ฝันหวาน (sweet dream) 9


.



               ท่าต่อไปคือท่าแพงค์สไปร์ทเดอร์ครับ ท่านี้โฟกัสก้ามเนื้อหน้าท้องด้านข้าง โดยเริ่มจากการทำพูแพงค์ ดันเข่าขึ้นมาด้านข้างแบบนี้ครับ ทำไป 45 วินาที...

                หน้าทีวีภายในห้องของเมธี พรนภาออกกำลังกายตอนเย็นเป็นกิจวัตรประจำวัน สวมกางเกงเลคกิ้งสีดำ และสปอร์ตบาร์เหมือนเดิม กำลังทำท่าแพงค์ตามยูทูป ส่วนเมธีนั่งเล่นมือถือและดูเธอออกกำลังกายบนโซฟา

               “เย็นนี้เราออกไปกินไรนอกบ้านดีน๊า ฮา” เขาเพียงพูดแกล้งพรนภาเฉย ๆ วันหยุดพวกเธอไม่ได้ไปไหนเลย อยู่ห้องทั้งวัน พรนภาหยุดแพงค์ อมยิ้มพร้อมหันไปมองค้อนให้เมธี ทำไมต้องชวนกินด้วย แต่ก็ไม่ใช่ปัญหา แพงค์เสร็จอาบน้ำออกไปทานก็ได้ เธอแคร์ที่ไหน

               “ย่างเนย! “ เธอตอบพร้อมลุกขึ้นเดินไปหยิบผ้ามาเช็ดเหงื่อออก ดื่มน้ำแก้กระหายสักหน่อย “ย่างเนยแถวอ่าวอ่ะ นภาอยากไป นะคะพี่เมธี”

               เมธียิ้มตาหยี หัวเราะเธอ “อย่าออกเลยกำลังกายค่ะ ถ้าจะกินบุฟเฟต์อยู่ เสียเวลา ที่ทำไปเมื่อกี้อ่ะมีค่าเท่ากับศูนย์”

               “เอ้าก็พี่เมธีถามนภาว่ากินไรดี นภาก็เสนอย่างเนยไง แล้วถามทำไม” พรนภาหน้าบึ้งให้กับคนตรงหน้า เธอออยากกิน ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย ในเมื่อออกกำลังกายแล้ว จะกินอะไรก็ได้ เธอทำแบบนี้น้ำหนักก็ไม่เห็นขึ้น “จะไปมั้ยไป!”

               “ไปค่ะไป! อาบน้ำแต่งตัวดิ” เมธียิ้มให้เธอ อย่างจริงใจที่สุด รักที่สุด ทุกวันนี้เขายอมเธอทุกอย่างแล้ว พรนภาคือทุกอย่างของเขาจริง ๆ แม้ตายก็ไม่เสียดายชีวิต โลกของเขาสดใสเสมอที่มีเธอในทุก ๆ วัน

                “ก็แค่นี้ เดี๋ยวนภาอาบน้ำแป๊บนึงนะคะ” พรนภาทำหน้าตาทะเล้นให้เมธี ก่อนจะเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวไปอาบน้ำ ใช้เวลาไม่นานเธอก็อาบน้ำเสร็จ แต่งตัวไปกินย่างเนยที่ใจใฝ่ฝัน ทว่ามีสายตาคู่หนึ่งมองมาจากด้านหลัง เธอมองผ่านกระจกโต๊ะเครื่องแป้งเห็นแล้วก็อดหัวเราะไม่ได้

               พรนภาหันหน้าไปหาเมธีพร้อมหัวร่อ “พี่เมธีอ่านกินนภาทำไมอ่ะ”

               เมธีเองก็หัวเราะตัวเอง พรนภาไม่เคยเปลี่ยนเลย ตั้งแต่วันแรกที่ตกลงคบกันจนวันนี้ ขาว สวย หมวย อึ๋มไม่เคยเปลี่ยน เธอนุ่งแค่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียวนั่งแต่งตัวที่โต๊ะเครื่องแป้งของเขา ปกติก็ไม่เคยมี พอมีพรนภาเข้ามาในชีวิต คอนโดของเขาก็ไม่โล่งอีกต่อไป

