.
ยืมตัวละครคิดถึงมาเขียนต่อค่ะ สมมุติว่าโตแล้ว แฮ่! 🤩🤪
————————————————————————
เก้าโมงเช้าพวกเธอออกมายืนรอรถสองแถวเข้าไปในเมืองที่หน้าบ้านของย่า เนื่องจากบ้านติดกับถนน สุดท้ายบอสก็ได้ไปกับเพื่อน ๆ ยายให้เงินมาด้วยสามร้อยบาท ก็ถือว่าเยอะมากกับค่ารถแค่ 10 บาท
ทั้งสี่คนแต่งตัวเหมือนกัน โดยใส่กางเกงขายาวกับเสื้อยืดคอกลม ผมก็สั้นเท่าติ่งหู จ๋อมตัดหน้าม้าเพียงคนเดียวในกลุ่ม เพราะจ๋อมมีพื้นที่ของหน้าผากเยอะไปหน่อย ฮา แต่ก็น่ารักดี
สองฝาแฝดกับจ๋อมใส่กางเกงวอร์มสีน้ำเงิน เป็นกางเกงวอร์มประจำโรงเรียนของทั้งสามคน ส่วนของเธอใส่กางเกงวอร์มสีดำ ก็เป็นกางเกงวอร์มประจำโรงเรียนของเธออีกนั่นแหละ ทุกคนใส่เสื้อยืดคอกลมเหมือนกัน ทว่าคนละสีคนละลายเท่านั้น สวมรองเท้าแตะแบบคีบ พร้อมกระเป๋าสะพายข้างใบเล็ก ๆ กะทัดรัด
จุดประสงค์เข้าไปในเมืองวันนี้ก็เพื่อพาแพรวไปร้านหนังสือ ที่เหลือคือไปเดินห้างพลาซ่าสาขา 2 กัน นัดกันไว้ตั้งแต่เมื่อวาน เป็นผลพลอยได้ ไหน ๆ ก็ได้เข้ามาแล้ว เอาสักหน่อย
“เข้าในเมืองไปอะไรกัน รีบไปรีบกลับนะ” ย่าคุยกับพวกเธอ ขณะกำลังทอเสื่อกกอยู่
“ไปซื้อหนังสือย่า ไปแป๊บเดียวก็กลับแล้ว” แพรวตอบย่า และคุยเรื่องอื่นไปเรื่อยฆ่าเวลารอรถสองแถวมา กว่าจะมานานมากในแต่ละคัน ยังดีที่รถสองแถวเข้าในเมืองวิ่งตลอดทั้งวัน ไปตอนไหนก็ได้ กลับสักบ่ายแก่ ๆ ก็ยังได้เลย พอมีเวลาให้เที่ยวเล่น
ปี๊ก ๆ ! เสียงแตรรถดังมาแต่ไกล เป็นสัญญาณว่ารถกำลังมาถึงแล้ว
“นั่นใช่รถสองแถวมั้ยน่ะ บีบแตรมาแล้ว” ย่าพูดขึ้น ทันทีที่ได้ยินเสียงคุ้นหู “ส่องดูซิใช่มั้ยน่ะ”
บอสออกไปดูก็พบว่าใช่รถสองแถวจริง ๆ กำลังวิ่งมาทางนี้ “รถสองแถวจริง ๆ ย่า พวกมืงออกมาเร็ว รถมาแล้ว” บอสเรียกเพื่อน ๆ ออกมายืนรอที่ข้างถนน พร้อมกวักมือเรียกรถสองแถว รอคอยด้วยความตื่นเต้น “ย่าเอาหมากพลูมั้ย เอาอะไรมั้ย” บอสหันมาถามย่าก่อนจะขึ้นรถ
“เอามาทำมั้ย หมากพลูที่บ้านก็มี ซื้อหวายมาแกงหน่อยเด้อถ้างั้น”
“จ้า!” แล้วพวกเธอก็เดินไปขึ้นรถ มุ่งหน้าไปยังตัวเมือง กว่าจะถึงก็ใช้เวลานานหน่อย เพราะรถสองแถวแวะรับคนหลายหมู่บ้านตามเส้นทางที่เข้าตัวเมือง
ไม่นานรถสองแถวก็วิ่งถึงตัวเมือง เข้ามาจอดเที่ยบท่าใกล้ ๆ กับตลาดสด เป็นท่ารถของตำบลเธอ พวกเธอตัดสินใจว่าจะเอายังไงต่อ จากท่ารถไปร้านหนังสือก็ไกลพอสมควร จะนั่งสามล้อเครื่องไป หรือจะเดินไปกันดี สุดท้ายก็ได้บทสรุปว่านั่งสามล้อเครื่องไปดีกว่า ขากลับค่อยเดินมาพลาซ่ากันก็ได้
