[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
.
“น้องกลับห้องได้มั้ย” พรนภาเปิดอ่านไลน์ของเมธี พร้อมยิ้มกว้างให้กับข้อความในหน้าจอมือถือ ตามด้วยสติ๊กเกอร์ดุ๊กดิ๊กพูดมีเสียงออกมาว่า “เค้าคิดถึง”
“นภากลับได้ค่ะ พี่เมธีไม่ต้องห่วงนะคะ ทำกับข้าวไว้รอเลย หิวมาก!” พร้อมกดสติ๊กเกอร์เมียหิวข้าวส่งกลับไปด้วย สองมือประสานสามัคคีกันพิมพ์ตอบไลน์กลับอย่างเร็ว ก่อนจะเก็บมือถือใส่ในกระเป๋า ทำหน้าเซ็งให้กับฝนหลงฤดูที่กำลังโปรยปรายลงมา ในช่วงเช้า ๆ ก็มีหมอกลง ไม่แน่ใจว่าเป็นหมอกจริง ๆ หรือเป็นฝุ่นกันแน่
หนึ่งทุ่มหลังเลิกงานฝนดันมาตกเสียนี่ ทำไมมันช่างเลือกเวลาตกได้แม่นจริง ๆ ทำให้เธอต้องหอบสังขารขับรถฝ่าฝนกลับบ้าน ซึ่งรถคู่ใจของเธอมันก็ไม่ใช่รถยนต์เสียด้วย ต้องทำใจกลับถึงคอนโดไม่เปียกมากก็เปียกน้อยแน่นอน
“กลับได้มั้ยนภา” ผู้จัดการสาวสวยของเธอถามอย่างนึกห่วง “ฝนห่าอะไรเนี่ย ตอนนี้หน้าหนาวนะเฮ้ย ฮา” พวกเธอหัวเราะให้กับค่ำวันนี้แบบเซ็ง ๆ
“กลับได้ค่ะ พี่ออกลับเลย” เธอตอบ ไม่อยากให้ต้องมาเสียเวลากับตัวเอง ไม่อยากให้ผู้จัดการห่วง
“โอเค งั้นพี่กลับนะ บาย เจอกันพรุ่งนี้” พร้อมทำท่าโบกไม้โบกมือลาเธอ
“วัสดีค่ะพี่ออ เจอกันพรุ่งนี้ค่ะ” ยกมือไหว้ลาผู้จัดการที่อายุห่างกันแค่ห้าปี พร้อมยิ้มให้ แล้วอรวีก็เดินข้ามถนนจากเธอไป ส่วนตนเองก็ขับรถกลับบ้านตามยถากรรม ตากฝนกันไปเลย ไม่กลัวเปียกอยู่แล้วถ้าเป็นตอนเลิกงาน
“โอยเปียกหมดเลย ไปเรียนขับรถมั้ยคะ ซื้อรถเป็นของตัวเองสักคัน คันเล็ก ๆ “ กลับมาถึงห้องด้วยสภาพเปียกปอน ผมเพ้ายุ่งเหยิง เมธีรีบเปิดประตูให้ พร้อมรับกระเป๋าสัมภาระของเธอไปไว้ที่โต๊ะทำงาน “ลูกหมาตกน้ำดี ๆ นี่เอง” เมธีล้อเลียนเธอ ยื่นผ้าเช็ดตัวให้เช็ดผม
“ไม่ดีกว่าค่ะ ไม่อยากหาภาระเพิ่ม เรียนขับรถอย่างเดียวได้ แต่ซื้อคันใหม่ไม่ดีกว่า ซีวิคคันนี้ก็ขับให้เก่าก่อนเหอะ” เธอไม่เห็นด้วย จะหาภาระมาเพิ่มทำไม เมธีคิดอะไรไม่เข้าท่าเลย “นภาขับมอเตอร์ไซค์ไปทำงานได้ค่ะ หิวข้าวอ่ะ!” ทำเสียงออดอ้อนให้กับเขา
“ไม่ออกกำลังกายก่อนเหรอคะวันนี้”
“ไม่! หิวข้าว” ทำหน้าบึ้งให้เขา ไม่มีใครให้เธออ้อนได้เท่าเมธีคนนี้อีกแล้ว คนอะไรน่ารักที่สุด
