ขายของออนไลน์อะไรดี 2021 EP5 | คนขายเยอะกว่าคนซื้อ ทำยังไงดี
คุณคงจะรู้สึกว่าการขายของออนไลน์นั้น ขายยาก ขายลำบากเพราะอาจคิดไปเองว่ามีผู้ขายมากกว่าผู้ซื้อ แต่ในความเป็นจริงแล้ว กลับตรงกันข้ามครับ ผมจะอธิบายว่า "คนซื้อ" หรือ "ผู้บริโภค" หากเขาจะซื้อสินค้า ต้องมี "ปัจจัย" อะไรบ้าง ที่คุณควรจะทราบ เพื่อที่จะตอบสนองความต้องการนั้นอย่างถูกต้อง…
ไม่ว่าจะยุคไหน ๆ ก็มักจะได้ยินผู้ประกอบการหลาย ๆ ท่าน ต่างบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่า "เศรษฐกิจไม่ดี ขายของไม่ได้เลย" ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าปัญหาเศรษฐกิจมีผลต่อการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคจริง ๆ แต่ถึงอย่างนั้น เรากลับพบว่าก็ยังมีร้านค้าหลาย ๆ ร้านที่ยังคงขายดิบขายดีเหมือนปกติ ไม่ได้มีปัญหาอะไร แถมบางร้านขายดีกว่าเดิมเสียอีก หรือที่จริงแล้วปัญหาเศรษฐกิจที่เราบ่น ๆ กัน อาจไม่ได้เป็นสาเหตุทั้งหมดที่ทำให้ขายของไม่ดีก็ได้ เพราะคนก็ยังจับจ่ายใช้สอยกันปกติ แต่อาจจะมีสาเหตุอื่น ๆ มากกว่านั้น ที่คุณลืมสังเกตและไม่ได้ใส่ใจไปหรือเปล่า แต่จะมีอะไรบ้างนะที่เป็นสาเหตุทำให้ขายของไม่ดี มาดูพร้อมกันเลยดีกว่าครับ
สาเหตุที่ 1 แชร์หรือโพสต์ขายสินค้าในแบบที่เข้าใจผิด ๆ : นอกจากคนขายของจะมากขึ้นแล้ว ช่องทางการขายของก็ยังเพิ่มขึ้นอีก ทั้งในออฟไลน์และออนไลน์ ทำให้มีการแชร์ลูกค้าไปตามพื้นที่และช่องทางต่าง ๆ มากขึ้น ไม่กระจุกตัวเหมือนแต่ก่อนโดยเฉพาะการเกิดคู่แข่งทางสินค้าออนไลน์ เพราะฉะนั้น ถ้าสินค้าของใครไม่ดีจริง หรือไม่ได้ตั้งในทำเลที่เหมาะสม หรือแม้แต่ทำการตลาดที่ไม่ตรงกลุ่มเป้าหมาย ก็คงจะลำบากสักหน่อยกับการขายของในสมัยนี้ และยิ่งไปกว่านั้นพ่อค้าแม่ค้าบางรายไม่ได้คำนึงถึงสินค้าและบริการนั้น ๆ เลยว่า เป็นสินค้าที่จำเป็น หรือตอบสนองความต้องการของลูกค้ามากน้อยแค่ไหน โดยเฉพาะพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่ในความเป็นจริงสามารถทำการตลาดบนเครื่องมือแพลตฟอร์มต่าง ๆ ได้เลย ทั้งในช่องการแชร์สินค้าและบริการทาง Social Network อย่าง Facebook, Line, Instagram หรือจะเป็นห้างสรรพสินค้าออนไลน์ที่ใคร ๆ ก็สามารถเปิดร้านออนไลน์ได้เลยอย่าง Lazada, Shopee เป็นต้น แต่กับมีความเข้าใจผิดว่า แค่โพสต์ขายสินค้าในแต่ละวันแล้วก็จบไป แบบนี้แหละครับเรียกว่าการขายสินค้าที่มีความเข้าใจแบบผิด ๆ และไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคุณถึงขายสินค้าไม่ได้ นั่นเป็นเพราะคุณไม่มีการวางแผนที่ดีตั้งแต่เริ่มต้นทำธุรกิจแล้ว นั่นเอง
