.
https://ppantip.com/topic/40926330…..บทที่ 57
“พี่เมธีขา” พรนภายืนพิมพ์ข้อความสั้น ๆ หาสามีด้วยความตลก ถึงจะเจอสภาวการณ์แบบนี้ก็ยิ้มได้ พร้อมส่งรูปหัวใจไปให้ด้วย
“คร๊าบ… ว่าไงคนสวยจ๋า ฮา กลับบ้านได้มั้ยหนิ ฝนตก !”ปลายทางตอบกลับมาอย่างเร็ว ได้อ่านแล้วถึงกับหัวเราะอึกอักคนเดียว ชอบที่เมธีเล่นด้วยกับเธอเสมอ อยู่ด้วยโลกสดใสตลอด
“ฮา นี่แหละเค้ากำลังจะบอกว่าเค้าติดฝนอยู่ งือ แรงมาก !” พิมพ์ไปยิ้มให้หน้าจอโทรศัพท์ไป ส่งรูปการ์ตูนหัวเราะให้ด้วย เธอยืนหลบฝนอยู่ใต้ชายคาของตลาดสดหน้าที่ทำงาน ตอนแรกยังพอปรอย ๆ เดินซื้อของเพลินไปหน่อย ฝนเทลงมาซะอย่างนั้น “นภาหลบอยู่ในตลาดเนี่ย”
“มีแอลกอฮอล์ล้างมือปะคะ ล้างมือบ่อย ๆ ด้วย เดี๋ยวพี่ไปรับ” เขาส่งข้อความกลับมา
“ไม่ต้อง ! ฮ่วย… สิมาหยังคะ เอ๋าถ้าพี่เมธีมาจะเอารถกลับยังไงเอ๋า” ยืนก้มหน้าก้มตาพิมพ์ข้อความคุยกับสามีรุ่นพ่ออย่างตลก ถึงฝนจะตกแรงกระหน่ำแค่ไหนก็ไม่เป็นปัญหา ข้าง ๆ กันมีคนยืนหลบฝนด้วยหลายคน “เทวดามันบอกว่า เฮ้ยนั่น ! มนุษย์น้อยหอยสังข์มันเลิกงานล้าว เทน้ำได้ ! เทวดาว่าสิ ฮา จ้ากบาดเดียวเลยอ่ะ กะเลยกลายเป็นฝนตก ทั้งวันก็ไม่ยอมตก มาตนตอนนภาจะเลิกงาน เซ็ง ! “
เขาส่งสติ๊กเกอร์หัวเราะลั่นกลับมาให้ ทำเอาเธอหัวเราะไปตาม ๆ กัน พี่เมธีจะรู้ไหมว่าที่เธอพูด เธอก็ขำตัวเองเหมือนกัน “ก็ขับรถตามกันไปไง นั่นล่ะบอกให้ซื้อกระบะก็ไม่ยอม”
“บ่ ! ไม่ต้องมาเลย นี่ฝนจะหยุดตกแล้ว แค่นี้ก่อนนะคะ นภาจะกลับบ้านแล้ว”
“ขับรถดี ๆ นะคะตัวเอง พี่รออยู่” เมื่อจบการสนทนาทางไลน์แล้วเธอก็รีบเดินมายังรถ และ รีบขับกลับบ้าน ช่วงนี้ฝนกำลังปรอย ๆ ต้องรีบกลับให้ทันก่อนที่มันจะเทลงมาอีกครั้ง
วันนี้กลับถึงคอนโดใช้เวลานานกว่าทุกวัน เนื่องจากฝนตกหนักช่วงก่อนกลับบ้าน ทำให้น้ำท่วมขังถนน การจราจรติดขัด แถมขณะขับรถกลับฝนยังตกปรอย ๆ อีกด้วย ทว่าเธอก็ขับรถกลับมาถึงคอนโดโดยสวัสดิภาพ
ก๊อก….ก๊อก…
