.
.
Dymka is standing tall
on her new titanium paws
© Kirill Kukhmar/TASS/Getty
.
แมวเพศเมียในรัสเซีย
ที่สูญเสียอุ้งเท้าทั้ง 4 ข้างเพราะหิมะกัด
สามารถเดินวิ่งและปีนบันไดได้อีกครั้ง
ต้องขอบคุณสัตวแพทย์ที่สร้างขาเทียมให้เธอ
ด้วย
เครื่องพิมพ์ 3 D ที่วัสดุมีส่วนผสม
ทำจาก
ไทเทเนียม ที่แข็งแรง
แมวสีเทาเพศเมียชื่อ Dymka
(หมอก/ควัน ในภาษารัสเซีย)
มีอายุประมาณ 4 ปี
คนขับรถยนต์ผ่านทางพบเธอ
ในเดือนธันวาคม 2018
ท่ามกลางหิมะที่รุนแรง
ใน Novokuznetsk เขต Siberia
คนขับรถยนต์ได้พาเธอ
ส่งคลีนิคสัตวแพทย์ใน Novosibirsk
ตามเว็บไซต์ข่าวของรัสเซีย
Komsomolskaya Pravda
Dymka กำลังทนทุกข์ทรมาน
จากอาการที่อุ้งเท้า หูและหางของเธอ
เพราะอากาศที่หนาวจัด
จนกัดทำลายอวัยวะของเธอ
จน
น้ำเหลือง บวมเป่ง
สัตวแพทย์ Sergei Gorshkov
ต้องตัดขาทั้ง 4 ข้างที่เสียหายของเธอ
คลีนิคสัตวแพทย์ที่ Novosibirsk
ต้องรักษาแมวอย่างน้อย 5-7 ตัว
เพราะอาการหิมะกัดอุ้งเท้า หูและจมูก
จนน้ำเหลืองบวมเป่งมุกตัว
สัตวแพทย์ Sergei Gorshkov
ให้สัมภาษณ์กับ Moscow Times ว่า
Frostbite คือ อาการเนื้อเยื่อตาย
หรือได้รับอันตรายเนื่องจากความเย็นจัด
ทำให้ผิวหนังและเนื้อเยื่อแข็งตัว
โดยเฉพาะที่แขนขาของสัตว์หรือคน
ในกรณีที่รุนแรงเนื้อเยื่อ
จะตายและต้องตัดแขนขา
สัตวแพทย์ Sergei Gorshkov
และเพื่อนร่วมงานของท่านที่คลินิก
ได้ร่วมมือกับนักวิจัยจาก
Tomsk Polytechnic University (TPU)
ใน Tomsk ประเทศรัสเซีย
(มหาวิทยาลัยด้านเทคนิคที่เก่าแก่ที่สุด
ใน Russia ทางฝั่งตะวันออกของ Urals
ก่อตั้งในปี 1896
และเปิดทำการเรียนการสอนในปี 1900)
เพื่อสร้างชุดอุปกรณ์ขาเทียมสำหรับ Dymka
นักวิทยาศาสตร์พัฒนาและประยุกต์
การเคลือบไทเทเนียม
โดยใช้
แคลเซียมฟอสเฟต
ที่ช่วยยึดติดกับรากฟันเทียม
ไทเทเนียมที่นำมาใช้ด้วย
จะแทรกตัวและหลอมรวมเข้ากับ
กระดูกขาของ Dymka
เพื่อลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ
และการปฏิเสธการปลูกถ่ายอวัยวะใหม่
ตัวแทนของ TPU รายงานข่าวครั้งนี้
.
.
.
Протезирование 4 х лап у кошки после отморожения (результат через 7 месяцев)
.
.
นักวิจัยใช้เครื่อง CT-Scan
เอกซ์เรย์ขาของ Dymka
เพื่อสร้างแบบจำลองขาแมว
แล้วใช้เครื่องพิมพ์ 3D
พิมพ์แท่งไทเทเนียมเป็นขาของเธอ
ในเดือนกรกฎาคม 2019
Dymka ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะเทียม
โดยเริ่มต้นที่ขาหน้า 2 คู่ของเธอก่อน
หลังจากนั้นจึงเริ่มทำขาหลัง 2 คู่ของเธอ
Novosibirsk News ได้รายงาน
ในวิดีโอที่แชร์กับ YouTube
โดยคลินิกสัตวแพทย์ Sergei Gorshkov
เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2019
7 เดือนหลังจาก
ที่ทำอุ้งเท้าใหม่ของ Dymka ทั้ง 4 ขา
เธอสนุกกับการตื่นนอน
เดินไปรอบ ๆ ห้องตรวจและเล่นกับผ้าห่ม
ภาพระยะใกล้แสดงให้เห็นว่า
แท่งไทเทเนียมเชื่อมต่อกับขาของเธอ
ที่ปลายเท้าของเธอทำจาก
วัสดุสีดำที่ยืดหยุ่นพร้อมพื้นผิวที่มีปุ่มปม
Dymka กลายเป็นแมวตัวที่ 2 ในโลก
ที่ได้รับขาเทียมโลหะ 4 ขา
ในปี 2016
คลีนิค Novosibirsk ก็ได้ทำแบบคล้าย ๆ กัน
ด้วยการฝังไทเทเนียมลงบน
แมวตัวผู้ชื่อ Ryzhik (แดง ในรัสเซีย)
ซึ่งต้องถูกตัดขาที่ถูกแช่แข็งทั้ง 4 ขาของเธอ
ตามรายงานข่าวของ Moscow Times
.
