนคนที่แหกปากเรียกน้องบีมคือแพรว แพรวตะโกนคุยกับน้องบีมทันทีเมื่อมาถึง
“บีม หัวหยอง!” แพรวเรียกปนเสียงหัวเราะ
“เอื้อยแพรว!!!” น้องบีมตะโกนเรียกอยู่ในแถว ทำหน้าตาตื่นเต้นที่เจอพี่ ๆ ผมหยักศกตัวตัน ๆ ผิวคล้ำนิดหน่อย สวมกางเกงขาสั้นลายการ์ตูนและเสื้อแขนกุด เป็นเสื้อใช้ต่อจากแพรวกับพิมพ์
“ฮ่า… อี่บีมคือใส่ชุดหนิแข่นแถะย่ะ”
พิมพ์แซวน้องบีมปนยิ้มอีกคน เธอก็มองน้องสาวแบบเดียวกับพิมพ์ น้องบีมใส่เสื้อตัวนี้แล้วดูตัน ๆ และ น้องบีมก็ชอบใส่เสื้อตัวนี้ของแพรวด้วย เป็นเสื้อตอนเด็ก ๆ ของแพรวกับพิมพ์นำมาให้ใส่ต่อเสมอ ๆ
สถานการณ์แลดูเสียงดังและวุ่นวาย ทว่าก็เป็นระเบียบ เนื่องจากครูให้ต่อแถวรับ ใครแซงคิวหรือไม่ต่อแถวไม่แจกให้เด็ดขาด เป็นนมโรงเรียนที่เหลือจากเทอมนั้น ๆ
ทางโรงเรียนก็จะนำมาแจกให้นักเรียนในช่วงปิดเทอม นี่แหละคือช่วงที่พวกเธอรอคอย เพราะจะนำนมไปขายและให้หมาแมวกิน จะทำอะไรก็จัดการได้ตามอัธยาศัยเลย ถ้าวันเปิดเทอมนำกลับมาที่บ้านไม่ได้ ครูบังคับให้ดื่มที่โรงเรียน
พวกเธอได้กล่องนมกันไปคนละเกือบลัง คนที่ได้แล้วก็ทยอยกันกลับ พวกเธอสามคนพี่น้องนำกล่องนมใส่กระเป๋าและแบกใส่บ่าเดินกลับ ส่วนจ๋อมนำใส่ถุงพลาสติก ก็แบกกันกลับอย่างทุลักทุเล เพราะกล่องนมหนักมาก!
ตอนมาเดินตัวปลิวกันมา ตอนกลับพากันเดินกลับอย่างอยากลำบาก เพราะหนักกล่องนม “ไปพักเฮือนอี่จ๋อมก่อนเด้อกูหนัก” บอสบ่นอุบอิบ เพราะหนักเหลือเกิน อิจฉาคนที่มีพ่อแม่พามารับนม ขับมอเตอร์ไซค์ผ่านหน้าไปอย่างสบาย
“พักกะพัก กูกะหนักคือกัน” แพรวตอบ ตอนนี้บอสไม่มีกะจิตกะใจจะมองหาฝาไปตามถนนแล้ว เพราะหนักกล่องนม ตอนนี้บอสอยากบ่นยายมาก ทำไมยายต้องไปสร้างบ้านอยู่ไกลโรงเรียนนัก ทำไมไม่ปลูกบ้านอยู่ติดกับโรงเรียนเลย แบกกล่องนมกลับบ้านหนักเหลือเกินกว่าจะถึง
พวกเธอสี่คนแบกกระเป๋านมเลี้ยวเข้าบ้านจ๋อม วางกระเป๋ากล่องนมไว่บนแคร่ จากนั้นก็มองหน้ากันหัวเราะให้กันอย่างสนุก ที่พากันทั้งแบกทั้งบ่นมาเรื่อย ๆ จนถึงบ้านจ๋อม แม้จะหนักก็ตาม ก็เรียกความขบขันให้พวกเธอได้ สถานีต่อไปแบกไปจนถึงบ้านกันเลย ตอนนี้ขอพักเอาแรงก่อน จ๋อมนำถุงกล่องนมไปเก็บไว้ในบ้าน พร้อมเจาะดื่มด้วยกล่องนึง