“จะไปไหนกันหนิ มา ๆ 4 คน 60 ตาไปส่ง” คนขับรถสามล้อกวักมือเรียกเธอ ก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกล ตาน้อยน้องชายของยายเธอเอง ตามาขับรถสามล้อในเมืองหลายปีแล้ว น้องชายคนเล็กสุดของยาย ยังแข็งแรงอยู่
พวกเธอนั่งสามล้อตาน้อยไปร้านหนังสือที่อยู่ใกล้ ๆ โรงเรียนของจ๋อมและสองฝาแฝดนั่นแหละ พาแพรวไปเลือกหาหนังสือที่ต้องการ
“พวกเราไปร้องเพลงกันดีกว่า คนละเพลงสองเพลง” จ๋อมชวน ถึงจ๋อมไม่ชวนพวกเธอก็จะไปกันอยู่แล้ว มาถึงขนาดนี้ มันต้องแวะสักหน่อย ถึงไม่มีอะไรซื้อขอแค่ได้เดินตากแอร์ก็ยังดี ทั้งจังหวัดมีอยู่ห้างเดียวนี่แหละ
เมื่อเสร็จธุระ พวกเธอตัดสินใจเดินลัดเลาะมายังพลาซ่าสาขา 2 เหมือนไกลแต่ไม่ไกลเท่าไหร่ แป๊บเดียวก็ถึง เมื่อมาถึงห้างพบว่าผู้คนมาใช้บริการกันมากมาย เพราะเป็นวันหยุด วันเสาร์อาทิตย์ และแน่นอน ตู้เกมตู้เพลงคงจะเต็มทุกตู้
เมื่อเดินเข้ามาในห้าง สัมผัสความเย็นของแอร์ มันรู้สึกสดชื่นมากเพราะเดินตากแดดมาตั้งไกล พวกเธอทั้งสี่คนไม่รีรอ รีบพากันเดินขึ้นบรรไดเลื่อนมายังชั้นสองของห้าง เป็นไปตามคาด คนเยอะจริง ๆ ตู้เพลงเต็มทุกตู้ ต้องนั่งรอต่อคิวกันเลยทีเดียว
“เอาไงดีพวกมืง เต็มทุกตู้” แพรวหันมาปรึกษาพวกเธอ
“รอไง ได้มาแล้วสักเพลง” บอสทำหน้าเสียดาย แต่ก็ยังอยากร้องเพลง ไหน ๆ ก็มาแล้ว
“พวกเรานู้น! ไปถ่ายรูปสติ๊กเกอร์กันมั้ย ออกเงินกัน” พิมพ์หันซ้ายหันขวา มองเห็นร้านถ่ายรูปสติ๊กเกอร์กันพอดี โหลละไม่กี่บาท ออกเงินกันเฉลี่ยแล้วตกคนละไม่กี่สิบบาทเอง
“เอามั้ยบอส” จ๋อมหันมาถามเธอ บอสดูเงินสามร้อยบาทที่หักค่ารถไปแล้ว
“เอาก็เอา! ปะ ร้านไหนดี”
“ร้านนี้ดีกว่ากูเคยพาเพื่อนกูมาถ่าย ฉากสวยดี” พวกเธอเดินเลือกร้านที่ฉากสวย ๆ เพื่อถ่ายรูปสติ๊กเกอร์กัน สุดท้ายก็ไปจบที่ร้านท้ายสุดนั่นแหละ
“ถ่ายรูปสติ๊กเกอร์ค่ะพี่ เอาโหลนึง”
“ยังไง ถ่ายพร้อมกัน 4 คนเลยเหรอ”
“ค่ะ!” แพรวคุยตกลงกับเจ้าของร้าน
“โอเค! เก๊กท่าได้สี่ท่านะครับ แต่งตัวกันก่อนมั้ย เอาหนึ่งโหล หรือครึ่งโหล ถ้าเอาครึ่งโหลภาพก็จะใหญ่หน่อย ” เจ้าของร้านต้อนรับอย่างดี
“เอาหนึ่งโหลค่ะ จะได้แบ่งกันลงตัวคนละ 3 ภาพ” บอสชี้แจงกับเจ้าของร้าน ก่อนจะพากันเก๊กท่าถ่ายรูปตามใจชอบ พอถ่ายเสร็จรอไม่นานก็ได้รูปมา พวกเธอแบ่งกันคนละ 3 รูป เก็บไว้เป็นที่ระลึก