สาเหตุที่ 2 ขายสินค้าแบบไม่ตั้งใจ : แน่นอนว่าไม่มีสินค้าอะไรหรอกที่จะขายดีไปตลอดกาล ได้รับความนิยมตลอดเวลา ยิ่งปัจจุบันที่กระแสต่าง ๆ มาไวไปไวมาก เพราะฉะนั้น ถ้ารู้ว่าของที่เราขายกำลังเสื่อมความนิยม เราก็ควรหาสินค้าใหม่ ๆ มาทดแทน หรือปรับปรุง พัฒนาสินค้าที่มีอยู่ให้ดึงดูดใจกลุ่มลูกค้า ไม่ใช่ปล่อยให้สินค้าตัวเก่าขายไม่ได้อยู่อย่างงั้น แล้วหวังว่าสักวันมันจะกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง แบบนี้ก็รอวันเจ๊งได้เลยครับ หรืออีกนัยหนึ่งการโพสต์ขายสินค้าของคุณทำให้ลูกค้ามีความสับสน เช่น เดือนนี้คุณขายเสื้อผ้า เดือนหน้าคุณขายผลไม้ แล้วอย่างนี้ลูกค้าจะหาความน่าเชื่อถือจากร้านค้าของคุณได้อย่างไร
แนวทางการแก้ไขปัญหาคนขายเยอะกว่าคนซื้อ
สิ่งแรกคุณต้องคำนึงก่อนเลยว่า “ลูกค้าต้องการอะไร” ซึ่งเห็นได้ชัดเลยว่าช่วงนี้คนใช้จ่ายกันอย่างระมัดระวังมากขึ้น และไม่ค่อยกล้าใช้เงินกัน ซึ่งถ้าดูจากตัวเลขหนี้ครัวเรือนแล้ว ก็คงไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมคนถึงไม่กล้าซื้อของ เนื่องจากคนในยุคนี้มีการใช้จ่ายเกินตัว ติดหรู อยู่สบาย และเมื่อเป็นแบบนี้เงินทุก ๆ เดือนที่ได้มาแค่เอาไปจ่ายหนี้ที่ก่อไว้ก็แทบจะไม่พอแล้ว จึงเลิกคิดไปได้เลยว่าจะเอาตังค์ที่ไหนออกไปจับจ่ายใช้สอย ให้ร้านค้าต่าง ๆ ฉะนั้น ผู้ประกอบการโดยเฉพาะร้านค้าขายของออนไลน์ ควรจะคำนึงหรือมีการวางแผนก่อนลงทุน ดังนี้
แนวทางแก้ไขที่ 1 ขายสินค้าที่จำเป็น : สินค้าที่จำเป็นในที่นี้ถ้าให้คุณคิดอย่าง ๆ เลย นั่นก็คือ สินค้าที่เกี่ยวข้องกับปัจจัย 4 เพราะอย่างไรคุณก็ต้องกินต้องใช้กันอยู่แล้ว และยิ่งเป็นสินค้าที่มีราคาถูกสมเหตุสมผลกับคุณภาพและปริมาณก็อาจจะเป็นทางเลือกหนึ่งที่ทำให้คนหันมาซื้อสินค้าและบริการของคุณแต่ถ้าไม่ทำเช่นนั้น อย่างที่บอกไปข้างต้น ก็คือ คนไม่ค่อยกล้าจะใช้เงินกันเสียเท่าไหร่ ถ้าขายสินค้าฟุ่มเฟือยที่ไม่จำเป็น หรือของที่คนไม่ต้องซื้อใหม่ตลอดละก็ เตรียมทำใจได้เลยว่าโอกาสที่จะขายได้ดีเหมือนแต่ก่อนคงเป็นไปได้ยาก เพราะขนาดของใช้จำเป็นต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันเดี๋ยวนี้ผู้คนยังคิดแล้วคิดอีกเลยครับ
แนวทางแก้ไขที่ 2 โปรโมชั่นและการโฆษณา : ทั้งสองสิ่งนี้ถือว่าอยู่ในหมวดการทำการตลาดเพื่อกระตุ้นและเพิ่มยอดขายให้กับร้านค้าของคุณ และสามารถสร้างมันขึ้นมาได้โดยมีกลยุทธ์มากมายหลากหลายวิธี ยกตัวอย่าง การลดราคา วิธีนี้บอกเลยว่าร้อยทั้งร้อยยังไงก็ได้ผล ซึ่งถ้าจะทำให้น่าสนใจการลดเป็นเปอร์เซ็นต์จะดึงดูดลูกค้าได้มากกว่า และกลยุทธ์นี้จะทำให้ลูกค้าออนไลน์ทั้งหลายกระเป๋าสั่นกันเลยทีเดียว แต่ต้องขอเตือนสติผู้ประกอบการไว้เสียหน่อยนะครับว่าอย่าหน้ามืด ลดแหลก เพื่อแค่ต้องการให้สินค้าขายดีเท่านั้น แต่คุณต้องคำนวณดูด้วยว่าคุณตั้งเป้ากำไรของสินค้าที่น้อยลงได้ที่เท่าไหร่และคุ้มค่ากับแรงงานและแรงเงินที่คุณได้ลงทุนไปมากน้อยแค่ไหน จะได้ไม่ต้องมานั่งเซ็ง ขาดทุนทีหลัง นั่นเอง