“มากินคนละกล่องเติมพลังเฮา ชนนม!” จ๋อมชวน พวกเธอทั้งสามคนเปิดกระเป๋าหยิบนมขึ้นมาดื่มคนละกล่อง มันอุ่น ๆ จืด ๆ แต่ก็อร่อย เพราะกินกับเพื่อนอร่อยที่สุด แม้จะอุ่นและจืด จากนั้นก็ชูกล่องนมชนกันอย่างสนุก ทำเหมือนในละครที่เขาชนแก้วกัน
จากนั้นก็หัวเราะให้กันอยู่บนแคร่ นั่งคุยกันสี่คน หลังจากวันนี้ก็ปิดเทอมจริง ๆ แล้ว เปิดเทอมอีกทีเดือนพฤษภาคม พวกเธออาจไม่ได้มาเล่นกับจ๋อมบ่อยนัก เพราะบ้านอยู่ไกลกัน
“เฮ็ดนมแช่เย็นกะแซ่บ เอานมไปแช่ช่องฟรีซมันกะแข็ง แซ่บเด้มืงลองเบิ่งเด้อ”
“อ่อ! เดี๋ยวกูลอง”
“ตะมืงต้องฉีกเกี้ยกระดาษมันออกนะ ให้มันบาง ๆ ที่สุด นี่เฮ็ดแบบหนิ” จ๋อมสาธิตให้ดูจากที่ดูดนมหมดกล่องแล้ว
จ๋อมแกะก้นกล่องนมส่วนที่พับให้กางออก จากนั้นก็ลอกกระดาษที่เป็นฉลากและลวดลายออกให้หมด ให้เหลือเพียงกระดาษชั้นในที่เป็นสีน้ำตาล ลอกให้บางเท่าที่จะบางได้ เพราะเวลาแช่ฟรีซจะทำให้นมจับกันเป็นน้ำแข็งเร็วขึ้น
วันวาน 5
.
เด็กต่างจังหวัด เด็กบ้านนอกจะรู้จักการเล่น ‘กิกเส้น และ โยนหลุม’ เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะใช้เงินเหรียญจริง ๆ หรือ ‘ฝา’
ฝาในที่นี้ คือ ฝาเบียร์ ฝาน้ำอัดลมที่เป็นขวดแก้ว นำมาทุบให้แบน ๆ มันจะแบนและกลม คล้าย ๆ เหรียญนั่นแหละ นำมาเล่นโยนฝากัน โยนชนะกินฝากันจริง ๆ กินในที่นี้ คือ ยึดฝากันจริง ๆ บางคนเล่นได้เยอะ มีการซื้อขายกันก็มี ร้อยฝายี่สิบบาท สามสิบบาทก็ว่ากันไป
ลองมานั่งมองตนเองในวันวานก็มีความสุขดี สนุก ได้ยิ้ม ได้หัวเราะกับตนเองตอนนั้น! เอาเงินจริง ๆ ไปซื้อฝาเบียร์มาโยนเล่น ฮา! แค่นึกย้อนไปก็ขำ แต่ตอนนั้นมันสนุกและมีความสุข ไม่เสียดายเงินด้วย แต่เสียดายฝามากกว่า เมื่อเล่นเสีย
ไม่ได้ชวนให้จมปลักกับอดีต อดีตก็คืออดีต ปล่อยผ่านไป ทว่าบางคราอดีตก็สวยงามและมีความสุข ลองย้อนมองกลับไปเล่น ๆ กับความสุขที่เคยเกิดขึ้นในวัยเด็กกัน
เรื่องมันมีอยู่ว่า….
