[CR] Eat From Home ลองทำ ปลากระพงลวกน้ำยำ และ แกงจืดกะหล่ำปลีห่อหมูพร้อมลองใช้ สามเกลอพร้อมปรุงแม่หยก

Eat From Home ลองทำ ปลากระพงลวกน้ำยำ และ แกงจืดกะหล่ำปลีห่อหมูพร้อมลองใช้ สามเกลอพร้อมปรุงแม่หยก

สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะรีวิวการทำอารเองแบบง่ายๆ ที่บ้านใครๆก็ทำได้ ซึ่งต้องบอกไว้ก่อนว่าปกติเราก็ทำอาหารไม่ค่อยเป็นหรอกแต่อาศัยดูตามสูตรที่เขาแชร์ตามเน็ต โดยสูตรนี้เราเอามาจาก 50 เมนูอาหารทำได้ด้วยตัวเอง ของ คุณ รุ่งรัตน์ แจ่มจันทร์ และ ริญ เจริญศิริ นี้แหละคะ แต่มีการปรับสูตรเพิ่มเติมตามที่เราหาของได้ อีกทั้งแล้วก็ช่วงนี้ Work From Home อีกรอบ เลยมีเวลาได้ลองทำอะไรใหม่ ๆ ด้วย โดยเมนูที่เราเลือกจะทำคือ
ปลากระพงลวกน้ำยำ และ แกงจืดกะหล่ำปลีห่อหมู ค่า ดูเหมือนจะยาก แต่จริง ๆ ไม่ยากเลยค่ะ 
โดยเรามาส่วนประกอบของเมนูแรกกันเลยค่ะ
แกงจืดกะหล่ำปลีห่อหมู
ส่วนประกอบที่ 1
1. หมูเนื้อสันในบด   3 ช้อนโต๊ะ  [ 45 กรัม ]
2. แครอตสับ   1 ช้อนโต๊ะ [ 10 กรัม ]
3. สามเกลอพร้อมปรุงแม่หยก1-2 ช้อนชา [ 2 กรัม ] >> อันนี้เราปรับมากจากใช้ กระเทียม รากผักชี พริกไทย 
4. ซอสปรุงรส   2/5 ช้อนชา  [ 2 กรัม ]
5. น้ำตาลทรายแดง  1/3 ช้อนชา [ 1.5 กรัม ]
6. กะหล่ำปลี  ½ ถ้วยตวง [ 25 กรัม ]
7. ใบต้นหอม 1 ช้อนโต๊ะ [ 4 กรัม ]
แต่ในที่นี้เราจะใช้ สามเกลอพร้อมปรุงแม่หยกแทน รากผักชี กระเทียม พริกไทยขาวป่น นะคะ เพราะเราไปเดินซื้อวัตถุดิบแล้วเจอตัวนี้ก็เลยเอามาแล้วกันจะได้ไม่ต้องเสียเวลามานั่งโขลก
ส่วนประกอบที่ 2
1. น้ำซุปซี่โครงไก่  ½ ถ้วยตวง + 4 ช้อนโต๊ะ  [ 150 กรัม ]
2. เต้าหูไข่ไก่หลอดนั่นตามขวางเป็นแว่น 2 ช้อนโต๊ะ [ 30 กรัม ]
3. ซอสปรุงรส ½ ช้อนโต๊ะ [ 7 กรัม ]
4. น้ำตาลทรายขาว ½ ช้อนชา [ 2 กรัม ]
5. ซอสหอยนางรม 1 ช้อนชา [ 5 กรัม ]
เพื่อไม่เป็นการเสียเวลาขอเริ่มทำเลยละกันนะคะ

เริ่มด้วยการนำมาส่วนผสมมาชั่งผ่านดครื่องชั่งน้ำหนักอาหาร หรือไม่ใครมีช้อนตวงก็สามารถใช้ได้เหมือนกันค่ะ แต่ของเราน้ำหนักของส่วนผสมอาจะมีเกิน ๆมาหน่อยนะคะ แล้วก็เอาน้ำหนักของถ้วยตวงมาลบกับน้ำหนักที่ชั่งค่ะ

และอย่างที่บอกว่าเราจะไม่นั่งโขลกกระเทียม รากผักชี พริกไทย 555 เพราะเราใช้แบบที่เป็นสำเร็จรูปไปเลยสะดวกดีเพราะมันเข้มข้นด้วย นางปั่นบดละเอียดมาแล้วตามที่ต้องการใช้ นั่นก็คือ สามเกลอพร้อมปรุงแม่หยก ที่บอกไว้ตอนต้น
  