พรนภาเคาะประตูห้องเบา ๆ ไม่นานคนในห้องก็เปิดประตูต้อนรับ “กอดเหมือนทุกครั้งไม่ได้เด้อค่ะ เปียกมอดยอดเลย ฮา “ พูดปนไปด้วยรอยยิ้ม น่ารักและละมุนที่สุดเลย สามีใครก็ไม่รู้ ยิ้มให้คนตรงหน้า ก่อนจะเดินเข้าห้องไป “ถอดเสื้อผ้าไปอาบน้ำเลยค่ะ เดี๋ยวไม่สบาย ไม่ต้องพงต้องแพลงค์หรอกวันนี้น่ะ”
“ค่า ! บ่นจัง” คนโดนบ่นหันไปค่อนขอดให้ รู้ว่าที่บ่นเพราะเป็นห่วง แต่มันก็อดค่อนขอดให้ไม่ได้ จากนั้นเธอก็ถอดชุดทำงานนำไปแขวนผึ่งให้แห้งรอซัก ระหว่างนั้นมองเข้าไปในครัวเห็นกับข้าวเตรียมพร้อมไว้รอหมดแล้ว ยิ้มให้กับภาพที่เห็นตรงหน้า ทำงานมาเหนื่อย ๆ หายเหนื่อยเลย พี่เมธีไม่เคยทำตัวให้เป็นภาระเธอสักนิด มีเพียงเธอที่ทำตัวเป็นภาระให้ จากนั้นก็เดินเข้าห้องน้ำ
“น้ำท่วมมั้ยคะ” เขาถามพร้อมปรายตามองร่างบอบบางภายใต้ผ้าเช็ดตังนั้น เมื่อเธออาบน้ำเสร็จเดินเข้ามาแต่งตัว สาวเจ้าหันมามองพร้อมหัวเราะเบา ๆ
“จะกินข้าวนะ ไม่ต้องเลยสายตาแบบนั้นน่ะ ! “ ขึงตาให้แบบไม่ค่อยชอบใจนัก ส่วนเขาหัวเราะชอบใจ นี่สิพรนภาของเขา แค่มองตาก็รู้ใจ “ท่วม ! มากด้วยค่ะ เซ็งเหมือนกันค่ะ ถ้าวันไหนฝนตกตอนเลิกงานนะ นภาคิดเลยท่วมแหง ๆ “ บ่นถึงถนนเส้นทางใช้กลับบ้านและไปทำงานทุกวัน
“ทนเอาค่ะ ก็บอกให้คนลาออกก็ยอมนี่นา” พอพูดจบเจอสายตาพิฆาตเข้าให้ จำต้องหลบสายตาพร้อมยิ้มเขิน เบือนหน้าไปทางอื่นแทน จากนั้นเธอจึงหันมาแต่งตัวไปทานข้าวมื้อเย็นดีกว่า “ปะ ! เสร็จยังคะเนี่ยหิวข้าวแล้ว”
“เสร็จแล้ว !” เธอตอบออเซาะ พร้อมเดินนำเข้าไปในครัว กับข้าวมื้อนี่ง่าย ๆ สไตล์อีสาน แค่นี้ก็สุขใจและอร่อยแล้ว “กังวลนะเนี่ย ทานข้าวมื้อนี้ไม่ได้ออกกำลังหายหนิ”
“ไม่ต้องกังวลหรอกค่ะ ออกไม่ออกก็อ้วนเหมือนเดิมค่ะ ฮา”
“พี่เมธี ! ฮ่วย อยากโดนบ่ !” พูดกลั้วหัวเราะ ทั้งสองคนหัวเราะให้กัน เวลานี้เป็นเวลาของทั้งสองที่จะมอบความสุขให้กันและกันแล้ว เป็นเวลาส่วนตัว เป็นเวลาที่สามารถทำอะไรเป็นเด็ก ๆ ก็ได้ ไม่ว่ากันอยู่แล้ว
