ผมเชื่อว่าเราทุกคนเวลาเห็นตัวละครในหนังทานอาหาร เราก็มักจะจินตนาการตามไปว่ามันรสชาติเป็นอย่างไร สำหรับซีรี่ส์นี้ ผมจะชวนทุกคนมาตามรอยเมนูอาหารจากหนังและทีวีซีรี่ส์ต่างๆ ที่หลายคนน่าจะคุ้นตา เพื่อที่เราจะได้รับรู้รสชาติของอาหารเหล่านั้นด้วยตัวเอง แล้วมาดูว่ามันจะอร่อยเหมือนที่เราจินตนาการไว้รึเปล่า มาลองหาสูตรแล้วทำชิมไปด้วยกันครับ =) -นายครัว
สามารถอ่านรายละเอียดบทความด้านล่าง หรือกดดูในคลิปได้เลยนะครับ:
เมนูทะลุจอ ตอน 1
รายละเอียดสูตรและวิธีทำ
ติดตามเนื้อหาเพิ่มเติมได้ที่:
ขอบคุณครับ =)
เมนูทะลุจอ
ตอนที่ 1
Clementine Cake เค้กส้มจากหนังเรื่อง The Secret Life of Walter Mitty
ตอนที่ผมคิดว่าจะเริ่มซีรี่ส์นี้ด้วยเมนูอะไร ผมคิดถึงหนังหลายเรื่อง เรื่องแรกที่คนหลายคนคงคิดถึงน่าจะเป็นเรื่อง รัดทาทูอี้ (Ratatouille) ซึ่งผมก็นึกถึงเรื่องนี้เหมือนกัน แต่มีคนทำในยูทูปเยอะแล้ว บวกกับความที่ผมอยากจะทำอะไรที่ตัวเองยังไม่เคยทำและไม่เคยทาน ก็เลยมาลงเอยที่หนังเรื่องโปรดของผมเรื่องหนึ่ง และหนังเรื่องนี้ก็คือ The Secret Life of Walter Mitty หนังเรื่องนี้ไม่ใช่หนังเกี่ยวกับอาหาร แต่มันมีเมนูที่ผมเห็นละอยากลองชิม นั่นก็คือ เค้กส้ม Clementine Cake
เล่าหนังคร่าวๆ
หนังเรื่องนี้เกี่ยวกับพระเอกที่ชื่อว่า วอลเทอร์ ซึ่งเค้าเป็นคนทำงานอยู่ในห้องล้างฟิล์มของนิตยสาร Life ซึ่งกำลังจะถูกปรับเปลี่ยนไปเป็นนิตยสารออนไลน์ แต่แล้วภาพที่จะขึ้นปกของการพิมพ์ครั้งสุดท้ายกลับหายไป วอลเทอร์คนที่ไม่เคยเดินทางไปไหนนอกจากบ้านกับที่ทำงาน จึงจำเป็นต้องเดินทางออกไปตามหาช่างภาพที่ส่งฟิล์มแผ่นนั้นมาให้เค้า การเดินทางครั้งนี้พาวอลเทอร์ไปยังสถานที่ต่างๆ ที่เค้าไม่เคยคิดฝันจะไป และมันก็ทำให้ชีวิตเค้าเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
เข้าเรื่องของอาหาร
เมนูวันนี้คือ เค้กส้ม หรือที่ในหนังเรียกว่า Clementine Cake เป็นเค้กที่แม่ของวอลเทอร์ทำให้เขาวันเกิดเพราะว่ามันเป็นเค้กโปรดของเขา ระหว่างที่วอลเตอร์เดินทาง เจ้าเค้กส้มก็จะโผล่มาในเรื่องแบบที่เขาเองก็ไม่ได้คาดคิด จะเรียกว่ามันเป็นไอเท็มสำคัญตัวหนึ่งในเรื่องก็ว่าได้
ผมเริ่มจากหาสูตรของเค้กส้มตัวนี้บนอินเทอร์เน็ต ซึ่งก็หาได้ไม่ยาก ปัญหาของการทำอาหารจากสูตรในอินเทอร์เน็ตคือมันมักจะออกมาไม่เหมือนกับที่เราคาดไว้เท่าไหร่ ผมจึงต้องเอามาปรับอีกนิด สิ่งแรกที่ต้องปรับคือส้ม เพราะในเมืองไทยหาส้ม Clementine ไม่ได้ เราจึงต้องใช้ส้มแมนดารินแทน จริงๆ แล้วสามารถใช้ส้มที่เปลือกบางได้หลายชนิด เหตุที่ไม่ควรใช้ส้มเปลือกหนาเพราะว่าเวลาเอาไปเชื่อมทั้งเปลือก จะมีส่วนที่มีรสขมอยู่เยอะกว่า นอกจากส้มแล้ววัตถุดิบอื่นๆ ก็เป็นของที่หาได้ทั่วไป
