.
เช้าวันนี้ดูท่าทางสามีรุ่นพ่อจะสดใสผิดปกติ อารมณ์ดีเหลือเกิน เธอรู้ว่าทำไม! เพราะอะไร! ค่อนขอดให้ด้วยความหมั่นไส้อย่างมากที่สุด เสียงฮัมเพลงร่วมรุ่นของสามีดังเบา ๆ อย่างสบายอารมณ์ แต่งตัวไปพร้อมร้องเพลงไปด้วยอย่างคนมีความสุข ส่วนคนที่หน้ามุ่ยคือเธอเอง จะมีความสุขอะไรนักหนา เล่นอยู่ได้แทนที่จะรีบ ๆ แต่งตัวไปทำงาน แอบเหวี่ยงค้อนให้กับสามีอยู่บนเตียงนอน ตนเองนั้นนอนซบผ้าห่มด้วยความช้ำใจ
“พี่เมธีจะมีความสุขอะไรนักหนา สายแล้วจะไปทำงานมั้ย” พูดออกมาด้วยความรำคาญเหลือเกิน ไม่ได้รำคาญคนเป็นสามีอันสุดที่รักหรอก หากแต่มีบางอย่างที่ไม่สบอารมณ์เท่านั้น ถ้าเป็นวันอื่น ๆ เธอชอบฟังเขาร้องเพลงแบบนี้ที่สุด
“ป๊าด! คนมีความสุขหนิคะ บางคนช้ำใจจนลุกบ่อขึ้นเลยบาดหนิ” เขาพูดกลั้วหัวเราะ ปรายตามองภรรยารุ่นลูกอย่างเอ็นดู คนอะไรชอบทีมกาก ๆ รู้ว่ากากก็ยังจะชอบอยู่ได้ “ไม่อยากจะคิดสงสาร! ไม่อยากจะคิดสงสารเมื่อเห็นพรนภานอนซึม ศูนย์ห้าเดี๋ยวเขาก็ลืม” ร้องเพลงแซวเสียเลย
“พี่เมธี! ฮ่วย!” พรนภาอุทานแทรกขึ้นมาทันควัน เม้มปากหัวเราะกับเพลงที่เมธีร้อง แม้จะหมั่นไส้ก็ตามที “ห้ามร้อง! “ เมธีหัวเราะลั่นห้องกันเลยทีเดียว “ไปทำงานเลย ไม่คุยด้วยแล้ว”
“คนแพ้ก็ต้องดูแลตัวเองนะน้องหล่านะ “ ยักคิ้วให้สาวเจ้าตลก ๆ “ดีนะที่ไม่ได้พนันกับพี่เอาไว้ ไม่อย่างนั้นเสร็จแน่น้องนภาเอ๋ย หึหึ ของเค้ามันเจ๋งอยู่แล้วน้องเอ้ย! ไปทำงานดีกว่า” เขาพูดลอยหน้าลอยตา พร้อมจัดระเบียบตัวเองให้เข้าที่เข้าทางก่อนจะขอตัวไปทำงาน ตอนเย็นค่อยกลับมาเจอกันใหม่ที่รักของเขา
“ไม่อยากจะคิดสงสาร! ไม่อยากจะคิดสงสารเมื่อเห็นเธอนั่งซึม ศูนย์ห้าเดี๋ยวเค้าก็ลืม เขายืมประตูแมนยูเชยชม หมดสิ้นความขลัง แล้วเขาก็ปล่อยลอยลม พรนภานั่งซึมอกตรม เขายิงเขาชนะหนีไปไม่ลา” ยังไม่หยุดร้องเพลงล้อเธออีก
“พี่เมธี! “ เธออุทานลุกขึ้นจากเตียงนอน ยืนเท้าสะเอวดุสามี พร้อมรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ฝากไว้ก่อนเถอะ วันพระไม่ได้มีหนเดียว
“เดี๋ยวตอนเย็นในฐานะผู้ชนะ เค้าจะซื้อกับข้าวมาเลี้ยงนะคะ คนแพ้อยากทานอะไรแช็ตมาบอกได้เลย อิอิ ไปทำงานจริง ๆ ละ เจอกันค่ะ”
“รีบไปเลยสายแล้ว! มัวแต่ร้องเพลงอยู่ได้ ไม่แพ้บ้างให้มันรู้ไป ชิ” จากนั้นพวกเธอสองคนก็ลากัน เมธีไปทำงาน ส่วนเธอกลับมานอนต่ออีกสักหน่อย ยังไม่ถึงเวลาของตนเอง ขณะนี้ไม่อยากเปิดเฟซบุ๊กเลย ไม่อยากเห็นเกมเมื่อคืน มันเป็นแมตช์ที่อัปยศอย่างมาก เธออยากไปไล่โอเล่ออกด้วยตนเองเหลือเกิน
…………………………………
หนึ่งทุ่มครึ่งพรนภาเลิกงานกลับมาถึงห้องพัก เตรียมตัวเตรียมใจกับการโดนล้ออย่างจำยอมที่สุด ยอมก็ได้หนึ่งวัน อยากแซวอะไรก็แซวมาเลย ก็แพ้ขาดลอยซะขนาดนั้น ก็เละเป็นโจ๊กซะขาดนี้ ในเฟซบุ๊กก็โดนยำมาแล้ว จะมาโดนยำโดยฝีมือของสามีอีกคนจะเป็นไรไป เนื่องจากเมธีเองชอบฟุตบอลคนละทีมกับตน คลั่งไคล้จนขนาดนำไปตั้งเป็นชื่อลูกชายกันเลยทีเดียว ‘ลิพูล’