“อร่อยมั้ยคะ” เขาถาม ชวนคุยไปเรื่อย พูดเรื่องระหว่างวันที่พบเจอมาให้กันและกันฟัง สาวเจ้าพยักหน้าให้ ยิ่งปลื้มใจเข้าไปอีก จะทำกับข้าวให้เธอทานตลอดชีวิตไปเลย “เอ่อน้องนภาเหมือนวันที่ 28 พี่จะไม่ว่างเลยค่ะ”
“ทำไม !” เธอหน้าบึ้งทันที ถามพร้อมจ้องมองหน้าเขาแบบไม่ละสายตากันเลย นั่นไงว่าแล้วเชียว
“นั่น ! ใครบอกจะไม่งอนพี่วันก่อนน่ะ” เขารีบทวงคำพูดวันนั้นมาเป็นตัวช่วยสำหรับเหตุการณ์ในตอนนี้ทันทีเหมือนกัน
“เอ้าพี่เมธีอ่ะ แบบนี้ทุกทีเลย เคยมีมั้ยแบบตกลงวันนี้ไปวันนี้อ่ะ ไม่เคยมี ! ” พรนภาพูดด้วยความเสียใจ หน้างอง้ำน้ำตาเริ่มคลอ อย่างที่พูดอยู่กับเมธีแสดงความเป็นเด็กออกมาแค่ไหนก็ได้ จะงอแงแบบไหนก็ได้ สามีคนนี้ไม่เคยต่อว่าเลยสักครั้ง
“น้อง…น้องนภาใครเป็นคนบอกพี่ว่าจะไม่งอแง พี่น่ะพาน้องไปได้ทุกที่ทุกแห่งหนค่ะ พี่ก็แค่พูดว่าเหมือนจะไม่ว่างอ่ะ”
“เหมือนจะไม่ว่างก็คือไม่ว่างนั้นแหละ” เธอตอบ น้ำเสียงห้วนจ้องหน้าคนตรงหน้าไม่ยอมละสายตา เข้าใจก็เข้าใจแต่มันอดเสียใจไม่ได้หนิ กี่รอบต่อกี่รอบที่ไม่เคยได้ไปตามที่วางแผนเอาไว้เลย “และก็ไม่ได้งอแงงี่เง่าด้วย ฮ่วย “
“เอ๋า…ฮา คนอิหยังคือตลกแถะ” พูดกลั้วยิ้มส่งสายตาละมุนคู่นั้นมาให้ ไม่มีสักครั้งจะเจอสายตาดุแข็งกร้าวของเขา
“บ่ต้องมาล้อให้หัว !” โดนเธอสวนกลับ
“เหมือนจะไม่ว่างก็แค่เหมือน ยังไม่ได้บอกว่าไม่ว่างหนิคะ คนอะไรคิดไปก่อนละ” เขาพูดกลั้วยิ้ม พร้อมตักข้าวเข้าปากไปด้วย
“ไม่ต้องมาพูด ! คำว่าเหมือนของพี่เมธีเป็นจริงตลอดอ่ะ” เขาหัวเราะชอบใจที่โดนต่อว่ามาแบบนี้ อีกทั้งเจอสายตาค้อนขวับนั้นด้วย พรนภาน่ารักที่สุด ถึงจะงอนก็ยังน่ารักในสายตาของเขาที่สุด พรนภาไม่ใช่คนไม่มีเหตุผล ถึงจะขี้งอนก็ตาม
“ทานข้าว ๆ ค่ะ เดี๋ยวพาไป” ทำเป็นไม่สนใจ ตักกับข้าวให้ภรรยาคราวลูก ชวนทานข้าว ชวนเม้าท์เรื่องอื่น ๆ แค่นี้พรนภาก็ลืมและหายงอนแล้ว พอถึงวันนั้นหากไม่ได้ไปค่อยจัดการหาทางง้อใหม่ครั้ง
………………………………….
