Ross Island ภูมิศาสตร์แอนตาร์กติกาที่ใหญ่ที่สุด



เกาะ Ross Island เป็นเกาะที่เกิดจากภูเขาไฟ 4 ลูก (รวมทั้งภูเขาไฟ Erebus และ Mt. Terror Mt. Bird และHut Point Peninsula) ในทะเล Ross Sea ใกล้กับทวีปแอนตาร์กติกา นอกชายฝั่งวิกตอเรียแลนด์ใน McMurdo Sound  เนื่องจากที่นี่มีการเปลี่ยนแปลงของแผ่นน้ำแข็งที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง บางครั้งเกาะจึงถูกนำไปเป็นส่วนหนึ่งของทวีปแอนตาร์กติกา ทำให้ Ross Island ดูเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของแผ่นดินใหญ่เนื่องจากมีน้ำแข็งเชื่อมต่อกับ Ross Ice Shelf ตามขอบด้านใต้

เกาะมีพื้นที่ทั้งหมด 2460 ตร.กม. (950 มล. ²) มีจุดสูงสุดที่ภูเขาไฟ Mount Erebus 3794 ม. (12448 ฟุต) ที่มีการปะทุมากที่สุดในโลกและยังคุกรุ่นอยู่เพียงแห่งเดียวโดยมีส่วนน้อยเท่านั้นที่ปราศจากน้ำแข็งและหิมะ และเป็นหนึ่งในไม่กี่แห่งทั่วโลกที่มีทะเลสาบลาวาถาวรในปล่องภูเขาไฟ ภูเขาไฟแห่งนี้ยังเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องน้ำแข็ง fumaroles หอคอยน้ำแข็งที่ก่อตัวขึ้นรอบ ๆ ก๊าซที่หนีออกมาจากช่องระบายอากาศบนพื้นผิว 

MOUNT EREBUS, ROSS ISLAND, แอนตาร์กติกา
เกาะถูกค้นพบในปี 1841 โดย James Clark Ross (1800-1862 /a British Royal Navy officer และ Antarctic explorer) ต่อมา Robert Falcon Scott ได้ตั้งชื่อให้เกาะเพื่อเป็นเกียรติแก่เขา (1868-1912)  เกาะ Ross Island เป็นฐานสำหรับการเดินทางไปยังทวีปแอนตาร์กติกาในช่วงแรก ๆ  เป็นเกาะที่อยู่ทางใต้สุดของทวีปที่สามารถเข้าถึงได้ทางทะเล  ส่วนภูเขาไฟ Erebus ถูกตั้งชื่อตามชื่อเรือของ Ross  และภูเขาไฟ Mount Terror ที่ดับแล้วบนเกาะ Ross ก็ได้รับการตั้งชื่อตามชื่อเรือลำอื่นของ Ross ในการเดินทางของเขาในเวลานั้น

บนเกาะมี Discovery Hut กระท่อมเก่าแก่ที่สร้างขึ้นโดยการเดินทางของ Shackleton's และ Scott ที่ยังคงตั้งอยู่ ซึ่งได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์  ปัจจุบันบนเกาะ Ross Island เป็นนิคมแอนตาร์กติกที่ใหญ่ที่สุด  มีสถานี McMurdo (สหรัฐอเมริกา) ฐานอุทยานโลกที่ก่อตั้งโดย Greenpeace และดำเนินการมาเป็นเวลา 5 ปีแล้วตั้งแต่ 1987-1992 

สถานี McMurdo Station เป็นฐานการวิจัยแอนตาร์กติกของสหรัฐอเมริกาซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเกาะ สถานีนี้เป็นชุมชนที่ใหญ่ที่สุดของแอนตาร์กติกา โดยมีประชากรประมาณ 1,300 คน  และเป็นศูนย์วิทยาศาสตร์แอนตาร์กติกหลักของสหรัฐอเมริกา บุคลากรและสินค้าทั้งหมดของสหรัฐฯสามารถไปหรือกลับได้จากสถานี Amundsen – Scott ทางขั้วโลกใต้ซึ่งจะผ่าน McMurdo

กว่า 40 ปีที่ Ross Island ถูกสำรวจทางวิทยาศาสตร์เพื่อศึกษาเกี่ยวกับแหล่งกำเนิดทางธรณีวิทยาของภูเขาไฟ Erebus รวมทั้งภูเขาไฟอื่นๆ และในปี 2012 มีงานวิจัยในการศึกษาภาคสนามจาก “ การสังเกตการณ์ทางธรณีฟิสิกส์” เพื่อทำความเข้าใจอดีตของภูเขาไฟเหล่านี้  นอกจากนี้ ในปี 2014 มีโครงการ " James Ross Island project " ที่ได้รับการสนับสนุนทางลอจิสติกส์โดย British Antarctic Survey

โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างประวัติศาสตร์น้ำแข็งของภูมิภาคที่สำคัญและกำลังเปลี่ยนแปลงนี้ขึ้นใหม่ โดยดูที่การตอบสนองของธารน้ำแข็งต่อการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมทั่วทั้ง Cenozoic (มหายุคสุดท้ายประมาณ-70-ล้านปีก่อน)  โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง Last Glacial Maximum (ยุคน้ำแข็งใหญ่สุดครั้งสุดท้าย) ผ่าน Holocene (ยุคธรณีวิทยาใหม่) และในศตวรรษที่ยี่สิบ

โดยจุดสนใจทางภูมิศาสตร์ของโครงการนี้คือ Ross Island, Vega Island และ คาบสมุทรแอนตาร์กติกที่อยู่ติดกัน เนื่องจากพื้นที่เหล่านี้มีบันทึกการเสื่อมสภาพทางบกที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี และพื้นที่ส่วนใหญ่ยังไม่ได้ถูกนำมาใช้ประโยชน์ (โครงการเริ่มในเดือนเมษายน 2010 และสิ้นสุดในเดือนเมษายนปี 2014)