.
.
Ryzhik, the cat gets 4 artificial paws
and still eight lives
.
.
เรียบเรียง/ที่มา
http://bit.ly/2SkcLGR
.
.
เรื่องเล่าไร้สาระ
ตามพจนานุกรมฉบับมติชน
แมวเก้าชีวิต หมายถึง
ผู้ที่ประสบความหายนะซ้ำซ้อนหลายครั้ง
ก็ยังกลับมามีฐานะหรือชื่อเสียงได้ดั่งเดิม
หรือแปลไทยเป็นไทยตามภาษาชาวบ้าน
คือ คนที่ผ่านความเป็นความตาย
มาหลายครั้งแล้วยังมีชีวิตรอดมาได้
ทำไมแมวมีถึง 9 ชีวิต
น่าจะเริ่มมาจากความเชื่อของอิยิปต์โบราณ
แมวเป็นสัตว์ที่ได้รับความเคารพ
ตามความเชื่อของอิยิปต์โบราณ
ชาวอิยิปต์ที่อาศัยอยู่ที่เมือง Heliopolis นั้น
นับถือเทพย์ Atum-Ra เป็นเทพย์สูงสุด
คือ สุริยเทพ ผู้เป็นต้นตระกูล
แก่เทพสำคัญ ๆ หลายองค์
ซึ่งเทพผู้ยิ่งใหญ่ 9 องค์
ของชาว Osirian ที่เรียกรวมกันว่า Ennead
มีรายนามดังต่อไปนี้
Atum ,Shu, Tefnut, Geb, Nut
Osiris, Isis, Set และ Nephthys
ในเวลาทึ่ Atum-Ra เดินทางไปยัง
เมืองยมโลก Underworld
จะไปในรูปของแมว
โดยที่จะรวมชีวิตทั้ง 9 ร่าง
ไว้ในร่างของผู้สร้างร่างเดียว 9 in 1 นั่นเอง
มีบทเพลงสรรเสริญพระเจ้า
บทหนึ่ง 400 ปีก่อนคริสตกาล
O sacred cat
Your mouth is the mouth of the god
Atum the lord of life
who has saved you from all taint
โอ้ ท่านแมวศักดิ์สิทธิ์
ปากของท่านคือปากของเทพย์ Atum
เจ้าแห่งชีวิตผู้ซึ่งได้ช่วยท่าน
ให้พ้นจากมลทินทั้งปวง
ทั้งหมดนี่น่าจะเป็นที่มา
ของคำว่า แมว 9 ชีวิต ที่เราได้ยินกัน
ที่มา
http://bit.ly/39cyGXc
.
.