จากแนวทางการแก้ไขที่ผมได้กล่าวไปนั้น การพัฒนาตัวเองอย่างตั้งใจในการประกอบธุรกิจถือว่าเป็นเรื่องสำคัญมาก และคุณสามารถนำแนวทางนี้ไปใช้ได้ในทุก ๆ แพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็นทาง Social Network อย่าง Facebook, Line, Instagram ที่เน้นในเรื่องการโฆษณาโดยเฉพาะทักษะการยิง Ads เพื่อเพิ่มฐานลูกค้าให้รับรู้ถึงสินค้าและบริการคุณให้มากขึ้น ส่วนทางห้างสรรพสินค้าออนไลน์อย่าง Lazada, Shopee ให้เน้นเรื่องการทำการตลาดเพื่อดึงดูดลูกค้าหรือเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจให้ลูกค้าซื้อสินค้าได้เร็วขึ้น เช่นกัน
เพราะฉะนั้น การวางแผนที่ดีตั้งแต่ต้นก็ย่อมจะนำพาชัยมาให้คุณได้มากไปกว่าครึ่ง และบทความนี้ถือว่าเป็นวิธีที่จะแก้ไขปัญหาของการขายสินค้าแล้วไม่มีคนซื้อได้ในระดับหนึ่งถ้าคุณสามารถแก้ไขในสิ่งที่ผมกล่าวมาได้ทั้งหมด ซึ่งในความเป็นจริงคุณสมบัติที่ดีของผู้ประกอบการมักจะไม่ได้โทษที่ว่าลูกค้าไม่ซื้อหรือมีคู่แข่งเพิ่มขึ้น เพราะสิ่งนี้เป็นเรื่องธรรมชาติที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดในการทำธุรกิจ แต่จะมาดูที่ต้นเหตุว่าสินค้าและบริการของเขานั้นสามารถตอบโจทย์ให้กับกลุ่มลูกค้าได้มากน้อยแค่ไหน และพัฒนาสินค้านั้นให้ดีได้อย่างไร รวมไปถึงการทำการตลาดให้กับกลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสมกับสินค้าที่คุณได้ทำอยู่นั้น เพื่อให้เกิดรายได้สูงสุดนั่นเอง
สุดท้ายนี้ผมหวังว่าผู้ประกอบการหรือพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ทุก ๆ ท่าน คงจะมีความตั้งใจที่จะพัฒนาทักษะการทำธุรกิจค้าขายออนไลน์อย่างจริงจังกันมากขึ้น และพร้อมที่จะแก้ไขปัญญาต่าง ๆ ที่เข้ามาระหว่างทาง เพราะไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่คุณจะตัดสินใจและกล้าที่จะลงมือทำ เมื่อคุณกล้าที่จะลงมือทำคุณก็ต้องไปให้ถึงเป้าหมายที่คุณวางไว้ให้สำเร็จ หรือคุณคิดว่าอย่างไร จะยอมแพ้เลยตอนนี้หรือพร้อมที่จะพัฒนาตัวเองแล้วตั้งใจทำต่อไป สามารถคอมเมนต์ให้กำลังใจกันได้ด้านล่างนี้เลยนะครับ
====================================================================
สำหรับใครที่อยากได้รับอรรถรสเพิ่มมากขึ้น สามารถคลิกวีดีโอได้ตามด้านล่างนี้นะครับ
ขายของออนไลน์อะไรดี 2021 EP5 | คนขายเยอะกว่าคนซื้อ ทำยังไงดี
คุณคงจะรู้สึกว่าการขายของออนไลน์นั้น ขายยาก ขายลำบากเพราะอาจคิดไปเองว่ามีผู้ขายมากกว่าผู้ซื้อ แต่ในความเป็นจริงแล้ว กลับตรงกันข้ามครับ ผมจะอธิบายว่า "คนซื้อ" หรือ "ผู้บริโภค" หากเขาจะซื้อสินค้า ต้องมี "ปัจจัย" อะไรบ้าง ที่คุณควรจะทราบ เพื่อที่จะตอบสนองความต้องการนั้นอย่างถูกต้อง…