ถ้าดูจากภาพเค้กในหนัง ทั้งตัวเค้กและส้มจะดูแห้งมาก ซึ่งผมคิดว่าเค้าคงตั้งใจทำให้มันแข็งกว่าปกติ เวลาหยิบจับมันจะได้ง่ายสำหรับนักแสดง แต่ไหนๆ จะทำทั้งที เราก็ต้องให้มันออกมาอร่อยหน่อย อีกสิ่งที่ผมจะปรับจากในหนังคือตัวไอซิ่งเกลส มันดูขาวเกินไปทำให้ดูหวานมาก ผมจะเพิ่มเนยกับเปลือกส้มเข้าไปจะได้หอมส้มและมีสีที่ดูน่าทานมากขึ้น
ลิ้มลองรสชาติ
หลังจากที่ได้ลองชิมต้องบอกว่า มันอร่อยกว่าที่ผมคิดมาก เพราะดูจากรูปในหนังผมก็คิดว่ามันน่าจะเป็นเค้กที่เนื้อแน่นมาก แต่พอได้ทานรู้สึกว่ามันเบาและทานง่ายมาก เนื้อเค้กหอมกลิ่นส้มจากเปลือกส้มที่เราขูดผสมเข้าไปในเนื้อ บวกกับเปลือกส้มที่เราใส่ไปในไอซิ่งเกลซ ตัวส้มเชื่อมอาจจะหวานไปหน่อยถ้าทานชิ้นส้มเปล่าๆ แต่ถ้าทานพร้อมกับเนื้อเค้กจะลงตัวกันได้อย่างดี ผมว่าเค้กตัวนี้เหมาะมากสำหรับทานคู่กับชาร้อน ข้อดีอีกอย่างของเค้กตัวนี้คือสามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้หลายวัน โดยที่รสชาติไม่เปลี่ยนแปลงเลย
ต้องบอกตรงๆ ว่าผมแปลกใจที่เค้กตัวนี้มันออกมาดีกว่าที่ผมคาดไว้มาก ทุกคนที่ผมเอาไปให้ชิมบอกเป็นคำเดียวกันว่ามันอร่อยและทานง่าย ผมเองที่ปกติไม่ได้ชอบเค้กแนวนี้ก็ต้องยอมรับในรสชาติของมัน มันทำให้ผมเข้าใจความรู้สึกของฉากที่วอลเทอร์เอาเค้กไปให้ทหาร ระหว่างที่เค้าต้องเดินทางในประเทศอัฟกานิสถาน สีหน้าของทหารคนนั้นเมื่อได้ทานเค้กตัวนี้บอกความรู้สึกของรสชาติของมันได้ดีจริงๆ
สุดท้ายนี้ขอขอบคุณทุกคนที่อ่านมาถึงตอนจบ สำหรับคนที่อ่านมาถึงจุดนี้ผมจะมาแอบบอกว่า เนื่องจากมีคนหลายคนที่ได้ชิมบอกให้ผมทำมาขายบ้าง ผมก็เลยตั้งใจว่าจะทำเป็นเมนู Limited Edition กับร้านของคนรู้จัก ใครดูแล้วอยากลองชิมแต่ขี้เกียจทำเอง ผมจะบอกพิกัดในเฟสบุกให้ตามไปลองกัน แล้วหวังว่ารสชาติจะทำให้ทุกคนอินกับหนังเรื่องนี้มากขึ้น ถ้าใครยังไม่เคยดู ผมแนะนำให้ลองหาดู หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่ดีมากๆ มันอาจจะเป็นแรงบันดาลใจ ทำให้คุณหลุดจากกรอบของชีวิตได้ไม่มากก็น้อย
ขอให้ทุกคนทานให้อิ่มใจ =)
-นายครัว
------------------------------------------------------
เค้กส้ม Clementine Cake
(สำหรับพิมพ์เค้กขนาด 3 ปอนด์ หน้ากว้าง 9 นิ้ว)
ส้มเชื่อม:
ส้มแมนดาริน 3 ลูก
น้ำตาลทราย 350 กรัม
น้ำเปล่า 175 กรัม
เค้ก:
น้ำตาลทราย 366 กรัม
เนยจืด 256 กรัม
ไข่ไก่ 4 ฟอง
น้ำส้ม 140 กรัม (จากส้มที่คั้น + น้ำส้มคั้นทั่วไป)
แป้งเค้ก 340 กรัม
ผงฟู 1 ช้อนชา
เบกกิ้งโซดา 1 ช้อนชา
บัทเตอมิลค์ 227 กรัม
เปลือกส้มขูดจากส้ม 1 ลูก
ไอซิ่งเกลซ:
น้ำตาลไอซิ่ง 250 กรัม
น้ำส้ม 40 กรัม
น้ำมะนาว 10 กรัม
เปลือกส้มขูดจากส้ม 1 ลูก
____________________________________
วิธีทำ ส้มเชื่อม
1. สไลด์ส้มแมนดาริน หนาประมาณ ½ ซม.