ส่วนในไทยมีความเชื่อว่า
การฆ่าแมวโทษบาปหนักเท่ากับฆ่าเณร
เณรถือศีล 10 มากกว่าฆราวาส
ที่ถือแค่ศีล 5 หรือศีล 8
น่าจะมาจากยุคเกษตรกรรม
ต้องเลี้ยงแมวไว้จำนวนหนึ่ง
เพื่อกำจัดหนูนา หนูบ้าน
ที่มารังควาญพืชผลเกษตร/ข้าวของในครัวเรือน
และเป็นอุบายว่าห้ามรังแกสัตว์ ให้เมตตาสัตว์
การเตือนด้วยความเชื่อบาปบุญ
กับข้อห้ามโบราณที่อิงศาสนาพุทธ
ในยุคอดีตมักจะได้ผลกว่า
การบอกด้วยข้อเท็จจริง/เหตุผล
และการบังคับตามกฎหมายจารีตประเพณี
เพราะเด็ก/คนบางคนมักจะชอบแหกคอก
ซึ่งมีอยู่ทุกหนทุกแห่งเสมอ
ตามตำนาน
สมเด็จพุฒาจารย์โต (โต พฺรหฺมรํสี)
เจ้าตำรับพระสมเด็จที่มีคนนิยมมากที่สุด
ทำเลียบแบบ/ปลอมแปลงมากที่สุด
ราคาซื้อขายในท้องตลาดจัดว่าแพงสุดสุด
เวลาท่านเดินทางไปไหนมาไหน
ถ้าเกิดมีหมาแมวนอนกีดขวางทางเดิน
ท่านมักจะพูดอย่างสุภาพว่า
ขอทางหน่อยนะจ๊ะ
ถ้าหมาแมวไม่ยอมหลีกทาง
ท่านก็จะเดินเลี่ยงทางไป
ชาวบ้านถามว่า ทำไปทำไม
ท่านบอกว่า ถ้าเกิดพวกมันเสวยชาติ
เป็นพระโพธิสัตว์ ท่านคงจะบาปมหันต์
เพราะมีในพระไตรปิฏกว่า
พระบรมศาสดาเคยเสวยชาติเป็น ช้าง นก เฮี่ย มาก่อน
จริง ๆ น่าจะเป็นอุบายของท่าน
ที่ทำตนเป็นเยี่ยงอย่าง
และให้ชาวบ้านที่นับถือท่าน
ต่างทำตามท่าน จะได้ไม่มีใครกล้ารังแกสัตว์
.
.
เขมร นับถือว่า เฮี่ยเป็นบรรพบุรุษของตน
(เฮี่ย เลี่ยงการกรองคำ)
มีในราชพงศาวดารกรุงกัมพูชา
ที่ พันตรี หลวงเรืองเดชอนันต์ (ทองดี ธนะรัชต์)
บิดาของจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์
เป็นผู้แปลมาจากต้นฉบับภาษาเขมร
มีย่อใน
กำเนิดกรุงกัมพูชา
พระพุทธองค์นั่งฉันอาหารกับพระอานนนท์
ปรากฏว่า มีเฮี่ยได้โผล่ขึ้นมาจากโพรงเก่า
ที่พญานาคเคยอยู่มาก่อน
พระพุทธองค์ทรงปั้นข้าวแล้วก็โยนให้เฮี่ยกิน
เมื่อมันกินเอร็ดอร่อยแล้ว
ก็เลยแลบลิ้นขึ้นมาเลียริมฝีปาก
พระพุทธองค์ก็เลยทรงแย้มพระโอษฐ์
แล้วทำนายว่า
บรรดาคนในราชธานีนี้
จะพูดจาสิ่งใด ๆ ไม่ค่อยยั่งยืน
อยู่ในสัตยานุสัตย์
เพราะบุรพกษัตริย์ผู้ตั้งต้นแผ่นดิน
มีชาติกำเนิดเกิดจากสัตว์ตะกวด
อันมีลิ้นแฝดแตกแยกออกเป็นสองซีก
.
.
.
.
มรว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เคยเขียนว่า
เขมรเหมือนลูกที่เกเรกลับกลอกเชื่ออะไรไม่ได้
ไทยเหมือนแม่ เวียตนามเหมือนพ่อ
พอใครดุด่า ตีหน่อย ก็วิ่งหนีไปฟ้องอีกฝ่าย
พระบรมไตรโลกนาถ
เคยไปตีเขมรเป็นเมืองขึ้น
พร้อมนำเข้าหินสลักจำนวนมากมาที่กรุงศรีฯ
ก่อนแพ้พม่าจึงถูกขนไปพม่า
หลังเสียกรุง 2112 กับ 2310
ในยุคนั้น สยามนำเข้าพิธีพราหมณ์
สมมุติเทวราช ราชาศัพท์
เปลี่ยนพระนามกษัตริย์ย้อนหลัง
ซึ่งจีนก็ทำเช่นกัน ก่อนหลายประเทศทำตาม
กรีกชนะเปอร์เซีย อียิปต์
ก็ชอบเสพย์สุขมีฮาเร็ม
มองโกลก็ชอบมีนางสนม การสอบจอหงวน
พม่าลอกแบบมอญนับถือศาสนาพุทธ
เจดีย์ชะเวดะกอง แต่ยังนับถือผีหลวง/นัต
ที่โด่งดังในไทยคือ เทพทันใจ