“ไม่อาบน้ำก่อนเหรอ”
“ไม่ค่ะหิวข้าว นภาจะกินข้าว เคยได้ยินเรื่องกล่องข้าวน้อยบ่” ส่งสายตายังมองค้อนให้กับเขา
“เคย! กล่องข้าวน้อยฆ่าแม่ เป็นหยัง” เมธีตอบ รับมุกของเธอโดยที่ไม่รู้อะไรเลย เธอต้องกลั้นหัวเราะเอาไว้ และยังทำหน้าบึ้งให้เขาอยู่
“แต่ตอนนี้มันสิฆ่าผัว! ฮา” พร้อมพลั้งปากหัวเราะออกมาจนได้ เก็บอาการไว้ไม่อยู่แล้ว พูดเองหัวเราะเอง เมธีก็เช่นกัน ขำไปตาม ๆ เธอ
“โอเคค่ะ ทานข้าว ไปเปลี่ยนชุดทำงานออกก่อนเลยไปมันเปียก ค่อยมานั่งทาน” แล้วเมธีก็รีบกุลีกุจอยกสำรับกับข้าวออกมาวางที่โต๊ะกับข้าว พร้อมกับเธอเปลี่ยนชุดเสร็จพอดี “โอ้ เกือบตาย เกือบหาพาข้าวบ่ทัน หาลงบ่ทันหนิตายแท้วะ” ยังมิวายที่จะกลับมาล้อแกล้งเธออีก ทั้งสองคนต่างหัวเราะให้กันและกัน
ภายในห้องครัวเล็ก ๆ ในคอนโด เป็นอีกวันที่พรนภาทานข้าวกับเมธี และวันนี้ไม่ได้ออกกำลังกายด้วย กับข้าวฝีมือของเมธีบนโต๊ะอาหารหน้าทานทั้งนั้น เมนูสองเมนูสำหรับทานสองคน ไม่ได้กินเยอะฟุ่มเฟือยอะไร เธอทานไปตั้งเยอะเพราะหิวข้าวอย่างที่บอกจริง ๆ งานยุ่งทั้งวันแทบไม่มีเวลาทานข้าว
“พี่เมธีกลับถึงห้องกี่โมงอ่ะวันนี้” พรนภาเริ่มอิ่มแล้วจากที่ทานไปเยอะพอสมควร จิบน้ำก่อนจะถามเขา
“เวลาเดิมค่ะ ทำไมเหรอคะ” เมธีปรายตามองเธอ ต้องการทราบว่าเธอถามทำไม มีอะไรอย่างนั้นหรือ
“เปล่าค่ะ ถามเฉย ๆ เอ้อพี่เมธี วันก่อนแมนยูชนะ 3-2 นะ ลืมไปแล้วหรือยัง” พร้อมจ้องมองหน้ากันตรงหน้าอย่างจริงจังเอาเรื่อง
“อ้าวเหรอ ลืมไปแล้วนะหนิ” พร้อมหัวเราะนิดหน่อย ที่เธอทวงสัญญา อุตส่าห์ไม่พูดเงียบ ๆ ไว้แล้วเชียว
“ก็งี้! ก็นภาไม่สำคัญน้อ ไม่อย่างนั้นพี่เมธีคงไม่ลืม” ทำหน้าบึ้งให้เขาอีกรอบ ก็เมธีคือคนเดียวที่ให้เธออ้อนได้ และเธอก็ชอบงอนและอ้อนเป็นประจำ ก็อยู่กับเขาแล้วมันสบายใจ มีความสุข แสดงออกได้ทุกความรู้สึก
เมธียิ้มอย่างคนยอมรับผิด ไม่ใช่ยอมรับผิด แต่รู้สึกว่าตัวเองเสียท่าให้ภรรยาเด็กคนนี้เข้าให้แล้ว แพ้สายตาออดอ้อนของเธอทุกทีเลย “พี่ไม่ได้ลืมค่ะ พี่แหย่เล่นเท่านั้นเอง อย่างอนเค้าเลยนะ ตัวเองอยากได้อะไรเค้าทำให้ได้หมดเลย” จากนั้นก็ตักข้าวเข้าปากรอฟังพรนภาจะพูดอะไรต่อ
