นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่แมวน่ารักของเรา
ได้ผ่านการคัดเลือกสายพันธุ์มาหลายชั่วอายุคน
เพื่อความน่ารักสูงสุด แต่การผสมพันธุ์นั้นมีข้อเสีย คือ
มันทำให้เพื่อนแมวของเราบางตัว
มีใบหน้านิ่ง/ใบหน้าบึ้งตึงถาวร
ไม่สามารถแสดงออกถึงอารมณ์ได้

โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานวิจัยใหม่ที่ตีพิมพ์
ในวารสาร Frontiers of Veterinary Science เดือนธันวาคม 2020
ได้ชี้ให้เห็นว่าการผสมพันธุ์แบบคัดเลือกสายพันธุ์
สำหรับ Brachycephalic แมวหน้านิ่ง/หน้าบึ้งตึง
มักจะทำกับแมวเปอร์เซีย
แมวเทือกเขาหิมาลัย และแมวพม่า
แมวเหล่านี้จะไม่สามารถสื่อสารกับคนเรา
ถึงความหวาดกลัว ความวิตกกังวล
หรือความเจ็บปวดได้อย่างแม่นยำ
เพราะแมวสายพันธุ์หน้านิ่งเหล่านี้
มีใบหน้าที่ตรึงตาติดอยู่กับ
ใบหน้านิ่ง/หน้าตาบูดบึ้งอย่างถาวร
ซึ่งบ่งบอกถึงความเจ็บปวด
แม้ว่าพวกมันจะไม่เจ็บปวดเลยก็ตาม

“ ผลลัพธ์เรื่องนี้จะเป็นการ
เปิดหูเปิดตาอย่างแท้จริงสำหรับฉัน
ฉันไม่ได้คาดหวังอย่างแน่นอนว่า
จะพบว่าใบหน้า Brachycephalic
จะมีการแสดงออกที่เหมือนบอกว่าเจ็บปวด ”
Lauren Finka ผู้เขียนนำผลการศึกษา
จาก Nottingham Trent University ที่ England 
ให้สัมภาษณ์เรื่องนี้กับ Live Science
 



Permanent grimaces หน้านิ่ง/หน้าบูดบิ้งถาวร
 

ใบหน้าแมวที่หน้านิ่ง/บูดบึ้งถาวรเหล่านี้
นั่นหมายความว่า เจ้าของแมวจะไม่สามารถรู้ได้เลยว่า
แมวที่เลี้ยงมีอาการเจ็บปวดจริง ๆ
Lauren Finka ให้สัมภาษณ์กับ Live Science

" แม้ว่าผลการผสมพันธุ์แบบคัดเลือกของมนุษย์
ทำให้ใบหน้าดั้งเดิมของแมว
ได้เปลี่ยนลักษณะทางกายภาพไปมากที่สุด
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าใบหน้าแมวจะมีความสำคัญ
ในการสื่อสารอวัจนภาษาของสัตว์กับคน
(ภาษาไม่มีคำพูด แต่คนกับแมวมักจะรู้กัน)
แต่ผลการวิจัยได้ทำการศึกษาได้พบว่า
ผลของการผสมพันธุ์แมวที่เกิดขึ้นนี้
ทำให้การแสดงออกทางสีหน้าของแมว
เปลี่ยนแปลงไปได้อย่างไรบ้าง

เพื่อหาคำตอบจากงานวิจัยเรื่องนี้
Lauren  Finka และเพื่อนร่วมงาน
ได้ใช้ Algorithm คณิตศาสตร์
เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลใบหน้าของแมว
จากภาพถ่ายแมวมากกว่า 2,000 ภาพ
และกำหนดคะแนนจากภาพ
ใบหน้าแมวที่เป็นกลาง
ไปจนถึงแมวหน้านิ่ง/หน้าบูดบึ้ง
(Google มีการใช้ Algorithm หลายแบบมาก
ในการจัดลำดับการค้นหาข้อมูลต่าง ๆ มากที่สุด)
 

จากการเปรียบเทียบการแสดงออกทางสีหน้า
ใบหน้าแมวที่เป็นกลางของแมวสายพันธุ์ต่าง ๆ
กับการแสดงออกถึงสีหน้าเคร่งขรึม/หน้านิ่งของแมว