สมัยพระนเศรที่ตัดหัวพญาละแวก
เอาเลือดมาล้างเท้า
เพราะทรยศคำสัญญาว่า
จะไม่รุกรานสยาม
ช่วงพระนเรศยกทัพไปตีพม่า
แต่บางคนระบุว่า
แค่พิธีกรรมเอาน้ำล้างหัวพญาละแวก
นำมาล้างเท้าพระนเรศ
แบบวิสัยกษัตริย์ไม่ทำร้ายคนที่ยอมจำนน
นักองค์เองหนีการปฏิวัติ
มาสยามข่วงรัชกาลที่ 1
ต่อมากลับเขมรแล้วไปเข้าข้างเวียตนาม
สยามไม่ไปรบเพราะทั้งสองชาติ
ตกเป็นเมืองขึ้นฝรั่งเศสแล้ว
สีหนุเดี๋ยวก็ดีเดี๋ยวก็ร้ายกับไทยมาตลอด
เคยไปร่วมหัวจมท้ายกับเขมรแดง ก่อนชิ่งหนี
แกนนำเขมรแดงมี
พอลพต เอียงสาลี นวนเจีย(คนสยาม)
นวนเจียเคยเรียนที่
เตรียมวิชาธรรมศาสตร์และการเมืองรุ่น 5
เลยมึเพื่อนผองน้องพี่ในไทยคอยช่วยเหลือตลอด
ก่อนยุติเพราะถูกจับกุมตัว
ไปพิจารณาคดีข้อหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
ฮุนเซนจับมือกับเฮงสัมรินเชื้อเชิญเวียตนาม
ส่งออกการปฏิวัติล้มล้างลูกพี่เก่าของตน
วันดีคืนดีก็ทะเลาะกับไทย
เรื่องเขาเปรี๊ยะวิเฮียร์(พระวิหาร)
คนเขมรจุดติดความรักชาติ
ในเรื่องปราสาทเขมร
ดูได้จากธงชาติเขมร
มีรูปปราสาทหินนครวัต
ส่วนไทยจุดติดความรักชาติ
ในเรื่องการเสียดินแดน
ตั้งแต่สงครามอินโดจีน
สมัยจอมพลป. พิบูลสงคราม
กับดินแดนเขาพระวิหาร
สมัยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์
.
.
คำพังเพย ไทยเล็ก เจ๊กดำ
เขมรต่ำ ลาวพุงดำ คบไม่ได้
ไทยเล็กน่าจะพิการ/ตัวเตี้ยกว่าคนไทยทั่วไป
ในจดหมายเหตุ
วันวลิต กับ ลาลูแบร์ สอดคล้องกันว่า
คนสยามรูปร่างสันทัด แข็งแรง ทะมัดทะแมง
สตรีสูงราว 140-150 ซม.
ชายสูงราว 150-160 ซม.
คนไทยตัวเล็กคงทำไร่ไถนาไม่ไหว
เป็นทหารก็ไม่ได้/ต้องพึ่งพาคนอื่น
เจ๊กดำ ผิวผิดสีคนจีนที่ผิวขาว
ผิดแปลกไม่น่าไว้ใจ
เขมรต่ำ(กัมพูชา) อยู่ตอนล่างที่ราบสูงอีสาน
เขมรสูง คน สุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะะเกษ
คนแถบนี้พูดภาษาเขมรได้แต่คนละสำเนียง
ชอบกินข้าวจ้าวมากกว่าข้าวเหนียว
นักการเมืองบุรีรัมย์
ที่เคยปราศรัยเป็นภาษาเขมร
ด่าอดีตหัวหน้าพรรคของตนว่า
อ้ายเตี้ย เตะทีก็กระเด็น
ลาวพุงดำ จะสักยันต์
ที่ขา/หน้าท้องจนดำเป็นปื้น
มักจะชอบลองของ
เล่นคาถาอาคมอยู่ยงคงกระพัน
ส่วนหนึ่งเคยมารบกับสยาม
ที่ไปยึดลาวเป็นเมืองขึ้น
กับมารบกับสยามที่ทุ่งสัมฤทธิ์
แล้วแพ้อุบายคุณหญิงโม
จนฝ่ายลาวที่มีแกนนำคือ เจ้าอนุวงศ์
ครอบครัวและพลพรรคเจ้าอนุวงศ์
ถูกจับมาขังในกรงกลางเมืองหลวง
ให้แสดงละครลาวเป็นตัวตลก
ให้คนสยามเย้ยหยันเล่น
จนเจ้าอนุวงศ์ตรอมใจตายในที่สุด
แต่ท่านคือ วีรบุรุษกู้เอกราชลาว
หลังการรบคราวนั้น
มีการกวาดต้อนครัวเรือนคนลาว
ให้ไปตั้งถิ่นฐานที่กาญจนบุรี ราชบุรี สุพรรณบุรี
สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร
ก็มีญาติพี่น้องเชื้อสายลาว
และพูดลาวได้เป็นอย่างดี
แมวพิการ 4 ขาจากหิมะกัดได้ขาใหม่จากเครื่องพิมพ์ 3D
.