สาย ๆ ในวันปิดภาคเรียนที่สอง วันนี้พวกเธอปิดเทอมแล้ว คุณครูนัดให้ไปรับนมโรงเรียนคนละลังที่โรงเรียน สวมชุดปกติอยู่บ้านไป ไม่ต้องสวมชุดนักเรียน นี่แหละวันที่พวกเธอทุกคนรอคอย
วันนี้ก่อนไปโรงเรียน เธอเดินไปหาสองฝาแฝดที่บ้าน บอกยายว่าจะไปเอง ส่วนน้องบีมให้พี่บอมพาไป เนื่องจากหิ้วมาไม่ไหว ทานข้าวเช้าเสร็จเธอเดินไปยังบ้านของพิมพ์กับแพรวตามที่ได้นัดกันเอาไว้ ตั้งแต่เมื่อวาน จากนั้นก็จะไปรับจ๋อมที่บ้าน และ พากันเดินไปยังโรงเรียน ซึ่งระยะทางก็ไกลประมาณหนึ่ง
“แฝดเฮ็ดหยัง ปะ! ไปโรงเรียน” มาถึงบอสก็เรียกพี่ ๆ เลย ทั้งที่มองเห็นว่าพี่ ๆ กำลังดูโทรทัศน์อยู่ เพียงถามไปอย่างนั้น บอสเดินมาพิงประตูบ้าน ยืนคุยกับพี่สาวทั้งสองคน
“ถ่ามืงอยู่หนิล่ะ” พิมพ์หันมาตอบ จากนั้นทั้งสองคนก็ลุกปิดโทรทัศน์เดินออกมาหาเธอ “ปะ! ออกไปหาอี่จ๋อมนำ” พวกเธอทั้งสามคนสะพายกระเป๋าไปใส่นมในวันนี้กัน
“บอสไผไปเอานมให้น้องบีม” แพรวถามถึงน้องสาวของเธอ เนื่องจากไม่เห็นน้องบีมตามมาด้วย น้องบีมอยู่ชั้นอนุบาลก็ได้นมเหมือนกัน
“อ้ายบอมพาไป!” บอสตอบ แพรวพยักหน้าหงึก ๆ เข้าใจ จากนั้นพวกเธอสามคนพี่น้องก็เดินไปยังโรงเรียน ซึ่งจะแวะรับจ๋อมก่อน
พวกเธอเดินไปคุยกันไปด้วย คุยถึงเรื่องเปิดเทอม ทั้งที่พึ่งจะปิดเทอมเอง คุยถึงเรื่องสงกรานต์ด้วยความตื่นเต้น คุยถึงเรื่องนั้นเรื่องนี้ไปเรื่อยในระหว่างทางอย่างสนุก
ระหว่างนั้นก็เห็นเพื่อน ๆ นักเรียนด้วยกันปั่นจักรยานผ่านหน้าไปโรงเรียน ต่างก็ไปรับนมเหมือนกัน บางคนพ่อแม่ก็พาไป ส่วนพวกเธอไปกันเอง หิ้วมากันเอง พวกเธอไม่ได้ขอให้ลุงวิทย์ขับรถพาไป เพราะอยากแวะเล่นกับจ๋อมด้วย
“บอสปิดเทอมมืงไปกรุงเทพอยู่บ่” แพรวถาม นัยตาดูหม่นลง เพราะเหงา! ถึงจะมีพิมพ์เป็นเพื่อนมันก็ยังเหงาอยู่ดี “บ่ต้องไปหรอก เล่นอยู่บ้านหนิล่ะ”
“เบิ่งก่อน!” บอสตอบ ใจหนึ่งก็อยากไป อีกใจก็ไม่อยากไปเหมือนกัน อยากเล่นกับพิมพ์แพรว ไปกรุงเทพไม่มีเพื่อนเล่น มีเพียงน้องบีมเล่นกันอยู่สองคน นาน ๆ พ่อแม่ถึงจะพาไปเที่ยวเพราะต้องทำงาน
