สาปเรือนหบุหงา 1. หลงไหล

กระทู้สนทนา
นิยายเรื่องนี้ เป็นภาคต่อของนิยายผีที่ไร้กฏเกณฑ์ของตรัยโศกเรื่อง "ผมจะบวช" เพราะฉะนั้นทั้งเนื้อหาและชื่อตัวละครจึงไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่อาจมีการเพิ่มตัวละครใหม่เข้าไป โดยในภาคนี้ผู้เขียนจะเฉลยปมปริศนาที่ขมวดทิ้งไว้ในภาคที่แล้ว เรื่องราวจะเป็นอย่างไร ขอเชิญทุกท่านติดตามอ่านกันได้ในนิยายเรื่อง "สาปเรือนบุหงา" ได้เลยครับ


        ไม้ นั่งลงบนเก้าตี้หน้าโต๊ะทำงานอย่างเหนื่อยอ่อน วันนี้คนไข้ของเขามากกว่าทุกวัน แถมแต่ละคนยังมีทีท่าว่าเป็นคนหัวรั้น คำแนะนำของเขาที่มีต่อคนไข้มักขจะถูกปฏิเสธ กว่าจะอธิบายให้ให้เข้าใจถึงผลร้ายของโรคที่จะเกิดขึ้นหากคนไข้ไม่ทำตามคำแนะนำก็เล่นเอาเหนื่อย
        
       นี่ก็เกือบอาทิตย์แล้วที่เขาย้ายมาอยู่ที่นี่ ในช่วงวันแรก ๆ เหล่าหมอและพยาบาลต่างก็คอยแวะเวียนมาพูดคุยด้วย แต่เรื่องที่พูดคุยถามไถ่ส่วนใหญ่ก็เป็นไปในทิศทางเดียวกัน คือเขาเจอผีไหม ผีผู้หญิงในชุดคนไข้
       
       เขารู้สึกเบื่อหน่ายกับความงมงายเหล่านั้น เพราะตั้งแต่อยู่มาเขายังไม่เคยสัมผัสกับความลึกลับใด ๆ เลยสักครั้ง สิ่งที่เขาพบเจอนั้นน่าจะเรียกว่าความสุขความสดใสมากกว่า ความสดใสที่เกิดจากเพื่อนใหม่ของเขา ฝ้าย ผู้ป่วยคนนั้น เขายอมรับว่าเขาหลงรักเธอคนนั้นเข้าแล้ว เขามักจะพบเธอยืนอยู่ใต้ต้นบุหงาทุกวัน น่าแปลกที่เขาไม่อยากซักไซ้ไล่เลียงถึงความเป็นมาของเธอ
       
       "เราเป็นคนไข้พิเศษของที่นี่ รักษาตัวที่นี่มานานแล้วล่ะ" นั่นคือคำตอบจากปากฝ้ายตอนที่เขาเคยถามเธอ
       
       สิ่งที่ทำให้เธอน่าสนใจ ไม่ใช่เพียงใบหน้าที่น่ารัก แต่เป็นความสดใสที่เปล่งออกมา ทุกอย่างทั้งการกระทำที่บางครั้งดูแก่นแก้ว รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ อีกทั้งยังรู้ใจเขาไปเสียหมดราวกับว่าเธอรู้จักเขามานาน และเขาก็ยังรู้สึกสบายใจทุกครั้งเมื่อคุยกับเธอ
       
       "หมอคะ วันนี้คนไข้หมดแล้วจะกลับไปพักก็ได้นะคะ เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว" พี่ยุ้ย พยาบาลสาวที่มีอายุมากกว่าเขาพูดขึ้น เธอก็เป็นอีกคนหนึ่งที่คอยให้คำปรึกษาหมอหน้าใหม่อย่างเขา
       
       "เอางั้นเหรอครับ อืม! ถ้ามีเรื่องด่วนอะไรก็ไปตามผมได้นะครับ" ไม้พูดขึ้นจัดแจงเก็บเอกสารที่กระจัดกระจายบนโต๊ะให้เข้าที่
       
       "แหม! หน้าตาสดใสเชียวนะคะพอรู้ว่าจะได้กลับบ้านพัก แอบมีใครรออยู่รึเปล่าน๊า" พี่ยุ้ยแซวขึ้น ไม้หยุดมือทันทีหันไปยิ้มกว้าง
       
