ววัตถสัญญาสูตร
[๒๒๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย สัตตาวาส ๙ ชั้น ๙ ชั้นเป็นไฉน
ดูกรภิกษุ ทั้งหลาย
-
สัตว์พวกหนึ่ง...มีกายต่างกัน มีสัญญาต่างกัน
เหมือนมนุษย์ เทวดาบางพวกและ วินิปาติกสัตว์บางพวก นี้เป็นสัตตาวาสชั้นที่ ๑ ฯ
-
สัตว์พวกหนึ่ง...มีกายต่างกัน มีสัญญาอย่างเดียวกัน
เหมือนเทวดาผู้อยู่ในชั้นพรหม ผู้เกิดในภูมิปฐมฌาน นี้เป็นสัตตาวาสชั้นที่ ๒ ฯ
-
สัตว์พวกหนึ่ง...มีกายอย่างเดียวกัน มีสัญญาต่างกัน
เหมือนเทวดาชั้นอาภัสสระ นี้เป็น สัตตาวาสชั้นที่ ๓ ฯ
-
สัตว์พวกหนึ่ง...มีกายอย่างเดียวกัน มีสัญญาอย่างเดียวกัน
เหมือนเทวดาชั้นสุภกิณหะ นี้เป็นสัตตาวาสชั้นที่ ๔ ฯ
-
สัตว์พวกหนึ่ง...ไม่มีสัญญา ไม่เสวยเวทนา
เหมือนเทวดาผู้เป็นอสัญญีสัตว์ นี้เป็น สัตตาวาสชั้นที่ ๕ ฯ
-
สัตว์พวกหนึ่ง...ผู้เข้าถึงชั้นอากาสานัญจายตนะ
โดยคำนึงเป็นอารมณ์ว่า อากาศหาที่สุด มิได้
เพราะล่วงรูปสัญญาโดยประการทั้งปวง เพราะดับปฏิฆสัญญา เพราะไม่ใส่ใจถึงนานัตต สัญญา
นี้เป็นสัตตาวาสชั้นที่ ๖ ฯ
-
สัตว์พวกหนึ่ง...ผู้เข้าถึงชั้นวิญญาณัญจายตนะ
โดยคำนึงเป็นอารมณ์ว่าวิญญาณหาที่สุด มิได้
เพราะล่วงอากาสานัญจายตนะ โดยประการทั้งปวง นี้เป็นสัตตาวาสชั้นที่ ๗ ฯ
-
สัตว์พวกหนึ่ง...ผู้เข้าถึงชั้นอากิญจัญญายตนะ
โดยคำนึงเป็นอารมณ์ว่าอะไรหน่อยหนึ่ง ไม่มี
เพราะล่วงวิญญาณัญจายตนะโดยประการทั้งปวง นี้เป็นสัตตาวาสชั้นที่ ๘ ฯ
-
สัตว์พวกหนึ่ง...ผู้เข้าถึงชั้นเนวสัญญานาสัญญายตนะ
เพราะล่วงอากิญจัญญายตนะโดย ประการทั้งปวง นี้เป็นสัตตาวาสชั้นที่ ๙
ดูกรภิกษุทั้งหลายสัตตาวาส ๙ ชั้นนี้แล ฯ
จบสูตรที่ ๔
https://etipitaka.com/read/thai/23/323/
สรุป... <----อันนี้เป็นความเข้าใจของผม...หากมีคำแนะนำ-หรือ-เห็นต่าง..นำหลักฐานมาแสดง...ก็ยินดีเลยครับ
1. จากพระสูตร... พระศาสดาท่านทรงแสดงที่อยู่อาศัยของ " สัตว์ "----สัตว์นี่ในความหมายทางพุทธนี่..คือ..ผู้ยึดติด..
หรือ..ผู้ที่มีอุปาทานในขันธ์นะไม่ใช่...ควาใหมายของสัตว์ในปัจจุบัน.. ท่านทรงจำแนกออกมาเป็น 9 แบบ..
แบบที่ 1.....กามภพ...คือ พวกกายต่างกัน-สัญญาต่างกัน
ตัวอย่างเช่นมนุษย์ที่มีร่างกายเผ่าพันธ์ที่แตกต่างกัน... ยังมีพิการ.. ดำขาว.. สูงเตี้ย.. อ้วนผอม..