“หาหมามาเลี้ยงบ่เฮา! มีนมให้มันกินแล้วเด้” พิมพ์ชวน แววตาของพิมพ์ดูเป็นประกายขึ้นมา เมื่อนึกถึงเรื่องราวอะไรบางอย่าง คือ หาหมามาเลี้ยงนั้นเอง
“นมจืดเนี่ยนะ! หมาคือสิกิน มันบ่หวาน” แพรวเถียงน้องสาวฝาแฝดของตน
“กินเด้อ! มื้อนั่นกูเอาให้หมาป้าต้อยกิน มันยังกิน” พิมพ์ตอบแบบมั่นใจ
“หาหมาอยู่ไสมาเลี้ยง หมาไผออกลูก” บอสเห็นด้วย แต่ปัญหาอยู่ที่พวกเธอจะหาหมาเกิดใหม่มาจากไหน อีกอย่างไม่รู้เลยว่ายายจะให้เลี้ยงไหม ที่บ้านก็มีแมวแล้วสองตัว
“บ่ฮู้! ฮ่า! กูเว้าไว้ก่อนน้อสู” พิมพ์ตอบ พร้อมเสียงหัวเราะของพวกเธอ เดินไปตามถนนสนทนากันไป รถราวิ่งสวนกันเป็นระยะ ๆ เพราะเป็นถนนในหมู่บ้านรถแต่ละคันจึงวิ่งไม่เร็วนัก พวกเธอเองก็เดินริม ๆ ถนนกัน
“ไปหยังอี่นาง” ยายทวดที่มีศักดิ์เป็นอาสะใภ้ของยายถามพวกเธอ ยายทวดนั่งบนแคร่หน้าบ้าน พวกเธอสามคนเดินผ่านหน้าบ้านของยายทวด แล้วยายทวดก็ทักทายเธอ ตลอด! วันไหนที่เธอเดินผ่านไม่ว่าตาทวดหรือยายทวด ถ้าเห็นจะทักทายเธอเสมอ
“ไปโรงเรียนจ้า บอสไปเอานม” บอสตอบ
“ยายมืงคือสิต่ำแต่หูกน้อ”
“จ้า!” บอสตอบเพียงเท่านี้ พวกเธอยืนพูดคุยกับยายทวดกันก่อน
“หือพากันไป ย่างฮิม ๆ ถนนแนล่ะ รถสิตำเด๊” ยายทวดพูดเท่านี้ พวกเธอก็เดินจากมา มุ่งหน้าไปบ้านของจ๋อมกันต่อ
กว่าจะถึงบ้านของจ๋อมก็ใช้เวลาเดินหลายนาที ระหว่างทางเดินบอสเจอฝาเบียร์และฝาน้ำอัดลมที่เป็นฝาจีบหรือฝากระเบื้องวางอยู่ริมถนน บอสก็ก้มเก็บมาด้วย เพราะจะเอาไปทุบเล่น
เล่นฝาก็สนุกพอ ๆ กับเล่นกระโดดยางหรือเป่ายางนั่นแหละ เล่น ‘กิกเส้น โยนหลุม’ ก็ได้ ใช้แทนเงินเหรียญ
“บอสมืงเก็บฝาเบียร์ไปเฮ็ดหยังอิหนิ” แพรวถาม เพราะเห็นเธอก้มเก็บฝาไปตามทาง มองหารอบ ๆ บริเวณทางเดินด้วย เห็นอยู่ไกล ๆ ก็รีบวิ่งไปเก็บมาใส่ในกระเป๋าไว้
“สู! ไปเอานมมาไว้แล้ว หาเก็บฝามาทุบเล่นบ่เฮา” บอสชวนพี่ ๆ ตอนนี้ก็จวนจะถึงบ้านของจ๋อมแล้ว อีกไม่กี่หลังก็ถึง
“หื้อ… ขี้คร้าน!” พิมพ์ตอบ