สาเหตุที่ 1 แชร์หรือโพสต์ขายสินค้าในแบบที่เข้าใจผิด ๆ : นอกจากคนขายของจะมากขึ้นแล้ว ช่องทางการขายของก็ยังเพิ่มขึ้นอีก ทั้งในออฟไลน์และออนไลน์ ทำให้มีการแชร์ลูกค้าไปตามพื้นที่และช่องทางต่าง ๆ มากขึ้น ไม่กระจุกตัวเหมือนแต่ก่อนโดยเฉพาะการเกิดคู่แข่งทางสินค้าออนไลน์ เพราะฉะนั้น ถ้าสินค้าของใครไม่ดีจริง หรือไม่ได้ตั้งในทำเลที่เหมาะสม หรือแม้แต่ทำการตลาดที่ไม่ตรงกลุ่มเป้าหมาย ก็คงจะลำบากสักหน่อยกับการขายของในสมัยนี้ และยิ่งไปกว่านั้นพ่อค้าแม่ค้าบางรายไม่ได้คำนึงถึงสินค้าและบริการนั้น ๆ เลยว่า เป็นสินค้าที่จำเป็น หรือตอบสนองความต้องการของลูกค้ามากน้อยแค่ไหน โดยเฉพาะพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่ในความเป็นจริงสามารถทำการตลาดบนเครื่องมือแพลตฟอร์มต่าง ๆ ได้เลย ทั้งในช่องการแชร์สินค้าและบริการทาง Social Network อย่าง Facebook, Line, Instagram หรือจะเป็นห้างสรรพสินค้าออนไลน์ที่ใคร ๆ ก็สามารถเปิดร้านออนไลน์ได้เลยอย่าง Lazada, Shopee เป็นต้น แต่กับมีความเข้าใจผิดว่า แค่โพสต์ขายสินค้าในแต่ละวันแล้วก็จบไป แบบนี้แหละครับเรียกว่าการขายสินค้าที่มีความเข้าใจแบบผิด ๆ และไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคุณถึงขายสินค้าไม่ได้ นั่นเป็นเพราะคุณไม่มีการวางแผนที่ดีตั้งแต่เริ่มต้นทำธุรกิจแล้ว นั่นเอง
สิ่งแรกคุณต้องคำนึงก่อนเลยว่า “ลูกค้าต้องการอะไร” ซึ่งเห็นได้ชัดเลยว่าช่วงนี้คนใช้จ่ายกันอย่างระมัดระวังมากขึ้น และไม่ค่อยกล้าใช้เงินกัน ซึ่งถ้าดูจากตัวเลขหนี้ครัวเรือนแล้ว ก็คงไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมคนถึงไม่กล้าซื้อของ เนื่องจากคนในยุคนี้มีการใช้จ่ายเกินตัว ติดหรู อยู่สบาย และเมื่อเป็นแบบนี้เงินทุก ๆ เดือนที่ได้มาแค่เอาไปจ่ายหนี้ที่ก่อไว้ก็แทบจะไม่พอแล้ว จึงเลิกคิดไปได้เลยว่าจะเอาตังค์ที่ไหนออกไปจับจ่ายใช้สอย ให้ร้านค้าต่าง ๆ ฉะนั้น ผู้ประกอบการโดยเฉพาะร้านค้าขายของออนไลน์ ควรจะคำนึงหรือมีการวางแผนก่อนลงทุน ดังนี้
แนวทางแก้ไขที่ 1 ขายสินค้าที่จำเป็น : สินค้าที่จำเป็นในที่นี้ถ้าให้คุณคิดอย่าง ๆ เลย นั่นก็คือ สินค้าที่เกี่ยวข้องกับปัจจัย 4 เพราะอย่างไรคุณก็ต้องกินต้องใช้กันอยู่แล้ว และยิ่งเป็นสินค้าที่มีราคาถูกสมเหตุสมผลกับคุณภาพและปริมาณก็อาจจะเป็นทางเลือกหนึ่งที่ทำให้คนหันมาซื้อสินค้าและบริการของคุณแต่ถ้าไม่ทำเช่นนั้น อย่างที่บอกไปข้างต้น ก็คือ คนไม่ค่อยกล้าจะใช้เงินกันเสียเท่าไหร่ ถ้าขายสินค้าฟุ่มเฟือยที่ไม่จำเป็น หรือของที่คนไม่ต้องซื้อใหม่ตลอดละก็ เตรียมทำใจได้เลยว่าโอกาสที่จะขายได้ดีเหมือนแต่ก่อนคงเป็นไปได้ยาก เพราะขนาดของใช้จำเป็นต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันเดี๋ยวนี้ผู้คนยังคิดแล้วคิดอีกเลยครับ