       "คนน่ารักน่ะครับ คนน่ารักรออยู่ที่บ้าน" ไม้ตอบ
       
       "ยังมีคนน่ารักกว่าพี่อีกเหรอคะในโลกนี้น่ะ" พี่ยุ้ยถามพลางแกล้งทำสีหน้าสงสัย
       
       "อ่ะ! ผมยกให้พี่น่ารักที่สุดก็ได้ครับ" ไม้ตอบพลางหัวเราะคิกคัก
       
       "แหม! หมอไม้นี่ล่ะก็ ถ้าอายุเท่ากันนี่พี่จะจีบซะให้เลย ปากหวานจริงเชียว" พี่ยุ้ยพูด
       
       "อย่าเลยครับ เดี๋ยวหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่จะรอบฆ่าผมเอา โทษฐานทำให้พยาบาลสาวดาวโรงพยาบาลหวั่นไหว" ไม้แซวแล้วหัวเราะร่วน
        
       ทั้งคู่มักจะพูดจาพาทีแซวกันพอหอมปากหอมคอแต่ก็ไม่มีอะไรมากกว่านั้น เพราะสำหรับไม้พี่ยุ้ยเปรียบเสมือนพี่สาวคนหนึ่ง เธอเป็นคนดีมากน่ารักอ่อนหวาน
       
       ขณะที่ไม้เดินกลับบ้านพัก ก็ได้เดินสวนกันกับพระชรารูปหนึ่ง ไม้เห็นดังนั้นก็เบี่ยงตัวหลบไปด้านข้างยืนสงบนิ่งพนมมือไหว้ จังหวะที่พระชรากำลังจะเดินผ่านเขาไปนั้นท่านก็ได้พูดขึ้นเบา ๆ ด้วยเสียงแหบพร่า
       
       "ปล่อยวางเสียเถอะนะ อย่าผูกเวรต่อกันไปมากกว่านี้เลย"
       
       ไม้ได้ยินดังนั้นก็รู้สึกสงสัยในคำพูดของพระชรา เขาจึงถามขึ้น
       
       "เอ่อ! ขอโทษครับพระคุณเจ้า เมื่อกี้ท่านว่าอะไรนะครับ"
       
       พระชราหยุดหันมามองเขานิดหนึ่งก่อนจะมองไปที่สุดทางเดิน ไม้กันไปมองตามก็พบเพียงความว่างเปล่า
       
       "กรรมน่ะ สามารถตัดได้หากเราปล่อยวาง" พระชราพูดเพียงแค่นั้นก็เดินจากไป ชายวัยกลางคนที่คอยพยุงท่านก็หันมามองหน้าไม้ด้วยสายตาเศร้า ๆ
       
       ไม้รู้สึกแปลกใจกับคำพูดของพระชราและท่าทีของผู้ติดตาม แต่แล้วเขาก็เลิกสนใจเดินมุ่งหน้ากลับบ้านพักไป
       
       "อ้าวฝ้าย! มานานแล้วเหรอ" ไม้ทักขึ้นเมื่อเห็นว่าฝ้ายหญิงสาวในชุดคนไข้ที่พบเป็นประจำมายืนอยู่ที่รั้วหน้าบ้าน
       
       "มาได้สักพักแล้ว เป็นไงเหนื่อยมั๊ยวันนี้" ฝ้ายถามขึ้นยิ้มอ่อนโยน
       
       "เหนื่อยสิ เหนื่อยมากแต่พอเห็นหน้าคนแถวนี้ก็หายเหนื่อยทันทีเลย" ไม้ตอบพร้อมหยอดคำหวาน
       
       "ปากหวานจังเลยนะ แบบนี้คงจะมีคนไข้สาว ๆ ติดตรึมเลยสิท่า" ฝ้ายพูดขึ้น
       
       "ก็มีบ้างล่ะนะ แต่อยากให้คนแถวนี้ติดมากกว่า" ไม้ยังคงหยอดคำหวานไม่หยุด ฝ้ายยิ้มแล้วมองหน้าเขา
       
