ฝันหวาน (sweet dream) 14



.

               คำเตือน นิยายเรื่องนี้มีความรักเป็นแรงขับเขื่อน อาจจะหวานชวนอ้วก ใครขี้เลี่ยนง่ายกรุณากดออกจากกระทู้ค่า🙃

               เราทุกคนมีค่าในตัวเอง
               แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะมองเห็นมัน...

      
              “ขอบคุณน้องนภานะคะที่ยอมให้พี่พาพ่อกับแม่ไปทานข้าวที่บ้าน” ณ โต๊ะทานข้าวในห้องครัว พวกเธอกำลังนั่งทานมื้อเย็นเช่นทุก ๆ วัน

               เมธีกล่าวขอบคุณสำหรับเรื่องวันก่อน พวกเธอกลับบ้านที่ต่างจังหวัด วันต่อมาเมธีได้พาครอบครัวของตนไปที่บ้าน มีแค่แขกคนสำคัญเท่านั้นที่ได้พบปะพูดคุยกัน

               เมธีพาครอบครัวมาทานข้าวที่บ้านของเธอ เป็นการพบปะพูดคุยทานข้าวกันปกติ ผู้ใหญ่ทั้งสองบ้านคุยกันถูกคอ ไม่มีใครรังเกียจหรือมองด้วยสายตาหยามเหยียดแม้แต่น้อย ที่พวกเธอสองคนอายุห่างกันมาก อาจจะออกอาการเขินนิดหน่อยระหว่างเมธีและพ่อกับแม่ของเธอ ทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดี

               ถึงอายุจะมากด้วยการดูแลเอาใจใส่สุขภาพตัวเองของเขาอยู่เป็นประจำ จึงทำให้ไม่ดูแก่เกินไปในสายตาคนอื่น ร่างกายกำยำ ทะมัดทะแมง ผมดกดำผิวขาวสูง ทำให้ไม่ดูเคอะเขินในสายตาคนที่พบเห็นนัก อีกทั้งเป็นคนพูดเก่งเข้ากับคนอื่นง่ายด้วย

               พรนภายิ้มให้กับผู้ชายตรงหน้า “ไม่เป็นไรค่ะพี่เมธี ก็พี่เมธีต้องการนภาก็ทำให้ แต่เท่าที่นภาทำให้ได้นะคะ พี่เมธีเข้าใจนภาใช่มั้ย” พูดจบประโยค พรนภามองคนตรงหน้ารอคำตอบด้วยความรู้สึกที่ยอมรับ เธอทำให้เขาได้เพียงเท่านี้จริง ๆ เธอต้องการที่จะอยู่กับเมธีแบบนี้ เขาเป็นคนสุดท้ายในชีวิตของเธอ ไม่หวือหวาเอิกเกริก

              “เข้าใจสิคะ” เขายิ้มให้เธอ เพื่อต้องการมอบความสบายใจให้ พร้อมชูมือซ้ายขึ้นมา “ห้ามถอดหัวใจของพี่ทิ้งด้วยนะ”

              “ค่ะ” แล้วทั้งสองคนก็รับประทานอาหารมื้อค่ำกันต่อ พร้อมคุยกันถึงเรื่องราวต่าง ๆ เธอชอบแอบมองเมธีตอนเผลอ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ชอบแอบมองแล้วก็มีความสุข เขาเป็นผู้ชายที่อบอุ่นที่สุด นี่แหละคือคนที่ตามหามานาน คนสุดท้ายในชีวิตจริง ๆ ที่ผ่านมาอาจจะดูพลาด ทว่าคนนี้ไม่พลาดแน่นอน

               ตั้งแต่รู้จักกันมาจนถึงวันที่ตกลงคบกัน และจนถึงวันที่ตกลงย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกัน ไม่มีสักครั้งที่เมธีทำให้เธอเสียความรู้สึก มีบ้างที่ถูกขัดใจ แต่ก็ไม่ถึงกับต้องทะเลาะกัน

               อาจจะเป็นเพราะอายุที่ห่างกัน และประสบการณ์การใช้ชีวิตคู่ของเขามีมากมายกว่าเธอ จึงทำให้เข้าใจและรับมือกับสถานการณ์ได้ดี ทำให้ไม่ค่อยได้ทะเลาะกันเหมือนกับตอนที่เธอคบกับคนเก่า