นำสามเกลอสำเร็จรูปผสมเข้ากับเนื้อหมูสันในบดละเอียด จำนวน 1-2 ช้อนชา ค่ะ แต่ถ้าใครไม่อยากได้รสชาติจัดมากก็ใส่สามเกลอสำเร็จรูป แค่หนึ่งช้อนชาก็ได้ค่ะ

นำแครรอทสับละเอียดมาใส่กับหมูสับที่เตรียมไว้

จากนั้นใส่ซอสปรุงรส [ พวกซีอิ๊วขาว หรือแม็กกี้ ] ก็ได้ค่ะ แล้วก็ตามด้วยน้ำตาลทรายจากนั้นคลุกส่วนผสมให้เข้ากัน

เมื่อคลุกส่วนผสมเสร็จแล้วก็ให้พักไว้ก่อน

ให้นำกะหล่ำปลีมาเด็ดเอาใบออกโดยผ่าโคนด้านล่างเพื่อง่ายสำหรับการแกะใบ จากนั้นนำไปลวกในน้ำร้อนต้มสุก เอาแค่พอนิ่มนะคะ อยากต้มไว้นาน กะเวลาสัก 1-2 นาทีพอไม่งั้น เดี้ยวมันจะนิ่มเกินแล้วจะขาดง่ายค่ะ  นำขึ้นมาสะเด็ดน้ำ

จากนั้นนำเนื้อหมูที่คลุกเคล้ากับส่วนผสม และ สามเกลอพร้อมปรุงแล้ว มาปั้นเป็นก้อนกลมวางบนกะหล่ำปลีที่ทำการลวกไว้แล้ว ทำการห่อให้ได้ทรง สี่เหลี่ยมและนำต้นหอมมาผูกเงื่อนปิดตาย ตรงนี้ต้องระวังหน่อยนะคะ ตอนที่เราทำก็มีขาดไปหลายเส้นเหมือนกันทำไว้สัก 4-5 ก้อนพอ ค่ะ

นำกะหล่ำปลีที่ห่อหมูเรียบร้อยแล้วมานึ่งกับหม้อโดยใช้ไอความร้อนจากน้ำต้มสุก ทั้งนี้ใช้เวลาประมาณไม่เกิน 5 นาทีค่ะ พอเสร็จแล้วก็นำกะหล่ำปลีที่ห่อหมูที่นึ่งเรียบร้อยแล้วมาพักและเริ่มทำน้ำซุปต่อ

นำน้ำซุปกระดูกไก่ใส่ลงหม้อที่เตรียมไว้แล้วจากนั้นก็ใส่ เครื่องปรุง น้ำมันหอย น้ำตาลทรายขาว

ใส่ซอสปรุงรสเล็กน้อย จากนั้นพอน้ำเดือดแล้วก็ใส่เต้าหู้ไข่หั่นสไลด์บางลงไปในหม้อต้มสักพักจากนั้นก็ปิดไฟนำมาราดบนกะหล่ำปลีห่อหมูที่ทำการนึ่งไว้แล้ว แต่ให้เปลี่ยนมาใส่ชามก่อนนะคะ จากนั้นก็พร้อมรับประทานแล้วค่ะ


แต่อย่างที่บอกว่าเราไม่ได้ทำแค่เมนูเดียว อีกเมนูนั้นก็คือ ปลากระพงขาวลวกน้ำยำนั่นเอง แต่รอบนี้เรามีการใช้กระเทียมนะ แต่อย่าเพิ่งแปลกใจว่าทำไมไม่ใช้เป็นผงปรุงรสไปเลย คือ เมนูนี้ ตัวกระเทียมนางต้องหั่นเป็นตามขวางแล้วเอามาคลุกกับน้ำยำด้วยค่ะ
โดยส่วนผสมของเมนู ปลากระพงลวกน้ำยำ มีดังนี้ค่ะ
1. ปลากระพงขาว ½ ถ้วยตวง [ 60 กรัม]
2. กระเทียมหัวหั่นตามขวาง 2 ช้อนโต๊ะ [15 กรัม]
3. พริกขี้หนูซอย [ 4 กรัม]
4. น้ำตาลทรายแดง  [ 6 กรัม ]
5. น้ำปลา     ½ ช้อนโต๊ะ [ 8 กรัม]
6. น้ำมะนาว  2 ช้อนชา [ 10 กรัม]

ส่วนวิธีการการทำ ขอเริ่มจากการทำน้ำยำรอไว้ก่อนเลยนะคะ นำน้ำมะนาวมาผสมกับ น้ำตาลทรายแดง ในชามสำหรับทำน้ำยำ ใส่น้ำปลาและพริกขี้หนูสวนที่เราได้ทำการหั่นไว้แล้ว