2. ลวกในน้ำเดือด 1 นาที แล้วแช่น้ำแข็ง
3. ผสมน้ำตาลและน้ำเปล่าในหม้อก้นตื้นปากกว้าง คนให้ละลายและตั้งไฟจนเริ่มจะเดือด
4. ใส่ส้มสไลด์ลงไปในน้ำตาล แล้วหรี่ไฟให้น้ำเชื่อมพอเดือด เคี่ยวทิ้งไว้ 90 นาที กลับด้านชิ้นส้มทุก 30 นาที
5. หลังจาก 90 นาที พอชิ้นส้มนิ่มและใส นำชิ้นส้มมาวางบนตะแกรงให้เย็นตัวลง
วิธีทำ เค้กส้ม
1. เตรียมอุ่นเตาอบ ไฟบน-ล่าง อุณหภูมิ 180 C
2. เตรียมพิมพ์เค้ก โดยทาเนยให้ทั่วพิมพ์และรองกระดาษไขที่ก้นพิมพ์และขอบ
3. ร่อนแป้งเค้ก ผงฟู และเบกกิ้งโซดาเข้าด้วยกัน วางพักไว้
4. ขูดเปลือกส้มจากส้ม 2 ลูก แยกครึ่งหนึ่งไว้สำหรับใส่เกลซ อีกครึ่งหนึ่งผสมกับน้ำตาลทราย โดยคลุกให้เข้ากัน
5. ตีน้ำตาลทรายที่ผสมเปลือกส้มกับเนยในเครื่องตีจนเนยฟู
6. ทยอยเติมไข่ไก่ลงในเนยที่ตีกับน้ำตาลจนขี้นฟู ตีจนส่วนผสมเข้ากันดี
7. เติมน้ำส้มลงในส่วนผสมข้อ 6 ผสมจนส่วนผสมเข้ากัน
8. เติมส่วนผสมแป้งที่ร่อนแล้วลงในโถตี ผสมให้เข้ากัน
9. เติมบัทเตอมิลค์ลงในส่วนผสม ตีต่อจนส่วนผสมเข้ากันดี
10. นำส่วนผสมที่ตีเข้ากันดีแล้ว ใส่ลงในพิมพ์เค้กที่เตรียมไว้
11. อบเตาอบที่ไฟ 180°C เป็นเวลาประมาณ 45 นาที ใช้ไม้จิ้มลงตรงกลางเค้กให้แน่ใจว่าเค้กสุกทั่ว
12. เมื่อเค้กสุกแล้วให้นำเค้กออกจากพิมพ์ พักบนตะแกรงพักเค้ก รอให้เค้กเย็น
13. นำส่วนผสมของเกลซ ผสมรวมก้นในอ่างผสม ใช้ตะกร้อคนจนส่วนผสมเช้ากัน
14. เทเกลซลงบนหน้าเค้ก แล้วแต่งหน้าด้วยชิ้นส้มเชื่อมที่ทำไว้ แช่ตู้เย็นให้เกลซอยู่ตัวก่อนจะหั่นเสิร์ฟ
ขอบคุณทุกคนที่อ่านจนจบนะครับ ถ้าชอบดูวีดิโอทำอาหารแบบชิวๆ ฝากกด Like และ Subscribe ที่ช่องยูทูป “Cook’s journal โดยนายครัว” ด้วยนะครับ =)
ติดตามเนื้อหาเพิ่มเติมได้ที่:
#นายครัว #CooksJournal
ขอบคุณครับ =)
มาทำเค้กจากในหนังกัน! เค้กส้ม จากหนัง The Secret Life of Walter Mitty | "เมนูทะลุจอ" ตอน 1 Clementine Cake
สามารถอ่านรายละเอียดบทความด้านล่าง หรือกดดูในคลิปได้เลยนะครับ: