วันอังคาร ยามบ่ายแก่ๆ หญิงสาวในชุดนักศึกษา บนไหล่คล้องกระเป๋าสะพาย สองมือหิ้วถุงพลาสติกใบโตบรรจุหนังสือไว้เต็ม ก้าวลงจากรถเมล์
วันนี้ อาจารย์วิชาคาบบ่ายงดสอน หล่อนจึงถือโอกาสไปร้านโปรด ซื้อหนังสือนิยายมือสองที่ลดราคามาอย่างจุใจ ยิ่งซื้อเยอะยิ่งได้ส่วนลดเยอะ เพียงแต่ว่าจำนวนที่หล่อนซื้อนี่ ได้รวมค่าแท็กซี่เข้าไปด้วย หล่อนจึงต้องหอบหิ้วขึ้นรถเมล์มาจนปวดมือแบบนี้
เวลานี้ หล่อนนึกถึงชายหนุ่ม เขาบอกว่าช่วงนี้จะมีธุระยุ่ง แวะมาหาไม่ได้ เขาก็ไม่มาให้เห็นหน้าจริงๆ ไม่แม้แต่จะโทรมาด้วย ถึงหล่อนจะไม่ได้ให้เบอร์โทรกับเขาก็เถอะ แต่เขาไม่รู้จักถามจากแม่หล่อนรึไงเล่า จะให้หล่อนโทรหาเขาน่ะเหรอ ไม่มีทาง เขาบอกเบอร์โทรมาครั้งเดียวแถมยังพูดซะเร็วปรื๋อขนาดนั้น ใครจะไปจำได้ล่ะ
หล่อนหิ้วถุงหนังสือเดินเตาะแตะมานั่งพักที่ป้ายรถเมล์ นวดนิ้วมือให้คลายจากรอยกดทับ ใช่ เขาบอกว่าจะคิดถึงหล่อน ขอให้หล่อนคิดถึงเขาด้วย อืม เวลานี้หล่อนคิดถึงเขาจริงๆนะ
รถเมล์อีกคันจอด โดยมีชายหนุ่มก้าวลงมา ราวกับถูกความคิดถึงของหญิงสาวเรียกหา
ภาพที่หล่อนมองเห็น มีดวงตะวันเคลื่อนคล้อยส่องแสงอยู่ด้านหลังชายหนุ่ม ราวกับจะเห็นปีกและวงแหวนบนหัวของเขาปรากฎขึ้น
หญิงสาวยิ้มจนเห็นฟันขาวเรียงราย ขณะเดียวกัน ชายหนุ่มเห็นรอยยิ้มต้อนรับของหล่อน ก็ยิ้มอย่างเบิกบานเข้ามาหา
...
อา `หื่มฮืมฮื้มฮืม` หญิงสาวฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดีมีความสุขที่ได้เดินตัวปลิวกลับบ้าน
หล่อนไขกุญแจ เปิดประตูให้ชายหนุ่มหิ้วถุงหนังสือเข้ามา ทึ่งนิดๆ ที่เห็นชายหนุ่มถือถุงหนังสือหนักอึ้งเดินตามหล่อนมาได้ติดๆ ทั้งที่ตัวเองก็สะพายกระเป๋าใบเบ้อเริ่ม
"ให้วางไว้ไหน"
หล่อนเดินนำไปที่บันได เขาวางถุงลง ปลดกระเป๋าของเขาลงก่อนหิ้วถุงหนังสือตามหล่อนขึ้นไปชั้นบน
"วางตรงนี้แหละ"
หล่อนชี้ตรงหน้าประตูห้อง
"ผมยกเข้าไปให้"
"ใครอนุญาตให้เข้าห้องชั้นไม่ทราบ"
"โธ่ ขี้งก"