                “น้องภาไม่ต้องออกกำลังกายแล้วได้มั้ย เดี๋ยวผอม เดี๋ยวเล็ก”

                “พี่เมธี!” พรนภาอุทาน “อะไรเล็ก ฮา ไม่ได้! นภาไม่อยากอ้วน” เธอพูดคุยกับเมธีผ่านกระจก “ไม่ต้องเลยนะ! อย่าแม้แต่จะคิด รู้นะ! ฮ่วย เดี๋ยวมันเสียเวลามันจะดึก “

                 “ค้าบ กลับมาโดนแน่”

                “โดนอะไร ฮา” พรนภาหัวเราะให้เมธีผ่านกระจก และรีบแต่งตัวให้เสร็จโดยเร็ว ขืนชักช้าไม่ได้ไปกินย่างเนยแน่ แต่จะได้ทำอย่างอื่นแทน

               พรนภาแต่งตัวลวก ๆ เพราะมืดแล้ว แค่ออกไปทานย่างเนยแค่นั้นเอง ใจจริงอยากสวมชุดนอนไปด้วยซ้ำ ส่วนเมธีก็แต่งตัวใส่ชุดอยู่บ้าน สบาย ๆ กันทั้งสองคน พวกเธอขับรถออกไปทานย่างเนยแถวอ่าว ตามจีพีเอสมาถึงร้านจนได้

               ภายในร้านคนแน่นมากเพราะวันนี้เป็นวันหยุด มีทั้งนักศึกษาและวัยทำงานที่มาทานย่างเนยที่นี่ เนื่องจากร้านนี้ก็มีชื่อเสียงเรียงนามพอสมควร

               “พี่ไม่เคยกินย่างเนยเลย มันเป็นยังไงคะ” เมธีดูเก้ ๆ กัง ๆ ถ้าเป็นหมูกระทะก็ว่าไปอย่าง แต่ที่นี่แลดูหรูหรากว่าร้านหมูกระทะทั่วไป

               “เดี๋ยวนภาพากินเอง นภาเคยมากับพี่ออ พี่ออพามา” พรนภาพูดถึงหัวหน้างานของเธอ หล่อนพาเธอมาเมื่อสองสามวันก่อน รู้สึกชอบจึงได้ชวนเมธีมาอีก

               “งั้นก็จัดเต็มเลยค่ะ” เมธียิ้มให้เธอ เดินเลือกโต๊ะที่ชอบ และมีพนักงานเดินตามคอยบริการไม่ห่าง

               “โต๊ะนี้ค่ะ 2 คน เอาเนยเอาชีสด้วย หม้อต้มด้วยค่ะ” พรนภาสั่งพนักงานอย่างคุ้นเคย เพราะเธอเคยมาแล้ว “พี่เมธีนั่งเฉย ๆ เดี๋ยวนภาบริการเอง” แล้วเธอก็เดินไปหยิบวัตถุดิบในการกินย่างเนย หยิบมาเผื่อเมธีด้วย

               พนักงานนำเตาสองเตามาตั้งให้พวกเธอ  เตาทอดหนึ่งอัน เตาต้มหนึ่งอัน หม้อต้มเป็นหม้อปั้นดินเผา อร่อยดี ที่ร้านเปิดเพลงให้ฟังสร้างบรรยากาศไปด้วย เสียงเพลงดังแข่งเสียงคนคุยกันก็เพลินดี วันนี้ภายในร้านลูกค้าเป็นวันรุ่นเสียส่วนใหญ่ เพราะอ่าวอยู่ติดกับมหาวิทยาลัย

               “นี่เขากินแบบนี้” พรนภาทำให้เมธีดู เธอใช้ตะเกียบหยิบผักลงไปในเตาทอด “พี่เมธีดูเตาต้มนะ ใส่อะไรก็ได้แล้วแต่ชอบ เดี๋ยวนภาย่างเนยให้กินเอง” พร้อมยิ้มให้กับคนตรงหน้าอย่างมีความสุข เธอมีความสุขเสมอที่ได้ออกมาทานอะไรแบบนี้

