สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
อนุสสติ 10
แปลตามบาลี แปลว่า ตามระลึกถึง คุณนั้น ๆ เพื่อน้อมนำมาประพฤติปฏิบ ัติ
พุทธานุสสติ
ตามระลึกถึง ว่า พระพุทธเจ้าท่านให้เราประพฤติในเหตุให้เกิดทุกข์ หรือ ให้ประพฤติในเหตุให้ดับทุกข์ ในปัจจุบันแล้ว เลิกทำพฤติกรรมที่อยู่ในเหตุให้เกิดทุกข์ (เลิกทำตามกิเลส เลิกทำตามใจตัวเอง ให้ทำตามพุทธประสงค์)
ธัมมานุสสติ
ตามระลึกว่า สิ่งไหนเป็นกุศล สิ่งใดเป็นอกุศล กุศล เป็นเหตุให้ดับทุกข์ อกุศลเป็นเหตุให้เกิดทุกข์ แล้ว เลิกทำอกุศลในปัจจุบันขณะทันที
สังฆานุสสติ
ตามระลึก ข้อวัตรปฏิบัติของ สงฆ์ที่ท่านเพียรกำจัดกิเลส ฝึกฝนอบรมตนให้กุศลธรรมถึงพร้อม แล้ว เพียรพยายามทำตามท่านให้ได้
สีลานุสสติ
ตามระลึก ว่า ศีล หรือข้อปฏิบัติที่ควรงดเว้นมีอะไรบ้าง เมื่อต้องเผชิญหน้ากับ ยุง มด แมลง ก็ตามระลึกงดเว้น เลิกฆ่าได้ในปัจจุบันขณะที่กำลังเผชิญหน้า ให้ได้
จาคานุสสติ
ตามระลึก สละ กิเลสที่เกิดขึ้นในใจในปัจจุบันให้ดได้ เสียสละกิเลสทุกแบบที่เกิดขึ้นในจิตใจให้ หมดไป
เทวตานุสสติ
ตามระลึกถึง คุณธรรมของเทวดา ว่าการจะได้อัตภาพเป็นเทวดาแบบนั้นต้อง มี หิริโอัตตัปปะ มีการฟังพระสัทธรรมมาก มีศีล 5 ไม่ขาด ไม่ทะลุ ไม่ด่างไม่พร้อย จึงได้เกิดเป็นเทวดา เมื่อระลึกได้จึง เพียรพยายามทำเหตุให้เหมือนกับที่เทวดาท่านได้ทำ เมื่อผลแห่งความเพียรที่สมบูรณ์ผลิผล ก็ได้จะได้ไปเป็นสหายของเทวดา
อุปสมานุสติ
ตามระลึกถึง คุณจากการดับ โลภะ โทสะ โมหะ ว่าเมื่อดับ เลิก ละ โกรธ ได้ ก็ได้ความสุข ไม่มีไฟแผดเผาใจให้ทุกข์ร้อน เนือง ๆ แล้ว จึงเพียรพยายามให้ได้สุขนั้น นานยิ่งขึ้น จน โลภะ โทสะ โมหะ ไม่กลับกำเริบขึ้นในใจ
มรณานุสติ
ตามระลึกถึงความตายที่มีในทุกขณะวินาที การเกิดดับ การตาย การสิ้นชีวิต เพื่อให้ใจไม่หวั่นไหวเมื่อต้องเจอกับความตายกับตนเอง ใจก็สามารถสงบได้
อานาปานสติ
ตามระลึก ให้สติมีใจเป็นอารมณ์ เป็นสิ่งที่ถูกรู้ ให้ใจตั้งอยู้ใน ขี้ไถ แดนของบิดาตน มีสติแล้วหายใจเข้า จับความรู้สึกแล้วหายใจออก รู้สึกแล้วหายใจเข้า หยุดความฟุ้งซ่านใน กามวิตก พยาบาทวิตก วิหิงสาวิตก
กายคตาสติ
ตามระลึก อาการในร่างกาย ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง ฯลฯ ให้เห็นตามความเป็นจริงว่าเป็นของไม่งาม ปฏิกูล น่าเกลียด โสโครก ไม่ควรยึดมั่น ถือมั่น พิจารณาไปจนเห็นความจริง จิตยอมรับความจริงได้ เกิดความเบื่อหน่าย คลายความกำหนัดยินดีในกาย ไม่ยึดมั่นถือมั่นกายต่อไป
.............
