เมื่อวานไปจ่ายตลาดแล้วได้หิ้วหน่อไม้สดกลับบ้าน ๑ หน่อค่ะ
ตลาดน่าเดิน นอกจากหน่อไม้ก็ยังได้ของอีกหลายรายการ
ได้เขียนกระทู้ไว้ด้วย
https://ppantip.com/topic/40711940
นั่งพิจารณาหน่อไม้ แล้วก็นึกขึ้นได้ว่ามีเมนูนึง ที่ไม่ได้เห็นนานมากกกกกก
ล่าสุดมีเพื่อนสมาชิกท่านหนึ่งกล่าวถึงไว้ในกระทู้นี้ค่ะ
https://ppantip.com/topic/40676168
แกงเปอะแบบสูตรภาคกลางในความทรงจำของหนอนฯก็เหมือนกับที่เพื่อนสมาชิกกล่าวถึงในกระทู้ดังกล่าว
คือใช้หน่อไม้สดฝานบางๆ ต้มกับหมูสามชั้น รสชาติเป็นแกงที่ซดน้ำได้ แต่ไม่เหมือนแกงจืดที่คุ้นเคยกันในปัจจุบัน
หนอนฯได้กินครั้งสุดท้าย ก็เมื่อสมัยม.ปลาย หรือ มหาวิทยาลัยโน่นล่ะค่ะ
คนทำให้กินคือคุณป้าสุดที่รัก ผู้ซึ่งไม่อยู่ให้ถามสูตรแล้ว แต่หนอนฯมีที่พึ่งอีกหนึ่งท่านคือญาติผู้พี่ที่อยู่ต่างประเทศ
แต่ ... ขอลงมือทำก่อน โดยแกะรอยเรียกเอาความทรงจำวัยเด็กออกมาใช้ เสร็จแล้วเดี๋ยวค่อยไลน์ไปถามพี่ค่ะ
มะ มาดูกัน
เมื่อวานหนอนฯจัดการปาดๆปอกๆหน่อไม้ เอาแต่ส่วนที่อยู่ข้างในที่อ่อนๆแล้วฝานเป็นชิ้นบางๆ ล้างน้ำให้สะอาดแล้วต้มกับน้ำซุปค่ะ
หนอนฯไม่ได้ต้มน้ำทิ้งเพราะคนขายซึ่งเป็นผู้ปลูกหน่อไม้นี้ พี่เขาบอกว่าไม่ต้องต้มน้ำทิ้ง เชื่อค่ะ เราต้องเชื่อพี่เขา และเมื่อต้มกับน้ำซุปแล้วชิมดูก็รสดีค่ะ สีน้ำแกงออกเหลืองอ่อนๆ มีกลิ่นดีและไม่เฝื่อนไม่ขมเลย
พอสายวันนี้ก็เตรียมของ ขับรถไปซื้อหมูสามชั้น และเตรียมเครื่องสมุนไพรตามแบบในรูปนี้ค่ะ
อ้อ คุ้ยๆตู้เย็นเจอลูกมะกรูดก็เอาออกมาด้วย เหี่ยวไปหน่อยก็ไม่เป็นไรเราจะใช้ผิวมะกรูดนิดหน่อยค่ะ
และหนอนฯชอบความร้อนหอมของพริกไทยเลยเอามาใส่เพิ่มตอนปั่นเครื่องแกง แต่ใครไม่ชอบก็ไม่ต้องใส่ค่ะ
ล้างและหั่นสมุนไพร แต่แยกพริกไว้นะคะ เพราะหนอนฯจะเอาพริกไว้ลอยหน้าให้มีสีสันเท่านั้น
แกงเปอะถ้วยนี้จะไม่เผ็ดค่ะ ไม่มีครกไม่เป็นไร หนอนฯใช้เครื่องปั่นช่วย ฟืดๆๆๆๆๆๆ