ก็อก ๆ! เสียงเคาะประตูจากด้านนอก เป็นใครไปไม่ได้นอกเสียจากพรนภาสุดที่รัก ส่องดูก็ใช่จริง ๆ เขาสวมเสื้อฟุตบอลทีมรักต้อนรับการกลับมาของภรรยาอย่างดี พร้อมด้วยรอยยิ้มอันแสนเบิกบานประดับบนใบหน้าก่อนจะเปิดประตูให้
“เชิญขอรับ! ผีก๊องกอย เอ้ยไม่ใช่! ไม่ใช่นะคะ น้องนภาสุดที่รักของพี่” เขาพูดกลั้วยิ้ม แถมยังหอมแก้มของเธอไปฟอดใหญ่ กลัวว่าจะโดนค้อนตีหัวเอาที่ล้อว่าผีก๊องกอยเมื่อครู่ ส่วนเจ้าตัวกลอกตามองบนให้ตนกลับมา แต่ก็ปนไปด้วยเสียงหัวเราะนั่นแหละ
“ไม่ค่อยจะเลยน้อพี่เมธี อยากทำอะไร อยากแซวอะไรก็ทำเลย!” เธอค่อนขอดให้กับเขา ทว่าเมื่อเปิดประตูห้องเข้ามา ก็แอบตะลึงกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า พี่เมธีน่ารักที่สุดเลย อย่างนี้เต็มใจให้ล้อให้แซวได้ทุกวันเลย ชอบอกชอบใจใหญ่กับเมนูที่สามีเตรียมไว้รอ มันคือเมนูธรรมดา ๆ ปกติ แต่มันเป็นของชอบของเธอ และ บ่นอยากทานมาหลายวันแล้ว นั่นก็คือ กุ้งและหมึกกระดองซีฟู้ดสุดโปรดของเธอนั่นเอง “ว๊าว! ทำไมรู้ว่าเค้าอยากกิน”
“เอ๋า… เค้าก็เลี้ยงคนแพ้ไงคะตัวเอง เมื่อเช้าก็บอกเอาไว้แล้วอยากกินไรแช็ตมา เดี๋ยวเลี้ยงไง” เขาตอบ
“เค้ายังไม่ได้แช็ตบอกเลย” เธอตอบ มองกับข้าวที่วางอยู่ตรงหน้า บนเสื่อที่เมธีปูเอาไว้ นั่งย่างกันกลางห้องโถงกันเลย
“เอ๋าก็รู้ใจเมียน้อ” เขาพูดเอาใจ ก่อนจะเดินมาซบด้านหลัง “ถึงกากผัวก็รักค่ะ ฮา “ เขากระซิบข้างหูของเธอเบา ๆ
“พี่เมธี!” พรนภาอุทาน เอี่ยวตัวไปตีที่ไหล่ของเขาเบา ๆ พร้อมหัวเราะให้กันและกันภายในคอนโดเล็ก ๆ แค่นี้ก็มีความสุขแล้วสำหรับพวกเธอทั้งสองคน ไม่ขออะไรมากมายไปกว่านี้ แค่มีผู้ชายคนนี้อยู่ด้วยก็พอ
“ไม่ต้องออกกำลังกาย ไปเปลี่ยนชุดเลยค่ะ เดี๋ยวพี่ย่างรอ”
“โอเค!” จากนั้นพรนภาก็เดินไปเปลี่ยนชุดทำงานออก สวมชุดลำรองแสนสบายเข้ามานั่งย่างหมึกกับกุ้งด้วยกันกับสามี น้ำจิ้มเมธีทำเองอร่อยที่สุด
พวกเธอย่างหมึกไปด้วย คุยกันไปเรื่อย มิวายวกมาเรื่องฟุตบอลพรีเมียร์ลีกเมื่อคืนอีก ศึกแดงเดือดระหว่าง ทีมแมนยูยูไนเต็ดกับทีมลิเวอร์พูล ตนเองนั้นเชียร์ทีมแมนยูส่วนเมธีสามีรุ่นพ่อเชียร์ทีมลิเวอร์พูล ทำให้พออกพอใจเป็นอย่างมากสำหรับเกมเมื่อคืน ส่วนสำหรับเธอ มันคือเกมที่อัปยศที่สุดสำหรับทุก ๆ แมตช์ที่ผ่าน ๆ มา
“น้องนภาคะ” เขาเรียกชื่อของเธอ มือก็คอยพลิกกุ้งที่อย่างอยู่บนเตาย่างไฟฟ้า ก่อนจะหยิบมาใส่ในจานให้เธอด้วย “พรุ่งนี้พี่ฝากซื้อหวยหน่อยนะคะ พี่ไม่มีเวลาค่ะ ซื้อล็อตเตอรี่นะ”
“ได้! เลขอะไรล่ะ นภาก็ฝันเหมือนกัน ฝันคักฝันแน่ สิซื้อหวยอยู่งวดหนิ ฝันคักโพด” เธอพูดด้วยท่าทางจริงจัง เพราะเธอฝันได้เลขจริง ๆ นี่นา ลืมคิดไปว่าเมธีจะล้อเรื่องสกอร์เกมเมื่อคืนไปเลย ส่วนเจ้าตัวหัวเราะอึกอักอยู่คนเดียว
“เลขศูนย์ห้ากับห้าศูนย์ให้พี่หน่อยค่ะ เผื่อถูกรางวัลที่หนึ่งกับเขา ฮา “ เมธีพูดปนหัวเราะ รวมทั้งเธอด้วยที่หัวเราะตาม หึหึ ยอมสามีนั่นแหละ วันของสามีจริง ๆ และเพื่อกับข้าวมื้อนี้ด้วย อยากแซวอะไรก็เชิญ อย่าให้ถึงวันของเธอก็แล้วกัน จะล้อทั้งวันทั้งคืนทุก ๆ เวลากันเลยทีเดียว