คลุกเคล้าให้ส่วนผสมต่าง ๆ เข้ากัน โดยให้ตัวน้ำตาลทรายแดงเข้ากับเนื้อน้ำยำ หากใครชอบรสเปรี้ยวก็อาจเพิ่มมะนาวลงไปเพิ่มได้ค่ะ

ต่อมาก็คือการนำเนื้อปลากระพงหั่นสไลด์มาลวก แต่ต้องบอกก่อนนะคะ ว่าแค่ลวกพอประมาณ ถ้าเราใส่ปลาในน้ำร้อนต้มสุกนานเกินไปเนื้อปลาจะยุ่ยแล้วเวลาจะทานคู่กับน้ำยำแล้วจะไม่เข้าเนื้อค่ะ  ถ้ากลัวงง ก็จำง่ายๆว่า ต้องต้มน้ำร้อน ทิ้งไว้ให้ร้อนก่อนจนควันขึ้น จากนั้น ค่อยเอาเนื้อปลาใส่ไปในหม้อ ทั้งนี้เราควรมีที่คีบ คอยคีบตัวเนื้อปลาเช็คความสุก พอเห็นเนื้อเป็นสีขาวจนทั่วแล้วก็เอาขึ้นจากหม้อได้เลย

พอได้เนื้อปลาที่ลวกเรียบร้อยแล้วก็เอามาวางตกแต่งบนจานที่ผักกาด แล้วราดด้วยน้ำยำที่เราทำทิ้งไว้ตอนแรก
เสร็จแล้วค่ะ กับเมนูปลากระพงลวกน้ำยำ


แล้วนี้ก็คือสองเมนูที่ทำโดยเราเอง ไม่ยากเลยเห็นไหม แล้วก็สามารถทานพร้อมข้าวสวยหรือ  ถ้าพวกข้าวกล้องได้ด้วยนะคะ

เป็นอย่างไรบ้างคะกับการทำอาหารเองที่บ้าน ไม่ยากไม่ง่ายจนเกินไป แต่แอบปาดเหงื่อนิดหนึ่งนะคะ หน้าตาอาจจะดูไม่สวยมากเท่าไหร่ แต่รสชาติเรียกว่าใช่ได้เลยค่ะ [ มีแอบให้แฟนลองทานกับ คุณแม่ ] พอไปประกวด Master Chef ได้ไหมคะ 5555 
แต่เมนูที่ตอนแรกเราคิดว่าต้องทำยากแน่เลย ก็คือเจ้าเมนูแกงจืดกะหล่ำปลีห่อหมู นี้แหละค่ะเพราะส่วนผสมที่เยอะอาจต้องใช้เวลาเตรียมนาน แต่ดีที่เราตัดปัญหาพวกส่วนประกอบที่ต้องมานั่งโขลกเครื่องปรุงเอง ก็ใช้เป็นแบบสำเร็จรูปมาเลย ส่วนที่เหลือก็แค่คลุกๆ ให้เข้ากัน กับเทคนิคการห่อหมูเข้ากับตัวกะหล่ำปลีนี้แหละคะ ใครที่ทำอาหารที่จำเป็นต้องใช้ พวกกระเทียม พริกไทย รากผักชี เกลือ มาตำมาโขลกก็อาจใช้เป็นตัว สามเกลอพร้อมปรุงแม่หยก ไปเลยก็ได้นะคะ เราว่าสะดวกดี  แต่ทั้งนี้ ก็ใส่ในปริมาณที่เหมาะสมนะคะ เผื่อคุณแม่บ้านจะทำให้คุณลูกทานแล้วก็กล้วจะเผ็ดร้อนเกินไปก็ใส่ประมาณ 1 ช้อนชาก็ได้ค่ะ 
และอีกเมนูที่แซ่บและง่าย มากอย่าง ปลากระพงลวกน้ำยำ ถึงแม้จะมีเครื่องปรุงที่ต้องเตรียมน้อย แต่ก็ต้องมาตัดสินกัน ตอนลวกเนื้อปลานี้แหละค่ะ ว่าปลาจะยุ่ยเกินไปไหม แต่ถ้าทำได้แล้วรับรองมีเมนูใหม่ ๆมาให้ที่บ้านได้ลองชิมแน่นอนค่ะ
สำหรับครั้งนี้ขอลาไปก่อนไว้มีเมนูอะไรมาอัพเดทอีกเดี้ยวจะมาทำให้ดูนะคะ ช่วงนี้อยู่บ้านบ่อยน่าจะมีเวลาทำอะไรเยอะ
ชื่อสินค้า:   สามเกลอพร้อมปรุงแม่หยก
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่