“มืง! อี่จ๋อมมืงรีบไปจองตู้เพลงเลย นั่นตู้นั้นว่างแล้ว” ทันทีที่แพรวมองเห็นคนข้างในเดินออกมาจากตู้เพลง คงจะเงินหมดกันแล้ว จึงรีบบอกให้จ๋อมรีบวิ่งไปจอง ส่วนตนจะไปแลกเหรียญก่อน
เธอ จ๋อม และพิมพ์ต่างพากันรีบวิ่งไปจองตู้เพลงตู้นั้น ส่วนแพรวทำหน้าที่ไปแลกเหรียญสิบมาหยอด แพรวแลกมาหนึ่งร้อยบาทพอดี หมดนี่กลับ ใครจะร้องกี่เพลงก็แค่จ่ายเงินเธอมาแค่นั้น
ตอนนี้แค่บ่ายโมงเอง มีเวลาเหลือเฟือสำหรับเล่นในห้าง ต่างคนต่างสลับกันร้องคนละเพลงสองเพลง กฎของตู้เพลงคือ ถ้าใครร้องได้เพราะ 90 คะแนนขึ้นจะได้ร้องฟรีอีกเพลง ทุกคนที่มาร้องต่างหวังเพลงฟรีกันทั้งนั้น รวมทั้งพวกเธอวันนี้ด้วย
“แพรว ๆ หาเพลงพี่ดา เอ็นโดฟิน ให้กูหน่อย” บอสบอกให้แพรวหาเพลงไว้รอเธออีกเพลง ขอร้องอีกเพลงก่อนจะเปลี่ยนให้จ๋อมกับพิมพ์ พูดใส่ไมค์ขณะรอท่อนโซโล่ของเพลงที่ร้องอยู่ตอนนี้ “เมื่อเขามาฉันจะไป”
“เจอแล้วมืง รหัสอะไรหนิ 632573 เมื่อเขามาฉันจะไป” แพรวทวนเมื่อเปิดเจอเพลงที่บอสบอกให้หาไว้รอ พอร้องเพลงจบก็ต่อด้วยเพลงนี้ ก่อนจะเป็นคิวของจ๋อม
พวกเธออยู่ในตู้เพลงกันชั่วโมงกว่า ๆ จนเหรียญหมด แถมได้ร้องฟรีก็หลายเพลง โดยเฉพาะจ๋อมเสียงดีกว่าใคร ได้เพลงฟรีเยอะสุด
“มืงจะบ่ายสามแล้วกลับเถอะ เดี๋ยวรถหมดจะยุ่งนะ” บอสชวนเพื่อน ๆ กลับ ไหนจะต้องเดินตลาดซื้อของมาฝากให้ย่าอีก ที่ย่าสั่งไว้เมื่อเช้า
“กูก็ว่างั้นแหละ ปะกลับกันเถอะ” แพรวเห็นด้วย เมื่อเห็นพ้องต้องกันก็พากันเดินทางกลับ โดยการเดินเหมือนเดิม เดินข้ามสะพานลอยมายังตลาดสดใกล้นิดเดียว ข้ามตลาดสดมาอีกฝั่งก็เป็นท่ารถหมู่บ้านของเธอ ก่อนจะกลับพวกเธอเดินซื้อของที่ย่าฝากให้เรียบร้อย
เมื่อพวกเธอมาถึงท่ารถสองแถว เหลือรถจอดรออยู่สองคันพอดี บอสโล่งอกนึกว่าจะไม่ทันรถรอบสุดท้ายเสียแล้ว พวกเธอเข้าไปนั่งรอในรถ รอเวลารถออกอย่างมีความสุข เธอซื้อส้มเขียวหวานไปฝากน้องบีมและพี่สาวกับพี่ชายทั้งสี่คนด้วย
“บอสมืงไปทำอะไรทั้งวันในเมือง ไปตั้งแต่เช้าจนบ่ายพึ่งมา” พอกลับมาถึงบ้านโดนยายบ่นนิดหน่อย ทว่าก็ไม่ได้ดุอะไร
“ก็บอกว่าพาอี่แพรวไปซื้อหนังสือและไปโรงเรียนมัน “
“เงินให้ไปเหลือมาเท่าไหร่”
“โห่ยายเงินแค่สามร้อยยังจะให้เหลือ” เธอโกหกยายไปงั้นแหละ ความจริงเหลือตั้งห้าสิบบาท เอามาหยอดออมสินไว้ใช้วันที่ขอเงินยายไม่ได้
...