       "จะจีบเราเหรอหมอ" ฝ้ายถามขึ้นทำหน้าสงสัย
       
       "บ้า! หมอจะจีบคนไข้ได้ยังไง ต่อให้คนไข้คนนั้นจะน่าจีบขนาดไหนก็เถอะ" ไม้ตอบพลางทำหน้าเจ้าเล่ห์
       
       "พอ ๆ เข้าไปข้างในกันเถอะ หมอจะได้พักผ่อนด้วย" ฝ้ายตัดบทพลางเดินนำเข้าบ้านไป ไม้ยิ้มแล้วเดินตามเข้าอย่างว่าง่าย
       
       ภายในห้องรับแขก ไม้นั่งลงบนโซฟาเอาศีรษะซบกับพนักพิงแสดงท่าทีเหน็ดเหนื่อย ฝ้ายเดินเข้ามาพร้อมน้ำเย็นในมือ วางลงบนโต๊ะแล้วพูดขึ้น
       
       "ดื่มน้ำก่อนสิหมอ จะได้สดชื่น"
       
       "เราบอกกี่ครั้งแล้ว เรียกเราว่าไม้เถอะ" ไม้พูดขึ้นพลางยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม
       
       "วันนี้มีเรื่องอะไรมาเล่าให้เราฟังมั๊ย เอาเรื่องสนุก ๆ นะ" ไม้หันไปถามฝ้ายทำท่าเหมือนเด็กรอฟังนิทาน
       
       "ไม่มีหรอก วันนี้เราอยากให้หมอ เอ่อ! เราอยากให้ไม้พัก" ฝ้ายพูดขึ้น
       
       "ว้า! น่าเสียดายจัง" ไม้พูดขึ้นทำหน้าผิดหวัง ฝ้ายเห็นดังนั้นก็หัวเราะน้อย ๆ อย่างขบขัน
       "หัวเราะอะไร" ไม้ถาม
       
       "ก็หัวเราะเด็กติดนิทานแถวนี้น่ะสิ" ฝ้ายตอบยิ้มอย่างอ่อนโยน
       
       ไม้มองหน้าคนไข้สาวที่บัดนี้กลายเป็นเพื่อนสนิทของเขาในเวลาไม่นาน แต่เธอคงไม่รู้หรอกว่าเขาคิดกับเธอมากกว่านั้น เมื่อความรู้สึกที่มีให้มันรุนแรงเกินกว่าจะยับยั้งชั่งใจ ไม้จึงพูดขึ้น
       
       "ฝ้าย เราชอบฝ้ายนะ"
       
       ฝ้ายได้ยินดังนั้นก็หยุดหัวเราะทันที เธอยิ้มออกมาแต่ช่างเป็นยิ้มที่ดูเศร้าสร้อยเหลือเกิน
       
       "ไม้ไม่รังเกียจเราเหรอ" ฝ้ายถามขึ้น ไม้แปบกใจจึงถามกลับ
       
       "รังเกียจ? รังเกียจอะไร?"
       
       "ก็เรา..." ฝ้ายตอบ แต่เธอก็พูดได้เพียงเท่านั้นก็ร้องไห้ออกมา ไม้เห็นดังนั้นก็ขยับเข้าไปใกล้ ๆ แล้วใช้มือปาดน้ำตาให้เธอ จากนั้นก็พูดขึ้นเบา ๆ
       
       "อย่าร้องไห้สิ ไม่สวยเลย"
       
       คำพูดของไม้ทำให้ฝ้ายชะงักเงยหน้ามองเขาด้วยดวงตาที่รื้นไปด้วยน้ำใส ๆ ไม้สบตาเธอแล้วพูดต่อ
       
       
        "สัญญากับเราได้มั๊ย ว่าต่อไปนี้จะไม่ร้องไห้ให้เราเห็นอีก" ไม้ถาม มือก็ยังคงสัมผัสแก้มนุ่มเนียนนั้นอย่างแผ่วเบา
        