Dymka is standing tall
on her new titanium paws
© Kirill Kukhmar/TASS/Getty
.
แมวเพศเมียในรัสเซีย
ที่สูญเสียอุ้งเท้าทั้ง 4 ข้างเพราะหิมะกัด
สามารถเดินวิ่งและปีนบันไดได้อีกครั้ง
ต้องขอบคุณสัตวแพทย์ที่สร้างขาเทียมให้เธอ
ด้วย เครื่องพิมพ์ 3 D ที่วัสดุมีส่วนผสม
ทำจาก ไทเทเนียม ที่แข็งแรง
แมวสีเทาเพศเมียชื่อ Dymka
(หมอก/ควัน ในภาษารัสเซีย)
มีอายุประมาณ 4 ปี
คนขับรถยนต์ผ่านทางพบเธอ
ในเดือนธันวาคม 2018
ท่ามกลางหิมะที่รุนแรง
ใน Novokuznetsk เขต Siberia
คนขับรถยนต์ได้พาเธอ
ส่งคลีนิคสัตวแพทย์ใน Novosibirsk
ตามเว็บไซต์ข่าวของรัสเซีย
Komsomolskaya Pravda
Dymka กำลังทนทุกข์ทรมาน
จากอาการที่อุ้งเท้า หูและหางของเธอ
เพราะอากาศที่หนาวจัด
จนกัดทำลายอวัยวะของเธอ
จน น้ำเหลือง บวมเป่ง
สัตวแพทย์ Sergei Gorshkov
ต้องตัดขาทั้ง 4 ข้างที่เสียหายของเธอ
คลีนิคสัตวแพทย์ที่ Novosibirsk
ต้องรักษาแมวอย่างน้อย 5-7 ตัว
เพราะอาการหิมะกัดอุ้งเท้า หูและจมูก
จนน้ำเหลืองบวมเป่งมุกตัว
สัตวแพทย์ Sergei Gorshkov
ให้สัมภาษณ์กับ Moscow Times ว่า
Frostbite คือ อาการเนื้อเยื่อตาย
หรือได้รับอันตรายเนื่องจากความเย็นจัด
ทำให้ผิวหนังและเนื้อเยื่อแข็งตัว
โดยเฉพาะที่แขนขาของสัตว์หรือคน
ในกรณีที่รุนแรงเนื้อเยื่อ
จะตายและต้องตัดแขนขา
สัตวแพทย์ Sergei Gorshkov
และเพื่อนร่วมงานของท่านที่คลินิก
ได้ร่วมมือกับนักวิจัยจาก
Tomsk Polytechnic University (TPU)
ใน Tomsk ประเทศรัสเซีย
(มหาวิทยาลัยด้านเทคนิคที่เก่าแก่ที่สุด
ใน Russia ทางฝั่งตะวันออกของ Urals
ก่อตั้งในปี 1896
และเปิดทำการเรียนการสอนในปี 1900)
เพื่อสร้างชุดอุปกรณ์ขาเทียมสำหรับ Dymka
นักวิทยาศาสตร์พัฒนาและประยุกต์
การเคลือบไทเทเนียม
โดยใช้ แคลเซียมฟอสเฟต
ที่ช่วยยึดติดกับรากฟันเทียม
ไทเทเนียมที่นำมาใช้ด้วย
จะแทรกตัวและหลอมรวมเข้ากับ
กระดูกขาของ Dymka
เพื่อลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ
และการปฏิเสธการปลูกถ่ายอวัยวะใหม่
ตัวแทนของ TPU รายงานข่าวครั้งนี้
.
.
Протезирование 4 х лап у кошки после отморожения (результат через 7 месяцев)
.
นักวิจัยใช้เครื่อง CT-Scan
เอกซ์เรย์ขาของ Dymka
เพื่อสร้างแบบจำลองขาแมว
แล้วใช้เครื่องพิมพ์ 3D
พิมพ์แท่งไทเทเนียมเป็นขาของเธอ
ในเดือนกรกฎาคม 2019
Dymka ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะเทียม
โดยเริ่มต้นที่ขาหน้า 2 คู่ของเธอก่อน
หลังจากนั้นจึงเริ่มทำขาหลัง 2 คู่ของเธอ
Novosibirsk News ได้รายงาน
ในวิดีโอที่แชร์กับ YouTube
โดยคลินิกสัตวแพทย์ Sergei Gorshkov
เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2019
7 เดือนหลังจาก
ที่ทำอุ้งเท้าใหม่ของ Dymka ทั้ง 4 ขา
เธอสนุกกับการตื่นนอน
เดินไปรอบ ๆ ห้องตรวจและเล่นกับผ้าห่ม
ภาพระยะใกล้แสดงให้เห็นว่า
แท่งไทเทเนียมเชื่อมต่อกับขาของเธอ
ที่ปลายเท้าของเธอทำจาก
วัสดุสีดำที่ยืดหยุ่นพร้อมพื้นผิวที่มีปุ่มปม
Dymka กลายเป็นแมวตัวที่ 2 ในโลก
ที่ได้รับขาเทียมโลหะ 4 ขา
ในปี 2016
คลีนิค Novosibirsk ก็ได้ทำแบบคล้าย ๆ กัน
ด้วยการฝังไทเทเนียมลงบน
แมวตัวผู้ชื่อ Ryzhik (แดง ในรัสเซีย)
ซึ่งต้องถูกตัดขาที่ถูกแช่แข็งทั้ง 4 ขาของเธอ
ตามรายงานข่าวของ Moscow Times
.
