การบรรลุธรรมเป็นพระอนาคามีสามารถดูได้จากกายโอปปาติกะที่เกิดทันที!!?

ไม่นานมานี้มีน้องที่รู้จักได้พาพี่ผู้หญิงคนหนึ่งเป็นเพื่อนเขาพามาหาผม
พี่เขาเป็นนักปฏิบัติตัวยงเลยครับแต่มีปัญหาที่ไม่สามารถหาอาจารย์สำนักไหนแก้ให้พี่เขาได้
ปัญหาพี่เขาเป็นดังนี้ครับ ตอนกลางวันเขาจะนั่งสมาธิได้แต่เอนกายนอนสมาธิไม่ได้เลย 
นอนทีไรจะโดนผีอำตลอด ผมถามแล้วกลางคืนพี่เป็นหรือเปล่าพี่เขาบอกว่าไม่เป็น
หลังสวดมนต์ไหว้พระเสร็จพี่เขาจะนั่งสมาธิพอออกจากสมาธิก็เข้านอนไม่นานก็หลับไม่โดนผีอำ
พอเล่ามาถึงตอนนี้ผมเข้าใจแล้วว่ากลางคืนพี่เขาหลับเร็วเพราะคงเพลียมาแล้วทั้งวัน
พอมาสวดมนต์นั่งสมาธิอีกทำให้หลับง่ายขึ้นไม่ทอดยาวเหมือนยามกลางวัน

พี่เขาบ่นว่ามันเป็นไปได้อย่างไรกันที่ผีจะมาอำคนสวดมนต์ไหว้พระนั่งสมาธิฉันไม่เข้าใจเลย
เมื่อเล่าให้พระฟังพระก้อบอกให้ไปทำบุญทำสังฆทานบ้าง พี่เขาบ่นทำมานานแล้วก็ไม่หาย ผมจึงสังสัยว่าไม่น่าจะใช่ผีอำแล้วล่ะ
จึงซักประวัติการภาวนาของพี่เขา พบว่าพี่เขาโดนสามีบอกเลิกทางเพราะพี่เขาไม่ยอมเลิกปฏิบัติภาวนาและยอมให้สามีแยกทางกัน
พี่เขาเป็นคนจริงไม่อ่านหนังสือมากเหมือนคนห้องนี้555 พี่เขาบอกว่าเคยได้ฌาน ผมเลยซักต่อพี่เขาว่าเคยได้วิปัสสนาญาณด้วย
พี่เขาเล่าว่าภาวนาจนเห็นกายของตนเองเน่าเปลื่อยเห็นกระดูกและละลายเป็นฝุ่นผงเป็นเถ้าธุรี พอเล่ามาถึงตรงนี้ผมถึงบ้างอ้อเลย  
พอเล่าจบผมจึงบอกบอกว่าพี่ไม่ได้โดนผีอำดอกครับ กลับไปแล้วลองนอนทำสมาธิในตอนกลางวันใหม่กายทิพย์ของโอปปาติกะ
เขากำลังจะออกมาแต่พี่กลัวไปเสียก่อนทุกครั้ง ก็เลยถอดกายโอปปาติกะออกมาไม่ได้สักที หลังจากนั้นวันสองวันพี่เขาโทรกลับมาบอกว่า
กายทิพย์ออกมาได้แล้ว เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าการบรรลุธรรมนั้นจะเกิดขึ้นทันทีเมื่อได้วิปัสสนาญาณ ถ้ากิเลสสิ้นก็เป็นพระอรหันต์ทันที
และถ้ากิเลสไม่สิ้นจะเป็นโอปปาติกะคือพระอานาคามีก็จะเกิดทันทีเหมือนกันแม้จะไม่มีญาณบอกเหมือนพระอรหันต์
มีแต่กายโอปปาติกะเกิดขึ้นทันทีแต่เจ้าตัวส่วนใหญ่ไม่เข้าใจ เรื่องแบบนี้ถ้าไม่มีเทวดามาบอกผมก่อน ผมก้อยอมรับว่ารู้ไม่ได้เองเหมือนกัน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่