               “มองพี่ทำไมคะ” เมธีเลิกคิ้วเป็นเชิงคำถาม กำลังตักข้าวเข้าปากพอดี ทว่าสายตาดันปะทะกับสายตาของเธอเข้า “พี่ก็เขินเป็นนะ”

              เธอหัวเราะที่โดนจับได้จนได้ “เปล่าค่า อร่อยมั้ยฝีมือทำกับข้าวของนภา” พอโดนจับได้ก็แก้ตัวไปก่อน เธอก็หาเหตุผลมาตอบไม่ได้เช่นกันว่าทำไม รู้แค่ว่าชอบแอบมอง บางมุมเขาก็เหมือนเด็ก ทั้งที่อายุปูนนี้แล้ว พวกเธอแสดงอารมณ์ความรู้สึกทุกอย่างออกมาได้เต็มที่ ๆ อยู่ด้วยกัน ทำให้เธอได้รู้จักมุมน่ารัก ๆ ของเขาเสมอ และมุมโกรธของเขาว่าเป็นอย่างไร

             “อร่อยค่ะ อร่อยมากด้วยพี่กินไปตั้งเยอะ”

            “ประชดนภาปะเนี่ย อยากใช้นภาทำกับข้าวให้ทานทุกวันก็บอกดี ๆ ก็ได้ ชมซะ!” พรนภาปรายตามองคนตรงหน้าแบบไม่อยากเชื่อหูที่ได้ยินนัก เมธียิ่งปากหวานอยู่ไม่น้อย ชอบชมเสมอไม่ว่าเรื่องอะไร จนบางทีเธอก็แทบแยกแยะไม่ออกว่า ตกลงเธอดีจริงหรือไม่ดีกันแน่

              “ไม่ได้ประชดเลย อร่อยจริง ๆ รู้แบบนี้พี่ให้นภาทำกับข้าวให้ทานทุกวันก็ดี” ไม่พูดเฉยตักข้าวเข้าปากไปอีกคำ ก็แค่กับข้าวธรรมดา ๆ ทว่ามันพิเศษทุกวันที่พวกเธอสองคนได้ทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากัน  กับรักเก่าไม่เคยได้นั่งทานพร้อมกันแบบนี้หรอก นาน ๆ ครั้งถึงจะมี เธอไม่อยากจะนึกถึงเขา แต่ใจมันก็อดนึกขึ้นมาเปรียบเทียบไม่ได้

               “เดี๋ยวทำให้ทานทุกวันเลย”

              “โอเคครับ รับปากแล้วนะ” แล้วเขาก็ก้มหน้าก้มตาทานต่อ ส่วนเธอเริ่มอิ่มแล้ว เพราะทานนิดเดียว ความจริงไม่อยากทานมื้อเย็นด้วยซ้ำ แต่อยากนั่งทานเป็นเพื่อนเมธีเท่านั้น ไม่อยากให้เขารู้สึกโดดเดี่ยว นั่งทานข้าวคนเดียว เธอเข้าใจความรู้สึกโดดเดี่ยวนั้น จึงเลือกที่จะออกกำลังกายเผาผลาญไขมันหนัก ๆ เพื่อมานั่งทานข้าวกับคนที่เธอรักที่สุดทุกมื้อ

               เมื่อทานข้าวมื้อเย็นเสร็จเก็บกวาดเรียบร้อย พวกเธอก็มานั่งดูทีวีที่ห้องนอน เมธีนั่งหลังพิงหัวเตียง ส่วนเธอเข้ามานั่งซบอกของเขา เมธีกางแขนให้เธอหนุน พร้อมเล่นสนุกกับเส้นผมของเธอ บ้างก็ก้มหน้าลงมาหอมศีรษะของเธออยู่อย่างนั้น ก็ไม่ว่าอะไรปล่อยให้เขาทำตามสบาย กลับชอบต่างหาก ชอบให้เขาทำแบบนี้ มีความสุขที่สุด

                วันนี้เมธีไม่มีงานค้างมาทำที่บ้านเช่นทุกวัน พวกเธอสองคนนอนดูรายการทีวีอยู่บนเตียงนอน พรนภานอนซบที่ไหล่ของเขา มันมีความสุขมาก อบอุ่นหัวใจอย่างบอกไม่ถูก เธอตอบคำถามตัวเองได้เต็มปากเต็มคำว่าเธอรักเขา รักผู้ชายคนนี้ พร้อมจะฝากชีวิตไว้กับผู้ชายคนนี้ตลอดไป

               “น้องนภาคะ ปีนี้ก็ปี 64 แล้วนะคะ” เมธีก้มหน้ามาคุยกับเธอ ด้วยนั่งสูงกว่าทำให้เธอต้องเงยหน้ามอง ไม่พูดเฉย ๆ พร้อมก้มลงใชปากสัมผัสกับริมฝีปากของเธอด้วยก่อนจะผละออก

            “ปี 64 แล้วทำไมคะ พี่เมธีอยากได้อะไรเหรอ” เธอหมายถึงของขวัญ เมธีอาจจะอยากได้ของขวัญปีใหม่ก็ได้

             เมธีถอนหายใจยาว ๆ สื่อความหมายไปในทางว่าเขาไม่ได้ต้องการของขวัญ “พี่ไม่ได้อยากได้ของขวัญค่ะ พี่กำลังจะบอกว่าปี 64 พี่กับหนูก็ต่างแก่ขึ้นไง”

              “แล้ว!” เธอตอบเพียงสั้น ๆ และเข้าใจความหมายที่เมธีพูด เธอรู้ว่าเมธีต้องการสื่อถึงเรื่องอะไร

               “เอาตรง ๆ นะ” เมธีก็ยังลีลาไม่ยอมพูดความต้องการของตน พร้อมหัวเราะถือเป็นเรื่องสนุกไป

              “พูดมาค่ะ พรนภาพร้อมรับฟัง ฮา” เธอเองก็เช่นกัน เล่นไปกับเขาด้วย พร้อมหัวเราะกับคำพูดของตน “พี่เมธีก็พูดมาซี้ นภารอฟังอยู่”

              “เมื่อไหร่ลิพูลมันจะมีน้องสักทีคะ พี่แก่ล๊งแก่ลงแล้วนะคะ เดี๋ยวก็วิ่งตามลูกไม่ทัน น๊า นะคะ นะ ๆ น้องนภานะคะ” เมธีออดอ้อนเธออีกแล้ว และเธอก็ชอบแพ้สายตาแบบนี้ คำพูดแบบนี้ของเขาทุกที นี่ไงล่ะมุมน่ารักของผู้ชายที่ชื่อเมธี ทำให้เธอหลงเสมอ แม้อายุอานามจะมากแล้วก็ตาม “ถ้าลิพูลมีน้องพี่จะซื้อบ้านเลย ให้ลูกมีที่วิ่งเล่น”

                 พรนภาขำกร๊ากออกมาทันทีกับคำพูดของเขา “พี่เมธีก็! อ่อยังจะซื้อบ้านอีกเหรอ ไม่เข็ดเหรอคะ” เธอหมายถึงเรื่องของเขากับอดีตภรรยา หลังหย่าเมธีก็ออกมาแต่ตัวกับรถหนึ่งคัน ตอนนี้ขายไปแล้วซื้อรถที่เธอชอบมาใช้แทน “ไม่กลัวประวัติศาสตร์ซ้ำรอยกับนภาเหรอ ฮา” เธอพูดตลก ๆ เท่านั้นเอง ไม่คิดทำเช่นนั้นแน่นอน เธอรักเมธี รักจริงจากหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต

               “ไม่กลัวค่ะ เพราะพี่ทำดีที่สุดแล้ว พี่ไม่เสียดายหรอกกับการลงทุนกับความรัก พี่ถือว่าพี่ทำให้คนที่พี่รัก จะผิดหวังก็ไม่เป็นไร” แววตาท่าทางของเขาเงียบขรึมจริงจัง ทำให้เธอนึกโกรธตัวเองที่พูดเล่นอะไรไม่รู้เรื่อง

                “พี่เมธี นภาพูดเล่น นภารักพี่เมธีค่ะ ไม่ทิ้งพี่ไปไหนหรอกคน... เอ่อ ของนภา” พร้อมมองใบหน้าคมเข้มของเขา พยายามพูดให้บรรยากาศกลับมาเช่นเดิม

                “คนอะไร!”ก่อนที่เขาจะปรับอารมณ์กลับมายิ้มสดใสเหมือนเมื่อครู่ก่อนหน้านี้

               “เปล่า!” เธอตอบเสียงสูง พร้อมหัวเราะ

               “ก็ใช่สิน้องนภาอ่ะ แต่พี่สิคะจะแตะเลขห้าแล้วนะคะ กว่าลูกจะโตเข้าโรงเรียน เพื่อนลูกเรียก เฮ้ย! คุณตามาส่งเหรอ ฮา” เมธีไม่พูดเฉยล้อเลียนตัวเองด้วย พร้อมหัวเราะตัวเองไปอีก

              พรนภาหัวเราะกับคำพูดของเขา คนอะไรตลกที่สุด น่ารักด้วย “ช่างดิ แคร์ทำไม นภาไม่เห็นแคร์เลย พี่เมธีก็ไปส่งลิพูลสิจะได้บาร์ล้านกัน” เหมือนตลกแต่รู้สึกไม่ตลกปนไปด้วย ทำไมต้องแคร์สายตาคนอื่นด้วยล่ะ ควรแคร์เรื่องที่สมควรจะแคร์ ไม่ใช่จะแคร์ทุกเรื่อง

               พอเห็นสายตางอนนิด ๆ ของเธอ เมธีก็หยุดขำ พร้อมดันตัวของพรนภาเข้ามาหอมฟอดใหญ่อีกรอบ เพราะเธอนั่งซบอกเขาอยู่ “เอ๋า ลิพูลเค้าโตแล้ว คนละคนกัน ลูกเราไง นะคะ”

                ไม่พูดเฉยเมธีมองเธอด้วยสายตาแบบนี้อีกแล้ว และเธอก็ชอบแพ้สายตาออดอ้อน ออเซาะของเขาทุกที “ค่ะ นภาก็ปล่อยตั้งนานแล้วนะคะพี่เมธี ฮ่วย หน้าที่ใคร” พูดแบบเขิน ๆ ตัวเอง

                “เหรอ! “ เขาทำตาโตจะตื่นเต้นอะไร เธอก็ไม่ได้คุมกำเนิดตั้งนานแล้ว “วันนี้แหละมาแน่!”

                 กรี๊ด! “หยุด!” พรนภาร้องลั่น ใช้มือขึ้นบังการคุกคามใบหน้าของเขาที่กำลังจะซุกไซร้ร่างกายของเธอ

                 “ทำไมคะ”

                 “เมนส์มา! ฮา”

                “โถ่!” ต่างคนต่างผละออกจากกัน เมธีปล่อยเธอออกจากอ้อมกัน พร้อมทำหน้าผิดหวัง เสียใจ น้อยใจ ส่วนเธอหัวเราะลั่นด้วยความชอบใจอยู่บนที่นอน คนอะไรขนาดงอนยังน่ารักไปอีก

               แต่แล้วเมธีก็ดึงตัวเธอมานอนซบอกของเขาเหมือนเดิม หนุนไหล่ นอนในวงแขนในอ้อมกอดของเขาและก็คุยกันถึงครอบครัวน้อย ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นไม่ช้าไม่นาน มีความสุขที่สุด วางแผนเอาไว้ล่วงหน้าแล้วทั้งที่ยังไม่มีเลย พรนภาได้แต่ยิ้มให้กับเขา มันมีความสุขที่สุดที่อธิบายไม่ถูก

               “หนูเป็นทุกอย่างของพี่นะคะเด็กน้อย”

               “อือ” เธอตอบเพียงสั่น ๆ พร้อมพยักหน้าให้กับเขา หูได้ยินแต่ไม่อยากลืมตาเพราะง่วงมาก เธอง่วงและหลับไปในอ้อมกอดของเขาแบบนี้ทุกวัน พี่เมธีก็เป็นทุกอย่างของเธอเช่นกัน

               แม้รู้ว่ามันแค่ฝัน เมธีเป็นเพียงจินตนาการที่เกิดขึ้นจริงไม่ได้ เธอทราบดี แต่ก็อยากจะฝัน ฝันที่ดีที่สุด มีความสุขที่สุดแค่ได้นึกถึงเขาคนนั้น เธอต้องการความรักแบบนี้ ให้มันเกิดขึ้นในจินตนาการก็พอ

จบบท...
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่