โลกใบนี้เต็มไปด้วยสถานที่น่าสนใจ
สถานที่ผู้คนต้องการไปเยี่ยมชมจำนวนมาก
ขณะเดียวกันยังมีสถานที่อีกหลายแห่ง
ที่มีระยะทางห่างไกลมากตามธรรมชาติ
สถานที่เหล่านี้ไม่ใช่ไม่งดงาม
หรือไม่เหมาะสมกับการถ่ายภาพ
แต่การเดินทางไปยังสถานที่เหล่านี้
ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ ในการไปมาหาสู่เลย
แม้ว่าเทคโนโลยีและการคมนาคมในปัจจุบัน
จะทำให้การสัญจรไปมาเป็นเรื่องง่ายแล้วก็ตาม
แต่สถานที่เหล่านี้ก็ยังไม่ใช่สถานที่ติดอันดับเลย
มีแต่นักท่องเที่ยวที่ตั้งใจจริง ๆ จึงจะไปกัน
.
.
เกาะที่รู้จักกันดีว่าเป็นเกาะ
ที่โดดเดี่ยวกลางมหาสมุทรแปซิฟิก
มีพื้นที่บนเกาะประมาณ 70 ตารางไมล์
181.3 ตารางกิโลเมตร หรือ 113,312.5 ไร่
ระยะทางประมาณ 2,000 ไมล์
3,218.69 กิโลเมตร นอกชายฝั่งทะเลของชิลี
เกาะอีสเตอร์ อีกชื่อหนึ่งเรียกว่า Rapa Nui
มีชาวบ้านอาศัยอยู่ประมาณ 4,000 คน
พื้นที่บนเกาะขนาดเล็กมีป่าไม้เบญจพรรณ
มีต้นไม้ขนาดเล็กจำนวนเพียงเล็ก ๆ น้อย ๆ
มีเรื่องราวและตำนานที่เล่าขานกันมาว่า
มีการตัดไม้ทำลายป่า
โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้นไม้ขนาดใหญ่
เพราะคนที่อาศัยอยู่ในช่วงต้น
ต้องทำเลื่อนไม้ขนาดใหญ่
เพื่อทำการขนย้ายรูปปั้นหินยักษ์หน้าคน
ไปวางหน้าชายหาดเพื่อแสดงอำนาจ
สิ่งที่เห็นและเป็นอยู่ในตอนนี้คือ
จะมีหินแกะสลักรูปหัวคนขนาดใหญ่หลายหัว
วางกระจัดกระจายอยู่ทั่วเกาะ
และเป็นแหล่งสำคัญสำหรับการท่องเที่ยว
นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าการตัดไม้ทำลายป่า
เพื่อทำเป็นไม้เลื่อนขนย้ายรูปปั้นหัวคนขนาดยักษ์
เป็นการทำลายสภาพแวดล้อม
และระบบนิเวศน์วิทยาทางธรรมชาติในเกาะ
ทำให้พินาศในระยะยาวจากอดีตจนถึงปัจจุบัน
การเดินทางไปที่นี่ที่สะดวกคือ
เครื่องบินขนาดเล็กแบบเช่าเหมาลำ
จากสนามบิน Santiago Chile
.
.