       "อื้ม! เราสัญญา" ฝ้ายตอบยิ้มน้อย ๆ
       
       ไม้มองหน้าสาวน้อยในชุดคนไข้ สองหนุ่มสาวจ้องตากัน เวลารอบกายเหมือนจะหยุดเดินไปชั่วขณะ ไม้ค่อย ๆ เลื่อนหน้าเข้าไปใกล้ฝ้ายทีละน้อย ฝ้ายค่อย ๆ หลับตาพริ้มลงไม่หนีห่างผลักไส และแล้วจุมพิตแรกก็เกิดขึ้น มันช่างอ่อนหวานละมุนนุ่มนวลในห้วงอารมณ์
       
       ไม้รู้สึกมีความสุขจนยากจะถอมริมฝีปาก เขาบดมันลงอย่างแผ่วเบา กลิ่นกายของฝ้ายช่างหอมเหลือเกิน ด้วยความใกล้ชิดนี้กลิ่นน้ำหอมหรือแชมพูอ่อน ๆ มันปนกับกลิ่นที่คล้ายกับต้นข้าวเขียวขจี มันหอมมาก พาให้เขาเคลิบเคลิ้มหลงใหลจนยากจะถอนตัว
       
       "เรารักฝ้ายนะ" ไม้พูดขึ้นหลังจากถอมริมฝีปากทิ้งรสสัมผัสอันหอมหวานนั้นชั่วคราว
       
       ฝ้ายยิ้มอย่างเอียงอาย ไม้โน้มกายเข้าหาอีกครั้งแต่ฝ้ายใช้มือดันหน้าอกเขาไว้
       
       "ทำไม?" ไม้ถาม
       
       "มันเร็วเกินไป อีกอย่างเดี๋ยวน้องสาวไม้ก็จะกลับมาแล้ว" ฝ้ายตอบพลางหันหน้าหนี
       
       "น่าเสียดาย" ไม้พูดออกมา ฝ้ายหันไปมองเขาด้วยความสงสัย
       
       "เสียดาย? เสียดายอะไร" ฝ้ายถาม
       
       "เสียดาย...." ไม้ตอบจ้องหน้าฝ้ายอย่างสื่อความหมายอย่างเห็นได้ชัด ฝ้ายเห็นดังนั้นก็รู้ความหมายในทันที เธอใช้ฝ่ามือตบไปที่ต้นแขนเขาเบา ๆ
       
       "ทะลึ่งนะ" ฝ้ายพูด ไม้หัวเราะน้อย ๆ ทำหน้าทะเล้น
       
       ประมาณหกโมงเย็น พลอยกลับเข้าบ้านพักพร้อมเอกสารเต็มไม้เต็มมือ เธอวางมันลงบนโต๊ะพลางทิ้งตัวลงบนโซฟาอย่างเหนื่อยอ่อน
       
       ไม้เดินเข้ามานั่งลงข้าง ๆ ใช้มือลูบหัวน้องสาวอย่างอ่อนโยน
       
       "เหนื่อยมั๊ยคุณหมอ"
       
       พลอยค่อย ๆ เอนตัวเข้าหาพี่ขาย เธอกอดเขาไว้ซบหน้าลงบนไหล่ที่แข็งแรง
       
       "เหนื่อยสิ เหนื่อยมากแล้วก็หิวมากด้วย" พลอยตอบ
       
       "งั้นก็ดีเลย มากินข้าวสิ" ไม้พูด พลอยเงยดีดตัวขึ้นนั่งทำหน้าฉงน
       
       "พี่ไม้ทำกับข้าวเองเหรอ อารมณ์ไหนเนี่ย" พลอยถามอย่างสงสัย
       
       "เปล่า มีคนทำให้น่ะ" ไม้ตอบ
       
       "ใคร? ใครทำให้ พี่ยุ้ยเหรอ" พลอยถามต่อ
       
       "พี่สะใภ้ในอนาคตของพลอยไง" ไม้ตอบทำหน้ายิ้มกริ่ม พลางฉุดมือน้องสาวเข้าไปในครัว
       
       บนโต๊ะอาหาร มีกับข้าวสองสามอย่างวางเรียงรายอยู่ ทุกอย่างหอมแถมหน้าตาก็ดูน่ารับประทานอย่างมาก
       
       "โห! มีแต่ของชอบพี่ไม้ทั้งนั้นเลย"
       
        พลอยพูดขึ้นนั่งลงบนเก้าอี้ ไม้นั่งลงฝั่งตรงข้ามยิ้มแล้วพูดขึ้น
        
       "ฝีมือฝ้ายเค้าล่ะ"
       