พรนภาได้ยินแบบนี้ฉีกยิ้มทันทีโดยลืมตัวไปเลยว่ากำลังงอนอยู่ คนแก่ก็อ้อนเก่งเหมือนกันนะเนี่ย นึกในใจพร้อมยิ้มตอบให้กับเขา พวกเธอสองคนสามารถแสดงความเป็นเด็กอยู่ในตัวออกมาได้เสมอ เวลาอยู่ด้วยกัน
“พูดไปอย่างนั้นเอง นภาไม่ได้อยากทำอะไรเลยค่ะ ท้าพี่เมธีเล่นเฉย ๆ “
“เอ๋า นภาอยากให้พี่ทำอะไรก็บอกมาเลย เพื่อคนที่พี่รักทำให้ได้ทุกอย่างค่ะ สำหรับพรนภาพี่เมธีทำให้ได้ทู้กอย่างเลยนะครับ” ทำเสียงออเซาะให้กับเธอ “อิ่มและเก็บเหอะ แล้วไปอาบน้ำเลย เดี๋ยวไม่สบาย วันนี้ข้าวหอมมาแน่”
“เดี๋ยว ๆ ใครบอกว่าลูกนภาจะชื่อข้าวหอม” พี่เมธีนี่คิดเองเออเองจริง ๆ เธอยังไม่ทันได้บอกได้พูดอะไรเลยสักคำ
“อ้าวพี่ก็เห็นน้องนภาดูคลิปน้องข้าวหอมม้าเต่อทุกคืนเลย ก็นึกว่าถ้ามีลูกสาวจะให้ชื่อน้องข้าวหอม อืมม! ถามอาจารย์กูฯดีกว่า ทำอย่างให้ได้ลูกสาว”
และก็พิมพ์ในกูเกิลจริง ๆ ทั้งพิมพ์ทั้งขำตลกตัวเอง พรนภาก็หัวเราะเช่นกัน เป็นเวลาหลังเลิกงาน เป็นเวลาส่วนตัวที่มีค่าที่สุด ทั้งเขาและเธอได้อยู่ด้วยกัน ได้ใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน เด็กอายุ 28 กับชายวัย 49ใครจะคิดว่าจะได้มาใช้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกันได้
“พี่เมธี! ฮ่วย ชื่อแมนยู! ผู้หญิงก็จะชื่อแมนยูคอยดูนะ ฮ่วย! นภาเก็บถ้วยเก็บจานไปล้างแล้ว อิ่มแล้วใช่มั้ย” แก้เขินโดยการไล่เมธีกลับเข้าห้องโถง เธอจะเก็บจานชามไปล้าง
“แมนยูกาก!” พูดลอย ๆ พร้อมเดินเข้าห้องโถงไป หลังเก็บจานช่วยภรรยาเด็กคราวลูกเสร็จ พรนภาขอเป็นคนล้างจานเอง ไม่ยอมให้เขาทำ จึงเดินมาเปิดทีวีรอ
“อะไรนะ ใครกาก!” พรนภาตะโกนมาจากในครัว
“เปล่า ทำเสร็จอาบน้ำเลยนา เดี๋ยวไม่สบาย”
พรนภาแอบยิ้มคนเดียว เธอรักเขามาก มากจนไม่อยากห่างไปไหน ใครจะมองยังไงเธอก็ไม่สนใจ ไม่แคร์สายตาของคนอื่น เธอรักเขาและเขาก็รักเธอ พวกเธอรักกันแค่นี้ก็เพียงพอสำหรับเหตุผลของช่องว่างระหว่างอายุ
พรนภาล้างจานเสร็จก็ต่อด้วยอาบน้ำ ทว่าทุกวันเธออาบน้ำไม่ชอบปิดประตูห้องน้ำ เธอกลัว! กลัวผีในห้อง ในห้องน้ำด้วย ต้องเปิดประตูเอาไว้ ไม่เคยปิดแม้จะมีเมธีอยู่ในห้องก็ตาม เมธีก็ไม่ว่าปล่อยให้เธอทำตามใจตัวเอง มันกลายเป็นเรื่องชินตาชินชาไปแล้ว