"ลงไปได้แล้ว แล้วอย่าหันมาดูนะ"
"โอ้โห แค่ดูยังไม่ได้"
"ไม่พอใจเหรอ"
"ป่าวค้าบ"
เขาลงบันได บ่นพึมพำ
"นมก็ไม่ให้ดู ก้นก็ไม่ให้ดู ขนาดห้องยังไม่ให้ดู คอยดูนะ จีบติดเมื่อไหร่ จะเปิดให้หมดเลย"
"ได้ยินนะ จะเปิดอะไรนะ"
"ป่าวค้าบ จะเปิดใจยอมรับทุกอย่างที่เกดต้องการค้าบ"
หลังจากหญิงสาวย้ายถุงหนังสือเข้าไปในห้องแล้ว หล่อนรีบลงมา
"ขอบคุณนะ"
"เป็นหน้าที่อยู่แล้ว ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมกลับนะ"
-เอี๊ยยยยดเอื๊อด-
"จะรีบกลับไปไหนน่ะ" แปลกแฮะที่คราวนี้ นายนี่ไม่พยายามก้อร่อก้อติก เกาะแกะ ตามติดหล่อน
เขาจิ้มจมูกหญิงสาว
"เพราะตอนนี้ ในบ้านเกดไม่มีคนอื่นอยู่น่ะสิ"
หล่อนหน้าแดง นายนี่มัน...
"ผมจะไปหาข้าวกินด้วย ไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่เช้า"
-อ๊อดอ๊าด-
"ไม่เป็นไรหรอก ทำอะไรให้กินมั้ย ตอบแทน"
"โอ้ เยี่ยมเลย กับข้าวฝีมือเกด"
-เอี๊ยดอ๊อด-
"อย่าหวังมากนักเลย มีแค่ข้าวผัดไข่นะ"
-เอื๊อดแอ๊ด-
"แค่นั้นก็เอา..."
-อ๊าดเอื๊อด-
เขาชักรำคาญจนต้องหันไปตามเสียง
"เสียงประตูบ้านลุงเอกไง เข้าออกแต่ละที บ้านอื่นรู้หมด ยิ่งประตูโรงรถด้วยนะ"
"อ้อ นั่นก็คงพยายามจะหยอดน้ำมันล่ะสิ ...ท่าจะไม่ไหว ผมไปช่วยลุงเขาหน่อยดีกว่า"
"จะผัดข้าวรอไว้ให้ แล้วกลับมากินนะ"
"จ้า ที่รัก" ชายหนุ่มพับแขนเสื้อแล้วออกไป
ใช่สิ เมื่อกี้มันบทพูดของศรีภรรยานี่นา
หล่อนกำลังจะเข้าครัว แต่เกิดสังเกตเห็นกระเป๋าของเขา หล่อนจำได้ว่ากระเป๋าใบที่เขาใช้ประจำเป็นสีน้ำตาลใบเล็กกว่านี้ แต่กระเป๋าสีดำใบนี้มันใหญ่ยังกับกระเป๋าเดินทาง
เขาบอกว่ากำลังทำงานใหญ่ นี่ก็คือกระเป๋าที่เขาใช้ทำงานใหญ่ที่ว่าใช่ไหม
ในนี้มีอะไรบ้างนะ จะมีสิ่งที่หล่อนไม่ควรรู้ไม่ควรเห็นหรือเปล่า
ความอยากรู้อยากเห็นของหล่อนมีมากกว่า หล่อนห้ามเขาเปิดของหล่อน แต่หล่อนจะเปิดของเขา แล้วมีอะไรมั้ย
หล่อนรูดซิปเปิดอ้าออก สิ่งที่หล่อนเห็น คือ ...