แมวบ้านขนสั้นที่เพิ่งฟื้นตัวจากการผ่าตัด
ทำให้พบว่าแสดงอาการเจ็บปวดบนใบหน้า
ขณะ/หลังการผ่าตัดเสร็จแล้ว
แต่แมวไม่ได้แสดงออกทางสีหน้าในช่วงปกติ
ก่อนจะทำการผ่าตัดแต่อย่างใด

แต่แมวหน้านิ่งดูเหมือนว่า
จะแสดงอาการเจ็บปวดทางสีหน้า
แม้ว่าในเวลานั้นจะผ่อนคลายก็ตามแต่ เช่น
แมวสายพันธุ์ Scottish Fold สายพันธุ์หนึ่ง
 
ทำคะแนนนำได้สูงกว่ามากในการแสดงสีหน้า
เหมือนเจ็บปวดมากกว่าแมวขนสั้นที่เจ็บปวดจริง ๆ





Google Algorithm มีเยอะเป็น 100+ 
และมีรายละเอียดมากจริง ๆ
แต่การอัพเดท Algorithm ล่าสุด
ในเดือน พฤษภาคม ของปี 2021
เกี่ยวข้องกับ Page Experience Signal ตรง ๆ
ซึ่งจะเป็นการปรับอัลกอริทึมครั้งสำคัญ
โดยประกอบไปด้วย 7 ส่วน
ที่อาจกระทบกับ SEO Ranking
ไม่ว่าคุณจะทำ SEO เอง
หรือจ้างบริษัทรับทำ SEO ก็ตาม




ยังเหมือนลูกแมวตลอดเวลา


ทำไมคนเราถึงชอบแมว
ที่ดูเหมือนหน้าตานิ่ง/ดูเหมือนพวกมันเจ็บปวด
ทฤษฎีหนึ่งก็คือ เราผสมพันธุ์สัตว์
เพื่อให้พวกมันอยู่กับเราได้นานขึ้น
ในสถานะที่แมวยังเป็นเด็ก (อ่อนเยาว์)
ซึ่งเป็นกระบวนการที่เรียกว่า neotenization
แบบเด็กทารกและเด็กที่ร้องไห้งอแงมาก ๆ 
เราน่าจะมีความชื่นชอบโดยธรรมชาติ
สำหรับคุณสมบัติของแมวที่ดูเหมือนเจ็บปวด
เพราะมันอาจจะเป็นแรงผลักดัน
ให้เราต้องดูแล/เลี้ยงดูพวกมันมากเป็นพิเศษ




เรื่องนี้  ทำให้เรารู้สึกเสียใจสำหรับพวกมัน
เพราะความชอบของคนเรา
กับใบหน้าของแมวที่ดูเหมือนเด็กทารก
(เพราะมีใบหน้านิ่ง/เจ็บปวดตลอดเวลา)
อาจทำร้ายเพื่อนที่มีขนยาว(แมว) ของเราได้

ผลการวิจัยที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่า
การปรับเปลี่ยนใบหน้าอย่างรุนแรง
จากการคัดสรรค์ทางสายพันธุ์
ให้มีใบหน้าแมวแบบที่ต้องการ
ที่ตามมาด้วยผลของอาการข้างเคียง
คือ แมวเจ็บป่วยมากมายเพิ่มขึ้น
ตั้งแต่ทางเดินหายใจที่ตีบตัน
จนไปถึงการที่ผิวหน้งมีส่วนเกินมากเกินไป
ปัญหาการหายใจและการมองเห็น
ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดจากการที่คนเรา
ชอบให้แมวมีใบหน้านิ่ง/เรียบเฉย

เรื่องที่น่าเสียดายนั่นคือ
ความหมาย/การผิดธรรมชาติของแมว
เราอาจจะชอบแบบนี้
แม้ว่าจะสร้างปัญหาให้กับแมว
ทำให้แมวสายพันธุ์เหล่านี้
มีปัญหาทางด้านสุขภาพอย่างร้ายแรง
ที่ต้องพยายามจะสื่อสารกับคนเรา
และสัตว์อื่น ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้
(เพราะบอกยากมากว่า แมวเจ็บปวดจริงหรือไม่
คล้ายแบบคนหน้าตาย เดาใจยากว่าคิดดีคิดร้าย)

แน่นอนใบหน้านิ่งที่น่ารักแบบเรียบเฉย
จะเป็นการขัดขวางวิธีการที่แมวจะสื่อสารกับเจ้าของ
นั่นหมายความว่า เจ้าของแมวอาจจะมองพลาดไป
เมื่อแมวเกิดอาการเจ็บปวดขึ้นมาจริง ๆ