“พี่เมธี” เธอเรียกเพื่อเช็คเฉย ๆ ว่าเขายังอยู่ในห้องหรือไม่
“ครับ! รีบอาบเลยนภาน่ะ เลสเตอร์รอเกิดอยู่เนี่ย”
“ใคร ๆ ใครเลสเตอร์ แค่ลิพูลนี่ยังไม่พออีกเหรอ ก็บอกแล้วไงว่าแมนยู ๆ เข้าใจบ่” พร้อมออกมายืนจังก้าคุยกับเขาหน้าประตูห้องน้ำ บนหัวยังมีฟองยาสะผมอยู่
เมธียิ้มแทบจะหัวเราะลั่นออกมา พร้อมมองเธอตาเป็นประกายเลยทีเดียว หลังจากนั้นพรนภาก็รีบอาบน้ำแต่งตัวให้เสร็จ ขึ้นมานอนบนเตียงดูทีวีกับเขาในท่าเดิม นอนหนุ่นแขนอันแน่นและนุ่มของเขาบนเตียง
“อยากไปเที่ยวจังเลยน้อ” เธอพูดเบา ๆ เมธีกำลังดูงานที่เพื่อนส่งมาให้
“อดทนหน่อยค่ะ พี่สัญญาคำไหนคำนั้น ถึงวันนั้นน้องนภาเลือกมาเลยจะไปที่ไหน” ไม่พูดเฉยโน้มใบหน้ามาหอมหน้าผากเธอด้วย “เด็กน้อยของพี่ รักมากเลยรู้มั้ย”
“นภาก็รักพี่เมธีค่ะ รักตลอดไปด้วย”
ไม่เพียงเท่านั้น เมธีวางโทรศัพท์ลงบนที่นอน พร้อมซุกไซร้ใบหน้าของตนตามซอกขอของเธออย่างชอบใจ เขารุกหนักขึ้น พรนภาปล่อยให้เขาทำตามอำเภอใจอย่างมีความสุขที่สุดในคืนนี้
จบบท...
ฝันหวาน (Sweet Dream) 20
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
.
“น้องกลับห้องได้มั้ย” พรนภาเปิดอ่านไลน์ของเมธี พร้อมยิ้มกว้างให้กับข้อความในหน้าจอมือถือ ตามด้วยสติ๊กเกอร์ดุ๊กดิ๊กพูดมีเสียงออกมาว่า “เค้าคิดถึง”
“นภากลับได้ค่ะ พี่เมธีไม่ต้องห่วงนะคะ ทำกับข้าวไว้รอเลย หิวมาก!” พร้อมกดสติ๊กเกอร์เมียหิวข้าวส่งกลับไปด้วย สองมือประสานสามัคคีกันพิมพ์ตอบไลน์กลับอย่างเร็ว ก่อนจะเก็บมือถือใส่ในกระเป๋า ทำหน้าเซ็งให้กับฝนหลงฤดูที่กำลังโปรยปรายลงมา ในช่วงเช้า ๆ ก็มีหมอกลง ไม่แน่ใจว่าเป็นหมอกจริง ๆ หรือเป็นฝุ่นกันแน่
หนึ่งทุ่มหลังเลิกงานฝนดันมาตกเสียนี่ ทำไมมันช่างเลือกเวลาตกได้แม่นจริง ๆ ทำให้เธอต้องหอบสังขารขับรถฝ่าฝนกลับบ้าน ซึ่งรถคู่ใจของเธอมันก็ไม่ใช่รถยนต์เสียด้วย ต้องทำใจกลับถึงคอนโดไม่เปียกมากก็เปียกน้อยแน่นอน
“กลับได้มั้ยนภา” ผู้จัดการสาวสวยของเธอถามอย่างนึกห่วง “ฝนห่าอะไรเนี่ย ตอนนี้หน้าหนาวนะเฮ้ย ฮา” พวกเธอหัวเราะให้กับค่ำวันนี้แบบเซ็ง ๆ
“กลับได้ค่ะ พี่ออกลับเลย” เธอตอบ ไม่อยากให้ต้องมาเสียเวลากับตัวเอง ไม่อยากให้ผู้จัดการห่วง