เสร็จแล้วตั้งกระทะแล้วใช้น้ำมันเล็กน้อยเพื่อผัดเครื่องสมุนไพรที่เราปั่นไว้ ถ้าใครใช้ครกโขลกก็เอากะปิลงไปโขลกด้วย แต่วันนี้หนอนฯต้องใช้วิธีปั่นเลยใส่กะปิไปตอนผัดเครื่องค่ะ และหย่อนน้ำตาลมะพร้าวลงไปหน่อยนึง อย่าเพิ่งใส่เยอะเอาไว้ปรุงรสตอนใกล้ปิดเตาอีกครั้ง
กะปินี่ ต้องใช้กะปิอย่างดีนะคะ ที่เห็นในรูปเป็นกะปิที่ป้าหนอนฯที่อยู่ระยองทำเองแล้วส่งมาให้ กลิ่นหอมรสดีเค็มนุ่มนวลอร่อยมาก
ผัดเครื่องพอหอมก็ใส่หมูสามชั้นที่หั่นเป็นชิ้นลงไป ผัดๆๆๆพอให้ผิวหมูขาวไม่ต้องถึงขั้นสุกก็ย้ายของในกระทะมาใส่หม้อหน่อไม้ค่ะ แล้วก็เคี่ยวไปใจเย็นๆ อย่าใช้ไฟแรง
เคี่ยวไปสักพักก็เช็คดูว่าหมูเปื่อยได้ที่หรือยัง ถ้าหมูได้ที่แล้วนี้ก็ตักชิมค่ะ ชิมน้ำแกงพร้อมหน่อไม้นะ
เป็นไงคะ ชิมแล้วเป็นไง
รสที่เราต้องการ ก็เอาให้ถูกใจนะ
แต่ว่าสูตรนี้ เอกลักษณ์คือหวานนำ แต่ไม่ถึงขนาดหวานโดด แค่มีรสหวานนำ ตามด้วยเค็มค่ะ
ของหนอนฯยังไม่ได้ที่ ขอรสหนักขึ้นอีกนิด นิดเดียวค่ะ
ขอเติมน้ำตาลมะพร้าวอีกนิด(ใครไม่มีใช้น้ำตาลทรายก็ได้) และเติมน้ำปลาหน่อย (ใช้เกลือก็ได้ค่ะ)
หย่อนพริกสดลงไป
อ้อ ถ้าจะให้ดีให้ช้อนฟองและน้ำมันที่ลอยหน้าออกบ้างก็ดีค่ะ แต่ว่าหนอนฯขี้เกียจจัง
เคี่ยวๆไป ชิมอีกครั้ง
แหมได้ดังใจ
ขั้นตอนสุดท้ายฉีกใบมะกรูดใส่ลงไป กดๆลงในน้ำแกงเดือดๆ ปิดเตาได้ค่ะ
หนอนฯตักใส่ถ้วย ตักข้าวใส่จานแล้วมานั่งกินหน้าทีวี
รสดีค่ะ หมูเปื่อย หน่อไม้อร่อย น้ำแกงรสหนักกว่าแกงจืดทั่วไป เค็มแบบอร่อยจากกะปิดี มีรสหวานนำ และมีความหอมร้อนจากพริกไทยที่หนอนฯสาดลงไป
พอถ่ายรูปส่งไปให้พี่สาวดู พี่บอกว่า "ไม่คิดว่าหนอนฯจะรู้จัก เพราะที่บ้านป้าไม่ค่อยทำ"
เมนูนี้เป็นอาหารโบราณ และที่หนอนฯทำวันนี้ก็ถือว่าผ่าน ความทรงจำยังดีใช้ได้
และถ้าทำอีกครั้ง จะใส่ตะไคร้แบบซอยๆลงในแกงด้วยก็ได้ และจะโขลกกุ้งแห้งป่นใส่ก็ได้ค่ะ
ขอให้สนุกสนานกับการชม ชิม และปรุงอาหารค่ะ