.
Ryzhik, the cat gets 4 artificial paws
and still eight lives
.
เรียบเรียง/ที่มา
http://bit.ly/2SkcLGR
.
.
.
.
.
ที่มา http://bit.ly/382KR8O
.
.
.
ที่มา http://bit.ly/2S3K0iV
.
.
.
.
.
.
8 สายพันธุ์แมวพื้นเมืองยอดนิยมของรัสเซีย
.
.
.
เรื่องเล่าไร้สาระ
ตามพจนานุกรมฉบับมติชน
แมวเก้าชีวิต หมายถึง
ผู้ที่ประสบความหายนะซ้ำซ้อนหลายครั้ง
ก็ยังกลับมามีฐานะหรือชื่อเสียงได้ดั่งเดิม
หรือแปลไทยเป็นไทยตามภาษาชาวบ้าน
คือ คนที่ผ่านความเป็นความตาย
มาหลายครั้งแล้วยังมีชีวิตรอดมาได้
ทำไมแมวมีถึง 9 ชีวิต
น่าจะเริ่มมาจากความเชื่อของอิยิปต์โบราณ
แมวเป็นสัตว์ที่ได้รับความเคารพ
ตามความเชื่อของอิยิปต์โบราณ
ชาวอิยิปต์ที่อาศัยอยู่ที่เมือง Heliopolis นั้น
นับถือเทพย์ Atum-Ra เป็นเทพย์สูงสุด
คือ สุริยเทพ ผู้เป็นต้นตระกูล
แก่เทพสำคัญ ๆ หลายองค์
ซึ่งเทพผู้ยิ่งใหญ่ 9 องค์
ของชาว Osirian ที่เรียกรวมกันว่า Ennead
มีรายนามดังต่อไปนี้
Atum ,Shu, Tefnut, Geb, Nut
Osiris, Isis, Set และ Nephthys
ในเวลาทึ่ Atum-Ra เดินทางไปยัง
เมืองยมโลก Underworld
จะไปในรูปของแมว
โดยที่จะรวมชีวิตทั้ง 9 ร่าง
ไว้ในร่างของผู้สร้างร่างเดียว 9 in 1 นั่นเอง
มีบทเพลงสรรเสริญพระเจ้า
บทหนึ่ง 400 ปีก่อนคริสตกาล
O sacred cat
Your mouth is the mouth of the god
Atum the lord of life
who has saved you from all taint
โอ้ ท่านแมวศักดิ์สิทธิ์
ปากของท่านคือปากของเทพย์ Atum
เจ้าแห่งชีวิตผู้ซึ่งได้ช่วยท่าน
ให้พ้นจากมลทินทั้งปวง
ทั้งหมดนี่น่าจะเป็นที่มา
ของคำว่า แมว 9 ชีวิต ที่เราได้ยินกัน
ที่มา http://bit.ly/39cyGXc
.
.