“โอเค งั้นพี่กลับนะ บาย เจอกันพรุ่งนี้” พร้อมทำท่าโบกไม้โบกมือลาเธอ
“วัสดีค่ะพี่ออ เจอกันพรุ่งนี้ค่ะ” ยกมือไหว้ลาผู้จัดการที่อายุห่างกันแค่ห้าปี พร้อมยิ้มให้ แล้วอรวีก็เดินข้ามถนนจากเธอไป ส่วนตนเองก็ขับรถกลับบ้านตามยถากรรม ตากฝนกันไปเลย ไม่กลัวเปียกอยู่แล้วถ้าเป็นตอนเลิกงาน
“โอยเปียกหมดเลย ไปเรียนขับรถมั้ยคะ ซื้อรถเป็นของตัวเองสักคัน คันเล็ก ๆ “ กลับมาถึงห้องด้วยสภาพเปียกปอน ผมเพ้ายุ่งเหยิง เมธีรีบเปิดประตูให้ พร้อมรับกระเป๋าสัมภาระของเธอไปไว้ที่โต๊ะทำงาน “ลูกหมาตกน้ำดี ๆ นี่เอง” เมธีล้อเลียนเธอ ยื่นผ้าเช็ดตัวให้เช็ดผม
“ไม่ดีกว่าค่ะ ไม่อยากหาภาระเพิ่ม เรียนขับรถอย่างเดียวได้ แต่ซื้อคันใหม่ไม่ดีกว่า ซีวิคคันนี้ก็ขับให้เก่าก่อนเหอะ” เธอไม่เห็นด้วย จะหาภาระมาเพิ่มทำไม เมธีคิดอะไรไม่เข้าท่าเลย “นภาขับมอเตอร์ไซค์ไปทำงานได้ค่ะ หิวข้าวอ่ะ!” ทำเสียงออดอ้อนให้กับเขา
“ไม่ออกกำลังกายก่อนเหรอคะวันนี้”
“ไม่! หิวข้าว” ทำหน้าบึ้งให้เขา ไม่มีใครให้เธออ้อนได้เท่าเมธีคนนี้อีกแล้ว คนอะไรน่ารักที่สุด
“ไม่อาบน้ำก่อนเหรอ”
“ไม่ค่ะหิวข้าว นภาจะกินข้าว เคยได้ยินเรื่องกล่องข้าวน้อยบ่” ส่งสายตายังมองค้อนให้กับเขา
“เคย! กล่องข้าวน้อยฆ่าแม่ เป็นหยัง” เมธีตอบ รับมุกของเธอโดยที่ไม่รู้อะไรเลย เธอต้องกลั้นหัวเราะเอาไว้ และยังทำหน้าบึ้งให้เขาอยู่
“แต่ตอนนี้มันสิฆ่าผัว! ฮา” พร้อมพลั้งปากหัวเราะออกมาจนได้ เก็บอาการไว้ไม่อยู่แล้ว พูดเองหัวเราะเอง เมธีก็เช่นกัน ขำไปตาม ๆ เธอ
“โอเคค่ะ ทานข้าว ไปเปลี่ยนชุดทำงานออกก่อนเลยไปมันเปียก ค่อยมานั่งทาน” แล้วเมธีก็รีบกุลีกุจอยกสำรับกับข้าวออกมาวางที่โต๊ะกับข้าว พร้อมกับเธอเปลี่ยนชุดเสร็จพอดี “โอ้ เกือบตาย เกือบหาพาข้าวบ่ทัน หาลงบ่ทันหนิตายแท้วะ” ยังมิวายที่จะกลับมาล้อแกล้งเธออีก ทั้งสองคนต่างหัวเราะให้กันและกัน
ภายในห้องครัวเล็ก ๆ ในคอนโด เป็นอีกวันที่พรนภาทานข้าวกับเมธี และวันนี้ไม่ได้ออกกำลังกายด้วย กับข้าวฝีมือของเมธีบนโต๊ะอาหารหน้าทานทั้งนั้น เมนูสองเมนูสำหรับทานสองคน ไม่ได้กินเยอะฟุ่มเฟือยอะไร เธอทานไปตั้งเยอะเพราะหิวข้าวอย่างที่บอกจริง ๆ งานยุ่งทั้งวันแทบไม่มีเวลาทานข้าว