พ่อ แม่ ยังมีกิเลส
ดังนั้น พ่อแม่ ก็ยังจำเป็นต้อง ตามระลึกใน อนุสติ 10 เหมือนกับ ลูกถ้าต้องการพ้นจากทุกข์
พ่อแม่ เลยไม่ได้ เป็น 1 ใน อนุสติ 10
แปลตามบาลี แปลว่า ตามระลึกถึง คุณนั้น ๆ เพื่อน้อมนำมาประพฤติปฏิบ ัติ
พุทธานุสสติ
ตามระลึกถึง ว่า พระพุทธเจ้าท่านให้เราประพฤติในเหตุให้เกิดทุกข์ หรือ ให้ประพฤติในเหตุให้ดับทุกข์ ในปัจจุบันแล้ว เลิกทำพฤติกรรมที่อยู่ในเหตุให้เกิดทุกข์ (เลิกทำตามกิเลส เลิกทำตามใจตัวเอง ให้ทำตามพุทธประสงค์)
ธัมมานุสสติ
ตามระลึกว่า สิ่งไหนเป็นกุศล สิ่งใดเป็นอกุศล กุศล เป็นเหตุให้ดับทุกข์ อกุศลเป็นเหตุให้เกิดทุกข์ แล้ว เลิกทำอกุศลในปัจจุบันขณะทันที
สังฆานุสสติ
ตามระลึก ข้อวัตรปฏิบัติของ สงฆ์ที่ท่านเพียรกำจัดกิเลส ฝึกฝนอบรมตนให้กุศลธรรมถึงพร้อม แล้ว เพียรพยายามทำตามท่านให้ได้
สีลานุสสติ
ตามระลึก ว่า ศีล หรือข้อปฏิบัติที่ควรงดเว้นมีอะไรบ้าง เมื่อต้องเผชิญหน้ากับ ยุง มด แมลง ก็ตามระลึกงดเว้น เลิกฆ่าได้ในปัจจุบันขณะที่กำลังเผชิญหน้า ให้ได้
จาคานุสสติ
ตามระลึก สละ กิเลสที่เกิดขึ้นในใจในปัจจุบันให้ดได้ เสียสละกิเลสทุกแบบที่เกิดขึ้นในจิตใจให้ หมดไป
เทวตานุสสติ
ตามระลึกถึง คุณธรรมของเทวดา ว่าการจะได้อัตภาพเป็นเทวดาแบบนั้นต้อง มี หิริโอัตตัปปะ มีการฟังพระสัทธรรมมาก มีศีล 5 ไม่ขาด ไม่ทะลุ ไม่ด่างไม่พร้อย จึงได้เกิดเป็นเทวดา เมื่อระลึกได้จึง เพียรพยายามทำเหตุให้เหมือนกับที่เทวดาท่านได้ทำ เมื่อผลแห่งความเพียรที่สมบูรณ์ผลิผล ก็ได้จะได้ไปเป็นสหายของเทวดา
อุปสมานุสติ
ตามระลึกถึง คุณจากการดับ โลภะ โทสะ โมหะ ว่าเมื่อดับ เลิก ละ โกรธ ได้ ก็ได้ความสุข ไม่มีไฟแผดเผาใจให้ทุกข์ร้อน เนือง ๆ แล้ว จึงเพียรพยายามให้ได้สุขนั้น นานยิ่งขึ้น จน โลภะ โทสะ โมหะ ไม่กลับกำเริบขึ้นในใจ
มรณานุสติ
ตามระลึกถึงความตายที่มีในทุกขณะวินาที การเกิดดับ การตาย การสิ้นชีวิต เพื่อให้ใจไม่หวั่นไหวเมื่อต้องเจอกับความตายกับตนเอง ใจก็สามารถสงบได้
อานาปานสติ
ตามระลึก ให้สติมีใจเป็นอารมณ์ เป็นสิ่งที่ถูกรู้ ให้ใจตั้งอยู้ใน ขี้ไถ แดนของบิดาตน มีสติแล้วหายใจเข้า จับความรู้สึกแล้วหายใจออก รู้สึกแล้วหายใจเข้า หยุดความฟุ้งซ่านใน กามวิตก พยาบาทวิตก วิหิงสาวิตก
กายคตาสติ
ตามระลึก อาการในร่างกาย ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง ฯลฯ ให้เห็นตามความเป็นจริงว่าเป็นของไม่งาม ปฏิกูล น่าเกลียด โสโครก ไม่ควรยึดมั่น ถือมั่น พิจารณาไปจนเห็นความจริง จิตยอมรับความจริงได้ เกิดความเบื่อหน่าย คลายความกำหนัดยินดีในกาย ไม่ยึดมั่นถือมั่นกายต่อไป
.............
พ่อ แม่ ยังมีกิเลส
ดังนั้น พ่อแม่ ก็ยังจำเป็นต้อง ตามระลึกใน อนุสติ 10 เหมือนกับ ลูกถ้าต้องการพ้นจากทุกข์
พ่อแม่ เลยไม่ได้ เป็น 1 ใน อนุสติ 10
สมาชิกหมายเลข 5908072 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2624463 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 3402001 ทึ่ง, ใยบัว_ไฮเอนด์ ถูกใจ
แสดงความคิดเห็น
ทำไมไม่มีมาตาปิตุอนุสสติ มีแต่เทวตานุสสติ ทั้งๆที่พ่อแม่มีบุญคุณต่อเรามากกว่าเทวดา ?
พุทธานุสสติ การระลึกถึงพระคุณของพระพุทธเจ้า (พุทธะ+อนุสสติ=พุทธานุสสติ)
ธัมมานุสสติ การระลึกถึงพระคุณของพระธรรม
สังฆานุสสติ การระลึกถึงพระคุณของพระสงฆ์
สีลานุสสติ การระลึกถึงศีลที่ตนรักษา
จาคานุสสติ การระลึกถึงทาน ความดีที่ตนสร้างไว้
เทวตานุสสติ การระลึกถึงคุณที่ทำให้คนเป็นเทวดา เช่น หิริ โอตตัปปะ และพระคุณของพ่อแม่ที่เป็นเทวดาของบุตรธิดา เทวดาหรือบุคลที่เคารพนับถือ
อุปสมานุสติ การระลึกถึงพระคุณของพระนิพพาน
มรณสติ[1][2] การระลึกถึงความตายที่สัตว์โลกย่อมประสบ
อานาปานสติ การระลึกถึงลมหายใจเข้าออก (อานาปาน + อนุสสติ = อานาปานุสสติ)
กายคตาสติ การระลึกถึงความไม่งามปฏิกูลของอาการ 32 มีผม ขน เล็บ ฟัน หนัง (ปัญจตจกรรมฐาน)