               “ค่ะ “ เมธีตอบ พร้อมหยิบผักและเนื้อหมูใส่ลงในหม้อดินใบกะทัดรัด

                ส่วนพรนภาดูเตาทอดเนย มันก็คือกระทะทอดดี ๆ นี่เอง พรนภาหยิบหมูสไลด์ลงไป ผัก ตอกไข่ลงไปเหมือนหมูกระทะธรรมดา ๆ แต่ทีเด็ดมันอยู่ตรงชีสแค่นั้นเอง

                 “มันพิเศษตรงไหนคะน้องนภา มันแตกต่างกับหมูกระทะตรงไหน” เมธีถามเธอ

                 “เอ๋า เดี๋ยวก่อนซี่ นภากำลังจะทำให้กินอยู่เนี่ย ก็กินพวกนี้ไปก่อน” พรนภาพูดไปพลางแกะกุ้งไปพลาง ทีเด็ดมันอยู่ตรงนี้ รอให้เธอแกะกุ้งเสร็จก่อน

               “เออะ! อุ้ยพี่เมธี เอาผักปิดเนยแหมะ เออะ!” พรนภาอุทานพร้อมยกมือขึ้นมาลูบแขน รีบหยิบผักไปปิดเตาทอดไว้ เพราะเนยมันกำลังกระเด็นเมื่อกระทะเดือด ๆ

               เมธีเองก็โดนไปด้วย รีบกุลีกุจอหยิบผักมาปิดกระทะไว้ กันโดนเนยกระเด็นใส่ พรนภาใช้ช้อนคน ๆ ทุกอย่างให้เข้ากัน ตักให้ใส่จานตัวเองกินอย่างเอร็ดอร่อย และก็แกะกุ้งต่อ ตักให้เมธีด้วย

               “พี่เมธีทานเยอะ ๆ ค่ะจะได้โตเร็ว ๆ “ พรนภาชอบพูดแบบนี้เสมอ เมธียิ้มอย่างเอ็นดูแฟนเด็กคนนี้ เธอสดใสทำให้เขามีความสุขไปด้วย

               “พี่โตจนจะแก่แล้วค่ะ หนูน่ะกินเยอะ ๆ ให้มันแก่ทันพี่ ฮา” พรนภายิ้มหัวเราะกับคำพูดของเขา เมธีน่ารักที่สุดในใจของเธอ อบอุ่นที่สุด เอาใจเก่งที่สุด ใส่ใจเธอทุกอย่างเก่งที่สุดด้วย เธอถึงได้รักผู้ชายคนนี้มาก ๆ

               “พี่เมธีตักพวกนี้ไปให้หมดเลย นภาจะย่างเนยให้กินใหม่ เนี่ยทีเด็ดมันอยู่ตรงนี้ รอกินได้เลย ฮา” เมื่อเธอแกะกุ้งเสร็จหมดแล้ว พร้อมทำการย่างเนยที่แสนอร่อยแล้ว เมธีทำตามอย่างว่าง่าย ตักผักและเนื้อในกระทะออกไปให้หมด

               พรนภาใส่เนยลงไปในกระทะ เขี่ยเนยให้ทั่ว เทกุ้งที่แกะแล้วลงไป ตอกไข่ลงไปจนเต็มกระทะ และใส่ชีสลงไป นำผักมาวางปิดบนตัวกุ้งด้วย กันเนยกระเด็นใส่เหมือนเมื่อครู่นี้ รอให้สุกแค่นี้ก็ทานได้แล้ว ยืดมากยืดน้อยแล้วแต่การใส่ชีสของเรา

               “พี่เมธีถ่ายคลิปให้นภาหน่อย นภาจะเอาลงติ๊กต่อก” พรนภาตักกุ้งย่างเนยในกระทะ ชีสที่ใส่ผสมลงไปยืดออกเป็นเส้น ๆ ตามแรงดึง น่าทานมาก ๆ เมธีรู้งานเป็นอย่างดี ถ่ายคลิปวีดีโอให้เธอได้ทันเวลา ก่อนที่ชีดมันจะขาดออก

