ปรัชญามูฟออน
สำหรับผม มองว่า เป็นคำที่นับวันยิ่งดูเหมือนจะพูดกันแบบเกลื่อนๆซะแล้ว ก่อนหน้านี้เคยลองไปเสิร์ชในกูเกิ้ลดูพบความหมายคือ คำว่าmove on แปลว่าเดินหน้า... คำถามต่อมาก็คือ "เดินไปไหน" กับ "เดินไปทำไม".... ผมเริ่มให้ความสนใจประเด็น นี้ จึงเริ่มหาข้อมูลเพิ่มเรื่อยๆ จึงได้รู้ว่า คำๆนี้ที่กำลังฮิตพูดกัน เขาใช้ในบริบทเหตุการณ์ต่อจาก "ความรักที่พังทะลาย" คำถามต่อมาคือ "จะมูฟออน.. จะเดินหน้า ได้อย่างไร" .... ถึงแม้คำว่า "มูฟออน" จะแปลตรงตัวได้ว่า เดินหน้า แต่เมื่อมันถูกหยิบยกมาใช้ในบริบท "ความรักที่พังทลาย" มันจึงไม่สามารถแปลว่า เดินหน้าแบบใช้ขาเดินได้ ... เราจึงมองความหมายของคำๆนี้ในแง่ "การใช้ความรู้สึกในการมูฟออน"...... ยังไง?!?! หัวใจ(ความรู้สึก)ที่ยังคงอาลัยอาวรณ์อยู่กับรักครั้งเก่า... อันที่จริงแล้ว เราสามารถ ให้หัวใจยุติกระบวนการนี้ได้ โดยที่ปัจจัยตัวแปรสำคัญอย่างแรกเลยก็คือ "การยอมรับซึ่งความจริง" จากประสบการณ์ของผู้เขียน มองว่านี่คือสิ่งสำคัญ และต่อมาก็คือ "ธรรมชาติบำบัด" .. ไม่ได้บอกว่าให้เข้าป่า มันหมายถึงกระบวนการต่อจาก "การยอมรับซึ่งความจริง" ... จงมีชีวิตและทำหน้าที่ต่อไปอย่างปกติที่สุด คุณไม่จำเป็นต้องเหมาเบียร์เป็นลังเปิดเพลงอกหักฟัง แล้วมานั่งดื่มคนเดียวที่ระเบียงบ้าน(เพราะผมเคยไง) เชื่อเถอะว่าไอ้ที่ดื่มเข้าไปมันไม่ได้ทำให้ลืม มันแค่ทำให้เมา... แต่ถ้าอยากจริงๆ ก็ไม่ได้ห้าม.. แค่การดื่มมันไม่ได้ช่วยให้ลืมครับจำไว้.. จากนั้นคุณแค่กลับมาเป็นธรรมชาติอย่างเดิม เทคนิคคือ "อย่าฝืน" .. ยอมรับความจริงไปแล้ว, ธรรมชาติบำบัดไปแล้ว.... แล้วไงต่อ... คุณอาจจะเห็นได้ว่ามันก็ดูปกติๆนี่นา .... ใช่แล้วครับ มันดูไม่ได้มีอะไรพิเศษเลย ผมไม่ได้ผลักหลังคุณให้ไปขอเบอร์, เฟส, ไลน์ใครคนนั้น... ผมไม่ได้ห้ามคุณดื่ม... ผมไม่ได้ให้คุณไปอ้อนเพื่อนๆคุณให้เขาช่วยติดต่อคนรู้จักให้คุณในช่วงโสด... ไม่ๆๆ...