เมืองที่ได้รับการกล่าวขานกันว่า
เป็นเมืองที่อยู่บนสูงที่สุดในโลก
ตั้งอยู่ในเทือกเขา Andes Peruvian
มีบ้านพักจำนวนมากสำหรับคนงานที่ยากจน
มาแสวงหางานในเมืองแร่ทองคำ
มีชาวบ้านอาศัยทำมาหากินที่เมืองนี้
ประมาณ 30,000 กว่าคน
งานที่ทำคือการขุดหินแร่ทองคำ
และเก็บเล็กผสมน้อยหินแร่ทองคำ
ที่มี % ทองคำขนาดเล็กมากฝังอยู่ภายใน
ที่นี้มีแรงดึงดูดคนงานที่หมดหวังกับชีวิต
เพื่อมาแสวงหาความร่ำรวยจากทองคำ
การจ้างงานที่เหมืองทองที่อยู่ใกล้เคียง
ของบริษัท Ananea จะมีระบบการจ่ายค่าแรง
ที่ไม่ซ้ำแบบใครในโลกเรียกว่า Cachorreo
คนงานจะต้องทำงานเป็นเวลา 30 วัน
โดยไม่มีการจ่ายค่าแรงแต่อย่างใด
แต่ในวันที่ 31 คนงานประเภทนี้
จะได้รับอนุญาตให้ขนหินแร่จากเหมือง
เท่าที่จะสามารถขนไปได้เลย
เพื่อนำไปสกัดหาแร่ทองคำ
(วัดดวงว่าใครได้มากได้น้อย)
แม้ว่าจะจ่ายค่าแรงไม่ใช่แบบดั้งเดิม
เท่าที่ทำกันมาในหลายชาติหลายภาษา
แต่ระบบการชำระเงินดังกล่าว
คนงานยังแห่ไปทำงานที่เมือง La Rinconada
ทำให้จำนวนคนงานพุ่งสูงขึ้นกว่า 230%
ในทศวรรษที่ผ่านมา
แม้ว่าะพื้นที่แห่งนี้จะเป็นหนึ่งในพื้นที่
ทางภูมิศาสตร์ที่เข้าออกยากลำบากมาก
ทางเข้าออกมีเพียงวิธีการเดียว คือ
ใช้รถตู้ หรือรถบรรทุก ที่ต้องใช้เวลาหลายวัน
ในเส้นทางที่คดเคี้ยว ผ่านหุบเหว ภูเขา
ไปตามเส้นทางที่ตัดเข้ายังเหมืองแร่แห่งนี้
ไม่ใช่เส้นทางเดินทางที่ง่ายดายแต่อย่างใดเลย
โรคภัยไข้เจ็บหลักของที่นี่คือ
อาการเจ็บป่วยกับการอยู่บนพื้นที่
ในระดับความสูงเหนือท้องทะเล
และไม่เหมาะสมกับนักท่องเที่ยว
ที่บอบบางในการเดินทางไปยังสถานที่แห่งนี้
รวมทั้งสภาพความเป็นอยู่ทีเลวร้าย
เพราะอาหารการกินขาดแคลน
จากการขนส่งประการหนึ่ง
และการอาศัยอยู่บนพื้นที่สูงอีกประการหนึ่ง
เมืองแห่งนี้ระบบสาธารณูปโภคขาดแคลน
เพราะการขยายเมืองไร้ทิศไร้ทาง
ไม่มีประปา เครื่องทำความร้อน พื้นดินปนเปื้อน
ด้วยสารปรอทจากการทำเหมือง
การกำจัดขยะไม่มีบริการเป็นทางการ
กลายเป็นความรับผิดชอบของชาวบ้านทำกันเอง
ในหลาย ๆ พื้นที่ปล่อยปละให้ขยะท่วมท้น
เมื่อรำคาญกับขยะกับกลิ่นของขยะที่ท่วมท้น
ชาวบ้านบางคนก็ขนไปฝังที่นอกเมือง
หรือบางคนก็เผากันบนท้องถนนเลย
.
.
สถานีวิจัยของอเมริกาฐาน McMurdo
ถูกสร้างขึ้นบนชายฝั่งของทวีปแอนตาร์กติกา
ตอนปลายสุดทางตอนใต้ของ Ross Island
ที่มีพื้นที่ประมาณ 45 ไมล์ โดยใช้งานร่วมกับ
สถานีวิจัย New Zealand Scott base
มีภูเขาไฟ Mount Erebus ยังปะทุอยู่
มีความสูง 12,448 ฟุต(3,794 เมตร)
เป็นแหล่งพักพิงของ นกเพนกวินจักรพรรดิ์
นกเพนกวิน Adelie และฝูงนก Skua
ภูมิภาคแห่งนี้ถูกค้นพบครั้งแรก
โดย James Clark Ross
ระหว่างการเดินทางช่วงปี 1839-1843
โดยเรือ Erebus and Terror
(ม่านควันและความกลัว)
ชื่อสถานีวิจัย McMurdo ถูกตั้งตามชื่อ
พลเรือโท Archibald McMurdo
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าแอนตาร์กติกา
เป็นหนึ่งในสถานที่ห่างไกลที่สุดของโลก
เป็นเขตพื้นที่ที่ไม่ชนพื้นเมืองอาศัยอยู่เลย
แต่จะมีคนอยู่ราว 1,200 คนในช่วงฤดูร้อน
และเหลือคนทำงานราว 250 คนในช่วงฤดูหนาว
ส่วนมากนักวิทยาศาสตร์/คนงานอาศัยอยู่ที่นั่น
เพื่อทำงานวิจัย แม้ว่าจะมีจำนวนคนไม่มาก
แต่ McMurdo เป็นสถานีวิจัยทางธรรมชาติ
ที่ใหญ่ที่สุดทางชีววิทยาบกและทางทะเล
ธรณีวิทยา อุตุนิยมวิทยา ฟิสิกส์
บรรยากาศชั้นบน การศึกษาทางทะเลน้ำแข็ง
รังสีคอสมิก ธรณีฟิสิกส์แร่ธาตุศิลา
ธรณีวิทยาและธรณีสัณฐาน
แม้ว่าสถานีวิจัยแห่งนี้จะอยู่ห่างไกลเมืองใหญ่
แต่มีสาธารณูปโภคและสิ่งอำนวยความสะดวก
ความสบายภายในเมืองเท่าที่เมืองที่ทันสมัย
ท่าเรือลอย(ท่าเรือ) ไว้ขนส่งอาหารแช่แข็ง/น้ำจืด
อาคารห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์
อาคารโรงงานโรงรถ/อาคารทางการแพทย์
สิ่งอำนวยความสะดวก หอพักและที่นอน
ห้องครัวโรงอาหาร/สิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ
มีทางวิ่งขึ้นลงของเครื่องบิน 3 เลน
เพื่อให้การขนส่งวัสดุอุปกรณ์อาหาร
เครื่องมือเครื่องใช้ทำได้สะดวกมากขึ้น
นักวิทยาศาสตร์/คนงานที่อยู่ที่สถานีแห่งนี้
จะมีโรงยิม โทรทัศน์ สนามร่อนจานบิน 9 จุด
แม้ว่าจะอยู่สุดปลายขอบโลก
แต่การเดินทางด้วยเรือจะใช้เวลาหลายเดือน
กว่าจะมาถึงที่หมายปลายทางนี้ได้
.
.
ออสเตรเลียเป็นประเทศที่มีความหนาแน่น
ของประชากรต่อพื้นที่ประเทศต่ำมาก
และมีความงดงามตามธรรมชาติมากเช่นกัน
สถานที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่ง
คือ คาบสมุทร Cape York Peninsula
มีประชากรราว 18,000 ในเขตภูมิภาคแห่งนี้
เป็นหนึ่งในเขตพื้นที่ด้อยพัฒนามากที่สุด
แห่งหนึ่งของโลก แต่ในทางกลับกัน
หมายความว่า พื้นที่แห่งนี้อุดมไป
ด้วยความงดงามตามธรรมชาติ
แต่เส้นทางเข้าออกก็ยังยากมากที่สุด
ในการจะไปให้ถึงที่จุดหมายปลายทางได้
ที่นี่ดั้งเดิมจะเป็นชาวพื้นเมือง Aborigine
มีแต่บรรดานักท่องเทียวที่รักการผจญภัยเท่านั้น
เพราะต้องค้นหาเส้นทางธุรกันดารเดินทาง
เพื่อเข้าไปท่องเที่ยวด้วยรถบรรทุก/รถจิ๊ป
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูฝนที่น้ำท่วม
ยิ่งทำให้เส้นทางเดินทางยิ่งลำบากเข้าไปอีก
แม้ว่าจะมีรถบรรทุก/รถขับเคลื่อน 4 ล้อ
จะวิ่งได้ในเขตพื้นที่แห่งนี้ได้
แต่หลายพื้นที่ยังคงไม่เคยมีคนเข้าไปถึงได้เลย
โดยความจริงแล้วพื้นที่บางส่วน
มีแต่เพียงการสำรวจผ่านทางเฮลิคอปเตอร์
.
.
.
Australia's Cape York Peninsula
A Journey to The Tip
.
สถานที่-ไปมาหาสู่ลำบาก
สถานที่ผู้คนต้องการไปเยี่ยมชมจำนวนมาก
ขณะเดียวกันยังมีสถานที่อีกหลายแห่ง
ที่มีระยะทางห่างไกลมากตามธรรมชาติ
สถานที่เหล่านี้ไม่ใช่ไม่งดงาม
หรือไม่เหมาะสมกับการถ่ายภาพ
แต่การเดินทางไปยังสถานที่เหล่านี้
ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ ในการไปมาหาสู่เลย
แม้ว่าเทคโนโลยีและการคมนาคมในปัจจุบัน
จะทำให้การสัญจรไปมาเป็นเรื่องง่ายแล้วก็ตาม
แต่สถานที่เหล่านี้ก็ยังไม่ใช่สถานที่ติดอันดับเลย
มีแต่นักท่องเที่ยวที่ตั้งใจจริง ๆ จึงจะไปกัน
.