ภายใต้แสงไฟสลัวของห้อง เขาและเธอนอนสวมกอดกันบนเตียงนอนนุ่ม เธอนอนหนุนแขนของเขาอยู่ภายใต้อ้อมกอดที่แสนอบอุ่นเช่นทุกคืน เขาก้มดมปอยผมของเธอ กลิ่นยาสระผมหอมอ่อน ๆ ละมุนจมูกยิ่งนัก
“พี่รักน้องมากนะคะ อันไหนพี่ทำให้ได้พี่จะรีบทำให้ ขอแค่น้องเข้าใจพี่ก็พอ ถ้าพี่ไม่ว่างน้องอย่างอนพี่เลยนะคะ พี่ไม่อยากเห็นภรรยาของพี่เสียใจค่ะ” เขาพูดเบา ๆ ขณะนอนกอดเธออยู่
“แต่นภา… นภาคาดหวัง” เธอตอบ ตอบด้วยความเข้าใจ ไม่ว่างก็ไม่เป็นไร ทว่าก็อยากจะพูด เขาหอมหน้าผากของเธอเบา ๆ
“พี่เข้าใจค่ะ พี่ก็อยากพาน้องไปมาก ๆ ความสุขของน้องคือความสุขของพี่เข้าใจมั้ยคนดี แต่พี่ไม่ว่าง งานพี่ก็สำคัญ ถ้าวันนั้นไม่ว่างเราไปวันอื่นก็ได้น้อ “
พรนภาพยักหน้าเข้าใจ ความจริงเข้าใจตั้งแต่บอกรอบแรกแล้ว เพียงแค่ห้ามใจไม่ให้งอแงไม่ได้เท่านั้น ทุกอย่างอยู่บนความเข้าใจของเธอหมด มีหรือผู้ชายอบอุ่นคนนี้จะทำให้เธอเสียใจผิดหวัง เธอรู้ดี ! ถ้าวันนี้ผิดหวังวันหน้าก็ต้องชดเชยให้เสมอ นี่แหละเธอถึงได้รักผู้ชายคราวพ่อคนนี้หัวปักหัวปำ
“นภาเข้าใจค่ะ พี่เมธีไม่ต้องคิดมากนะคะ ตั้งใจทำงานเลย แต่ว่าถ้าว่างพานภาไปให้ได้นะ”
“ค่ะ พี่สัญญา ! นอนเถอะค่ะ พรุ่งนี้ทำงาน…”
จบบท….
ฝันหวาน (Sweet Dream) 58
.
https://ppantip.com/topic/40926330…..บทที่ 57
“พี่เมธีขา” พรนภายืนพิมพ์ข้อความสั้น ๆ หาสามีด้วยความตลก ถึงจะเจอสภาวการณ์แบบนี้ก็ยิ้มได้ พร้อมส่งรูปหัวใจไปให้ด้วย
“คร๊าบ… ว่าไงคนสวยจ๋า ฮา กลับบ้านได้มั้ยหนิ ฝนตก !”ปลายทางตอบกลับมาอย่างเร็ว ได้อ่านแล้วถึงกับหัวเราะอึกอักคนเดียว ชอบที่เมธีเล่นด้วยกับเธอเสมอ อยู่ด้วยโลกสดใสตลอด
“ฮา นี่แหละเค้ากำลังจะบอกว่าเค้าติดฝนอยู่ งือ แรงมาก !” พิมพ์ไปยิ้มให้หน้าจอโทรศัพท์ไป ส่งรูปการ์ตูนหัวเราะให้ด้วย เธอยืนหลบฝนอยู่ใต้ชายคาของตลาดสดหน้าที่ทำงาน ตอนแรกยังพอปรอย ๆ เดินซื้อของเพลินไปหน่อย ฝนเทลงมาซะอย่างนั้น “นภาหลบอยู่ในตลาดเนี่ย”
“มีแอลกอฮอล์ล้างมือปะคะ ล้างมือบ่อย ๆ ด้วย เดี๋ยวพี่ไปรับ” เขาส่งข้อความกลับมา