“พี่ออเคยไปร้องเพลงในตู้เพลงมั้ย “ หลังจากนั่งนึกอะไรไปเรื่อยเปื่อย เธออยากรู้ว่าผู้จัดการของเธอเคยใช้บริการมันมั้ย อีกทั้งถ่ายรูปสติ๊กเกอร์ด้วย
“เคยสิแก! โห่อรวีนี่ประจำ หลังเลิกเรียน ฮา” ผู้จัดการของเธอเป็นฝ่ายโม้คืน เล่าถึงอดีตตอนเป็นวัยทีนให้ฟัง “นอกจากไปร้องเพลงที่ตู้เพลงแล้ว ยังถ่ายรูปสติกเกอร์ด้วยนะแก อรวีนี่ติดรูปตัวเองเต็มตู้เสื้อผ้า ฮา “ เธอไม่ต้องโม้เลยคราวนี้ ฟังผู้จัดการโม้อย่างเดียว
บอสนั่งฟังพี่ออโม้ให้ฟังอย่างสนุก ก็ไม่ได้แตกต่างกับชีวิตเธอเท่าไหร่ รูปนั้นก็ยังติดที่ตู้เสื้อผ้าของเธอเช่นกัน เพียงแค่มันเก่าสีซีดจางไปตามกาลเวลาเท่านั้นเอง
เมื่อนึกเพลงพี่ดา เมื่อเขามาฉันจะไป! บอสเปิดฟังเบา ๆ คนเดียวที่โต๊ะทำงาน แล้วนึกถึงบางเรื่อง สำหรับบางคน อือใช่! เมื่อเขามาแล้วเธอก็จะไปไม่แข่งกับใครหรอก...
จบ...
เรื่องสั้น : 13 อีกครั้ง
.
ยืมตัวละครคิดถึงมาเขียนต่อค่ะ สมมุติว่าโตแล้ว แฮ่! 🤩🤪
————————————————————————
เก้าโมงเช้าพวกเธอออกมายืนรอรถสองแถวเข้าไปในเมืองที่หน้าบ้านของย่า เนื่องจากบ้านติดกับถนน สุดท้ายบอสก็ได้ไปกับเพื่อน ๆ ยายให้เงินมาด้วยสามร้อยบาท ก็ถือว่าเยอะมากกับค่ารถแค่ 10 บาท
ทั้งสี่คนแต่งตัวเหมือนกัน โดยใส่กางเกงขายาวกับเสื้อยืดคอกลม ผมก็สั้นเท่าติ่งหู จ๋อมตัดหน้าม้าเพียงคนเดียวในกลุ่ม เพราะจ๋อมมีพื้นที่ของหน้าผากเยอะไปหน่อย ฮา แต่ก็น่ารักดี
สองฝาแฝดกับจ๋อมใส่กางเกงวอร์มสีน้ำเงิน เป็นกางเกงวอร์มประจำโรงเรียนของทั้งสามคน ส่วนของเธอใส่กางเกงวอร์มสีดำ ก็เป็นกางเกงวอร์มประจำโรงเรียนของเธออีกนั่นแหละ ทุกคนใส่เสื้อยืดคอกลมเหมือนกัน ทว่าคนละสีคนละลายเท่านั้น สวมรองเท้าแตะแบบคีบ พร้อมกระเป๋าสะพายข้างใบเล็ก ๆ กะทัดรัด
จุดประสงค์เข้าไปในเมืองวันนี้ก็เพื่อพาแพรวไปร้านหนังสือ ที่เหลือคือไปเดินห้างพลาซ่าสาขา 2 กัน นัดกันไว้ตั้งแต่เมื่อวาน เป็นผลพลอยได้ ไหน ๆ ก็ได้เข้ามาแล้ว เอาสักหน่อย
“เข้าในเมืองไปอะไรกัน รีบไปรีบกลับนะ” ย่าคุยกับพวกเธอ ขณะกำลังทอเสื่อกกอยู่
“ไปซื้อหนังสือย่า ไปแป๊บเดียวก็กลับแล้ว” แพรวตอบย่า และคุยเรื่องอื่นไปเรื่อยฆ่าเวลารอรถสองแถวมา กว่าจะมานานมากในแต่ละคัน ยังดีที่รถสองแถวเข้าในเมืองวิ่งตลอดทั้งวัน ไปตอนไหนก็ได้ กลับสักบ่ายแก่ ๆ ก็ยังได้เลย พอมีเวลาให้เที่ยวเล่น