“เดี๋ยวเอาช้อนจิ้มตาเลย! เดี๋ยวเหอะ หึหึ” เธอทำตลก ๆ ให้กับสามีไปอย่างนั้น
“ฮ่วย! จิ้มตาก็ตาบอดแล้วน้อ คือสิเฮ็ดให้คนมีความสุขได้ฮั่นบาดหนิ ขั้นตาบอส! ฮา “ เขาพูดปนหัวเราะไปอีก ยังมีเวลามาทะเล้นอีกนะพี่เมธี ค่อนขอดให้อีกรอบเสียเลย
“ก็หยุดแซวถ้าไม่อยากตาบอดอ่ะ ฮ่วย! เว้าดูเด้อคนเฮานั่น อย่าให้ฮอดทีเขากะแล้วกัน ชิ”
“ค้าบ! คนอะไรชอบทีมกาก ๆ ห้าศูนย์ว่าหนิแหมะ ผู้ลังคนทนเบิ่งบ่ได้หนีไปนอนตะสามลูกแรกพุ่นน่ะ ฮา “ เขายังไม่หยุดแซวอีก พูดเอาฮากันเท่านั้น “ถึงจะยับเยินแค่ไหนเค้าก็รักค่ะ อะเค้าซอยหมึกให้เนี่ย กินหลาย ๆ สิได้ใหญ่เร็ว ๆ “ เขาเล่นมุกนี้อีก พร้อมปรายตามองภรรยาสาวทุกทีที่เขาเล่นมุกนี้
พรนภาหัวเราะ เขินอยู่เหมือนกันหากจะตบมุกนี้กับสามี เนื่องจากเล่นกันบ่อยเหลือเกิน รอยยิ้มแบบนั้น แววตาแบบนี้ทราบในทันทีว่าสามีรู้ว่าตนเองจะตบมุกว่าอย่างไร “ตัวเองก็กินเยอะ ๆ จะได้โตไว ๆ ฮา “ สุดท้ายก็เล่นเหมือนเดิม คำพูดเดิม ๆ เป๊ะทุกรอบที่เล่นมุกนี้กัน
“ฮื้ย! จะแมนน้อ ตัวเองนั่นแหละกินเยอะ ๆ เลยค่ะ พี่น่ะโตจนแก่แล้ว ฮา “ ทั้งเขาและเธอต่างหัวเราะให้กัน เป็นภาพที่เกิดขึ้นบ่อยมาก ๆ สำหรับพวกเธอสองคน น้อยมากเหลือเกินที่จะงอนกัน ทะเลาะกันแทบไม่มีให้เห็นเลยตั้งแต่อยู่ด้วยกันมา อาจเป็นเพราะวัยที่ต่างกันนั่นเอง จึงรู้จักจัดการและควบคุมอารมณ์ความรู้สึกของตนเอง
หลังเลิกงานกลับห้อง วันนี้พรนภาก็ไม่ได้ออกกำลังกายอีกหนึ่งวัน เพราะสามีเลี้ยงซีฟู้ดชุดใหญ่มาก ในฐานะคนชนะเมื่อคืน ถึงไม่มีเกมฟุตบอลเธอก็กะจะชวนทานอยู่แล้ว อยากกินมาหลายวันแล้วล่ะ แต่พอมีเกมศึกแดงเดือดก็จัดให้มันเข้าบรรยากาศสักหน่อย เมื่อคืนนั่งเชียร์ฟุตบอลด้วยกัน ต่างคนก็ต่างสวมเสื้อทีมรัก มันถึงจะเข้าถึงบรรยากาศนั้น
ของเธอสวมเสื้อก็อปปี้ ส่วนสามีของแท้ทุกฤดูกาล บอกว่าใส่ของก็อปไม่ได้ว่าอย่างนั้น แค่เสื้อฟุตบอลจะอะไรนักหนา สำหรับเธออะไรก็ได้ “เนี่ยนภาจะไปไล่โอเล่ออกอยู่หนิ อะไรก่อน! นภากะไม่ชนะอยู่แล้ว อย่างเก่งก็เสมอ นี่อะไรห้าศูนย์ว่าหนิแหมะ โอเล่ก็ไม่สมควรต้องอยู่ต่อ หึหึ” บ่น ๆ ไปอย่างนั้นเอง
ความจริงแล้ว เธอไม่ได้ดูเกมเลยในทุก ๆ แมตช์ เธอเพียงดูนักฟุตบอลหล่อเฉย ๆ แม็กไกวนี่สุดยอดแล้ว ทว่าคนในใจของเธอตลอดกาล คือ เดเคอาร์มือประตูต่างหาก โดนัลโด่ก็เฉย ๆ คนอื่นชอบ แต่เธอไม่ค่อยชอบเท่าไหร่
พวกเธอย่างหมึกและกุ้งไปคุยกันไป เมธีก็เออออไปกับเธอด้วย เป็นคู่สนทนาที่ดีที่สุด ไม่เคยคัดค้านกับเรื่องไร้สาระ ขนาดคนละทีมยังเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยได้ นี่ถ้าชอบทีมเดียวกันไม่อยากจะคิด หากแต่เรื่องจริงจังก็มีเตือนกันได้ ยิ้มให้กับภรรยารุ่นลูก ความสุขของเธอคือความสุขของตนเองล่ะ ให้ได้ทุกอย่างที่ให้เธอได้
“เตะไล่โค้ชบ้อฮึน้อน้องว่าบ่อ ขาดลอยขนาดนี่น้อ ก็คอยดูกันต่อไป”
“แมน! ช้ำใจมากบอกเลย ช้ำใจเหลือเกิน!”