“ไม่ต้อง ! ฮ่วย… สิมาหยังคะ เอ๋าถ้าพี่เมธีมาจะเอารถกลับยังไงเอ๋า” ยืนก้มหน้าก้มตาพิมพ์ข้อความคุยกับสามีรุ่นพ่ออย่างตลก ถึงฝนจะตกแรงกระหน่ำแค่ไหนก็ไม่เป็นปัญหา ข้าง ๆ กันมีคนยืนหลบฝนด้วยหลายคน “เทวดามันบอกว่า เฮ้ยนั่น ! มนุษย์น้อยหอยสังข์มันเลิกงานล้าว เทน้ำได้ ! เทวดาว่าสิ ฮา จ้ากบาดเดียวเลยอ่ะ กะเลยกลายเป็นฝนตก ทั้งวันก็ไม่ยอมตก มาตนตอนนภาจะเลิกงาน เซ็ง ! “
เขาส่งสติ๊กเกอร์หัวเราะลั่นกลับมาให้ ทำเอาเธอหัวเราะไปตาม ๆ กัน พี่เมธีจะรู้ไหมว่าที่เธอพูด เธอก็ขำตัวเองเหมือนกัน “ก็ขับรถตามกันไปไง นั่นล่ะบอกให้ซื้อกระบะก็ไม่ยอม”
“บ่ ! ไม่ต้องมาเลย นี่ฝนจะหยุดตกแล้ว แค่นี้ก่อนนะคะ นภาจะกลับบ้านแล้ว”
“ขับรถดี ๆ นะคะตัวเอง พี่รออยู่” เมื่อจบการสนทนาทางไลน์แล้วเธอก็รีบเดินมายังรถ และ รีบขับกลับบ้าน ช่วงนี้ฝนกำลังปรอย ๆ ต้องรีบกลับให้ทันก่อนที่มันจะเทลงมาอีกครั้ง
วันนี้กลับถึงคอนโดใช้เวลานานกว่าทุกวัน เนื่องจากฝนตกหนักช่วงก่อนกลับบ้าน ทำให้น้ำท่วมขังถนน การจราจรติดขัด แถมขณะขับรถกลับฝนยังตกปรอย ๆ อีกด้วย ทว่าเธอก็ขับรถกลับมาถึงคอนโดโดยสวัสดิภาพ
ก๊อก….ก๊อก…
พรนภาเคาะประตูห้องเบา ๆ ไม่นานคนในห้องก็เปิดประตูต้อนรับ “กอดเหมือนทุกครั้งไม่ได้เด้อค่ะ เปียกมอดยอดเลย ฮา “ พูดปนไปด้วยรอยยิ้ม น่ารักและละมุนที่สุดเลย สามีใครก็ไม่รู้ ยิ้มให้คนตรงหน้า ก่อนจะเดินเข้าห้องไป “ถอดเสื้อผ้าไปอาบน้ำเลยค่ะ เดี๋ยวไม่สบาย ไม่ต้องพงต้องแพลงค์หรอกวันนี้น่ะ”
“ค่า ! บ่นจัง” คนโดนบ่นหันไปค่อนขอดให้ รู้ว่าที่บ่นเพราะเป็นห่วง แต่มันก็อดค่อนขอดให้ไม่ได้ จากนั้นเธอก็ถอดชุดทำงานนำไปแขวนผึ่งให้แห้งรอซัก ระหว่างนั้นมองเข้าไปในครัวเห็นกับข้าวเตรียมพร้อมไว้รอหมดแล้ว ยิ้มให้กับภาพที่เห็นตรงหน้า ทำงานมาเหนื่อย ๆ หายเหนื่อยเลย พี่เมธีไม่เคยทำตัวให้เป็นภาระเธอสักนิด มีเพียงเธอที่ทำตัวเป็นภาระให้ จากนั้นก็เดินเข้าห้องน้ำ
“น้ำท่วมมั้ยคะ” เขาถามพร้อมปรายตามองร่างบอบบางภายใต้ผ้าเช็ดตังนั้น เมื่อเธออาบน้ำเสร็จเดินเข้ามาแต่งตัว สาวเจ้าหันมามองพร้อมหัวเราะเบา ๆ
