เรื่อง ยอดจารชนคนอันตราย ตอน ขัดแย้งเพราะผลประโยชน์

เรื่อง ยอดจารชนคนอันตราย
ตอน ขัดแย้งเพราะผลประโยชน์

สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้า ประทับอยู่บนภูเขาคิชฌกูฏใกล้กรุงราชคฤห์. ก็สมัยนั้นแล พระราชาอชาตศัตรู ผู้เป็นใหญ่ในแคว้นมคธพระโอรสของพระนางเวเทหิ มีพระราชประสงค์จะเสด็จไปปราบปรามแคว้นวัชชี พระองค์ตรัสอย่างนี้ว่า เพราะพวกเจ้าวัชชีทั้งหลายเหล่านี้ มีฤทธิ์มากมีอานุภาพมาก เราจักทำลายแคว้นวัชชีให้พินาศย่อยยับ.
ครั้งนั้นแล พระราชาอชาตศัตรู ตรัสกะวัสสการพราหมณ์ ผู้เป็นมหาอำมาตย์ของแคว้นมคธ
ว่า ขอท่านพราหมณ์จงเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า แล้วถวายบังคมพระยุคลบาทพระผู้มีพระภาคเจ้า ด้วยเศียรเกล้า กราบทูลตามคำของเราว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระราชาอชาตศัตรูผู้เป็นใหญ่ในแคว้นมคธพระโอรสของพระนางเวเทหิ ถวายบังคมพระยุคลบาทพระผู้มีพระภาคเจ้าด้วยเศียรเกล้า ทูลถามถึงความไร้พระโรคาพาธ ความคล่องพระองค์ พระกำลังการทรงพระสำราญ และท่านจงกราบทูลอย่างนี้ด้วยว่า พระราชาอชาตศัตรู มีพระราชประสงค์จะเสด็จไปปราบปรามแคว้นวัชชี พระองค์มีพระดำรัสอย่างนี้ว่า เพราะพวกเจ้าวัชชีทั้งหลายเหล่านี้ มีฤทธิมาก มีอานุภาพมาก เราจักทำลายแคว้นวัชชี ให้พินาศ ย่อยยับ  และพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพยากรณ์แก่ท่านอย่างใด ท่านจงจำเอาคำพยากรณ์นั้นให้ดี แล้วมาบอกแก่เรา เพราะว่า พระตถาคตเจ้าทั้งหลาย หาตรัสสิ่งที่ปราศจากความจริงไม่ 
  เหตุใด พระเจ้าอชาตสัตรูจึงทรงดำริจะทำลายแคว้นวัชชีให้พินาศ
  เพราะความขัดแย้งเรื่องหมู่บ้านปัฏนคามเป็นเหตุ
  เรื่องมีอยู่ว่า  ที่ริมฝั่งแม่น้ำคงคา หมู่บ้านปัฏนคามตำบลหนึ่ง เป็นดินแดนของพระเจ้าอชาตสัตรู ๘ โยชน์ เป็นของพวกเจ้าลิจฉวีผู้ครองแคว้นวัชชี ๘ โยชน์ ในปัฏฏนคามนั้นคันธชาตมีค่ามาก ไหลมาจากเชิงเขา เมื่อพระเจ้าอชาตสัตรูทรงสดับเรื่องนั้น ทรงตระเตรียมว่า เราจะไปวันนี้ พรุ่งนี้ พวกเจ้าลิจฉวีพร้อมเพรียงร่าเริงมาเสียก่อนเก็บเอาไปหมด.
พระเจ้าอชาตศัตรู เสด็จมาทีหลัง ทรงทราบเรื่องนั้นเข้าก็ทรงพระพิโรธแล้วเสด็จกลับไป. แม้ในปีต่อมา เจ้าลิจฉวีเหล่านั้นก็ทรงกระทำอย่างนั้นอีก พระเจ้าอชาตศัตรูทรงกริ้วอย่างยิ่ง แต่ก็ไม่อาจทรงทำอย่างไรได้ ต้องเสด็จกลับไปมือเปล่าเหมือนที่ผ่านมา
ครั้งนั้นพระเจ้าอชาตศัตรู ทรงประสงค์จะยกกองทัพไปทำลายล้างเจ้าลิจฉวี แต่ก็ทรงดำริว่า ชื่อว่า การรบกับคณะเจ้าลิจฉวี เป็นเรื่องใหญ่ การประหัตประหารกันอย่างไร้ผล แม้เพียงครั้งเดียวก็ไม่ควรทำ จำต้องมีการปรึกษากับบัณฑิตผู้หนึ่งจึงทำการ คงจะไม่ผิดพลาด แต่บัณฑิตที่เสมือนกับพระพระผู้มีพระภาคเจ้าไม่มี และพระองค์ก็ประทับอยู่ในพระวิหารใกล้ ๆ ไม่ไกล เอาเถิด เราจะส่งคนไปทูลถาม หากเราไปเองอาจไม่เกิดประโยชน์ พระผู้มีพระภาคคงจะทรงดุษณีภาพเสีย แต่เมื่อไม่มีประโยชน์เช่นนี้ พระองค์จะตรัสว่า พระราชาเสด็จไปที่นั้นจะมีประโยชน์อะไร ท้าวเธอจึงทรงส่งวัสสการพรามหณ์มหาอำมาตย์ไป.