เสื้อ? หล่อนหยิบออกมากางดู เสื้อเชิ้ตที่เนื้อหนามาก นี่มัน ชุดสูท เคยแต่เห็น เพิ่งเคยจับของจริง มันหนักเหมือนกันนะเนี่ย อ้อ แล้วผ้ายาวสีเหลืองนั่นก็เนคไท อืม ทำงานใส่สูทผูกไท มีระดับซะด้วยแฮะ แล้วใต้เสื้อสูทนี่มัน ก้อนอะไร หือ ม้วนผ้า หล่อนแก้เชือกที่มัดม้วนผ้าออก ปรากฏว่าเชือกกับผ้ามันเป็นชิ้นเดียวกัน หล่อนคลี่มันสะบัดยกขึ้นดู นี่มัน เสื้อคลุม แล้วสายสะพายนี่มัน ชุดรับปริญญา? เขาไปรับปริญญาที่ไหนกัน สายสะพายนี่มันคณะอะไร
หล่อนวางเสื้อคลุมไว้ก่อน สนใจสมุดบันทึกปกหนังสีดำที่อยู่ข้างใต้ ใจตึกตัก ว่าข้างในจะมีบัญชีรายชื่ออยู่ซักกี่คน แต่เมื่อหยิบขึ้นมาจะเปิดดู ก็ไม่จำเป็นต้องเปิดแล้ว เพราะเห็นสิ่งที่อยู่ใต้สมุดบันทึกเล่มนั้น มันคือตั้งเอกสารที่กระดาษยาวผิดปกติ มีตราครุฑตรงกลางหัวกระดาษ มุมบนซ้ายมีคำว่า 'คำฟ้อง' มุมบนขวามีคำว่า 'คดีหมายเลขดำที่' หล่อนสะดุดตากับชื่อที่เขียนอยู่บนเอกสารนั้น ชื่อบนเขียนว่า 'พนักงานอัยการจังหวัด' ส่วนชื่อข้างล่าง เป็นชื่อของทายาทร้านขายยาชื่อดังที่เป็นข่าวอยู่ตอนนี้ เมื่อเอาไปรวมกับเสื้อคลุมนั่น หล่อนได้คำตอบทันที คิดอยู่ว่ามันดูคุ้นๆ
ชุดรับปริญญาอะไรเล่า นั่นมันชุดทนาย!
พนักงานทวงหนี้อะไรล่ะ ไอ้หมอนี่ มันเป็นทนาย มิน่า พูดเก่งนัก อ้อ ที่ว่างานช่วยคนไม่ให้ติดคุก ก็คดีนี้สินะ
หลอกกันได้นะ สมกับเป็นพ่อคนดี ที่มีข้อเสียอย่างเดียวคือชอบโกหก
หล่อนล้วงช่องลับในกระเป๋า เจอคลิปหนีบกระดาษ ยาอม กับสมุดเล่มเล็กคล้ายพาสปอร์ตแต่หน้าปกมีคำว่า'ใบอนุญาตให้เป็นทนายความ' เปิดดูข้างในก็เจอรูปเขาหรา ฮึ่ม ชัด ไอ้หมอนี่
หล่อนล้วงช่องที่เหลือ ก็เป็นบัตรประชาชน ...เดี๋ยวสิ ทำไมมีบัตรประชาชน 2 ใบ หล่อนหยิบออกมาดู ไม่ใช่บัตรของเขา แต่หนึ่งในนั้น หล่อนจำได้ มันคือไอ้เดนนรกที่จะข่มขืนหล่อน แล้วทำไมมาอยู่ในกระเป๋าของเขา
หล่อนชะงักค้างไปครู่หนึ่ง ก่อนจะทรุดนั่งลง
อาศัยประสบการณ์จากการอ่านข่าวและเสพนิยายมาหลายเรื่อง สมองหล่อนประมวลผลเสร็จสิ้นแล้ว
เฮอะ เรียกตำรวจมาช่วยอะไรกัน เขาเป็นคนจัดการพวกมันเองต่างหากล่ะ
หญิงสาวเพิ่งเข้าใจความรู้สึกของลูกสาวกำนัน เมื่อรู้ความจริงว่า จิ๊กโก๋ที่ตามตื๊อเป็นร้อยตำรวจเอกปลอมตัวมา
เสียงประตูเปิด ชายหนุ่มกลับเข้ามา
"ชะ อุ้ย" เขาคิดในใจว่า ถ้าไม่พร้อมจะไม่พายายนี่ไปที่ห้องเด็ดขาด ไม่งั้นหนังสือโป๊ที่เขาเก็บซ่อนไว้ได้โดนรื้อออกมากระจุยแน่ นี่เขาไม่อยู่แค่แป๊บเดียว ยังรื้อกระเป๋าเขาซะกระจายขนาดนี้ ทั้งสูท ครุย สมุดนัด สำนวน
หล่อนตวัดสายตามองเขา "นี่มันอะไรกันคะ"
ชายหนุ่มกลืนน้ำลายเอื๊อก "เอ่อ แล้วข้าวผัดของผมล่ะ"
...