“จะกินข้าวนะ ไม่ต้องเลยสายตาแบบนั้นน่ะ ! “ ขึงตาให้แบบไม่ค่อยชอบใจนัก ส่วนเขาหัวเราะชอบใจ นี่สิพรนภาของเขา แค่มองตาก็รู้ใจ “ท่วม ! มากด้วยค่ะ เซ็งเหมือนกันค่ะ ถ้าวันไหนฝนตกตอนเลิกงานนะ นภาคิดเลยท่วมแหง ๆ “ บ่นถึงถนนเส้นทางใช้กลับบ้านและไปทำงานทุกวัน
“ทนเอาค่ะ ก็บอกให้คนลาออกก็ยอมนี่นา” พอพูดจบเจอสายตาพิฆาตเข้าให้ จำต้องหลบสายตาพร้อมยิ้มเขิน เบือนหน้าไปทางอื่นแทน จากนั้นเธอจึงหันมาแต่งตัวไปทานข้าวมื้อเย็นดีกว่า “ปะ ! เสร็จยังคะเนี่ยหิวข้าวแล้ว”
“เสร็จแล้ว !” เธอตอบออเซาะ พร้อมเดินนำเข้าไปในครัว กับข้าวมื้อนี่ง่าย ๆ สไตล์อีสาน แค่นี้ก็สุขใจและอร่อยแล้ว “กังวลนะเนี่ย ทานข้าวมื้อนี้ไม่ได้ออกกำลังหายหนิ”
“ไม่ต้องกังวลหรอกค่ะ ออกไม่ออกก็อ้วนเหมือนเดิมค่ะ ฮา”
“พี่เมธี ! ฮ่วย อยากโดนบ่ !” พูดกลั้วหัวเราะ ทั้งสองคนหัวเราะให้กัน เวลานี้เป็นเวลาของทั้งสองที่จะมอบความสุขให้กันและกันแล้ว เป็นเวลาส่วนตัว เป็นเวลาที่สามารถทำอะไรเป็นเด็ก ๆ ก็ได้ ไม่ว่ากันอยู่แล้ว
“อร่อยมั้ยคะ” เขาถาม ชวนคุยไปเรื่อย พูดเรื่องระหว่างวันที่พบเจอมาให้กันและกันฟัง สาวเจ้าพยักหน้าให้ ยิ่งปลื้มใจเข้าไปอีก จะทำกับข้าวให้เธอทานตลอดชีวิตไปเลย “เอ่อน้องนภาเหมือนวันที่ 28 พี่จะไม่ว่างเลยค่ะ”
“ทำไม !” เธอหน้าบึ้งทันที ถามพร้อมจ้องมองหน้าเขาแบบไม่ละสายตากันเลย นั่นไงว่าแล้วเชียว
“นั่น ! ใครบอกจะไม่งอนพี่วันก่อนน่ะ” เขารีบทวงคำพูดวันนั้นมาเป็นตัวช่วยสำหรับเหตุการณ์ในตอนนี้ทันทีเหมือนกัน
“เอ้าพี่เมธีอ่ะ แบบนี้ทุกทีเลย เคยมีมั้ยแบบตกลงวันนี้ไปวันนี้อ่ะ ไม่เคยมี ! ” พรนภาพูดด้วยความเสียใจ หน้างอง้ำน้ำตาเริ่มคลอ อย่างที่พูดอยู่กับเมธีแสดงความเป็นเด็กออกมาแค่ไหนก็ได้ จะงอแงแบบไหนก็ได้ สามีคนนี้ไม่เคยต่อว่าเลยสักครั้ง
“น้อง…น้องนภาใครเป็นคนบอกพี่ว่าจะไม่งอแง พี่น่ะพาน้องไปได้ทุกที่ทุกแห่งหนค่ะ พี่ก็แค่พูดว่าเหมือนจะไม่ว่างอ่ะ”
“เหมือนจะไม่ว่างก็คือไม่ว่างนั้นแหละ” เธอตอบ น้ำเสียงห้วนจ้องหน้าคนตรงหน้าไม่ยอมละสายตา เข้าใจก็เข้าใจแต่มันอดเสียใจไม่ได้หนิ กี่รอบต่อกี่รอบที่ไม่เคยได้ไปตามที่วางแผนเอาไว้เลย “และก็ไม่ได้งอแงงี่เง่าด้วย ฮ่วย “