“ตะเหลือโตนคัก! ทำใจน้องทำใจ! ฮา ทีมเฮามันกากต้องยอมรับนั่นหนา อะรางวัลปลอบใจ หมึกกระดองย่างหนึ่งตัว อัว อัว อัว! เอาไปเลยเพื่อเธอคนเดียว” เมธีพูดอย่างตลก แถมยังทำท่าทางตลกไปอีก คนอะไรเล่นตลกไม่ดูอายุเลย ส่วนเธอก็เอาแต่หัวเราะ และ เติมเบียร์ให้กับสามีเรื่อย ๆ หากใครมาเห็นเข้าก็คงส่ายหัวให้กับพวกเธอ “เอากีตาร์มาดีดแน่น้าน้อง ตั้งวงกับเมียหนิมันคักกว่ามูแล้ว มันจังได้ฟิวส์ ๆ ”
“ได้ฟิวส์มันคือ! “ เธอแกล้งถาม แต่ก็ไม่ได้คำตอบ ได้เพียงเสียงหัวเราะของสามีกลับมา “เล่นเพลงเขาบ่อล่ะ” ถามก่อน เดี๋ยวมาเล่นเพลงอะไรก็ไม่รู้ เกิดไม่ทัน ไม่รู้จัก
“เอ๋า! อ้ายเล่นเพลงพ่อใหญ่พรศักดิ์กะได้ ไว้อาลัยแด่ไอ้หนุ่มแขนซ้ายลายมังกร”
“อะฮะ! จัดไป! ไอดอลของพ่อนภาเลย ใจหายอยู่เหมือนกันนะพี่เมธีบอกตรง คนไม่รู้จักแต่เหมือนรู้จัก ฟังเพลงแกมาตั้งแต่เด็ก ๆ พ่อใช้ร้องทุกงาน เปิดด้วยเวลากลับไปบ้าน จนไทยพี่น้องเอือมระอา เพิ่นบ่อมักพรศักดิ์แหมะ ตะเรามัก” พรนภาเล่าให้เมธีฟัง ก็มันใจหายนี่นา จะไม่มีชื่อนี้อีกแล้ว ก็จะกลายเป็นตำนานไปอีกคน ทุกคนย่อมมีเกิดแก่เจ็บตายเป็นเรื่องธรรมดา แต่ก็นะ!
จากนั้นเพลงก็ได้เริ่มบรรเลงขึ้นภายในห้องพักเล็ก ๆ เสียงของเพลงไม่สามารถเล็ดลอดออกไปยังนอกห้องได้แน่นอน และ เช่นเคย! เมธีก็มิวายดัดแปลงเนื้อร้อง ๆ แซวเธอผู้เป็นผู้แพ้อีก เล่นตลก ๆ ร้องตลก ๆ กันไป ได้หัวเราะกับสามี กับคนที่รักเธอหวังดีกับเธอมากกว่าใครก็มีความสุขที่สุด แบบนี้สิถึงจะเรียกว่าคู่ชีวิต
ขอบคุณที่รักกัน ขอบคุณที่อยู่ด้วยกัน ขอบคุณที่เลือกกันมาเป็นคู่ชีวิตนะพี่เมธี ปรายตามองสามีร้องเพลงพร้อมขอบคุณเขาในใจด้วย ขณะนี้เขาร้องเพลงของ ‘ไท ธนาวุฒิ’ ให้เธอฟัง น่าฟังที่สุด และ ยังร่วมสมัยกับเธออีก หลาย ๆ เพลงก็ยังพอรู้จักผ่านหูมาบ้าง นั่งย่างซีฟู้ดไปฟังเพลงด้วยมีความสุขที่สุด
ฝันหวาน (Sweet Dream) 72
.