เพราะในความเป็นจริง คำที่พูดฮิตติดปาก "มูฟออน" มันไม่ได้จำเป็นต้องทำอะไรพิเศษเลย, มันไม่ได้จำเป็นต้อง "เดินหน้า" ไปไหน
จงใช้ชัวิตของคุณต่อไปตามหน้าที่อย่างเป็นธรรมชาติ"หลังจากวันเวลาค่อยๆผ่านไป ไม่ว่าวันนั้นคุณจะได้พบความรักครั้งใหม่ หรือไม่ แต่ก็วันนั้นเอง ที่คุณจะรู้ตัวว่าคุณมูฟออนมาไกลจนไม่ได้รู้สึกทุกข์ใจอะไรอีกต่อไปแล้ว .ฉะนั้นแล้ว....คำว่ามูฟออน จึงสามารถเทียบเคียงได้ กับคำว่า "ปล่อยวาง"
ปรัชญา การมูฟออน
สำหรับผม มองว่า เป็นคำที่นับวันยิ่งดูเหมือนจะพูดกันแบบเกลื่อนๆซะแล้ว ก่อนหน้านี้เคยลองไปเสิร์ชในกูเกิ้ลดูพบความหมายคือ คำว่าmove on แปลว่าเดินหน้า... คำถามต่อมาก็คือ "เดินไปไหน" กับ "เดินไปทำไม".... ผมเริ่มให้ความสนใจประเด็น นี้ จึงเริ่มหาข้อมูลเพิ่มเรื่อยๆ จึงได้รู้ว่า คำๆนี้ที่กำลังฮิตพูดกัน เขาใช้ในบริบทเหตุการณ์ต่อจาก "ความรักที่พังทะลาย" คำถามต่อมาคือ "จะมูฟออน.. จะเดินหน้า ได้อย่างไร" .... ถึงแม้คำว่า "มูฟออน" จะแปลตรงตัวได้ว่า เดินหน้า แต่เมื่อมันถูกหยิบยกมาใช้ในบริบท "ความรักที่พังทลาย" มันจึงไม่สามารถแปลว่า เดินหน้าแบบใช้ขาเดินได้ ... เราจึงมองความหมายของคำๆนี้ในแง่ "การใช้ความรู้สึกในการมูฟออน"...... ยังไง?!?! หัวใจ(ความรู้สึก)ที่ยังคงอาลัยอาวรณ์อยู่กับรักครั้งเก่า... อันที่จริงแล้ว เราสามารถ ให้หัวใจยุติกระบวนการนี้ได้ โดยที่ปัจจัยตัวแปรสำคัญอย่างแรกเลยก็คือ "การยอมรับซึ่งความจริง" จากประสบการณ์ของผู้เขียน มองว่านี่คือสิ่งสำคัญ และต่อมาก็คือ "ธรรมชาติบำบัด" .. ไม่ได้บอกว่าให้เข้าป่า มันหมายถึงกระบวนการต่อจาก "การยอมรับซึ่งความจริง" ... จงมีชีวิตและทำหน้าที่ต่อไปอย่างปกติที่สุด คุณไม่จำเป็นต้องเหมาเบียร์เป็นลังเปิดเพลงอกหักฟัง แล้วมานั่งดื่มคนเดียวที่ระเบียงบ้าน(เพราะผมเคยไง) เชื่อเถอะว่าไอ้ที่ดื่มเข้าไปมันไม่ได้ทำให้ลืม มันแค่ทำให้เมา... แต่ถ้าอยากจริงๆ ก็ไม่ได้ห้าม.. แค่การดื่มมันไม่ได้ช่วยให้ลืมครับจำไว้.. จากนั้นคุณแค่กลับมาเป็นธรรมชาติอย่างเดิม เทคนิคคือ "อย่าฝืน" .. ยอมรับความจริงไปแล้ว, ธรรมชาติบำบัดไปแล้ว.... แล้วไงต่อ... คุณอาจจะเห็นได้ว่ามันก็ดูปกติๆนี่นา .... ใช่แล้วครับ มันดูไม่ได้มีอะไรพิเศษเลย ผมไม่ได้ผลักหลังคุณให้ไปขอเบอร์, เฟส, ไลน์ใครคนนั้น... ผมไม่ได้ห้ามคุณดื่ม... ผมไม่ได้ให้คุณไปอ้อนเพื่อนๆคุณให้เขาช่วยติดต่อคนรู้จักให้คุณในช่วงโสด... ไม่ๆๆ...
เพราะในความเป็นจริง คำที่พูดฮิตติดปาก "มูฟออน" มันไม่ได้จำเป็นต้องทำอะไรพิเศษเลย, มันไม่ได้จำเป็นต้อง "เดินหน้า" ไปไหน
จงใช้ชัวิตของคุณต่อไปตามหน้าที่อย่างเป็นธรรมชาติ"หลังจากวันเวลาค่อยๆผ่านไป ไม่ว่าวันนั้นคุณจะได้พบความรักครั้งใหม่ หรือไม่ แต่ก็วันนั้นเอง ที่คุณจะรู้ตัวว่าคุณมูฟออนมาไกลจนไม่ได้รู้สึกทุกข์ใจอะไรอีกต่อไปแล้ว .ฉะนั้นแล้ว....คำว่ามูฟออน จึงสามารถเทียบเคียงได้ กับคำว่า "ปล่อยวาง"