ปี๊ก ๆ ! เสียงแตรรถดังมาแต่ไกล เป็นสัญญาณว่ารถกำลังมาถึงแล้ว
“นั่นใช่รถสองแถวมั้ยน่ะ บีบแตรมาแล้ว” ย่าพูดขึ้น ทันทีที่ได้ยินเสียงคุ้นหู “ส่องดูซิใช่มั้ยน่ะ”
บอสออกไปดูก็พบว่าใช่รถสองแถวจริง ๆ กำลังวิ่งมาทางนี้ “รถสองแถวจริง ๆ ย่า พวกมืงออกมาเร็ว รถมาแล้ว” บอสเรียกเพื่อน ๆ ออกมายืนรอที่ข้างถนน พร้อมกวักมือเรียกรถสองแถว รอคอยด้วยความตื่นเต้น “ย่าเอาหมากพลูมั้ย เอาอะไรมั้ย” บอสหันมาถามย่าก่อนจะขึ้นรถ
“เอามาทำมั้ย หมากพลูที่บ้านก็มี ซื้อหวายมาแกงหน่อยเด้อถ้างั้น”
“จ้า!” แล้วพวกเธอก็เดินไปขึ้นรถ มุ่งหน้าไปยังตัวเมือง กว่าจะถึงก็ใช้เวลานานหน่อย เพราะรถสองแถวแวะรับคนหลายหมู่บ้านตามเส้นทางที่เข้าตัวเมือง
ไม่นานรถสองแถวก็วิ่งถึงตัวเมือง เข้ามาจอดเที่ยบท่าใกล้ ๆ กับตลาดสด เป็นท่ารถของตำบลเธอ พวกเธอตัดสินใจว่าจะเอายังไงต่อ จากท่ารถไปร้านหนังสือก็ไกลพอสมควร จะนั่งสามล้อเครื่องไป หรือจะเดินไปกันดี สุดท้ายก็ได้บทสรุปว่านั่งสามล้อเครื่องไปดีกว่า ขากลับค่อยเดินมาพลาซ่ากันก็ได้
“จะไปไหนกันหนิ มา ๆ 4 คน 60 ตาไปส่ง” คนขับรถสามล้อกวักมือเรียกเธอ ก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกล ตาน้อยน้องชายของยายเธอเอง ตามาขับรถสามล้อในเมืองหลายปีแล้ว น้องชายคนเล็กสุดของยาย ยังแข็งแรงอยู่
พวกเธอนั่งสามล้อตาน้อยไปร้านหนังสือที่อยู่ใกล้ ๆ โรงเรียนของจ๋อมและสองฝาแฝดนั่นแหละ พาแพรวไปเลือกหาหนังสือที่ต้องการ
“พวกเราไปร้องเพลงกันดีกว่า คนละเพลงสองเพลง” จ๋อมชวน ถึงจ๋อมไม่ชวนพวกเธอก็จะไปกันอยู่แล้ว มาถึงขนาดนี้ มันต้องแวะสักหน่อย ถึงไม่มีอะไรซื้อขอแค่ได้เดินตากแอร์ก็ยังดี ทั้งจังหวัดมีอยู่ห้างเดียวนี่แหละ
เมื่อเสร็จธุระ พวกเธอตัดสินใจเดินลัดเลาะมายังพลาซ่าสาขา 2 เหมือนไกลแต่ไม่ไกลเท่าไหร่ แป๊บเดียวก็ถึง เมื่อมาถึงห้างพบว่าผู้คนมาใช้บริการกันมากมาย เพราะเป็นวันหยุด วันเสาร์อาทิตย์ และแน่นอน ตู้เกมตู้เพลงคงจะเต็มทุกตู้
เมื่อเดินเข้ามาในห้าง สัมผัสความเย็นของแอร์ มันรู้สึกสดชื่นมากเพราะเดินตากแดดมาตั้งไกล พวกเธอทั้งสี่คนไม่รีรอ รีบพากันเดินขึ้นบรรไดเลื่อนมายังชั้นสองของห้าง เป็นไปตามคาด คนเยอะจริง ๆ ตู้เพลงเต็มทุกตู้ ต้องนั่งรอต่อคิวกันเลยทีเดียว