แนวทางแก้ไขที่ 2 โปรโมชั่นและการโฆษณา : ทั้งสองสิ่งนี้ถือว่าอยู่ในหมวดการทำการตลาดเพื่อกระตุ้นและเพิ่มยอดขายให้กับร้านค้าของคุณ และสามารถสร้างมันขึ้นมาได้โดยมีกลยุทธ์มากมายหลากหลายวิธี ยกตัวอย่าง การลดราคา วิธีนี้บอกเลยว่าร้อยทั้งร้อยยังไงก็ได้ผล ซึ่งถ้าจะทำให้น่าสนใจการลดเป็นเปอร์เซ็นต์จะดึงดูดลูกค้าได้มากกว่า และกลยุทธ์นี้จะทำให้ลูกค้าออนไลน์ทั้งหลายกระเป๋าสั่นกันเลยทีเดียว แต่ต้องขอเตือนสติผู้ประกอบการไว้เสียหน่อยนะครับว่าอย่าหน้ามืด ลดแหลก เพื่อแค่ต้องการให้สินค้าขายดีเท่านั้น แต่คุณต้องคำนวณดูด้วยว่าคุณตั้งเป้ากำไรของสินค้าที่น้อยลงได้ที่เท่าไหร่และคุ้มค่ากับแรงงานและแรงเงินที่คุณได้ลงทุนไปมากน้อยแค่ไหน จะได้ไม่ต้องมานั่งเซ็ง ขาดทุนทีหลัง นั่นเอง
จากแนวทางการแก้ไขที่ผมได้กล่าวไปนั้น การพัฒนาตัวเองอย่างตั้งใจในการประกอบธุรกิจถือว่าเป็นเรื่องสำคัญมาก และคุณสามารถนำแนวทางนี้ไปใช้ได้ในทุก ๆ แพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็นทาง Social Network อย่าง Facebook, Line, Instagram ที่เน้นในเรื่องการโฆษณาโดยเฉพาะทักษะการยิง Ads เพื่อเพิ่มฐานลูกค้าให้รับรู้ถึงสินค้าและบริการคุณให้มากขึ้น ส่วนทางห้างสรรพสินค้าออนไลน์อย่าง Lazada, Shopee ให้เน้นเรื่องการทำการตลาดเพื่อดึงดูดลูกค้าหรือเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจให้ลูกค้าซื้อสินค้าได้เร็วขึ้น เช่นกัน
เพราะฉะนั้น การวางแผนที่ดีตั้งแต่ต้นก็ย่อมจะนำพาชัยมาให้คุณได้มากไปกว่าครึ่ง และบทความนี้ถือว่าเป็นวิธีที่จะแก้ไขปัญหาของการขายสินค้าแล้วไม่มีคนซื้อได้ในระดับหนึ่งถ้าคุณสามารถแก้ไขในสิ่งที่ผมกล่าวมาได้ทั้งหมด ซึ่งในความเป็นจริงคุณสมบัติที่ดีของผู้ประกอบการมักจะไม่ได้โทษที่ว่าลูกค้าไม่ซื้อหรือมีคู่แข่งเพิ่มขึ้น เพราะสิ่งนี้เป็นเรื่องธรรมชาติที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดในการทำธุรกิจ แต่จะมาดูที่ต้นเหตุว่าสินค้าและบริการของเขานั้นสามารถตอบโจทย์ให้กับกลุ่มลูกค้าได้มากน้อยแค่ไหน และพัฒนาสินค้านั้นให้ดีได้อย่างไร รวมไปถึงการทำการตลาดให้กับกลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสมกับสินค้าที่คุณได้ทำอยู่นั้น เพื่อให้เกิดรายได้สูงสุดนั่นเอง
สุดท้ายนี้ผมหวังว่าผู้ประกอบการหรือพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ทุก ๆ ท่าน คงจะมีความตั้งใจที่จะพัฒนาทักษะการทำธุรกิจค้าขายออนไลน์อย่างจริงจังกันมากขึ้น และพร้อมที่จะแก้ไขปัญญาต่าง ๆ ที่เข้ามาระหว่างทาง เพราะไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่คุณจะตัดสินใจและกล้าที่จะลงมือทำ เมื่อคุณกล้าที่จะลงมือทำคุณก็ต้องไปให้ถึงเป้าหมายที่คุณวางไว้ให้สำเร็จ หรือคุณคิดว่าอย่างไร จะยอมแพ้เลยตอนนี้หรือพร้อมที่จะพัฒนาตัวเองแล้วตั้งใจทำต่อไป สามารถคอมเมนต์ให้กำลังใจกันได้ด้านล่างนี้เลยนะครับ