"ชั้นถามว่ามันคืออะไร" หญิงสาวถามซ้ำ
ชายหนุ่มเกาหัว
"ก็เครื่องแบบกับอุปกรณ์ในการทำงาน"
เขาคิดว่าจะเก็บเป็นความลับได้นานกว่านี้นะเนี่ย
"ไม่ใช่" หล่อนชูบัตรประชาชน 2 ใบในมือให้เขาดู "ชั้นหมายถึงนี่"
อืม ขนาดเรื่องนี้ก็เก็บไม่อยู่ เขาเกาหัวอีกครั้ง
"ก็ของที่เก็บไว้รับประกันความปลอดภัย"
"แล้วทำไมถึงไม่บอก"
"ก็มัน...ไม่จำเป็น"
"คุณเป็นคนช่วยชั้นไว้ มันไม่จำเป็นยังไง"
ฮึ่ม ทำไมต้องปิดบังตัวตนที่เป็นอัศวินขี่ม้าขาวของหล่อนด้วย
"ก็ไม่จำเป็นจริงๆนี่" ชายหนุ่มยักไหล่ "สำหรับผมมันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย ...แล้วผมอยากให้เกดรักผม เพื่อตอบแทนที่ผมรักเกด ไม่ใช่รักผม เพราะตอบแทนที่ผมช่วยเกด ไม่งั้นต่อไปมีใครมาช่วยเกด แล้วเกดไปรักเขา ผมจะทำยังไงล่ะ"
อ้อ ก็เลยคิดจะปลอมเป็นคนธรรมดา เอาชนะใจเจ้าหญิง พิสูจน์รักแท้รึไง
"โธ่เอ๊ย ก็เป็นอัศวินจริงๆนี่นา จะมัวเป็นคนธรรมดาทำไมล่ะ ..อ๊ะ" หล่อนเผลอโพล่งความคิดในหัวออกไปอีกแล้ว
"หืม" ชายหนุ่มเอานิ้วจิ้มหน้าผากหล่อน
"คิดอะไรอยู่น่ะ ผมน่ะนะ เป็นคนในโลกความเป็นจริง เป็นแค่คนธรรมดาอย่างที่คุณเห็นนี่แหละ ไม่ใช่อัศวินที่ไหน มองให้เห็นตัวตนที่แท้จริงของผมหน่อย อย่ามัวแต่เพ้อฝันอยู่"
หญิงสาวจิ้มหน้าผากเขาคืน
"ชั้นจะเพ้อฝันแล้วมีอะไรมั้ย คุณมันไม่เคยมีความฝันของลูกผู้หญิงจะไปรู้อะไร คุณคิดว่าตัวคุณเป็นอะไรมันก็เรื่องของคุณ แต่ถ้าตัวชั้นเป็นเจ้าหญิง คุณจะมาอยู่ในดินแดนของชั้น เป็นอัศวินของชั้นมั้ย"
ชายหนุ่มกะพริบตาปริบๆ เอาวะ เล่นกับยายนี่หน่อย
"ผมจะเป็น ถ้าเกดต้องการ"
หล่อนหัวเราะร่า เข้าสวมกอด อยู่ในอ้อมอกเขา ชายเจ้าของแผ่นหลังนั่น อยู่ตรงนี้มาตลอด
หญิงสาวเงยหน้าพูด
"เกดค่ะ นันทิกา แท่นสุข อายุ 20 ปี ที่อยู่ oxoox...ooxxxoxx โทรศัพท์ xooxoxo"
หล่อนว่าเขาคงเข้าใจความหมายนะ
เขาอึ้งไปซักพัก โอบแขนกอดตอบหล่อน ก่อนพูดว่า