10. Easter Island
.
.
Ⓒ http://bit.ly/2TlxIjA
.
.
Ⓒ http://bit.ly/2ViSgex
.
.
Ⓒ http://bit.ly/2TmQLdw
.
.
Ⓒ http://bit.ly/2TkvCjM
.
.
Ⓒ http://bit.ly/2TmQuXT
.
เกาะที่รู้จักกันดีว่าเป็นเกาะ
ที่โดดเดี่ยวกลางมหาสมุทรแปซิฟิก
มีพื้นที่บนเกาะประมาณ 70 ตารางไมล์
181.3 ตารางกิโลเมตร หรือ 113,312.5 ไร่
ระยะทางประมาณ 2,000 ไมล์
3,218.69 กิโลเมตร นอกชายฝั่งทะเลของชิลี
เกาะอีสเตอร์ อีกชื่อหนึ่งเรียกว่า Rapa Nui
มีชาวบ้านอาศัยอยู่ประมาณ 4,000 คน
พื้นที่บนเกาะขนาดเล็กมีป่าไม้เบญจพรรณ
มีต้นไม้ขนาดเล็กจำนวนเพียงเล็ก ๆ น้อย ๆ
มีเรื่องราวและตำนานที่เล่าขานกันมาว่า
มีการตัดไม้ทำลายป่า
โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้นไม้ขนาดใหญ่
เพราะคนที่อาศัยอยู่ในช่วงต้น
ต้องทำเลื่อนไม้ขนาดใหญ่
เพื่อทำการขนย้ายรูปปั้นหินยักษ์หน้าคน
ไปวางหน้าชายหาดเพื่อแสดงอำนาจ
สิ่งที่เห็นและเป็นอยู่ในตอนนี้คือ
จะมีหินแกะสลักรูปหัวคนขนาดใหญ่หลายหัว
วางกระจัดกระจายอยู่ทั่วเกาะ
และเป็นแหล่งสำคัญสำหรับการท่องเที่ยว
นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าการตัดไม้ทำลายป่า
เพื่อทำเป็นไม้เลื่อนขนย้ายรูปปั้นหัวคนขนาดยักษ์
เป็นการทำลายสภาพแวดล้อม
และระบบนิเวศน์วิทยาทางธรรมชาติในเกาะ
ทำให้พินาศในระยะยาวจากอดีตจนถึงปัจจุบัน
การเดินทางไปที่นี่ที่สะดวกคือ
เครื่องบินขนาดเล็กแบบเช่าเหมาลำ
จากสนามบิน Santiago Chile
.
.
หายนะของเกาะอีสเตอร์
.
.
การใช้ไม้ทำไม้เลื่อนหัวยักษ์
.
การขนย้ายหัวยักษ์ด้วยแรงเฉื่อยและเชือก
.
.
9. La Rinconada Peru
.
.
Ⓒ http://bit.ly/2SseCrW
.
.
.
.
.
.
.
.
.
Ⓒ http://bit.ly/3zD37oy
.