               “พี่เมธีลองชิมดู แล้วจะติดใจ” พรนภายิ้มระเรื่อเมื่อได้กินกุ้งย่างชีด อร่อยที่สุดในตอนนี้ ไม่พอเธอจัดการตักให้เมธีซะเลย

                 “กินให้คุ้มนะ” เมธีมองหน้าเธอ เป็นอันรู้กันว่าทุกทีเธอเป็นคนหิว เป็นคนชวนมาตลอด ทว่าคนกินเป็นเขาทุกที ที่ต้องคอยกินตามเช็ดตามล้างให้เธอ “ให้มันสมกับอยากให้พี่พามานะคะ”

               พรนภาฉีกยิ้มอย่างตลกให้กับเขา “เอ๋าพี่เมธีก็ นภาก็กินอยู่นี่ไง” พรนภาหลับตาพริบ ๆ ให้กับเขา พร้อมยิ้มออดอ้อน “นภาขอซดน้ำหน่อย เดี๋ยวมันแค้นคอ” พูดจบเธอก็ใช้ช้อนตักน้ำซุปในหม้อดินมาซด อร่อยดี น้ำซุปทางร้านทำอร่อยมาก

               “พี่เมธีซดน้ำยัง แค้นคอนะ ฮา” เธอพูดตลก ๆ เฉไฉไปเรื่องอื่น “ซดดูน้ำซุปเขาอร่อย”

                “นั่นแหละ จัดการของตัวเองให้หมดเลย ไปหยิบมาเนี่ย”

               “เอ๋า พี่เมธีก็จัดการให้นภาไม่ได้เหรอ” พรนภามองหน้าเขา ส่งยิ้มให้

               “ตลอดเลย! น้ำหนักพี่ขึ้นก็เพราะแบบนี้”

                 “อ้วนนภาก็รัก” พูดพร้อมปรายตามอง และหัวเราะให้กับเขา เมธียิ้มและหัวเราะตาม สรุปวันนี้ เมธีก็ต้องจัดการของที่อยู่บนโต๊ะให้หมดเช่นทุกครั้ง เพราะเธอกินไม่หมด เมธีต้องเป็นคนจัดการเองเสมอ...

               พรนภากำลังกินย่างเนยกับอรวีและพลอย นั่งมองไปรอบ ๆ ร้าน เห็นผู้ชายกับผู้หญิงสองคนมานั่งทานย่างเนยด้วยอยู่โต๊ะข้าง ๆ  เธอเดาน่าจะเป็นแฟนกัน อดนึกถึงใครบางคนไม่ได้ ใครบางคนที่ไม่ใช่พี่โค๊ก

               นานแล้วที่ไม่ได้มานั่งทานอะไรแบบนี้กับพี่โค๊ก นานจนลืมว่าล่าสุดไปนั่งแบบนี้กันตอนไหน แต่ทำไมในใจเธอมันไม่ได้นึกถึงพี่โค๊กเลย มันกลับจินตนาการไปถึงอีกคน นึกไปถึงใครบางคน ถ้าได้มานั่งทานแบบนี้ด้วยกันคงมีความสุขน่าดู

               แต่มันจะเป็นไปได้อย่างไรล่ะ เมธีเป็นคนในจินตนาการของเธอ เป็นคนในฝันของเธอที่ไม่เคยได้เกิดขึ้นจริง เธอจะไม่ทำให้ใครเสียหายโดยเฉพาะพี่โค๊กแน่นอน

                 ให้ความสุขมันเกิดขึ้นแค่ในฝัน ให้มันอยู่แค่ในจินตนาการ แค่นี้ก็สุขแล้ว ลึก ๆ ฉันก็ยังหวังว่ามันจะเป็นจริง

               สุขที่ได้คิด สุขที่ได้ฝัน

จบบท...

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่