“พี่เมธีกลับถึงห้องกี่โมงอ่ะวันนี้” พรนภาเริ่มอิ่มแล้วจากที่ทานไปเยอะพอสมควร จิบน้ำก่อนจะถามเขา
“เวลาเดิมค่ะ ทำไมเหรอคะ” เมธีปรายตามองเธอ ต้องการทราบว่าเธอถามทำไม มีอะไรอย่างนั้นหรือ
“เปล่าค่ะ ถามเฉย ๆ เอ้อพี่เมธี วันก่อนแมนยูชนะ 3-2 นะ ลืมไปแล้วหรือยัง” พร้อมจ้องมองหน้ากันตรงหน้าอย่างจริงจังเอาเรื่อง
“อ้าวเหรอ ลืมไปแล้วนะหนิ” พร้อมหัวเราะนิดหน่อย ที่เธอทวงสัญญา อุตส่าห์ไม่พูดเงียบ ๆ ไว้แล้วเชียว
“ก็งี้! ก็นภาไม่สำคัญน้อ ไม่อย่างนั้นพี่เมธีคงไม่ลืม” ทำหน้าบึ้งให้เขาอีกรอบ ก็เมธีคือคนเดียวที่ให้เธออ้อนได้ และเธอก็ชอบงอนและอ้อนเป็นประจำ ก็อยู่กับเขาแล้วมันสบายใจ มีความสุข แสดงออกได้ทุกความรู้สึก
เมธียิ้มอย่างคนยอมรับผิด ไม่ใช่ยอมรับผิด แต่รู้สึกว่าตัวเองเสียท่าให้ภรรยาเด็กคนนี้เข้าให้แล้ว แพ้สายตาออดอ้อนของเธอทุกทีเลย “พี่ไม่ได้ลืมค่ะ พี่แหย่เล่นเท่านั้นเอง อย่างอนเค้าเลยนะ ตัวเองอยากได้อะไรเค้าทำให้ได้หมดเลย” จากนั้นก็ตักข้าวเข้าปากรอฟังพรนภาจะพูดอะไรต่อ
พรนภาได้ยินแบบนี้ฉีกยิ้มทันทีโดยลืมตัวไปเลยว่ากำลังงอนอยู่ คนแก่ก็อ้อนเก่งเหมือนกันนะเนี่ย นึกในใจพร้อมยิ้มตอบให้กับเขา พวกเธอสองคนสามารถแสดงความเป็นเด็กอยู่ในตัวออกมาได้เสมอ เวลาอยู่ด้วยกัน
“พูดไปอย่างนั้นเอง นภาไม่ได้อยากทำอะไรเลยค่ะ ท้าพี่เมธีเล่นเฉย ๆ “
“เอ๋า นภาอยากให้พี่ทำอะไรก็บอกมาเลย เพื่อคนที่พี่รักทำให้ได้ทุกอย่างค่ะ สำหรับพรนภาพี่เมธีทำให้ได้ทู้กอย่างเลยนะครับ” ทำเสียงออเซาะให้กับเธอ “อิ่มและเก็บเหอะ แล้วไปอาบน้ำเลย เดี๋ยวไม่สบาย วันนี้ข้าวหอมมาแน่”
“เดี๋ยว ๆ ใครบอกว่าลูกนภาจะชื่อข้าวหอม” พี่เมธีนี่คิดเองเออเองจริง ๆ เธอยังไม่ทันได้บอกได้พูดอะไรเลยสักคำ
“อ้าวพี่ก็เห็นน้องนภาดูคลิปน้องข้าวหอมม้าเต่อทุกคืนเลย ก็นึกว่าถ้ามีลูกสาวจะให้ชื่อน้องข้าวหอม อืมม! ถามอาจารย์กูฯดีกว่า ทำอย่างให้ได้ลูกสาว”
และก็พิมพ์ในกูเกิลจริง ๆ ทั้งพิมพ์ทั้งขำตลกตัวเอง พรนภาก็หัวเราะเช่นกัน เป็นเวลาหลังเลิกงาน เป็นเวลาส่วนตัวที่มีค่าที่สุด ทั้งเขาและเธอได้อยู่ด้วยกัน ได้ใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน เด็กอายุ 28 กับชายวัย 49ใครจะคิดว่าจะได้มาใช้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกันได้