เมืองที่ได้รับการกล่าวขานกันว่า
เป็นเมืองที่อยู่บนสูงที่สุดในโลก
ตั้งอยู่ในเทือกเขา Andes Peruvian
มีบ้านพักจำนวนมากสำหรับคนงานที่ยากจน
มาแสวงหางานในเมืองแร่ทองคำ
มีชาวบ้านอาศัยทำมาหากินที่เมืองนี้
ประมาณ 30,000 กว่าคน
งานที่ทำคือการขุดหินแร่ทองคำ
และเก็บเล็กผสมน้อยหินแร่ทองคำ
ที่มี % ทองคำขนาดเล็กมากฝังอยู่ภายใน
ที่นี้มีแรงดึงดูดคนงานที่หมดหวังกับชีวิต
เพื่อมาแสวงหาความร่ำรวยจากทองคำ
การจ้างงานที่เหมืองทองที่อยู่ใกล้เคียง
ของบริษัท Ananea จะมีระบบการจ่ายค่าแรง
ที่ไม่ซ้ำแบบใครในโลกเรียกว่า Cachorreo
คนงานจะต้องทำงานเป็นเวลา 30 วัน
โดยไม่มีการจ่ายค่าแรงแต่อย่างใด
แต่ในวันที่ 31 คนงานประเภทนี้
จะได้รับอนุญาตให้ขนหินแร่จากเหมือง
เท่าที่จะสามารถขนไปได้เลย
เพื่อนำไปสกัดหาแร่ทองคำ
(วัดดวงว่าใครได้มากได้น้อย)
แม้ว่าจะจ่ายค่าแรงไม่ใช่แบบดั้งเดิม
เท่าที่ทำกันมาในหลายชาติหลายภาษา
แต่ระบบการชำระเงินดังกล่าว
คนงานยังแห่ไปทำงานที่เมือง La Rinconada
ทำให้จำนวนคนงานพุ่งสูงขึ้นกว่า 230%
ในทศวรรษที่ผ่านมา
แม้ว่าะพื้นที่แห่งนี้จะเป็นหนึ่งในพื้นที่
ทางภูมิศาสตร์ที่เข้าออกยากลำบากมาก
ทางเข้าออกมีเพียงวิธีการเดียว คือ
ใช้รถตู้ หรือรถบรรทุก ที่ต้องใช้เวลาหลายวัน
ในเส้นทางที่คดเคี้ยว ผ่านหุบเหว ภูเขา
ไปตามเส้นทางที่ตัดเข้ายังเหมืองแร่แห่งนี้
ไม่ใช่เส้นทางเดินทางที่ง่ายดายแต่อย่างใดเลย
โรคภัยไข้เจ็บหลักของที่นี่คือ
อาการเจ็บป่วยกับการอยู่บนพื้นที่
ในระดับความสูงเหนือท้องทะเล
และไม่เหมาะสมกับนักท่องเที่ยว
ที่บอบบางในการเดินทางไปยังสถานที่แห่งนี้
รวมทั้งสภาพความเป็นอยู่ทีเลวร้าย
เพราะอาหารการกินขาดแคลน
จากการขนส่งประการหนึ่ง
และการอาศัยอยู่บนพื้นที่สูงอีกประการหนึ่ง
เมืองแห่งนี้ระบบสาธารณูปโภคขาดแคลน
เพราะการขยายเมืองไร้ทิศไร้ทาง
ไม่มีประปา เครื่องทำความร้อน พื้นดินปนเปื้อน
ด้วยสารปรอทจากการทำเหมือง
การกำจัดขยะไม่มีบริการเป็นทางการ
กลายเป็นความรับผิดชอบของชาวบ้านทำกันเอง
ในหลาย ๆ พื้นที่ปล่อยปละให้ขยะท่วมท้น
เมื่อรำคาญกับขยะกับกลิ่นของขยะที่ท่วมท้น
ชาวบ้านบางคนก็ขนไปฝังที่นอกเมือง
หรือบางคนก็เผากันบนท้องถนนเลย
.
.
La Rinconado | El Peor lugar para vivir
.
.
8. McMurdo Station, Antarctica
.
.
Ⓒ http://bit.ly/2TkKvTn
.
.
.
.
Ⓒ http://bit.ly/2QZvj1k
.
.
Ⓒ http://bit.ly/2EW57NX
.