"เรารู้จักกันดีแล้วใช่มั้ย"
หล่อนยิ้มตอบ
"อยากรู้อะไรก็ถามสิ"
เขามองตาหล่อน สบตาผ่านเลนส์อย่างมีความหมาย
"ผมอยากรู้มานานแล้ว..." ชายหนุ่มรัดวงแขนให้กระชับขึ้น โน้มหน้าเข้าไปใกล้ "ตอนจูบกัน แว่นนี่มันจะเกะกะหรือเปล่า"
ใครบอก ว่าผู้หญิงใส่แว่นแล้วต้องขี้อาย
หญิงสาวพริ้มตา กระซิบอยู่ชิดริมฝีปากเขา
"...ก็ลองดูสิ"
..........................................................................................................................................................................................................
หรือจะเป็นบุพเพ 8 : อัศวิน
วันนี้ อาจารย์วิชาคาบบ่ายงดสอน หล่อนจึงถือโอกาสไปร้านโปรด ซื้อหนังสือนิยายมือสองที่ลดราคามาอย่างจุใจ ยิ่งซื้อเยอะยิ่งได้ส่วนลดเยอะ เพียงแต่ว่าจำนวนที่หล่อนซื้อนี่ ได้รวมค่าแท็กซี่เข้าไปด้วย หล่อนจึงต้องหอบหิ้วขึ้นรถเมล์มาจนปวดมือแบบนี้
เวลานี้ หล่อนนึกถึงชายหนุ่ม เขาบอกว่าช่วงนี้จะมีธุระยุ่ง แวะมาหาไม่ได้ เขาก็ไม่มาให้เห็นหน้าจริงๆ ไม่แม้แต่จะโทรมาด้วย ถึงหล่อนจะไม่ได้ให้เบอร์โทรกับเขาก็เถอะ แต่เขาไม่รู้จักถามจากแม่หล่อนรึไงเล่า จะให้หล่อนโทรหาเขาน่ะเหรอ ไม่มีทาง เขาบอกเบอร์โทรมาครั้งเดียวแถมยังพูดซะเร็วปรื๋อขนาดนั้น ใครจะไปจำได้ล่ะ
หล่อนหิ้วถุงหนังสือเดินเตาะแตะมานั่งพักที่ป้ายรถเมล์ นวดนิ้วมือให้คลายจากรอยกดทับ ใช่ เขาบอกว่าจะคิดถึงหล่อน ขอให้หล่อนคิดถึงเขาด้วย อืม เวลานี้หล่อนคิดถึงเขาจริงๆนะ
รถเมล์อีกคันจอด โดยมีชายหนุ่มก้าวลงมา ราวกับถูกความคิดถึงของหญิงสาวเรียกหา
ภาพที่หล่อนมองเห็น มีดวงตะวันเคลื่อนคล้อยส่องแสงอยู่ด้านหลังชายหนุ่ม ราวกับจะเห็นปีกและวงแหวนบนหัวของเขาปรากฎขึ้น
หญิงสาวยิ้มจนเห็นฟันขาวเรียงราย ขณะเดียวกัน ชายหนุ่มเห็นรอยยิ้มต้อนรับของหล่อน ก็ยิ้มอย่างเบิกบานเข้ามาหา
...