“พี่เมธี! ฮ่วย ชื่อแมนยู! ผู้หญิงก็จะชื่อแมนยูคอยดูนะ ฮ่วย! นภาเก็บถ้วยเก็บจานไปล้างแล้ว อิ่มแล้วใช่มั้ย” แก้เขินโดยการไล่เมธีกลับเข้าห้องโถง เธอจะเก็บจานชามไปล้าง
“แมนยูกาก!” พูดลอย ๆ พร้อมเดินเข้าห้องโถงไป หลังเก็บจานช่วยภรรยาเด็กคราวลูกเสร็จ พรนภาขอเป็นคนล้างจานเอง ไม่ยอมให้เขาทำ จึงเดินมาเปิดทีวีรอ
“อะไรนะ ใครกาก!” พรนภาตะโกนมาจากในครัว
“เปล่า ทำเสร็จอาบน้ำเลยนา เดี๋ยวไม่สบาย”
พรนภาแอบยิ้มคนเดียว เธอรักเขามาก มากจนไม่อยากห่างไปไหน ใครจะมองยังไงเธอก็ไม่สนใจ ไม่แคร์สายตาของคนอื่น เธอรักเขาและเขาก็รักเธอ พวกเธอรักกันแค่นี้ก็เพียงพอสำหรับเหตุผลของช่องว่างระหว่างอายุ
พรนภาล้างจานเสร็จก็ต่อด้วยอาบน้ำ ทว่าทุกวันเธออาบน้ำไม่ชอบปิดประตูห้องน้ำ เธอกลัว! กลัวผีในห้อง ในห้องน้ำด้วย ต้องเปิดประตูเอาไว้ ไม่เคยปิดแม้จะมีเมธีอยู่ในห้องก็ตาม เมธีก็ไม่ว่าปล่อยให้เธอทำตามใจตัวเอง มันกลายเป็นเรื่องชินตาชินชาไปแล้ว
“พี่เมธี” เธอเรียกเพื่อเช็คเฉย ๆ ว่าเขายังอยู่ในห้องหรือไม่
“ครับ! รีบอาบเลยนภาน่ะ เลสเตอร์รอเกิดอยู่เนี่ย”
“ใคร ๆ ใครเลสเตอร์ แค่ลิพูลนี่ยังไม่พออีกเหรอ ก็บอกแล้วไงว่าแมนยู ๆ เข้าใจบ่” พร้อมออกมายืนจังก้าคุยกับเขาหน้าประตูห้องน้ำ บนหัวยังมีฟองยาสะผมอยู่
เมธียิ้มแทบจะหัวเราะลั่นออกมา พร้อมมองเธอตาเป็นประกายเลยทีเดียว หลังจากนั้นพรนภาก็รีบอาบน้ำแต่งตัวให้เสร็จ ขึ้นมานอนบนเตียงดูทีวีกับเขาในท่าเดิม นอนหนุ่นแขนอันแน่นและนุ่มของเขาบนเตียง
“อยากไปเที่ยวจังเลยน้อ” เธอพูดเบา ๆ เมธีกำลังดูงานที่เพื่อนส่งมาให้
“อดทนหน่อยค่ะ พี่สัญญาคำไหนคำนั้น ถึงวันนั้นน้องนภาเลือกมาเลยจะไปที่ไหน” ไม่พูดเฉยโน้มใบหน้ามาหอมหน้าผากเธอด้วย “เด็กน้อยของพี่ รักมากเลยรู้มั้ย”
“นภาก็รักพี่เมธีค่ะ รักตลอดไปด้วย”
ไม่เพียงเท่านั้น เมธีวางโทรศัพท์ลงบนที่นอน พร้อมซุกไซร้ใบหน้าของตนตามซอกขอของเธออย่างชอบใจ เขารุกหนักขึ้น พรนภาปล่อยให้เขาทำตามอำเภอใจอย่างมีความสุขที่สุดในคืนนี้
จบบท...