“เอาไงดีพวกมืง เต็มทุกตู้” แพรวหันมาปรึกษาพวกเธอ
“รอไง ได้มาแล้วสักเพลง” บอสทำหน้าเสียดาย แต่ก็ยังอยากร้องเพลง ไหน ๆ ก็มาแล้ว
“พวกเรานู้น! ไปถ่ายรูปสติ๊กเกอร์กันมั้ย ออกเงินกัน” พิมพ์หันซ้ายหันขวา มองเห็นร้านถ่ายรูปสติ๊กเกอร์กันพอดี โหลละไม่กี่บาท ออกเงินกันเฉลี่ยแล้วตกคนละไม่กี่สิบบาทเอง
“เอามั้ยบอส” จ๋อมหันมาถามเธอ บอสดูเงินสามร้อยบาทที่หักค่ารถไปแล้ว
“เอาก็เอา! ปะ ร้านไหนดี”
“ร้านนี้ดีกว่ากูเคยพาเพื่อนกูมาถ่าย ฉากสวยดี” พวกเธอเดินเลือกร้านที่ฉากสวย ๆ เพื่อถ่ายรูปสติ๊กเกอร์กัน สุดท้ายก็ไปจบที่ร้านท้ายสุดนั่นแหละ
“ถ่ายรูปสติ๊กเกอร์ค่ะพี่ เอาโหลนึง”
“ยังไง ถ่ายพร้อมกัน 4 คนเลยเหรอ”
“ค่ะ!” แพรวคุยตกลงกับเจ้าของร้าน
“โอเค! เก๊กท่าได้สี่ท่านะครับ แต่งตัวกันก่อนมั้ย เอาหนึ่งโหล หรือครึ่งโหล ถ้าเอาครึ่งโหลภาพก็จะใหญ่หน่อย ” เจ้าของร้านต้อนรับอย่างดี
“เอาหนึ่งโหลค่ะ จะได้แบ่งกันลงตัวคนละ 3 ภาพ” บอสชี้แจงกับเจ้าของร้าน ก่อนจะพากันเก๊กท่าถ่ายรูปตามใจชอบ พอถ่ายเสร็จรอไม่นานก็ได้รูปมา พวกเธอแบ่งกันคนละ 3 รูป เก็บไว้เป็นที่ระลึก
“มืง! อี่จ๋อมมืงรีบไปจองตู้เพลงเลย นั่นตู้นั้นว่างแล้ว” ทันทีที่แพรวมองเห็นคนข้างในเดินออกมาจากตู้เพลง คงจะเงินหมดกันแล้ว จึงรีบบอกให้จ๋อมรีบวิ่งไปจอง ส่วนตนจะไปแลกเหรียญก่อน
เธอ จ๋อม และพิมพ์ต่างพากันรีบวิ่งไปจองตู้เพลงตู้นั้น ส่วนแพรวทำหน้าที่ไปแลกเหรียญสิบมาหยอด แพรวแลกมาหนึ่งร้อยบาทพอดี หมดนี่กลับ ใครจะร้องกี่เพลงก็แค่จ่ายเงินเธอมาแค่นั้น
ตอนนี้แค่บ่ายโมงเอง มีเวลาเหลือเฟือสำหรับเล่นในห้าง ต่างคนต่างสลับกันร้องคนละเพลงสองเพลง กฎของตู้เพลงคือ ถ้าใครร้องได้เพราะ 90 คะแนนขึ้นจะได้ร้องฟรีอีกเพลง ทุกคนที่มาร้องต่างหวังเพลงฟรีกันทั้งนั้น รวมทั้งพวกเธอวันนี้ด้วย
“แพรว ๆ หาเพลงพี่ดา เอ็นโดฟิน ให้กูหน่อย” บอสบอกให้แพรวหาเพลงไว้รอเธออีกเพลง ขอร้องอีกเพลงก่อนจะเปลี่ยนให้จ๋อมกับพิมพ์ พูดใส่ไมค์ขณะรอท่อนโซโล่ของเพลงที่ร้องอยู่ตอนนี้ “เมื่อเขามาฉันจะไป”