       "อ๋อ! พี่ฝ้ายสาวคนไข้พิเศษของพี่อ่ะนะ แล้วทำไมไม่อยู่กินด้วยกันล่ะ" พลอยถามขึ้นอย่างสงสัยพลางรับจานที่มีข้าวสวยร้อน ๆ จากพี่ชาย
       
       "เค้าต้องรีบกลับล่ะมั๊ง" ไม้ตอบ
       
       "อืม! พี่สะใภ้พลอยสินะ สงสัยจะน่ารักมากถึงขนาดทำให้พี่ชายจอมหยิ่งยโสของพลอยให้หลงได้ขนาดนี้" พลอยพูด
       
       "ใช่ น่ารักมาก ๆ" ไม้ตอบยิ้ม ๆ
       
       "ค่าาาาา รู้แล้ว กินข้าวเหอะพลอยหิวจะแย่แล้วเนี่ย" พลอยพูดก่อนจะเริ่มตักอาหารรับประทานอย่างเอร็ดอร่อย
       
       "ฝีมือทำกับข้าวก็ขั้นเทพ แถมยังทำให้พี่ชายพลอยหลงได้ขนาดนี้ ชักอย่างเห็นหน้าซะแล้วสิ" พลอยพูดขึ้น
       
       "เดี๋ยวก็ได้เจอกันน่า" ไม้พูดยิ้ม ๆ
       
       "ใช่ เดี๋ยวกับกูก็ต้องได้เจอกัน อีพลอย" เงาปริศนาที่ยืนอยู่ใต้ร่มต้นบุหงาพูดขึ้น
       
       "ไม้ต้องเป็นของกูเท่านั้น" เงานั้นพูดต่อแล้วค่อย ๆ จางหายไป

       จู่ ๆ พลอยก็รู้สึกขนลุกวาบไปทั้วตัว เธอหันออกไปมองทางต้นบุหงาที่สามารถมองเห็นได้เนื่องจากห้องครัวอยู่ข้างบ้าน มันยืนต้นทะมึนท่ามกลางความมืดที่รายล้อมปกคลุมจนแลดูน่ากลัว

       "เป็นอะไร" ไม้ถามเมื่อเห็นท่าทีแปลก ๆ ของน้องสาว

       "ไม่รู้สิ อยู่ ๆ ก็หนาวขึ้นมา" พลอยใช้มือลูบแขนทำท่าขนลุก

       "สงสัยจะไม่สบายน่ะ เดี๋ยวกินข้าวแล้วก็กินยาดักไว้ก่อนโอเคนะ" ไม้พูดขึ้นอย่างห่วงใย

       "ค่ะคุณหมอ" พลอยตอบพี่ชายออกไป

       คืนนั้นพลอยหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย กลางดึกเธอก็สะดุ้งตื่นขึ้น เหงื่อกาฬไหลอาบร่างราวกับไปวิ่งมาสักสิบกิโล

       "ฝันบ้าอะไรเนี่ย" พลอยพูดกับตัวเองเบา ๆ

       เธอลุกเดินไปยืนอยู่ริมหน้าต่าง สายตาเหม่อมองไปด้านนอกที่มืดมิด แต่แล้วก็ต้องชะงักขนลุกเกรียวเมื่อเห็นว่าใต้ต้นบุหงาที่ควรจะว่างเปล่า กลับมีเงาของใครคนหนึ่งยืนจ้องขึ้นมาที่เธอ

       เงานั้นแม้จะอยู่ในความมืดแต่รายละเอียดที่เห็นนั้นชัดเจน หญิงสาวผมยาวในชุดคนไข้ เธอมองพลอยด้วยสายตาอาฆาตแค้น แต่ที่ทำให้พลอยต้องรู้สึกเสียวสันหลัง คือใบหน้ารูปไข่น่ารักที่พลอยจำได้ดีเพราะเพิ่งเห็นในความฝันเมื่อครู่

       "ฝ้าย?" พลอยโพล่งขึ้น

       "เออ! กูเอง" เสียงปริศนาดังขึ้นในโสตประสาท

       "กูจะฆ่ามืง อีพลอย!!"

จบตอน.
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่