“แล้วแต่มืง!” แล้วบอสก็เดินก้มหาฝาต่อไป
ไม่นานพวกเธอก็มาถึงบ้านของจ๋อม พวกเธอสามคนเดินเข้าไปหาจ๋อมในบ้านอย่างคุ้นเคย จ๋อมนั่งรอที่แคร่หน้าบ้านแล้ว พร้อมถุงหูหิ้วใบใหญ่เพื่อจะนำไปใส่นมที่โรงเรียน
“ป้าด!!! อี่จ๋อมคือเตรียมถุงใบใหญ่แถะ ฮา” แพรวแซวเพื่อนซี้ด้วยเสียงหัวเราะ พวกเธอทั้งสองคนด้วยก็หัวเราะตาม ๆ กัน “บ่ต้องฟ้าวหรอก ครูแบ่งให้ทอ ๆ กันคือเก่าล่ะ อีกอย่างคร้านไปต่อแถวนำ คนออกไปบักหลายกูเห็น” แพรวเอ่ย จ๋อมกับพวกเธอพยักหน้าเห็นด้วย
“จ๋อมมืงมีถุงหูหิ้วใบน้อย ๆ บ่! กูขอแน… กูจะเอามาใส่ฝาเบียร์” บอสเอ่ยขอ
“เอาฝาไปทุบบ่” จ๋อมถามอย่างรู้ดี พร้อมเดินเข้าไปในบ้าน ส่วนบอสเดินไปดูที่ถังขยะหน้าบ้านของจ๋อม เผื่อจะมีฝาเบียร์อยู่ในนั้น และก็ไม่ผิดหวัง บอสเจอฝาเบียร์ตั้งหลายฝาในถังขยะด้วย
บอสดีใจมากหาสะสมไว้ กลับไปบ้านจะนำไปทุบให้แบน ๆ หาได้ร้อยฝาขายได้ตั้งยี่สิบบาท ขายให้พวกพี่บอมพี่โจนำไปเล่นก็ได้
ช่วงนี้พวกเธอกำลังฮิตเล่นโยนฝากัน จะมีการเล่น ‘กิกเส้น,โยนหลุม’ ใช้ฝาแทนเหรียญ ใครมีเยอะก็แบ่งขาย ได้เงินกินขนมกันไป ลานประลองฝีมือจะเป็นหน้าบ้านของพี่แซม
“บอสมีถุงใบซำหนิได้บ่” จ๋อมชูถุงให้ดู เป็นใบขนาดพอดี ไม่เล็กและไม่ใหญ่เกินไป บอสพยักหน้าพร้อมรับถุงหูหิ้วจากจ๋อม “ปะมาไปเถาะ! ปานหนิครูแจกนมเบิดล่ะ”
“ปะสั่นเฮา!” จากนั้นพวกเธอทั้งสี่คนก็เดินเกาะกลุ่มกันไปโรงเรียน มีนักเรียนหลายคนที่ไปรับนมเช่นพวกเธอ บ้างก็เดินกันไปเหมือนพวกเธอ บ้างก็ปั่นจักรยานไป
พวกเธอทั้งสี่คนเดินมาถึงโรงเรียน เดินตรงไปยังอาคารปูน ที่โรงเรียนของพวกเธอจะมีเพียงสองอาคาร เป็นอาคารครึ่งตึกครึ่งไม้ และ อาคารปูนทั้งหลัง
อาคารครึ่งตึกครึ่งไม้ เป็นอาคารเก่าแก่มีมาตั้งแต่สมัยแม่ของพวกเธอ พวกเธอทุกคนในโรงเรียนจะเรียกอาคารหลังนี้ว่าอาคารไม้ และ เรียกอาคารใหม่ว่า อาคารปูน เพราะเป็นตึกเป็นปูนทั้งหลัง มีเพียงสองชั้น และมีใต้ถุนอาคารสำหรับไว้ใช้เอนกประสงค์