“เอ๋า…ฮา คนอิหยังคือตลกแถะ” พูดกลั้วยิ้มส่งสายตาละมุนคู่นั้นมาให้ ไม่มีสักครั้งจะเจอสายตาดุแข็งกร้าวของเขา
“บ่ต้องมาล้อให้หัว !” โดนเธอสวนกลับ
“เหมือนจะไม่ว่างก็แค่เหมือน ยังไม่ได้บอกว่าไม่ว่างหนิคะ คนอะไรคิดไปก่อนละ” เขาพูดกลั้วยิ้ม พร้อมตักข้าวเข้าปากไปด้วย
“ไม่ต้องมาพูด ! คำว่าเหมือนของพี่เมธีเป็นจริงตลอดอ่ะ” เขาหัวเราะชอบใจที่โดนต่อว่ามาแบบนี้ อีกทั้งเจอสายตาค้อนขวับนั้นด้วย พรนภาน่ารักที่สุด ถึงจะงอนก็ยังน่ารักในสายตาของเขาที่สุด พรนภาไม่ใช่คนไม่มีเหตุผล ถึงจะขี้งอนก็ตาม
“ทานข้าว ๆ ค่ะ เดี๋ยวพาไป” ทำเป็นไม่สนใจ ตักกับข้าวให้ภรรยาคราวลูก ชวนทานข้าว ชวนเม้าท์เรื่องอื่น ๆ แค่นี้พรนภาก็ลืมและหายงอนแล้ว พอถึงวันนั้นหากไม่ได้ไปค่อยจัดการหาทางง้อใหม่ครั้ง
………………………………….
ภายใต้แสงไฟสลัวของห้อง เขาและเธอนอนสวมกอดกันบนเตียงนอนนุ่ม เธอนอนหนุนแขนของเขาอยู่ภายใต้อ้อมกอดที่แสนอบอุ่นเช่นทุกคืน เขาก้มดมปอยผมของเธอ กลิ่นยาสระผมหอมอ่อน ๆ ละมุนจมูกยิ่งนัก
“พี่รักน้องมากนะคะ อันไหนพี่ทำให้ได้พี่จะรีบทำให้ ขอแค่น้องเข้าใจพี่ก็พอ ถ้าพี่ไม่ว่างน้องอย่างอนพี่เลยนะคะ พี่ไม่อยากเห็นภรรยาของพี่เสียใจค่ะ” เขาพูดเบา ๆ ขณะนอนกอดเธออยู่
“แต่นภา… นภาคาดหวัง” เธอตอบ ตอบด้วยความเข้าใจ ไม่ว่างก็ไม่เป็นไร ทว่าก็อยากจะพูด เขาหอมหน้าผากของเธอเบา ๆ
“พี่เข้าใจค่ะ พี่ก็อยากพาน้องไปมาก ๆ ความสุขของน้องคือความสุขของพี่เข้าใจมั้ยคนดี แต่พี่ไม่ว่าง งานพี่ก็สำคัญ ถ้าวันนั้นไม่ว่างเราไปวันอื่นก็ได้น้อ “
พรนภาพยักหน้าเข้าใจ ความจริงเข้าใจตั้งแต่บอกรอบแรกแล้ว เพียงแค่ห้ามใจไม่ให้งอแงไม่ได้เท่านั้น ทุกอย่างอยู่บนความเข้าใจของเธอหมด มีหรือผู้ชายอบอุ่นคนนี้จะทำให้เธอเสียใจผิดหวัง เธอรู้ดี ! ถ้าวันนี้ผิดหวังวันหน้าก็ต้องชดเชยให้เสมอ นี่แหละเธอถึงได้รักผู้ชายคราวพ่อคนนี้หัวปักหัวปำ
“นภาเข้าใจค่ะ พี่เมธีไม่ต้องคิดมากนะคะ ตั้งใจทำงานเลย แต่ว่าถ้าว่างพานภาไปให้ได้นะ”
“ค่ะ พี่สัญญา ! นอนเถอะค่ะ พรุ่งนี้ทำงาน…”
จบบท….