วัสสการพราหมณ์ มหาอำมาตย์ของแคว้นมคธ กราบทูลรับพระดำรัสพระราชาอชาตศัตรูว่า อย่างนั้นพระเจ้าข้า แล้วเทียมยานทั้งหลายที่ใหญ่ ๆ ขึ้นยานใหญ่ คันหนึ่ง ออกจากกรุงราชคฤห์ ด้วยยานทั้งหลายไปถึงภูเขาคิชฌกูฏ ไปด้วยยานตลอดพื้นที่ยานไปได้ จากนั้นลงจากยาน เดินเท้าขึ้นไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า 
มีเรื่องน่าสนใจเกี่ยวกับวัสสการพรามณ์ท่านนี้อยู่ว่า วันหนึ่ง ท่านวัสสการพราหมณ์นั้นเห็นพระมหากัจจายนเถระ ลงจากเขาคิชฌกูฏ จึงกล่าวว่านั่นเหมือนลิง. 
พระผู้มีพระภาคเจ้าได้สดับคำนั้นแล้ว จึงตรัสกับพระภิกษุทั้งหลายว่า ถ้าเขาขอขมาโทษเสียข้อนั้นเป็นการดี ถ้าไม่ขอขมาโทษ เขาจะเกิดเป็นลิงหางโคในพระเวฬุวันนี้ 
วัสสการพราหมณ์ฟังพระดำรัสนั้นแล้ว คิดว่า ธรรมดาพระดำรัสของพระสมณโคดมไม่เป็นสอง ภายหลังเมื่อเวลาเราเป็นลิง จะได้มีที่เที่ยวหากิน จึงปลูกต้นไม้นานาชนิดในพระเวฬุวัน แล้วให้ทำการอารักขา กาลต่อมาวัสสการพราหมณ์ถึงอสัญญกรรมแล้วเกิดเป็นลิง เมื่อใครพูดว่า วัสสการพราหมณ์ ก็ได้มายืนอยู่ใกล้ ๆ(เชื่อพระดำรัสพระพุทธเจ้า แต่ไม่แก้ไขตนเอง)

วัสสการพราหมณ์มหาอำมาตย์ เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า ครั้นชื่นชมกับพระผู้มีพระภาคเจ้า กล่าวถ้อยคำน่าชื่นชมควรรำลึกถึงกันแล้วจึงนั่งอยู่ ณ ด้านหนึ่ง ครั้นแล้วได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ พระราชาอชาตศัตรู ผู้เป็นใหญ่ในแคว้นมคธ พระโอรสของพระนางเวเทหิ ถวายบังคมพระยุคลบาทพระโคดมผู้เจริญด้วยพระเศียรเกล้า ทูลถามถึงความไร้พระโรคาพาธ ความคล่องพระองค์ พระกำลัง การทรงพระสำราญ ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ พระราชา
อชาตศัตรู มีพระราชประสงค์จะเสด็จไปปราบปรามแคว้นวัชชี พระองค์ตรัสอย่างนี้ว่า เพราะพวก
เจ้าวัชชีทั้งหลายเหล่านี้ มีฤทธิ์มาก มีอานุภาพมาก เราจักทำลายแคว้นวัชชีให้พินาศ ย่อยยับ ท่านพระโคดมผู้เจริญจะทรงเห็นเป็นไร 
ขณะนั้น ท่านพระอานนท์ ยืนถวายงานพัดอยู่เบื้องพระปฤษฎางค์ของพระผู้มีพระภาคเจ้า ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสกะท่านพระอานนท์ว่า

(๑) ดูก่อนอานนท์ เธอได้ยินมาอย่างไร เจ้าวัชชีทั้งหลายยังประชุมกันเนือง ๆ ยังประชุมกันมากอยู่หรือไม่
พระอานนท์กราบทูลว่า ข้อนี้ข้าพระองค์ได้ยินว่า เจ้าวัชชีทั้งหลาย ประชุมกันเนือง ๆประชุมกันมาก พระเจ้าข้า
 ดูก่อนอานนท์ ก็เจ้าวัชชีทั้งหลาย ยังประชุมกันเนือง ๆ ยังประชุมกันอยู่มาตลอดกาลเพียงไร เจ้าวัชชีทั้งหลายพึงหวังความเจริญอย่างเดียว หาความเสื่อมมิได้เลย
(๒) ดูก่อนอานนท์ เธอได้ยินมาอย่างไร เจ้าวัชชีทั้งหลายยังพร้อมเพียงกันประชุม พร้อมเพียงกันเลิกประชุม พร้อมเพรียงกันทำกิจที่พวกเจ้าวัชชีพึงทำอยู่หรือไม่
ข้อนี้ ข้าพระองค์ได้ยินว่า เจ้าวัชชีทั้งหลาย ยังพร้อมเพรียงกันประชุม พร้อมเพรียงกันเลิกประชุม พร้อมเพรียงกันทำกิจที่พวกเจ้าวัชชีพึงทำ พระเจ้าข้า.
ดูก่อนอานนท์ ก็เจ้าวัชชีทั้งหลาย ยังพร้อมเพรียงกันประชุม พร้อมเพรียงกันเลิกประชุม พร้อมเพรียงกันทำกิจที่พวกเจ้าวัชชีพึงทำอยู่ตลอดกาลเพียงไร เจ้าวัชชีทั้งหลายพึงหวังความเจริญอย่างเดียว หาความเสื่อมมิได้เลย 
(๓) ดูก่อนอานนท์ เธอได้ยินมาอย่างไร เจ้าวัชชีทั้งหลายยังไม่บัญญัติข้อที่ไม่เคยบัญญัติไว้ ไม่เพิกถอนข้อที่บัญญัติไว้แล้ว ยังสมาทานวัชชีธรรมแบบโบราณ ตามที่บัญญัติไว้แล้ว ประพฤติกันอยู่หรือไม่
ข้อนี้ ข้าพระองค์ได้ยินว่า เจ้าวัชชีทั้งหลายยังไม่บัญญัติข้อที่ไม่เคยบัญญัติไว้ ไม่เพิกถอนข้อที่บัญญัติไว้แล้ว ยังสมาทานวัชชีธรรมแบบโบราณตามที่บัญญัติไว้แล้ว ประพฤติกันอยู่ พระเจ้าข้า.
ดูก่อนอานนท์ ก็เจ้าวัชชีทั้งหลาย ยังไม่บัญญัติข้อที่ไม่เคยบัญญัติไว้ ไม่เพิกถอนข้อที่บัญญัติไว้แล้ว ยังสมาทานวัชชีธรรมแบบโบราณตามที่บัญญัติไว้แล้ว ประพฤติกันอยู่ ตลอดกาลเพียงไร เจ้าวัชชีทั้งหลายพึงหวังความเจริญอย่างเดียว หาความเสื่อมมิได้เลย
(๔) ดูก่อนอานนท์ เธอได้ยินว่าอย่างไร เจ้าวัชชีทั้งหลาย ยังสักการะ เคารพนับถือบูชา เจ้าวัชชีผู้ใหญ่ผู้เฒ่าของเจ้าวัชชีทั้งหลายและยังเชื่อถือถ้วยคำที่ควรฟังของเจ้าวัชชีผู้ใหญ่ผู้เฒ่าทั้งหลายเหล่านั้นอยู่หรือไม่
ข้อนี้ ข้าพระองค์ได้ยินว่า เจ้าวัชชีทั้งหลาย ยังสักการะ เคารพนับถือ บูชา เจ้าวัชชีผู้ใหญ่ผู้เฒ่าของเจ้าวัชชีทั้งหลายและยังเชื่อถ้อยคำที่ควรฟังของเจ้าวัชชีผู้ใหญ่ ผู้เฒ่าทั้งหลายเหล่านั้นอยู่ พระเจ้าข้า.
ดูก่อนอานนท์ หากเจ้าวัชชีทั้งหลาย ยังสักการะ เคารพนับถือบูชา เจ้าวัชชีผู้ใหญ่ผู้เฒ่าของเจ้าวัชชีทั้งหลาย และยังเชื่อถือถ้อยคำที่ควรฟังของเจ้าวัชชีผู้ใหญ่ ผู้เฒ่าทั้งหลายเหล่านั้นอยู่ ตลอดกาลเพียงไร เจ้าวัชชีทั้งหลายพึงหวังความเจริญอย่างเดียว หาความเสื่อมมิได้เลย
(๕) ดูก่อนอานนท์ เธอได้ยินอย่างไร เจ้าวัชชีทั้งหลาย ไม่ฉุดคร่า ข่มเหง กักขังกุลสตรีทั้งหลาย และกุมารีของสกุลทั้งหลายอยู่หรือไม่
ข้อนี้ ข้าพระองค์ได้ยินว่า เจ้าวัชชีทั้งหลายไม่ฉุดคร่า ข่มเหงกักขังกุลสตรีทั้งหลายและกุมารีของสกุลทั้งหลาย พระเจ้าข้า.
ดูก่อนอานนท์ เจ้าวัชชีทั้งหลาย ไม่ฉุดคร่า ข่มเหงกักขังกุลสตรีทั้งหลาย และกุมารีของสกุลทั้งหลาย ตลอดกาลเพียงไร เจ้าวัชชีทั้งหลายพึงหวังความเจริญอย่างเดียว หาความเสื่อมมิได้เลย
(๖) ดูก่อนอานนท์ เธอได้ยินมาอย่างไร เจ้าวัชชีทั้งหลายยังสักการะ เคารพนับถือบูชาเจดีย์วัชชีทั้งหลายทั้งภายในและภายนอกพระนครของเจ้าวัชชีทั้งหลาย และยังไม่ลดพลีกรรมอันประกอบด้วยธรรมที่เคยถวายแล้ว เคยทำแล้วแก่เจดีย์วัชชีทั้งหลายทั้งภายในและภายนอกเหล่านั้นอยู่หรือไม่
ข้อนี้ ข้าพระองค์ได้ยินว่า เจ้าวัชชีทั้งหลายยังสักการะ เคารพนับถือ บูชาเจดีย์วัชชีทั้งหลายทั้งภายในและภายนอกของเจ้าวัชชีทั้งหลาย และยังไม่มีลดหย่อนพลีกรรมอันประกอบด้วยธรรมที่เคยถวายแล้ว เคยทำแล้ว แก่เจดีย์วัชชีทั้งหลายทั้งภายในและภายนอกเหล่านั้น พระเจ้าข้า.
 ดูก่อนอานนท์ เจ้าวัชชีทั้งหลายยังสักการะ เคารพนับถือบูชาเจดีย์วัชชีทั้งหลายทั้งภายในและภายนอกของเจ้าวัชชีทั้งหลาย และยังไม่ลดหย่อนพลีกรรมอันประกอบด้วยธรรมที่เคยถวายแล้ว เคยทำแล้ว แก่เจดีย์วัชชีทั้งหลายทั้งภายในและภายนอกเหล่านั้นอยู่ตลอดกาลเพียงไร เจ้าวัชชีทั้งหลายพึงหวังความเจริญอย่างเดียว หาความเสื่อมมิได้เลย
(๗) ดูก่อนอานนท์ เธอได้ยินว่าอย่างไร เจ้าวัชชีทั้งหลายยังจัดอารักขา ป้องกันและคุ้มครองประกอบด้วยธรรมด้วยดีในพระอรหันต์ทั้งหลายด้วยตั้งใจว่า ทำอย่างไร พระอรหันต์ทั้งหลายที่ยังไม่มา พึงมาสู่แคว้นและพระอรหันต์ทั้งหลายที่มาแล้ว ขอให้อยู่สบายในแคว้น ดังนี้ หรือไม่. 
ข้อนี้ ข้าพระองค์ได้ยินว่า เจ้าวัชชีทั้งหลายยังจัดอารักขา ป้องกันและคุ้มครองประกอบด้วยธรรมด้วยดีในพระอรหันต์ทั้งหลาย ด้วยตั้งใจว่าทำอย่างไร พระอรหันต์ทั้งหลายที่ยังไม่มา พึงมาสู่แคว้น และพระอรหันต์ทั้งหลายที่มาแล้ว ขอให้อยู่สบายในแคว้นดังนี้ พระเจ้าข้า.
ดูก่อนอานนท์ หากเจ้าวัชชีทั้งหลายยังเป็นผู้จัดอารักขา ป้องกันและคุ้มครองประกอบด้วยธรรมด้วยดีในพระอรหันต์ทั้งหลาย ด้วยตั้งใจว่าทำอย่างไร พระอรหันต์ทั้งหลายที่ยังไม่มา พึงมาสู่แคว้น และพระอรหันต์ทั้งหลายที่มาแล้ว ขอให้อยู่สบายในแคว้น ดังนี้ ตลอดกาลเพียงไร เจ้าวัชชีทั้งหลายพึงหวังความเจริญอย่างเดียว หาความเสื่อมมิได้เลย  ฉะนี้แล.
cr.ขุนพลไร้เงา 

(เรียบเรียงจากพระไตรปิฎก พิมพ์ใหม่ทั้งหมด เนื้อหาคงเดิม เพื่อให้อ่านง่ายขึ้น)

จบตอน ขัดแย้งเพราะผลประโยชน์
พบกันใหม่โอกาสหน้า
ราตรีสวัสดิ์พระรัตนตรัย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่