เช้านี้เปิดตู้เย็น หยิบหมูสับ แหนมหม้อและข้าวหมากออกมา
คุ้ยๆเจอตะไคร้ผอมๆ ใบมะกรูด พริกชี้ฟ้าและพริกขี้หนู นอนแน่นิ่งอยู่ในช่องผัก ก็หยิบออกมาล้างน้ำ
กะทิขวด
น้ำตาลมะพร้าวและดอกเกลือ เอาไว้แต่งรสหวานเค็ม
ส่วนรสเปรี้ยวบางท่านอาจชอบน้ำมะขามเปียก แต่หนอนฯชอบมะนาวค่ะ
เราจะทำ "แหนมหลน ใส่ข้าวหมาก" กินค่ะ
แหนมก้อนอ้วน เอาแค่ครึ่งเดียว จะผสมหมูสับปริมาณใกล้เคียงกัน
แหนมหมูมีหนังผสมที่อาจเป็นเส้นยาว เราก็หั่นๆๆๆๆๆ ให้มันเป็นชิ้นเล็กๆ
ข้าวหมาก หนอนฯตักมาใช้ครึ่งห่อ ก็ราวๆ ๓ ช้อนโต๊ะค่ะ
ตะไคร้และพริกชี้ฟ้าหั่นเป็นท่อน
พริกขี้หนูเด็ดก้านเอาไว้ใส่เป็นลูกโดด
ใบมะกรูดก็ฉีกๆ เอาไว้ใส่ตอนใกล้ปิดเตา
หอมแดง หนอนฯมีหอมแขกนะคะ หัวใหญ่กลิ่นไม่แรง ก็จับปอกเปลือกล้างน้ำและหั่นๆซอยๆแบบหนาๆหน่อย เพราะเมื่อเคี่ยวไปนานๆหอมแดงจะยังคงเป็นชิ้นเป็นอัน ตอนกินก็จะฟินมาก
ตั้งกะทิใส่ตะไคร้หั่นท่อน ใช้ไฟกลางระวังอย่าให้กะทิจับเป็นก้อนหรือแตกมัน
พอเริ่มร้อนก็ใส่แหนมลงไป และตักน้ำกะทิร้อนๆเอามาใส่ถ้วยหมูสับ ยีๆให้เนื้อหมูกระจาย ไม่จับเป็นก้อน แล้วก็เทหมูลงหม้อ
แล้วก็ใส่ข้าวหมากลงไป คนๆๆๆๆ ตามด้วยหอมแดงและพริกชี้ฟ้าหั่น
เคี่ยวไปเรื่อยๆ ตอนนี้กลิ่นจะหอมเชียวค่ะ ชอบกลิ่นพริกที่โดนความร้อนและโชยขึ้นมาแตะจมูก พริกแบบนี้ไม่เผ็ดค่ะ แต่หอมสดชื่น
เอ้า ตักชิม
เวลาชิมให้ชิมเป็นคำ ให้มีทั้งแหนมและหมูสับนะคะ อย่าชิมแต่น้ำ จะได้รับรู้รสเหมือนเวลาที่เรารับประทานจริงๆ
รสที่ได้จะนวลๆ มีหวานหอมจากกะทิและข้าวหมาก
เปรี้ยวน้อยหรือมาก ก็เกิดจากรสแหนม
ชิมแล้วก็แต่งรสค่ะ อยากได้แบบไหน อยากเพิ่มรสใดก็จัดไปให้ถูกใจ
ส่วนตัวหนอนฯ ถ้าเป็นพวก"แกงขาว" หนอนฯชอบใช้ดอกเกลือเพื่อแต่งรสเค็มมากกว่าน้ำปลาค่ะ
แต่งหวานเพิ่มด้วยน้ำตาลมะพร้าวแท้ ก็เราอยู่สมุทรสงครามนี่นะ น้ำตาลมะพร้าวแถวนี้คือแหล่งที่ดีที่สุดแหล่งหนึ่งของเมืองไทย
และเพิ่มความเปรี้ยวอย่างสดชื่นด้วยน้ำมะนาวสด
คนๆๆๆๆๆ
ชิมแล้วถ้าถูกใจก็ฉีกใบมะกรูดใส่ลงไปพร้อมกับพริกขี้หนู
คนๆๆๆๆ
ปิดเตา ตักเสิร์ฟได้ค่ะ
หลนเป็นเครื่องจิ้ม ดังนั้นลักษณะก็จะข้นๆหน่อย รับประทานกับผักสดจะอร่อยมากค่ะ
แต่ว่าวันนี้ ตู้เย็นที่บ้านไม่มีผักสดเหลือเลยค่ะ ทำไงดีล่ะ
ชะโงกหน้าไปดูต้นมะม่วง มองหาใบอ่อนๆ ก็น่าจะพอแกล้มหลนถ้วยนี้ได้นะคะ เคยลองกันไหมคะ
ถ้าไม่เคย ต้องลองค่ะ
ขอนอกเรื่องหน่อย อยากกระซิบว่า ยอดมะม่วงอ่อน กินกับกะปิคั่วอร่อยมาก
นี่พี่สาวที่อยู่อ.แกลง จ.ระยองได้ส่งกะปิฝีมือป้าทำเองมาให้ บอกเลยว่ากะปิฝีมือป้านั้น สุดยอดค่ะ
เดี๋ยวได้ไปจ่ายตลาดจะซื้อเครื่องปรุงสด จะเอามาทำกะปิคั่วสูตรของที่บ้านให้ชมนะคะ
ต้องรีบทำ เพราะช่วงเข้าหน้าฝน พวกยอดไม้แตกใบอ่อน ทั้งมะม่วง มะกอก กระถิน กินยอดอ่อนกับกะปิคั่ว เข้ากั๊นเข้ากัน
กินในบ้าน ... หลนแหนม ใส่ข้าวหมาก ...