เมนูในความทรงจำ... แกงเปอะ (ต้มหน่อไม้สดใส่หมูสามชั้น) สูตรภาคกลาง
ตลาดน่าเดิน นอกจากหน่อไม้ก็ยังได้ของอีกหลายรายการ
ได้เขียนกระทู้ไว้ด้วย
https://ppantip.com/topic/40711940
นั่งพิจารณาหน่อไม้ แล้วก็นึกขึ้นได้ว่ามีเมนูนึง ที่ไม่ได้เห็นนานมากกกกกก
ล่าสุดมีเพื่อนสมาชิกท่านหนึ่งกล่าวถึงไว้ในกระทู้นี้ค่ะ
https://ppantip.com/topic/40676168
แกงเปอะแบบสูตรภาคกลางในความทรงจำของหนอนฯก็เหมือนกับที่เพื่อนสมาชิกกล่าวถึงในกระทู้ดังกล่าว
คือใช้หน่อไม้สดฝานบางๆ ต้มกับหมูสามชั้น รสชาติเป็นแกงที่ซดน้ำได้ แต่ไม่เหมือนแกงจืดที่คุ้นเคยกันในปัจจุบัน
หนอนฯได้กินครั้งสุดท้าย ก็เมื่อสมัยม.ปลาย หรือ มหาวิทยาลัยโน่นล่ะค่ะ
คนทำให้กินคือคุณป้าสุดที่รัก ผู้ซึ่งไม่อยู่ให้ถามสูตรแล้ว แต่หนอนฯมีที่พึ่งอีกหนึ่งท่านคือญาติผู้พี่ที่อยู่ต่างประเทศ
แต่ ... ขอลงมือทำก่อน โดยแกะรอยเรียกเอาความทรงจำวัยเด็กออกมาใช้ เสร็จแล้วเดี๋ยวค่อยไลน์ไปถามพี่ค่ะ
มะ มาดูกัน
เมื่อวานหนอนฯจัดการปาดๆปอกๆหน่อไม้ เอาแต่ส่วนที่อยู่ข้างในที่อ่อนๆแล้วฝานเป็นชิ้นบางๆ ล้างน้ำให้สะอาดแล้วต้มกับน้ำซุปค่ะ
หนอนฯไม่ได้ต้มน้ำทิ้งเพราะคนขายซึ่งเป็นผู้ปลูกหน่อไม้นี้ พี่เขาบอกว่าไม่ต้องต้มน้ำทิ้ง เชื่อค่ะ เราต้องเชื่อพี่เขา และเมื่อต้มกับน้ำซุปแล้วชิมดูก็รสดีค่ะ สีน้ำแกงออกเหลืองอ่อนๆ มีกลิ่นดีและไม่เฝื่อนไม่ขมเลย
พอสายวันนี้ก็เตรียมของ ขับรถไปซื้อหมูสามชั้น และเตรียมเครื่องสมุนไพรตามแบบในรูปนี้ค่ะ
อ้อ คุ้ยๆตู้เย็นเจอลูกมะกรูดก็เอาออกมาด้วย เหี่ยวไปหน่อยก็ไม่เป็นไรเราจะใช้ผิวมะกรูดนิดหน่อยค่ะ
และหนอนฯชอบความร้อนหอมของพริกไทยเลยเอามาใส่เพิ่มตอนปั่นเครื่องแกง แต่ใครไม่ชอบก็ไม่ต้องใส่ค่ะ
ล้างและหั่นสมุนไพร แต่แยกพริกไว้นะคะ เพราะหนอนฯจะเอาพริกไว้ลอยหน้าให้มีสีสันเท่านั้น
แกงเปอะถ้วยนี้จะไม่เผ็ดค่ะ ไม่มีครกไม่เป็นไร หนอนฯใช้เครื่องปั่นช่วย ฟืดๆๆๆๆๆๆ