ถ้าจะซื้อแมว อย่าลืมหาข้อมูลกันก่อน
สิ่งสำคัญก็คือ เราต้องพิจารณาถึง
ความสามารถของแมวในการสื่อสารกับเรา "
Lauren Finka ให้สัมภาษณ์ไว้ใน The Conversation


เรียบเรียง/ที่มา


https://bit.ly/3p1lNrn





หมายเหตุ

มีรายงานข่าวระบุว่า
เริ่มมีการรณรงค์ควบคุมการผสมพันธุ์
แมวสายพันธุ์ Scottish Fold
โดยเฉพาะรัฐ Victoria Australia
เพราะแมวรุ่นหลัง ๆ
จะมีพันธุกรรมด้อยกว่าเดิมมาก
มีอาการเจ็บป่วยเรื้อรังมากผิดปกคิ
บางตัวก็ออกอาการเอ๋อเหรอ Error
มากกว่าแมวทั่วไปในท้องตลาด
ซึ่งเป็นผลร้ายมากกว่าผลดีในระยะยาว

ทั้งนี้แมวสายพันธ์นี้มาจากแม่แมวกับลูกแมวสาว
Susie กับ Snooks ที่ผ่าเหล่าจากฟาร์มเพาะพันธุ์แมว
Coupar Angus แคว้น Perthshire Scotland
ต่อมาแพร่หลายไปทั้งสหรัฐ ออสเตรเลีย
จากเดิมผสมกับแมวต่างสายพันธุ์ที่หูลีบ
กลับกลายเป็นผสมกันระหว่างเครือญาติใกล้ชิด
ทำให้มีลักษณะเด่นที่กลายเป็นด้อยเลย
คือ DNA หลักมาจากแม่แมวทั้งสองตัว
ที่ให้เกิดลูกหลานเหลนโหลน
(ลื่อ ลืบ ลืด ไม่นิยมใช้กัน)
แล้วยังนำกลับมาผสมพันธุ์กันเองซ้ำไปซ้ำมา
ทำให้ลักษณะด้อยทางพันธุกรรมค่อย ๆ โผล่
คืบคลานออกมาเหมือนเพลงแมงมุม
(แสงระวี  อัศวรักษ์) จุดจบคือ
ออกลายมาเลย ออกลายให้เห็น
แบบเพลงเสือ ของ ภัสสร บุญยเกียรติ





เรื่องเล่าไร้สาระ


ซิกมันต์ ฟรอยด์ ที่โด่งดัง Id Ego Superego
เคยวิเคราะห์เรื่องการเกิด/การตายไว้ว่า
นอกจากสัญชาตญาณการเกิดแล้ว
คนเรายังพยายามหลีกเลี่ยงสัญชาตญาณการตาย
ด้วยการสืบเผ่าพันธุ์ขยายพันธุ์ให้มากขึ้น
หวังพึ่งโลกหน้าทางศาสนาต่าง ๆ
บางคนก็แบบสวดมนตร์เอาหน้า ภาวนากันตาย
หายาวิเศษสารพัดรักษาความเป็นอมตะ
เสพสุรายาเมา/เสพสุขให้ลืมโลก
เสพติดงาน การละเล่นบันเทิง ตลกขบขัน

แต่ลึก ๆ ทุกคนกลัวตายแฝงอยู่ในตัว
นาน ๆ ครั้งก็จะดื่มด่ำรับรู้เรื่องของความตาย
การสูญเสีย และรำลึกถึงความตายได้
เช่น การดูหนัง/ละครเศร้า อ่านเรื่องเศร้า
มักจะอินไปกับเรื่องราวเนื้อเรื่อง
หรือการไปงานศพ เห็นคนตายแบบน่าสังเวช

การเลี้ยงแมวหน้านิ่ง
ที่หน้าตาแทบไม่เปลี่ยน สีหน้าเกือบอมตะ
ก็อาจจะเป็นส่วนหนึ่งของจิตกลไกบำบัด
ที่อยากลืมไม่อยากจำเรื่องความตาย
ถัาหน้าตาเจ็บปวดให้ระลึกถึงความตายบ้าง
ที่รอทุกคนอยู่ตลอดเวลา
เพราะไม่มีใครรู้ล่วงหน้าได้เลยว่า
ระหว่างวันพรุ่งนี้ กับ ความตาย
อย่างไหนจะมาถึงก่อนกัน