สภาวะทางใจก็ไปกันคนละแบบ... มีทั้ง..โหด-เลว-ดี..เลย แม้นเทวดา..ก็มีหลายประเภท
แบบที่ 2 - 4..รูปภพ...คือ พวกกายต่างกัน-สัญญาต่างกัน, กายอย่างเดียวกัน มีสัญญาอย่างเดียวกัน
และ..มีกายอย่างเดียวกัน มีสัญญาอย่างเดียวกัน พวกนี้เป็นพรหมแบบต่างๆกัน
แบบที่ 5.....อสัญญีสัตว์.. พวกนี้ไม่มีสัญญา... คือไม่รู้ตัวเลยในระหว่างเป็นอสัญญีสัตว์...
พวกนี้ตอนเป็นมนุษย์... มีความคิดว่าทุกข์มันเกิดเพราะมีใจไปรู้สึกความทุกข์...
เลยบำเพ็ญสมาธิให้ไม่มีใจ..ไปรับรู้อะไรๆ
แบบที่ 6 -9..อรูปภพ...คือ พวกที่กระทำ..อรูปสัญญาสมาธิได้ไม่เสื่อม..เใื่อกายแตกทำลายก็มาอุบัติเป็นอรูปพรหม..นี้
2. จากตอนก่อนๆ...การที่ " สัตว์ " ....ละทิ้งกายที่แตกทำลายแล้ว สัตว์มันไม่ได้ตายไปนะ...มันก็ไปหาขันธ์ใหม่..
ด้วยอำนาจ...ตัณหา...ของมัน ดังที่ได้กล่าวกับวัจฉะว่า " เรากล่าวว่า..ตัณหา...เป็นเชื้อ.. "
3. ที่หลังอย่าไปบอกว่า " สัตว์--ผู้ยึด "...ไม่มีนะ <--มันเป็นการกล่าวตู่พระศาสดา..นะ ยำเกรงในพระศาสดาบ้าง ครับ
" สัตว์ "---ตอนที่ 8 :...สัตว์..มีที่อยู่อาศัย 9 แบบ.(..ผู้ติดตาม series นี้กันอย่างเหนียวแน่น..เลยต้องทำต่อไป..)
ววัตถสัญญาสูตร
[๒๒๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย สัตตาวาส ๙ ชั้น ๙ ชั้นเป็นไฉน
ดูกรภิกษุ ทั้งหลาย
- สัตว์พวกหนึ่ง...มีกายต่างกัน มีสัญญาต่างกัน
เหมือนมนุษย์ เทวดาบางพวกและ วินิปาติกสัตว์บางพวก นี้เป็นสัตตาวาสชั้นที่ ๑ ฯ
- สัตว์พวกหนึ่ง...มีกายต่างกัน มีสัญญาอย่างเดียวกัน
เหมือนเทวดาผู้อยู่ในชั้นพรหม ผู้เกิดในภูมิปฐมฌาน นี้เป็นสัตตาวาสชั้นที่ ๒ ฯ
- สัตว์พวกหนึ่ง...มีกายอย่างเดียวกัน มีสัญญาต่างกัน
เหมือนเทวดาชั้นอาภัสสระ นี้เป็น สัตตาวาสชั้นที่ ๓ ฯ
- สัตว์พวกหนึ่ง...มีกายอย่างเดียวกัน มีสัญญาอย่างเดียวกัน
เหมือนเทวดาชั้นสุภกิณหะ นี้เป็นสัตตาวาสชั้นที่ ๔ ฯ
- สัตว์พวกหนึ่ง...ไม่มีสัญญา ไม่เสวยเวทนา
เหมือนเทวดาผู้เป็นอสัญญีสัตว์ นี้เป็น สัตตาวาสชั้นที่ ๕ ฯ
- สัตว์พวกหนึ่ง...ผู้เข้าถึงชั้นอากาสานัญจายตนะ
โดยคำนึงเป็นอารมณ์ว่า อากาศหาที่สุด มิได้
เพราะล่วงรูปสัญญาโดยประการทั้งปวง เพราะดับปฏิฆสัญญา เพราะไม่ใส่ใจถึงนานัตต สัญญา
นี้เป็นสัตตาวาสชั้นที่ ๖ ฯ