เสร็จแล้วตั้งกระทะแล้วใช้น้ำมันเล็กน้อยเพื่อผัดเครื่องสมุนไพรที่เราปั่นไว้ ถ้าใครใช้ครกโขลกก็เอากะปิลงไปโขลกด้วย แต่วันนี้หนอนฯต้องใช้วิธีปั่นเลยใส่กะปิไปตอนผัดเครื่องค่ะ และหย่อนน้ำตาลมะพร้าวลงไปหน่อยนึง อย่าเพิ่งใส่เยอะเอาไว้ปรุงรสตอนใกล้ปิดเตาอีกครั้ง
กะปินี่ ต้องใช้กะปิอย่างดีนะคะ ที่เห็นในรูปเป็นกะปิที่ป้าหนอนฯที่อยู่ระยองทำเองแล้วส่งมาให้ กลิ่นหอมรสดีเค็มนุ่มนวลอร่อยมาก
ผัดเครื่องพอหอมก็ใส่หมูสามชั้นที่หั่นเป็นชิ้นลงไป ผัดๆๆๆพอให้ผิวหมูขาวไม่ต้องถึงขั้นสุกก็ย้ายของในกระทะมาใส่หม้อหน่อไม้ค่ะ แล้วก็เคี่ยวไปใจเย็นๆ อย่าใช้ไฟแรง
เคี่ยวไปสักพักก็เช็คดูว่าหมูเปื่อยได้ที่หรือยัง ถ้าหมูได้ที่แล้วนี้ก็ตักชิมค่ะ ชิมน้ำแกงพร้อมหน่อไม้นะ
เป็นไงคะ ชิมแล้วเป็นไง
รสที่เราต้องการ ก็เอาให้ถูกใจนะ
แต่ว่าสูตรนี้ เอกลักษณ์คือหวานนำ แต่ไม่ถึงขนาดหวานโดด แค่มีรสหวานนำ ตามด้วยเค็มค่ะ
ของหนอนฯยังไม่ได้ที่ ขอรสหนักขึ้นอีกนิด นิดเดียวค่ะ
ขอเติมน้ำตาลมะพร้าวอีกนิด(ใครไม่มีใช้น้ำตาลทรายก็ได้) และเติมน้ำปลาหน่อย (ใช้เกลือก็ได้ค่ะ)
หย่อนพริกสดลงไป
อ้อ ถ้าจะให้ดีให้ช้อนฟองและน้ำมันที่ลอยหน้าออกบ้างก็ดีค่ะ แต่ว่าหนอนฯขี้เกียจจัง
เคี่ยวๆไป ชิมอีกครั้ง
แหมได้ดังใจ
ขั้นตอนสุดท้ายฉีกใบมะกรูดใส่ลงไป กดๆลงในน้ำแกงเดือดๆ ปิดเตาได้ค่ะ
หนอนฯตักใส่ถ้วย ตักข้าวใส่จานแล้วมานั่งกินหน้าทีวี
รสดีค่ะ หมูเปื่อย หน่อไม้อร่อย น้ำแกงรสหนักกว่าแกงจืดทั่วไป เค็มแบบอร่อยจากกะปิดี มีรสหวานนำ และมีความหอมร้อนจากพริกไทยที่หนอนฯสาดลงไป
พอถ่ายรูปส่งไปให้พี่สาวดู พี่บอกว่า "ไม่คิดว่าหนอนฯจะรู้จัก เพราะที่บ้านป้าไม่ค่อยทำ"
เมนูนี้เป็นอาหารโบราณ และที่หนอนฯทำวันนี้ก็ถือว่าผ่าน ความทรงจำยังดีใช้ได้
และถ้าทำอีกครั้ง จะใส่ตะไคร้แบบซอยๆลงในแกงด้วยก็ได้ และจะโขลกกุ้งแห้งป่นใส่ก็ได้ค่ะ
ขอให้สนุกสนานกับการชม ชิม และปรุงอาหารค่ะ