สถานีวิจัยของอเมริกาฐาน McMurdo
ถูกสร้างขึ้นบนชายฝั่งของทวีปแอนตาร์กติกา
ตอนปลายสุดทางตอนใต้ของ Ross Island
ที่มีพื้นที่ประมาณ 45 ไมล์ โดยใช้งานร่วมกับ
สถานีวิจัย New Zealand Scott base
มีภูเขาไฟ Mount Erebus ยังปะทุอยู่
มีความสูง 12,448 ฟุต(3,794 เมตร)
เป็นแหล่งพักพิงของ นกเพนกวินจักรพรรดิ์
นกเพนกวิน Adelie และฝูงนก Skua
ภูมิภาคแห่งนี้ถูกค้นพบครั้งแรก
โดย James Clark Ross
ระหว่างการเดินทางช่วงปี 1839-1843
โดยเรือ Erebus and Terror
(ม่านควันและความกลัว)
ชื่อสถานีวิจัย McMurdo ถูกตั้งตามชื่อ
พลเรือโท Archibald McMurdo
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าแอนตาร์กติกา
เป็นหนึ่งในสถานที่ห่างไกลที่สุดของโลก
เป็นเขตพื้นที่ที่ไม่ชนพื้นเมืองอาศัยอยู่เลย
แต่จะมีคนอยู่ราว 1,200 คนในช่วงฤดูร้อน
และเหลือคนทำงานราว 250 คนในช่วงฤดูหนาว
ส่วนมากนักวิทยาศาสตร์/คนงานอาศัยอยู่ที่นั่น
เพื่อทำงานวิจัย แม้ว่าจะมีจำนวนคนไม่มาก
แต่ McMurdo เป็นสถานีวิจัยทางธรรมชาติ
ที่ใหญ่ที่สุดทางชีววิทยาบกและทางทะเล
ธรณีวิทยา อุตุนิยมวิทยา ฟิสิกส์
บรรยากาศชั้นบน การศึกษาทางทะเลน้ำแข็ง
รังสีคอสมิก ธรณีฟิสิกส์แร่ธาตุศิลา
ธรณีวิทยาและธรณีสัณฐาน
แม้ว่าสถานีวิจัยแห่งนี้จะอยู่ห่างไกลเมืองใหญ่
แต่มีสาธารณูปโภคและสิ่งอำนวยความสะดวก
ความสบายภายในเมืองเท่าที่เมืองที่ทันสมัย
ท่าเรือลอย(ท่าเรือ) ไว้ขนส่งอาหารแช่แข็ง/น้ำจืด
อาคารห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์
อาคารโรงงานโรงรถ/อาคารทางการแพทย์
สิ่งอำนวยความสะดวก หอพักและที่นอน
ห้องครัวโรงอาหาร/สิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ
มีทางวิ่งขึ้นลงของเครื่องบิน 3 เลน
เพื่อให้การขนส่งวัสดุอุปกรณ์อาหาร
เครื่องมือเครื่องใช้ทำได้สะดวกมากขึ้น
นักวิทยาศาสตร์/คนงานที่อยู่ที่สถานีแห่งนี้
จะมีโรงยิม โทรทัศน์ สนามร่อนจานบิน 9 จุด
แม้ว่าจะอยู่สุดปลายขอบโลก
แต่การเดินทางด้วยเรือจะใช้เวลาหลายเดือน
กว่าจะมาถึงที่หมายปลายทางนี้ได้
.
.
.
7. Cape York Peninsula Australia
.
.
Ⓒ http://bit.ly/2QcpQyN
.
.
Ⓒ https://go.nasa.gov/2GKyYLE
.
.
Ⓒ https://ab.co/2sbjPZX
.
.
.
Ⓒ http://bit.ly/2To25WJ
.
.
Ⓒ http://bit.ly/2AqAm0y
.
ออสเตรเลียเป็นประเทศที่มีความหนาแน่น
ของประชากรต่อพื้นที่ประเทศต่ำมาก
และมีความงดงามตามธรรมชาติมากเช่นกัน
สถานที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่ง
คือ คาบสมุทร Cape York Peninsula
มีประชากรราว 18,000 ในเขตภูมิภาคแห่งนี้
เป็นหนึ่งในเขตพื้นที่ด้อยพัฒนามากที่สุด
แห่งหนึ่งของโลก แต่ในทางกลับกัน
หมายความว่า พื้นที่แห่งนี้อุดมไป
ด้วยความงดงามตามธรรมชาติ
แต่เส้นทางเข้าออกก็ยังยากมากที่สุด
ในการจะไปให้ถึงที่จุดหมายปลายทางได้
ที่นี่ดั้งเดิมจะเป็นชาวพื้นเมือง Aborigine
มีแต่บรรดานักท่องเทียวที่รักการผจญภัยเท่านั้น
เพราะต้องค้นหาเส้นทางธุรกันดารเดินทาง
เพื่อเข้าไปท่องเที่ยวด้วยรถบรรทุก/รถจิ๊ป
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูฝนที่น้ำท่วม
ยิ่งทำให้เส้นทางเดินทางยิ่งลำบากเข้าไปอีก
แม้ว่าจะมีรถบรรทุก/รถขับเคลื่อน 4 ล้อ
จะวิ่งได้ในเขตพื้นที่แห่งนี้ได้
แต่หลายพื้นที่ยังคงไม่เคยมีคนเข้าไปถึงได้เลย
โดยความจริงแล้วพื้นที่บางส่วน
มีแต่เพียงการสำรวจผ่านทางเฮลิคอปเตอร์
.
.
Australia's Cape York Peninsula
A Journey to The Tip
.