คุ้ยๆเจอตะไคร้ผอมๆ ใบมะกรูด พริกชี้ฟ้าและพริกขี้หนู นอนแน่นิ่งอยู่ในช่องผัก ก็หยิบออกมาล้างน้ำ
กะทิขวด
น้ำตาลมะพร้าวและดอกเกลือ เอาไว้แต่งรสหวานเค็ม
ส่วนรสเปรี้ยวบางท่านอาจชอบน้ำมะขามเปียก แต่หนอนฯชอบมะนาวค่ะ
เราจะทำ "แหนมหลน ใส่ข้าวหมาก" กินค่ะ
แหนมก้อนอ้วน เอาแค่ครึ่งเดียว จะผสมหมูสับปริมาณใกล้เคียงกัน
แหนมหมูมีหนังผสมที่อาจเป็นเส้นยาว เราก็หั่นๆๆๆๆๆ ให้มันเป็นชิ้นเล็กๆ
ข้าวหมาก หนอนฯตักมาใช้ครึ่งห่อ ก็ราวๆ ๓ ช้อนโต๊ะค่ะ
ตะไคร้และพริกชี้ฟ้าหั่นเป็นท่อน
พริกขี้หนูเด็ดก้านเอาไว้ใส่เป็นลูกโดด
ใบมะกรูดก็ฉีกๆ เอาไว้ใส่ตอนใกล้ปิดเตา
หอมแดง หนอนฯมีหอมแขกนะคะ หัวใหญ่กลิ่นไม่แรง ก็จับปอกเปลือกล้างน้ำและหั่นๆซอยๆแบบหนาๆหน่อย เพราะเมื่อเคี่ยวไปนานๆหอมแดงจะยังคงเป็นชิ้นเป็นอัน ตอนกินก็จะฟินมาก
ตั้งกะทิใส่ตะไคร้หั่นท่อน ใช้ไฟกลางระวังอย่าให้กะทิจับเป็นก้อนหรือแตกมัน
พอเริ่มร้อนก็ใส่แหนมลงไป และตักน้ำกะทิร้อนๆเอามาใส่ถ้วยหมูสับ ยีๆให้เนื้อหมูกระจาย ไม่จับเป็นก้อน แล้วก็เทหมูลงหม้อ
แล้วก็ใส่ข้าวหมากลงไป คนๆๆๆๆ ตามด้วยหอมแดงและพริกชี้ฟ้าหั่น
เคี่ยวไปเรื่อยๆ ตอนนี้กลิ่นจะหอมเชียวค่ะ ชอบกลิ่นพริกที่โดนความร้อนและโชยขึ้นมาแตะจมูก พริกแบบนี้ไม่เผ็ดค่ะ แต่หอมสดชื่น
เอ้า ตักชิม
เวลาชิมให้ชิมเป็นคำ ให้มีทั้งแหนมและหมูสับนะคะ อย่าชิมแต่น้ำ จะได้รับรู้รสเหมือนเวลาที่เรารับประทานจริงๆ
รสที่ได้จะนวลๆ มีหวานหอมจากกะทิและข้าวหมาก
เปรี้ยวน้อยหรือมาก ก็เกิดจากรสแหนม
ชิมแล้วก็แต่งรสค่ะ อยากได้แบบไหน อยากเพิ่มรสใดก็จัดไปให้ถูกใจ
ส่วนตัวหนอนฯ ถ้าเป็นพวก"แกงขาว" หนอนฯชอบใช้ดอกเกลือเพื่อแต่งรสเค็มมากกว่าน้ำปลาค่ะ
แต่งหวานเพิ่มด้วยน้ำตาลมะพร้าวแท้ ก็เราอยู่สมุทรสงครามนี่นะ น้ำตาลมะพร้าวแถวนี้คือแหล่งที่ดีที่สุดแหล่งหนึ่งของเมืองไทย
และเพิ่มความเปรี้ยวอย่างสดชื่นด้วยน้ำมะนาวสด
คนๆๆๆๆๆ
ชิมแล้วถ้าถูกใจก็ฉีกใบมะกรูดใส่ลงไปพร้อมกับพริกขี้หนู
คนๆๆๆๆ
ปิดเตา ตักเสิร์ฟได้ค่ะ
หลนเป็นเครื่องจิ้ม ดังนั้นลักษณะก็จะข้นๆหน่อย รับประทานกับผักสดจะอร่อยมากค่ะ
แต่ว่าวันนี้ ตู้เย็นที่บ้านไม่มีผักสดเหลือเลยค่ะ ทำไงดีล่ะ
ชะโงกหน้าไปดูต้นมะม่วง มองหาใบอ่อนๆ ก็น่าจะพอแกล้มหลนถ้วยนี้ได้นะคะ เคยลองกันไหมคะ
ถ้าไม่เคย ต้องลองค่ะ
ขอนอกเรื่องหน่อย อยากกระซิบว่า ยอดมะม่วงอ่อน กินกับกะปิคั่วอร่อยมาก
นี่พี่สาวที่อยู่อ.แกลง จ.ระยองได้ส่งกะปิฝีมือป้าทำเองมาให้ บอกเลยว่ากะปิฝีมือป้านั้น สุดยอดค่ะ
เดี๋ยวได้ไปจ่ายตลาดจะซื้อเครื่องปรุงสด จะเอามาทำกะปิคั่วสูตรของที่บ้านให้ชมนะคะ
ต้องรีบทำ เพราะช่วงเข้าหน้าฝน พวกยอดไม้แตกใบอ่อน ทั้งมะม่วง มะกอก กระถิน กินยอดอ่อนกับกะปิคั่ว เข้ากั๊นเข้ากัน