“เจอแล้วมืง รหัสอะไรหนิ 632573 เมื่อเขามาฉันจะไป” แพรวทวนเมื่อเปิดเจอเพลงที่บอสบอกให้หาไว้รอ พอร้องเพลงจบก็ต่อด้วยเพลงนี้ ก่อนจะเป็นคิวของจ๋อม
พวกเธออยู่ในตู้เพลงกันชั่วโมงกว่า ๆ จนเหรียญหมด แถมได้ร้องฟรีก็หลายเพลง โดยเฉพาะจ๋อมเสียงดีกว่าใคร ได้เพลงฟรีเยอะสุด
“มืงจะบ่ายสามแล้วกลับเถอะ เดี๋ยวรถหมดจะยุ่งนะ” บอสชวนเพื่อน ๆ กลับ ไหนจะต้องเดินตลาดซื้อของมาฝากให้ย่าอีก ที่ย่าสั่งไว้เมื่อเช้า
“กูก็ว่างั้นแหละ ปะกลับกันเถอะ” แพรวเห็นด้วย เมื่อเห็นพ้องต้องกันก็พากันเดินทางกลับ โดยการเดินเหมือนเดิม เดินข้ามสะพานลอยมายังตลาดสดใกล้นิดเดียว ข้ามตลาดสดมาอีกฝั่งก็เป็นท่ารถหมู่บ้านของเธอ ก่อนจะกลับพวกเธอเดินซื้อของที่ย่าฝากให้เรียบร้อย
เมื่อพวกเธอมาถึงท่ารถสองแถว เหลือรถจอดรออยู่สองคันพอดี บอสโล่งอกนึกว่าจะไม่ทันรถรอบสุดท้ายเสียแล้ว พวกเธอเข้าไปนั่งรอในรถ รอเวลารถออกอย่างมีความสุข เธอซื้อส้มเขียวหวานไปฝากน้องบีมและพี่สาวกับพี่ชายทั้งสี่คนด้วย
“บอสมืงไปทำอะไรทั้งวันในเมือง ไปตั้งแต่เช้าจนบ่ายพึ่งมา” พอกลับมาถึงบ้านโดนยายบ่นนิดหน่อย ทว่าก็ไม่ได้ดุอะไร
“ก็บอกว่าพาอี่แพรวไปซื้อหนังสือและไปโรงเรียนมัน “
“เงินให้ไปเหลือมาเท่าไหร่”
“โห่ยายเงินแค่สามร้อยยังจะให้เหลือ” เธอโกหกยายไปงั้นแหละ ความจริงเหลือตั้งห้าสิบบาท เอามาหยอดออมสินไว้ใช้วันที่ขอเงินยายไม่ได้
...
“พี่ออเคยไปร้องเพลงในตู้เพลงมั้ย “ หลังจากนั่งนึกอะไรไปเรื่อยเปื่อย เธออยากรู้ว่าผู้จัดการของเธอเคยใช้บริการมันมั้ย อีกทั้งถ่ายรูปสติ๊กเกอร์ด้วย
“เคยสิแก! โห่อรวีนี่ประจำ หลังเลิกเรียน ฮา” ผู้จัดการของเธอเป็นฝ่ายโม้คืน เล่าถึงอดีตตอนเป็นวัยทีนให้ฟัง “นอกจากไปร้องเพลงที่ตู้เพลงแล้ว ยังถ่ายรูปสติกเกอร์ด้วยนะแก อรวีนี่ติดรูปตัวเองเต็มตู้เสื้อผ้า ฮา “ เธอไม่ต้องโม้เลยคราวนี้ ฟังผู้จัดการโม้อย่างเดียว
บอสนั่งฟังพี่ออโม้ให้ฟังอย่างสนุก ก็ไม่ได้แตกต่างกับชีวิตเธอเท่าไหร่ รูปนั้นก็ยังติดที่ตู้เสื้อผ้าของเธอเช่นกัน เพียงแค่มันเก่าสีซีดจางไปตามกาลเวลาเท่านั้นเอง
เมื่อนึกเพลงพี่ดา เมื่อเขามาฉันจะไป! บอสเปิดฟังเบา ๆ คนเดียวที่โต๊ะทำงาน แล้วนึกถึงบางเรื่อง สำหรับบางคน อือใช่! เมื่อเขามาแล้วเธอก็จะไปไม่แข่งกับใครหรอก...
จบ...