เช้าวันนี้ดูท่าทางสามีรุ่นพ่อจะสดใสผิดปกติ อารมณ์ดีเหลือเกิน เธอรู้ว่าทำไม! เพราะอะไร! ค่อนขอดให้ด้วยความหมั่นไส้อย่างมากที่สุด เสียงฮัมเพลงร่วมรุ่นของสามีดังเบา ๆ อย่างสบายอารมณ์ แต่งตัวไปพร้อมร้องเพลงไปด้วยอย่างคนมีความสุข ส่วนคนที่หน้ามุ่ยคือเธอเอง จะมีความสุขอะไรนักหนา เล่นอยู่ได้แทนที่จะรีบ ๆ แต่งตัวไปทำงาน แอบเหวี่ยงค้อนให้กับสามีอยู่บนเตียงนอน ตนเองนั้นนอนซบผ้าห่มด้วยความช้ำใจ
“พี่เมธีจะมีความสุขอะไรนักหนา สายแล้วจะไปทำงานมั้ย” พูดออกมาด้วยความรำคาญเหลือเกิน ไม่ได้รำคาญคนเป็นสามีอันสุดที่รักหรอก หากแต่มีบางอย่างที่ไม่สบอารมณ์เท่านั้น ถ้าเป็นวันอื่น ๆ เธอชอบฟังเขาร้องเพลงแบบนี้ที่สุด
“ป๊าด! คนมีความสุขหนิคะ บางคนช้ำใจจนลุกบ่อขึ้นเลยบาดหนิ” เขาพูดกลั้วหัวเราะ ปรายตามองภรรยารุ่นลูกอย่างเอ็นดู คนอะไรชอบทีมกาก ๆ รู้ว่ากากก็ยังจะชอบอยู่ได้ “ไม่อยากจะคิดสงสาร! ไม่อยากจะคิดสงสารเมื่อเห็นพรนภานอนซึม ศูนย์ห้าเดี๋ยวเขาก็ลืม” ร้องเพลงแซวเสียเลย
“พี่เมธี! ฮ่วย!” พรนภาอุทานแทรกขึ้นมาทันควัน เม้มปากหัวเราะกับเพลงที่เมธีร้อง แม้จะหมั่นไส้ก็ตามที “ห้ามร้อง! “ เมธีหัวเราะลั่นห้องกันเลยทีเดียว “ไปทำงานเลย ไม่คุยด้วยแล้ว”
“คนแพ้ก็ต้องดูแลตัวเองนะน้องหล่านะ “ ยักคิ้วให้สาวเจ้าตลก ๆ “ดีนะที่ไม่ได้พนันกับพี่เอาไว้ ไม่อย่างนั้นเสร็จแน่น้องนภาเอ๋ย หึหึ ของเค้ามันเจ๋งอยู่แล้วน้องเอ้ย! ไปทำงานดีกว่า” เขาพูดลอยหน้าลอยตา พร้อมจัดระเบียบตัวเองให้เข้าที่เข้าทางก่อนจะขอตัวไปทำงาน ตอนเย็นค่อยกลับมาเจอกันใหม่ที่รักของเขา
“ไม่อยากจะคิดสงสาร! ไม่อยากจะคิดสงสารเมื่อเห็นเธอนั่งซึม ศูนย์ห้าเดี๋ยวเค้าก็ลืม เขายืมประตูแมนยูเชยชม หมดสิ้นความขลัง แล้วเขาก็ปล่อยลอยลม พรนภานั่งซึมอกตรม เขายิงเขาชนะหนีไปไม่ลา” ยังไม่หยุดร้องเพลงล้อเธออีก
“พี่เมธี! “ เธออุทานลุกขึ้นจากเตียงนอน ยืนเท้าสะเอวดุสามี พร้อมรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ฝากไว้ก่อนเถอะ วันพระไม่ได้มีหนเดียว
“เดี๋ยวตอนเย็นในฐานะผู้ชนะ เค้าจะซื้อกับข้าวมาเลี้ยงนะคะ คนแพ้อยากทานอะไรแช็ตมาบอกได้เลย อิอิ ไปทำงานจริง ๆ ละ เจอกันค่ะ”
“รีบไปเลยสายแล้ว! มัวแต่ร้องเพลงอยู่ได้ ไม่แพ้บ้างให้มันรู้ไป ชิ” จากนั้นพวกเธอสองคนก็ลากัน เมธีไปทำงาน ส่วนเธอกลับมานอนต่ออีกสักหน่อย ยังไม่ถึงเวลาของตนเอง ขณะนี้ไม่อยากเปิดเฟซบุ๊กเลย ไม่อยากเห็นเกมเมื่อคืน มันเป็นแมตช์ที่อัปยศอย่างมาก เธออยากไปไล่โอเล่ออกด้วยตนเองเหลือเกิน
…………………………………
หนึ่งทุ่มครึ่งพรนภาเลิกงานกลับมาถึงห้องพัก เตรียมตัวเตรียมใจกับการโดนล้ออย่างจำยอมที่สุด ยอมก็ได้หนึ่งวัน อยากแซวอะไรก็แซวมาเลย ก็แพ้ขาดลอยซะขนาดนั้น ก็เละเป็นโจ๊กซะขาดนี้ ในเฟซบุ๊กก็โดนยำมาแล้ว จะมาโดนยำโดยฝีมือของสามีอีกคนจะเป็นไรไป เนื่องจากเมธีเองชอบฟุตบอลคนละทีมกับตน คลั่งไคล้จนขนาดนำไปตั้งเป็นชื่อลูกชายกันเลยทีเดียว ‘ลิพูล’
ก็อก ๆ! เสียงเคาะประตูจากด้านนอก เป็นใครไปไม่ได้นอกเสียจากพรนภาสุดที่รัก ส่องดูก็ใช่จริง ๆ เขาสวมเสื้อฟุตบอลทีมรักต้อนรับการกลับมาของภรรยาอย่างดี พร้อมด้วยรอยยิ้มอันแสนเบิกบานประดับบนใบหน้าก่อนจะเปิดประตูให้
“เชิญขอรับ! ผีก๊องกอย เอ้ยไม่ใช่! ไม่ใช่นะคะ น้องนภาสุดที่รักของพี่” เขาพูดกลั้วยิ้ม แถมยังหอมแก้มของเธอไปฟอดใหญ่ กลัวว่าจะโดนค้อนตีหัวเอาที่ล้อว่าผีก๊องกอยเมื่อครู่ ส่วนเจ้าตัวกลอกตามองบนให้ตนกลับมา แต่ก็ปนไปด้วยเสียงหัวเราะนั่นแหละ
“ไม่ค่อยจะเลยน้อพี่เมธี อยากทำอะไร อยากแซวอะไรก็ทำเลย!” เธอค่อนขอดให้กับเขา ทว่าเมื่อเปิดประตูห้องเข้ามา ก็แอบตะลึงกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า พี่เมธีน่ารักที่สุดเลย อย่างนี้เต็มใจให้ล้อให้แซวได้ทุกวันเลย ชอบอกชอบใจใหญ่กับเมนูที่สามีเตรียมไว้รอ มันคือเมนูธรรมดา ๆ ปกติ แต่มันเป็นของชอบของเธอ และ บ่นอยากทานมาหลายวันแล้ว นั่นก็คือ กุ้งและหมึกกระดองซีฟู้ดสุดโปรดของเธอนั่นเอง “ว๊าว! ทำไมรู้ว่าเค้าอยากกิน”
“เอ๋า… เค้าก็เลี้ยงคนแพ้ไงคะตัวเอง เมื่อเช้าก็บอกเอาไว้แล้วอยากกินไรแช็ตมา เดี๋ยวเลี้ยงไง” เขาตอบ
“เค้ายังไม่ได้แช็ตบอกเลย” เธอตอบ มองกับข้าวที่วางอยู่ตรงหน้า บนเสื่อที่เมธีปูเอาไว้ นั่งย่างกันกลางห้องโถงกันเลย
“เอ๋าก็รู้ใจเมียน้อ” เขาพูดเอาใจ ก่อนจะเดินมาซบด้านหลัง “ถึงกากผัวก็รักค่ะ ฮา “ เขากระซิบข้างหูของเธอเบา ๆ
“พี่เมธี!” พรนภาอุทาน เอี่ยวตัวไปตีที่ไหล่ของเขาเบา ๆ พร้อมหัวเราะให้กันและกันภายในคอนโดเล็ก ๆ แค่นี้ก็มีความสุขแล้วสำหรับพวกเธอทั้งสองคน ไม่ขออะไรมากมายไปกว่านี้ แค่มีผู้ชายคนนี้อยู่ด้วยก็พอ
“ไม่ต้องออกกำลังกาย ไปเปลี่ยนชุดเลยค่ะ เดี๋ยวพี่ย่างรอ”
“โอเค!” จากนั้นพรนภาก็เดินไปเปลี่ยนชุดทำงานออก สวมชุดลำรองแสนสบายเข้ามานั่งย่างหมึกกับกุ้งด้วยกันกับสามี น้ำจิ้มเมธีทำเองอร่อยที่สุด
พวกเธอย่างหมึกไปด้วย คุยกันไปเรื่อย มิวายวกมาเรื่องฟุตบอลพรีเมียร์ลีกเมื่อคืนอีก ศึกแดงเดือดระหว่าง ทีมแมนยูยูไนเต็ดกับทีมลิเวอร์พูล ตนเองนั้นเชียร์ทีมแมนยูส่วนเมธีสามีรุ่นพ่อเชียร์ทีมลิเวอร์พูล ทำให้พออกพอใจเป็นอย่างมากสำหรับเกมเมื่อคืน ส่วนสำหรับเธอ มันคือเกมที่อัปยศที่สุดสำหรับทุก ๆ แมตช์ที่ผ่าน ๆ มา
“น้องนภาคะ” เขาเรียกชื่อของเธอ มือก็คอยพลิกกุ้งที่อย่างอยู่บนเตาย่างไฟฟ้า ก่อนจะหยิบมาใส่ในจานให้เธอด้วย “พรุ่งนี้พี่ฝากซื้อหวยหน่อยนะคะ พี่ไม่มีเวลาค่ะ ซื้อล็อตเตอรี่นะ”
“ได้! เลขอะไรล่ะ นภาก็ฝันเหมือนกัน ฝันคักฝันแน่ สิซื้อหวยอยู่งวดหนิ ฝันคักโพด” เธอพูดด้วยท่าทางจริงจัง เพราะเธอฝันได้เลขจริง ๆ นี่นา ลืมคิดไปว่าเมธีจะล้อเรื่องสกอร์เกมเมื่อคืนไปเลย ส่วนเจ้าตัวหัวเราะอึกอักอยู่คนเดียว
“เลขศูนย์ห้ากับห้าศูนย์ให้พี่หน่อยค่ะ เผื่อถูกรางวัลที่หนึ่งกับเขา ฮา “ เมธีพูดปนหัวเราะ รวมทั้งเธอด้วยที่หัวเราะตาม หึหึ ยอมสามีนั่นแหละ วันของสามีจริง ๆ และเพื่อกับข้าวมื้อนี้ด้วย อยากแซวอะไรก็เชิญ อย่าให้ถึงวันของเธอก็แล้วกัน จะล้อทั้งวันทั้งคืนทุก ๆ เวลากันเลยทีเดียว
“เดี๋ยวเอาช้อนจิ้มตาเลย! เดี๋ยวเหอะ หึหึ” เธอทำตลก ๆ ให้กับสามีไปอย่างนั้น
“ฮ่วย! จิ้มตาก็ตาบอดแล้วน้อ คือสิเฮ็ดให้คนมีความสุขได้ฮั่นบาดหนิ ขั้นตาบอส! ฮา “ เขาพูดปนหัวเราะไปอีก ยังมีเวลามาทะเล้นอีกนะพี่เมธี ค่อนขอดให้อีกรอบเสียเลย
“ก็หยุดแซวถ้าไม่อยากตาบอดอ่ะ ฮ่วย! เว้าดูเด้อคนเฮานั่น อย่าให้ฮอดทีเขากะแล้วกัน ชิ”
“ค้าบ! คนอะไรชอบทีมกาก ๆ ห้าศูนย์ว่าหนิแหมะ ผู้ลังคนทนเบิ่งบ่ได้หนีไปนอนตะสามลูกแรกพุ่นน่ะ ฮา “ เขายังไม่หยุดแซวอีก พูดเอาฮากันเท่านั้น “ถึงจะยับเยินแค่ไหนเค้าก็รักค่ะ อะเค้าซอยหมึกให้เนี่ย กินหลาย ๆ สิได้ใหญ่เร็ว ๆ “ เขาเล่นมุกนี้อีก พร้อมปรายตามองภรรยาสาวทุกทีที่เขาเล่นมุกนี้
พรนภาหัวเราะ เขินอยู่เหมือนกันหากจะตบมุกนี้กับสามี เนื่องจากเล่นกันบ่อยเหลือเกิน รอยยิ้มแบบนั้น แววตาแบบนี้ทราบในทันทีว่าสามีรู้ว่าตนเองจะตบมุกว่าอย่างไร “ตัวเองก็กินเยอะ ๆ จะได้โตไว ๆ ฮา “ สุดท้ายก็เล่นเหมือนเดิม คำพูดเดิม ๆ เป๊ะทุกรอบที่เล่นมุกนี้กัน
“ฮื้ย! จะแมนน้อ ตัวเองนั่นแหละกินเยอะ ๆ เลยค่ะ พี่น่ะโตจนแก่แล้ว ฮา “ ทั้งเขาและเธอต่างหัวเราะให้กัน เป็นภาพที่เกิดขึ้นบ่อยมาก ๆ สำหรับพวกเธอสองคน น้อยมากเหลือเกินที่จะงอนกัน ทะเลาะกันแทบไม่มีให้เห็นเลยตั้งแต่อยู่ด้วยกันมา อาจเป็นเพราะวัยที่ต่างกันนั่นเอง จึงรู้จักจัดการและควบคุมอารมณ์ความรู้สึกของตนเอง
หลังเลิกงานกลับห้อง วันนี้พรนภาก็ไม่ได้ออกกำลังกายอีกหนึ่งวัน เพราะสามีเลี้ยงซีฟู้ดชุดใหญ่มาก ในฐานะคนชนะเมื่อคืน ถึงไม่มีเกมฟุตบอลเธอก็กะจะชวนทานอยู่แล้ว อยากกินมาหลายวันแล้วล่ะ แต่พอมีเกมศึกแดงเดือดก็จัดให้มันเข้าบรรยากาศสักหน่อย เมื่อคืนนั่งเชียร์ฟุตบอลด้วยกัน ต่างคนก็ต่างสวมเสื้อทีมรัก มันถึงจะเข้าถึงบรรยากาศนั้น
ของเธอสวมเสื้อก็อปปี้ ส่วนสามีของแท้ทุกฤดูกาล บอกว่าใส่ของก็อปไม่ได้ว่าอย่างนั้น แค่เสื้อฟุตบอลจะอะไรนักหนา สำหรับเธออะไรก็ได้ “เนี่ยนภาจะไปไล่โอเล่ออกอยู่หนิ อะไรก่อน! นภากะไม่ชนะอยู่แล้ว อย่างเก่งก็เสมอ นี่อะไรห้าศูนย์ว่าหนิแหมะ โอเล่ก็ไม่สมควรต้องอยู่ต่อ หึหึ” บ่น ๆ ไปอย่างนั้นเอง
ความจริงแล้ว เธอไม่ได้ดูเกมเลยในทุก ๆ แมตช์ เธอเพียงดูนักฟุตบอลหล่อเฉย ๆ แม็กไกวนี่สุดยอดแล้ว ทว่าคนในใจของเธอตลอดกาล คือ เดเคอาร์มือประตูต่างหาก โดนัลโด่ก็เฉย ๆ คนอื่นชอบ แต่เธอไม่ค่อยชอบเท่าไหร่
พวกเธอย่างหมึกและกุ้งไปคุยกันไป เมธีก็เออออไปกับเธอด้วย เป็นคู่สนทนาที่ดีที่สุด ไม่เคยคัดค้านกับเรื่องไร้สาระ ขนาดคนละทีมยังเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยได้ นี่ถ้าชอบทีมเดียวกันไม่อยากจะคิด หากแต่เรื่องจริงจังก็มีเตือนกันได้ ยิ้มให้กับภรรยารุ่นลูก ความสุขของเธอคือความสุขของตนเองล่ะ ให้ได้ทุกอย่างที่ให้เธอได้
“เตะไล่โค้ชบ้อฮึน้อน้องว่าบ่อ ขาดลอยขนาดนี่น้อ ก็คอยดูกันต่อไป”
“แมน! ช้ำใจมากบอกเลย ช้ำใจเหลือเกิน!”
“ตะเหลือโตนคัก! ทำใจน้องทำใจ! ฮา ทีมเฮามันกากต้องยอมรับนั่นหนา อะรางวัลปลอบใจ หมึกกระดองย่างหนึ่งตัว อัว อัว อัว! เอาไปเลยเพื่อเธอคนเดียว” เมธีพูดอย่างตลก แถมยังทำท่าทางตลกไปอีก คนอะไรเล่นตลกไม่ดูอายุเลย ส่วนเธอก็เอาแต่หัวเราะ และ เติมเบียร์ให้กับสามีเรื่อย ๆ หากใครมาเห็นเข้าก็คงส่ายหัวให้กับพวกเธอ “เอากีตาร์มาดีดแน่น้าน้อง ตั้งวงกับเมียหนิมันคักกว่ามูแล้ว มันจังได้ฟิวส์ ๆ ”
“ได้ฟิวส์มันคือ! “ เธอแกล้งถาม แต่ก็ไม่ได้คำตอบ ได้เพียงเสียงหัวเราะของสามีกลับมา “เล่นเพลงเขาบ่อล่ะ” ถามก่อน เดี๋ยวมาเล่นเพลงอะไรก็ไม่รู้ เกิดไม่ทัน ไม่รู้จัก
“เอ๋า! อ้ายเล่นเพลงพ่อใหญ่พรศักดิ์กะได้ ไว้อาลัยแด่ไอ้หนุ่มแขนซ้ายลายมังกร”
“อะฮะ! จัดไป! ไอดอลของพ่อนภาเลย ใจหายอยู่เหมือนกันนะพี่เมธีบอกตรง คนไม่รู้จักแต่เหมือนรู้จัก ฟังเพลงแกมาตั้งแต่เด็ก ๆ พ่อใช้ร้องทุกงาน เปิดด้วยเวลากลับไปบ้าน จนไทยพี่น้องเอือมระอา เพิ่นบ่อมักพรศักดิ์แหมะ ตะเรามัก” พรนภาเล่าให้เมธีฟัง ก็มันใจหายนี่นา จะไม่มีชื่อนี้อีกแล้ว ก็จะกลายเป็นตำนานไปอีกคน ทุกคนย่อมมีเกิดแก่เจ็บตายเป็นเรื่องธรรมดา แต่ก็นะ!
จากนั้นเพลงก็ได้เริ่มบรรเลงขึ้นภายในห้องพักเล็ก ๆ เสียงของเพลงไม่สามารถเล็ดลอดออกไปยังนอกห้องได้แน่นอน และ เช่นเคย! เมธีก็มิวายดัดแปลงเนื้อร้อง ๆ แซวเธอผู้เป็นผู้แพ้อีก เล่นตลก ๆ ร้องตลก ๆ กันไป ได้หัวเราะกับสามี กับคนที่รักเธอหวังดีกับเธอมากกว่าใครก็มีความสุขที่สุด แบบนี้สิถึงจะเรียกว่าคู่ชีวิต
ขอบคุณที่รักกัน ขอบคุณที่อยู่ด้วยกัน ขอบคุณที่เลือกกันมาเป็นคู่ชีวิตนะพี่เมธี ปรายตามองสามีร้องเพลงพร้อมขอบคุณเขาในใจด้วย ขณะนี้เขาร้องเพลงของ ‘ไท ธนาวุฒิ’ ให้เธอฟัง น่าฟังที่สุด และ ยังร่วมสมัยกับเธออีก หลาย ๆ เพลงก็ยังพอรู้จักผ่านหูมาบ้าง นั่งย่างซีฟู้ดไปฟังเพลงด้วยมีความสุขที่สุด