พวกเธอมองไปยังอาคารปูน ใต้ถุนอาคารเห็นนักเรียนกำลังยืนต่อแถวกันเรียงรายเพื่อรับนม ตั้งแต่ชั้นอนุบาลถึงชั้น ป.4
“เห็นบ่! ขนาดเฮามาช้าแล้วคนยังบ่เมิดอยู่” แพรวบ่นลอย ๆ ขี้เกียจจะไปยืนต่อคิว อยากไปถึงแล้วรับนมกลับบ้านเลย
“ไปโลด! ไปต่อแถวเอาแล้วกะแล้ว” จ๋อมตอบ จากนั้นพวกเธอก็สาวท้าวเดินเร็ว ๆ เพื่อไปให้ถึงอาคารปูน
ใต้ถุนอาคารจะมีครูเสมียน ครูสหรัฐ ครูบัญชา และ ภารโรงยืนควบคุมการแจกกล่องนมของนักเรียน แต่ละคนนำถุงหูหิ้วใบใหญ่มาใส่กล่องนมด้วย ส่วนพวกเธอนำกระเป๋ามาใส่กล่องนมกัน บางคนก็ใส่ลังนมกลับไปทั้งลังกันเลย
เห็นพี่บอมกับน้องบีมมายืนต่อคิวรอรับนมด้วย ทว่ากำลังจะถึงคิวแล้ว บอสยิ้มให้พี่ชายกับน้องสาว ส่วนคนที่แหกปากเรียกน้องบีมคือแพรว แพรวตะโกนคุยกับน้องบีมทันทีเมื่อมาถึง
“บีม หัวหยอง!” แพรวเรียกปนเสียงหัวเราะ
“เอื้อยแพรว!!!” น้องบีมตะโกนเรียกอยู่ในแถว ทำหน้าตาตื่นเต้นที่เจอพี่ ๆ ผมหยักศกตัวตัน ๆ ผิวคล้ำนิดหน่อย สวมกางเกงขาสั้นลายการ์ตูนและเสื้อแขนกุด เป็นเสื้อใช้ต่อจากแพรวกับพิมพ์
“ฮ่า… อี่บีมคือใส่ชุดหนิแข่นแถะย่ะ”
พิมพ์แซวน้องบีมปนยิ้มอีกคน เธอก็มองน้องสาวแบบเดียวกับพิมพ์ น้องบีมใส่เสื้อตัวนี้แล้วดูตัน ๆ และ น้องบีมก็ชอบใส่เสื้อตัวนี้ของแพรวด้วย เป็นเสื้อตอนเด็ก ๆ ของแพรวกับพิมพ์นำมาให้ใส่ต่อเสมอ ๆ
สถานการณ์แลดูเสียงดังและวุ่นวาย ทว่าก็เป็นระเบียบ เนื่องจากครูให้ต่อแถวรับ ใครแซงคิวหรือไม่ต่อแถวไม่แจกให้เด็ดขาด เป็นนมโรงเรียนที่เหลือจากเทอมนั้น ๆ
ทางโรงเรียนก็จะนำมาแจกให้นักเรียนในช่วงปิดเทอม นี่แหละคือช่วงที่พวกเธอรอคอย เพราะจะนำนมไปขายและให้หมาแมวกิน จะทำอะไรก็จัดการได้ตามอัธยาศัยเลย ถ้าวันเปิดเทอมนำกลับมาที่บ้านไม่ได้ ครูบังคับให้ดื่มที่โรงเรียน
พวกเธอได้กล่องนมกันไปคนละเกือบลัง คนที่ได้แล้วก็ทยอยกันกลับ พวกเธอสามคนพี่น้องนำกล่องนมใส่กระเป๋าและแบกใส่บ่าเดินกลับ ส่วนจ๋อมนำใส่ถุงพลาสติก ก็แบกกันกลับอย่างทุลักทุเล เพราะกล่องนมหนักมาก!