ส่วนในไทยมีความเชื่อว่า
การฆ่าแมวโทษบาปหนักเท่ากับฆ่าเณร
เณรถือศีล 10 มากกว่าฆราวาส
ที่ถือแค่ศีล 5 หรือศีล 8
น่าจะมาจากยุคเกษตรกรรม
ต้องเลี้ยงแมวไว้จำนวนหนึ่ง
เพื่อกำจัดหนูนา หนูบ้าน
ที่มารังควาญพืชผลเกษตร/ข้าวของในครัวเรือน
และเป็นอุบายว่าห้ามรังแกสัตว์ ให้เมตตาสัตว์
การเตือนด้วยความเชื่อบาปบุญ
กับข้อห้ามโบราณที่อิงศาสนาพุทธ
ในยุคอดีตมักจะได้ผลกว่า
การบอกด้วยข้อเท็จจริง/เหตุผล
และการบังคับตามกฎหมายจารีตประเพณี
เพราะเด็ก/คนบางคนมักจะชอบแหกคอก
ซึ่งมีอยู่ทุกหนทุกแห่งเสมอ
ตามตำนาน สมเด็จพุฒาจารย์โต (โต พฺรหฺมรํสี)
เจ้าตำรับพระสมเด็จที่มีคนนิยมมากที่สุด
ทำเลียบแบบ/ปลอมแปลงมากที่สุด
ราคาซื้อขายในท้องตลาดจัดว่าแพงสุดสุด
เวลาท่านเดินทางไปไหนมาไหน
ถ้าเกิดมีหมาแมวนอนกีดขวางทางเดิน
ท่านมักจะพูดอย่างสุภาพว่า
ขอทางหน่อยนะจ๊ะ
ถ้าหมาแมวไม่ยอมหลีกทาง
ท่านก็จะเดินเลี่ยงทางไป
ชาวบ้านถามว่า ทำไปทำไม
ท่านบอกว่า ถ้าเกิดพวกมันเสวยชาติ
เป็นพระโพธิสัตว์ ท่านคงจะบาปมหันต์
เพราะมีในพระไตรปิฏกว่า
พระบรมศาสดาเคยเสวยชาติเป็น ช้าง นก เฮี่ย มาก่อน
จริง ๆ น่าจะเป็นอุบายของท่าน
ที่ทำตนเป็นเยี่ยงอย่าง
และให้ชาวบ้านที่นับถือท่าน
ต่างทำตามท่าน จะได้ไม่มีใครกล้ารังแกสัตว์
.
.
เขมร นับถือว่า เฮี่ยเป็นบรรพบุรุษของตน
(เฮี่ย เลี่ยงการกรองคำ)
มีในราชพงศาวดารกรุงกัมพูชา
ที่ พันตรี หลวงเรืองเดชอนันต์ (ทองดี ธนะรัชต์)
บิดาของจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์
เป็นผู้แปลมาจากต้นฉบับภาษาเขมร
มีย่อใน กำเนิดกรุงกัมพูชา
พระพุทธองค์นั่งฉันอาหารกับพระอานนนท์
ปรากฏว่า มีเฮี่ยได้โผล่ขึ้นมาจากโพรงเก่า
ที่พญานาคเคยอยู่มาก่อน
พระพุทธองค์ทรงปั้นข้าวแล้วก็โยนให้เฮี่ยกิน
เมื่อมันกินเอร็ดอร่อยแล้ว
ก็เลยแลบลิ้นขึ้นมาเลียริมฝีปาก
พระพุทธองค์ก็เลยทรงแย้มพระโอษฐ์
แล้วทำนายว่า
บรรดาคนในราชธานีนี้
จะพูดจาสิ่งใด ๆ ไม่ค่อยยั่งยืน
อยู่ในสัตยานุสัตย์
เพราะบุรพกษัตริย์ผู้ตั้งต้นแผ่นดิน
มีชาติกำเนิดเกิดจากสัตว์ตะกวด
อันมีลิ้นแฝดแตกแยกออกเป็นสองซีก
.
.
มรว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เคยเขียนว่า
เขมรเหมือนลูกที่เกเรกลับกลอกเชื่ออะไรไม่ได้
ไทยเหมือนแม่ เวียตนามเหมือนพ่อ
พอใครดุด่า ตีหน่อย ก็วิ่งหนีไปฟ้องอีกฝ่าย
พระบรมไตรโลกนาถ
เคยไปตีเขมรเป็นเมืองขึ้น
พร้อมนำเข้าหินสลักจำนวนมากมาที่กรุงศรีฯ
ก่อนแพ้พม่าจึงถูกขนไปพม่า
หลังเสียกรุง 2112 กับ 2310
ในยุคนั้น สยามนำเข้าพิธีพราหมณ์
สมมุติเทวราช ราชาศัพท์
เปลี่ยนพระนามกษัตริย์ย้อนหลัง
ซึ่งจีนก็ทำเช่นกัน ก่อนหลายประเทศทำตาม
กรีกชนะเปอร์เซีย อียิปต์
ก็ชอบเสพย์สุขมีฮาเร็ม
มองโกลก็ชอบมีนางสนม การสอบจอหงวน
พม่าลอกแบบมอญนับถือศาสนาพุทธ
เจดีย์ชะเวดะกอง แต่ยังนับถือผีหลวง/นัต