 
McMurdo Station
McMurdo สร้างขึ้นบนหินภูเขาไฟของคาบสมุทร Hut Point Peninsula บนเกาะ Ross Island ซึ่งเป็นพื้นดินแข็งที่อยู่ไกลที่สุดทางใต้ที่เรือเข้าถึงได้
เป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ของโครงการแอนตาร์กติกของสหรัฐอเมริกา โดยมีท่าเรือสำหรับจอดเรือบนน้ำแข็งในทะเล และหิ้งน้ำแข็งที่รองรับเฮลิคอปเตอร์
 
มีอาคาร 85 หลัง มีโครงสร้างสามชั้นตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ สิ่งอำนวยความสะดวก หอพัก อาคารบริหาร โรงดับเพลิง โรงไฟฟ้า โรงกลั่นน้ำ ท่าเทียบเรือ ร้านค้า สโมสร คลังสินค้าและห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ชั้นหนึ่งที่เชื่อมโยงกัน  รวมทั้งน้ำบาดาล ท่อระบายน้ำ โทรศัพท์ และสายไฟ
 
อุณหภูมิสุดขั้วที่บันทึกไว้ได้ต่ำถึงลบ 50 องศาเซนติเกรดและสูงถึงบวก 8 องศาเซนติเกรด ค่าเฉลี่ยรายปีคือลบ 18 องศาเซนติเกรด อุณหภูมิเฉลี่ยรายเดือนอยู่ระหว่างลบ 3 องศาเซนติเกรดในเดือนมกราคมถึงลบ 28 องศาเซนติเกรดในเดือนสิงหาคม
หิมะที่ลอยอยู่อาจสะสมความหนาได้ประมาณ 1.5 เมตรต่อปี แม้ว่าสถานีจะไม่มีหิมะตกในฤดูร้อน และมีลมเฉลี่ยประมาณ 5.1 เมตรต่อวินาที (มีการบันทึกลมกระโชก 52 เมตรต่อวินาทีในเดือนกรกฎาคม 2511)
 
ปัจจุบันยังมีการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่ดำเนินการอยู่ ทั้งในด้านการบิน ดาราศาสตร์ อวกาศ  ฟิสิกส์ ชีววิทยา ระบบนิเวศธรณีวิทยา และธรณีฟิสิกส์ ธรณีวิทยาธรณีสัณฐานวิทยา แกนน้ำแข็ง มหาสมุทร และระบบภูมิอากาศ

การสุ่มตัวอย่างหินสำหรับ cosmogenic nuclide จากการออกภาคสนามบน Ross Island ในปี 2011
Ross Island เป็นที่น่าสนใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งจนถึงปี 1995 มันยังเชื่อมต่อกับคาบสมุทรแอนตาร์กติกโดย Prince Gustav Ice Shelf ที่ครั้งหนึ่งเคยเชื่อมต่อกับ Larsen Ice Shelf แต่ได้ถอยห่างออกไปนับตั้งแต่การสำรวจขั้วโลกเริ่มขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่สิบเก้า  ต่อมาภายในปี 1995 มันได้พังทลายและหายไปอย่างรวดเร็ว ตัวธารชั้นน้ำแข็งได้กลายเป็นชายฝั่งที่มีน้ำทะเล (ที่สิ้นสุดการติดต่อทางทะเล) โดยบางส่วนของพื้นชายฝั่งมีขอบน้ำแข็งลอยอยู่
สิ่งที่น่าสนใจเป็นพิเศษคือเหตุการณ์ที่สร้างขึ้นจนถึงการพังทลายของชั้นน้ำแข็ง การควบคุมโครงสร้างจากการล่มสลาย และการตอบสนองของแควธารน้ำแข็งต่อการพังทลายของชั้นน้ำแข็งหลังจากเหตุการณ์ผ่านไป15 ปี



การล่มสลายของ Prince Gustav Ice Shelf ในปี 1995 /ข. ฤดูหนาวก่อนปี 1995 และ /ค. ฤดูใบไม้ผลิ 2007 
Cr.ภาพ researchgate.net/

เพนกวินจักรพรรดิเบื้องหน้าภูเขาไฟ Erebus ที่ยังคุกรุ่นอยู่ทางใต้สุดของโลก Cr. Xinzhao Chu


นอกจากนี้ ยังพบโครงกระดูกของแมวน้ำ Crabeater (Family Phocidae) ที่หนาแน่นผิดปกติกว่า 150 ตัวในลักษณะต่างๆ
ในดินแดน Brandy Bay ตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะ Ross Island ทางตะวันตกเฉียงเหนือคาบสมุทรแอนตาร์กติกตอนเหนือ 
Cr.http://gocruising.cruisefactory.net/ports/view/2773/ross+island-+antarctica
Cr.https://www.cruisemapper.com/ports/ross-island-port-3166
Cr.https://www.coolantarctica.com/schools/Antarctica-maps-ross-island.php
Cr.https://blog.nationalgeographic.org/2012/10/18/rediscovering-ross-island-the-2012-expedition-to-understand-the-geologic-origin-of-ross-island-antarctica/โดย Kenneth WW Sims
Cr.http://www.antarcticglaciers.org/about-2/authors/our-research-and-team/jamesrossisland/By Bethan Davies 
Cr.http://cires1.colorado.edu/news/press/2013/mcmurdo.html

(ขอขอบคุณที่มาของข้อมูลทั้งหมดและขออนุญาตนำมา)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่