นักวิทยาศาสตร์จีนเร่งพัฒนามันฝรั่งที่สามารถทนต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่ร้อนขึ้น หลังศึกษาวิจัยพบอากาศร้อนทำให้มันฝรั่งมีขนาดเล็กลง ซึ่งเป็นสัญญาณอันตรายของความมั่นคงทางอาหารในอนาคต

การวิจัยนี้เกิดขึ้นที่ศูนย์วิจัยทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงปักกิ่ง โดยนักวิทยาศาสตร์ได้ทดลองปลูกมันฝรั่งเป็นเวลาสามเดือน ภายใต้สภาวะควบคุมที่จำลองการคาดการณ์อุณหภูมิที่สูงขึ้นในช่วงปลายศตวรรษ 

โดยทีมวิจัยได้ควบคุมอุณหภูมิห้องให้สูงกว่าอุณหภูมิเฉลี่ยปัจจุบันของพื้นที่ปลูกมันฝรั่งทั่วไปราว 3 องศาเซลเซียส พบว่ามันฝรั่งมีขนาดเล็กลง และหนึ่งในมันฝรั่งที่พบมีขนาดเล็กเท่า “ไข่นกกระทา” เท่านั้น

จีนถือเป็นหนึ่งในผู้ผลิตมันฝรั่งรายใหญ่ที่สุดของโลก อย่างไรก็ตามจากปัญหาภาวะโลกร้อน และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กำลังผลักดันให้อุณหภูมิโลกสูงขึ้นถึงระดับอันตราย ซึ่งนอกจากจะส่งผลกระทบต่อการทำให้เกิดภัยแล้งและน้ำท่วมรุนแรงขึ้น ยังส่งผลถึงความมั่นคงทางอาหารด้วย

ด้วยเหตุนี้จึงมีองค์กรและบริษัทด้านการเกษตรต่าง ๆ ในจีนที่เร่งมือกันหาทางปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมทางการเกษตรใหม่ เช่นฟาร์มมันฝรั่งบางแห่งในประเทศได้ลงทุนในระบบการปลูกพืชแบบ แอโรโพนิกส์ (aeroponic) หรือการปลูกพืชไร้ดิน โดยให้รากของมันลอยอยู่ในอากาศภายใต้สภาวะควบคุม 

ทั้งนี้ทีมวิจัยจากศูนย์มันฝรั่งนานาชาติ (International Potato Center) ในปักกิ่ง ได้ร่วมมือกับรัฐบาลจีน เพื่อพัฒนาพันธุ์มันฝรั่งที่ทนความร้อน รวมถึงหาแนวทางแก้ไขและกลยุทธ์อื่น ๆ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรให้สามารถปรับการทำเกษตรกรรมในยุคที่อากาศร้อนขึ้นเรื่อย ๆ 

โดยทีมวิจัยคาดว่าภายในศตวรรษหน้า เกษตรกรชาวจีนอาจจะต้องเปลี่ยนแปลงวิธีการทำเกษตรกรรมแบบเดิม ๆ โดยเปลี่ยนไปปลูกพืชในช่วงฤดูใบไม้ผลิ แทนที่จะเป็นช่วงต้นฤดูร้อน หรือย้ายไปปลูกในที่สูงขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงความร้อน เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกำลังเกิดขึ้น

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่นี่ https://www.tnnthailand.com/news/tech/183525/