- สัตว์พวกหนึ่ง...ผู้เข้าถึงชั้นวิญญาณัญจายตนะ
โดยคำนึงเป็นอารมณ์ว่าวิญญาณหาที่สุด มิได้
เพราะล่วงอากาสานัญจายตนะ โดยประการทั้งปวง นี้เป็นสัตตาวาสชั้นที่ ๗ ฯ
- สัตว์พวกหนึ่ง...ผู้เข้าถึงชั้นอากิญจัญญายตนะ
โดยคำนึงเป็นอารมณ์ว่าอะไรหน่อยหนึ่ง ไม่มี
เพราะล่วงวิญญาณัญจายตนะโดยประการทั้งปวง นี้เป็นสัตตาวาสชั้นที่ ๘ ฯ
- สัตว์พวกหนึ่ง...ผู้เข้าถึงชั้นเนวสัญญานาสัญญายตนะ
เพราะล่วงอากิญจัญญายตนะโดย ประการทั้งปวง นี้เป็นสัตตาวาสชั้นที่ ๙
ดูกรภิกษุทั้งหลายสัตตาวาส ๙ ชั้นนี้แล ฯ
จบสูตรที่ ๔
https://etipitaka.com/read/thai/23/323/
สรุป... <----อันนี้เป็นความเข้าใจของผม...หากมีคำแนะนำ-หรือ-เห็นต่าง..นำหลักฐานมาแสดง...ก็ยินดีเลยครับ
1. จากพระสูตร... พระศาสดาท่านทรงแสดงที่อยู่อาศัยของ " สัตว์ "----สัตว์นี่ในความหมายทางพุทธนี่..คือ..ผู้ยึดติด..
หรือ..ผู้ที่มีอุปาทานในขันธ์นะไม่ใช่...ควาใหมายของสัตว์ในปัจจุบัน.. ท่านทรงจำแนกออกมาเป็น 9 แบบ..
แบบที่ 1.....กามภพ...คือ พวกกายต่างกัน-สัญญาต่างกัน
ตัวอย่างเช่นมนุษย์ที่มีร่างกายเผ่าพันธ์ที่แตกต่างกัน... ยังมีพิการ.. ดำขาว.. สูงเตี้ย.. อ้วนผอม..
สภาวะทางใจก็ไปกันคนละแบบ... มีทั้ง..โหด-เลว-ดี..เลย แม้นเทวดา..ก็มีหลายประเภท
แบบที่ 2 - 4..รูปภพ...คือ พวกกายต่างกัน-สัญญาต่างกัน, กายอย่างเดียวกัน มีสัญญาอย่างเดียวกัน
และ..มีกายอย่างเดียวกัน มีสัญญาอย่างเดียวกัน พวกนี้เป็นพรหมแบบต่างๆกัน
แบบที่ 5.....อสัญญีสัตว์.. พวกนี้ไม่มีสัญญา... คือไม่รู้ตัวเลยในระหว่างเป็นอสัญญีสัตว์...
พวกนี้ตอนเป็นมนุษย์... มีความคิดว่าทุกข์มันเกิดเพราะมีใจไปรู้สึกความทุกข์...
เลยบำเพ็ญสมาธิให้ไม่มีใจ..ไปรับรู้อะไรๆ
แบบที่ 6 -9..อรูปภพ...คือ พวกที่กระทำ..อรูปสัญญาสมาธิได้ไม่เสื่อม..เใื่อกายแตกทำลายก็มาอุบัติเป็นอรูปพรหม..นี้
2. จากตอนก่อนๆ...การที่ " สัตว์ " ....ละทิ้งกายที่แตกทำลายแล้ว สัตว์มันไม่ได้ตายไปนะ...มันก็ไปหาขันธ์ใหม่..
ด้วยอำนาจ...ตัณหา...ของมัน ดังที่ได้กล่าวกับวัจฉะว่า " เรากล่าวว่า..ตัณหา...เป็นเชื้อ.. "
3. ที่หลังอย่าไปบอกว่า " สัตว์--ผู้ยึด "...ไม่มีนะ <--มันเป็นการกล่าวตู่พระศาสดา..นะ ยำเกรงในพระศาสดาบ้าง ครับ