ตอนมาเดินตัวปลิวกันมา ตอนกลับพากันเดินกลับอย่างอยากลำบาก เพราะหนักกล่องนม “ไปพักเฮือนอี่จ๋อมก่อนเด้อกูหนัก” บอสบ่นอุบอิบ เพราะหนักเหลือเกิน อิจฉาคนที่มีพ่อแม่พามารับนม ขับมอเตอร์ไซค์ผ่านหน้าไปอย่างสบาย
“พักกะพัก กูกะหนักคือกัน” แพรวตอบ ตอนนี้บอสไม่มีกะจิตกะใจจะมองหาฝาไปตามถนนแล้ว เพราะหนักกล่องนม ตอนนี้บอสอยากบ่นยายมาก ทำไมยายต้องไปสร้างบ้านอยู่ไกลโรงเรียนนัก ทำไมไม่ปลูกบ้านอยู่ติดกับโรงเรียนเลย แบกกล่องนมกลับบ้านหนักเหลือเกินกว่าจะถึง
พวกเธอสี่คนแบกกระเป๋านมเลี้ยวเข้าบ้านจ๋อม วางกระเป๋ากล่องนมไว่บนแคร่ จากนั้นก็มองหน้ากันหัวเราะให้กันอย่างสนุก ที่พากันทั้งแบกทั้งบ่นมาเรื่อย ๆ จนถึงบ้านจ๋อม แม้จะหนักก็ตาม ก็เรียกความขบขันให้พวกเธอได้ สถานีต่อไปแบกไปจนถึงบ้านกันเลย ตอนนี้ขอพักเอาแรงก่อน จ๋อมนำถุงกล่องนมไปเก็บไว้ในบ้าน พร้อมเจาะดื่มด้วยกล่องนึง
“มากินคนละกล่องเติมพลังเฮา ชนนม!” จ๋อมชวน พวกเธอทั้งสามคนเปิดกระเป๋าหยิบนมขึ้นมาดื่มคนละกล่อง มันอุ่น ๆ จืด ๆ แต่ก็อร่อย เพราะกินกับเพื่อนอร่อยที่สุด แม้จะอุ่นและจืด จากนั้นก็ชูกล่องนมชนกันอย่างสนุก ทำเหมือนในละครที่เขาชนแก้วกัน
จากนั้นก็หัวเราะให้กันอยู่บนแคร่ นั่งคุยกันสี่คน หลังจากวันนี้ก็ปิดเทอมจริง ๆ แล้ว เปิดเทอมอีกทีเดือนพฤษภาคม พวกเธออาจไม่ได้มาเล่นกับจ๋อมบ่อยนัก เพราะบ้านอยู่ไกลกัน
“เฮ็ดนมแช่เย็นกะแซ่บ เอานมไปแช่ช่องฟรีซมันกะแข็ง แซ่บเด้มืงลองเบิ่งเด้อ”
“อ่อ! เดี๋ยวกูลอง”
“ตะมืงต้องฉีกเกี้ยกระดาษมันออกนะ ให้มันบาง ๆ ที่สุด นี่เฮ็ดแบบหนิ” จ๋อมสาธิตให้ดูจากที่ดูดนมหมดกล่องแล้ว
จ๋อมแกะก้นกล่องนมส่วนที่พับให้กางออก จากนั้นก็ลอกกระดาษที่เป็นฉลากและลวดลายออกให้หมด ให้เหลือเพียงกระดาษชั้นในที่เป็นสีน้ำตาล ลอกให้บางเท่าที่จะบางได้ เพราะเวลาแช่ฟรีซจะทำให้นมจับกันเป็นน้ำแข็งเร็วขึ้น