ที่โด่งดังในไทยคือ เทพทันใจ
สมัยพระนเศรที่ตัดหัวพญาละแวก
เอาเลือดมาล้างเท้า
เพราะทรยศคำสัญญาว่า
จะไม่รุกรานสยาม
ช่วงพระนเรศยกทัพไปตีพม่า
แต่บางคนระบุว่า
แค่พิธีกรรมเอาน้ำล้างหัวพญาละแวก
นำมาล้างเท้าพระนเรศ
แบบวิสัยกษัตริย์ไม่ทำร้ายคนที่ยอมจำนน
นักองค์เองหนีการปฏิวัติ
มาสยามข่วงรัชกาลที่ 1
ต่อมากลับเขมรแล้วไปเข้าข้างเวียตนาม
สยามไม่ไปรบเพราะทั้งสองชาติ
ตกเป็นเมืองขึ้นฝรั่งเศสแล้ว
สีหนุเดี๋ยวก็ดีเดี๋ยวก็ร้ายกับไทยมาตลอด
เคยไปร่วมหัวจมท้ายกับเขมรแดง ก่อนชิ่งหนี
แกนนำเขมรแดงมี
พอลพต เอียงสาลี นวนเจีย(คนสยาม)
นวนเจียเคยเรียนที่
เตรียมวิชาธรรมศาสตร์และการเมืองรุ่น 5
เลยมึเพื่อนผองน้องพี่ในไทยคอยช่วยเหลือตลอด
ก่อนยุติเพราะถูกจับกุมตัว
ไปพิจารณาคดีข้อหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
ฮุนเซนจับมือกับเฮงสัมรินเชื้อเชิญเวียตนาม
ส่งออกการปฏิวัติล้มล้างลูกพี่เก่าของตน
วันดีคืนดีก็ทะเลาะกับไทย
เรื่องเขาเปรี๊ยะวิเฮียร์(พระวิหาร)
คนเขมรจุดติดความรักชาติ
ในเรื่องปราสาทเขมร
ดูได้จากธงชาติเขมร
มีรูปปราสาทหินนครวัต
ส่วนไทยจุดติดความรักชาติ
ในเรื่องการเสียดินแดน
ตั้งแต่สงครามอินโดจีน
สมัยจอมพลป. พิบูลสงคราม
กับดินแดนเขาพระวิหาร
สมัยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์
.
.
คำพังเพย ไทยเล็ก เจ๊กดำ
เขมรต่ำ ลาวพุงดำ คบไม่ได้
ไทยเล็กน่าจะพิการ/ตัวเตี้ยกว่าคนไทยทั่วไป
ในจดหมายเหตุ
วันวลิต กับ ลาลูแบร์ สอดคล้องกันว่า
คนสยามรูปร่างสันทัด แข็งแรง ทะมัดทะแมง
สตรีสูงราว 140-150 ซม.
ชายสูงราว 150-160 ซม.
คนไทยตัวเล็กคงทำไร่ไถนาไม่ไหว
เป็นทหารก็ไม่ได้/ต้องพึ่งพาคนอื่น
เจ๊กดำ ผิวผิดสีคนจีนที่ผิวขาว
ผิดแปลกไม่น่าไว้ใจ
เขมรต่ำ(กัมพูชา) อยู่ตอนล่างที่ราบสูงอีสาน
เขมรสูง คน สุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะะเกษ
คนแถบนี้พูดภาษาเขมรได้แต่คนละสำเนียง
ชอบกินข้าวจ้าวมากกว่าข้าวเหนียว
นักการเมืองบุรีรัมย์
ที่เคยปราศรัยเป็นภาษาเขมร
ด่าอดีตหัวหน้าพรรคของตนว่า
อ้ายเตี้ย เตะทีก็กระเด็น
ลาวพุงดำ จะสักยันต์
ที่ขา/หน้าท้องจนดำเป็นปื้น
มักจะชอบลองของ
เล่นคาถาอาคมอยู่ยงคงกระพัน
ส่วนหนึ่งเคยมารบกับสยาม
ที่ไปยึดลาวเป็นเมืองขึ้น
กับมารบกับสยามที่ทุ่งสัมฤทธิ์
แล้วแพ้อุบายคุณหญิงโม
จนฝ่ายลาวที่มีแกนนำคือ เจ้าอนุวงศ์
ครอบครัวและพลพรรคเจ้าอนุวงศ์
ถูกจับมาขังในกรงกลางเมืองหลวง
ให้แสดงละครลาวเป็นตัวตลก
ให้คนสยามเย้ยหยันเล่น
จนเจ้าอนุวงศ์ตรอมใจตายในที่สุด
แต่ท่านคือ วีรบุรุษกู้เอกราชลาว
หลังการรบคราวนั้น
มีการกวาดต้อนครัวเรือนคนลาว
ให้ไปตั้งถิ่นฐานที่กาญจนบุรี ราชบุรี สุพรรณบุรี
สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร
ก็มีญาติพี่น้องเชื้อสายลาว
และพูดลาวได้เป็นอย่างดี