อา `หื่มฮืมฮื้มฮืม` หญิงสาวฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดีมีความสุขที่ได้เดินตัวปลิวกลับบ้าน
หล่อนไขกุญแจ เปิดประตูให้ชายหนุ่มหิ้วถุงหนังสือเข้ามา ทึ่งนิดๆ ที่เห็นชายหนุ่มถือถุงหนังสือหนักอึ้งเดินตามหล่อนมาได้ติดๆ ทั้งที่ตัวเองก็สะพายกระเป๋าใบเบ้อเริ่ม
"ให้วางไว้ไหน"
หล่อนเดินนำไปที่บันได เขาวางถุงลง ปลดกระเป๋าของเขาลงก่อนหิ้วถุงหนังสือตามหล่อนขึ้นไปชั้นบน
"วางตรงนี้แหละ"
หล่อนชี้ตรงหน้าประตูห้อง
"ผมยกเข้าไปให้"
"ใครอนุญาตให้เข้าห้องชั้นไม่ทราบ"
"โธ่ ขี้งก"
"ลงไปได้แล้ว แล้วอย่าหันมาดูนะ"
"โอ้โห แค่ดูยังไม่ได้"
"ไม่พอใจเหรอ"
"ป่าวค้าบ"
เขาลงบันได บ่นพึมพำ
"นมก็ไม่ให้ดู ก้นก็ไม่ให้ดู ขนาดห้องยังไม่ให้ดู คอยดูนะ จีบติดเมื่อไหร่ จะเปิดให้หมดเลย"
"ได้ยินนะ จะเปิดอะไรนะ"
"ป่าวค้าบ จะเปิดใจยอมรับทุกอย่างที่เกดต้องการค้าบ"
หลังจากหญิงสาวย้ายถุงหนังสือเข้าไปในห้องแล้ว หล่อนรีบลงมา
"ขอบคุณนะ"
"เป็นหน้าที่อยู่แล้ว ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมกลับนะ"
-เอี๊ยยยยดเอื๊อด-
"จะรีบกลับไปไหนน่ะ" แปลกแฮะที่คราวนี้ นายนี่ไม่พยายามก้อร่อก้อติก เกาะแกะ ตามติดหล่อน
เขาจิ้มจมูกหญิงสาว
"เพราะตอนนี้ ในบ้านเกดไม่มีคนอื่นอยู่น่ะสิ"
หล่อนหน้าแดง นายนี่มัน...
"ผมจะไปหาข้าวกินด้วย ไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่เช้า"
-อ๊อดอ๊าด-
"ไม่เป็นไรหรอก ทำอะไรให้กินมั้ย ตอบแทน"
"โอ้ เยี่ยมเลย กับข้าวฝีมือเกด"
-เอี๊ยดอ๊อด-
"อย่าหวังมากนักเลย มีแค่ข้าวผัดไข่นะ"
-เอื๊อดแอ๊ด-
"แค่นั้นก็เอา..."
-อ๊าดเอื๊อด-
เขาชักรำคาญจนต้องหันไปตามเสียง
"เสียงประตูบ้านลุงเอกไง เข้าออกแต่ละที บ้านอื่นรู้หมด ยิ่งประตูโรงรถด้วยนะ"
"อ้อ นั่นก็คงพยายามจะหยอดน้ำมันล่ะสิ ...ท่าจะไม่ไหว ผมไปช่วยลุงเขาหน่อยดีกว่า"
"จะผัดข้าวรอไว้ให้ แล้วกลับมากินนะ"
"จ้า ที่รัก" ชายหนุ่มพับแขนเสื้อแล้วออกไป
ใช่สิ เมื่อกี้มันบทพูดของศรีภรรยานี่นา
หล่อนกำลังจะเข้าครัว แต่เกิดสังเกตเห็นกระเป๋าของเขา หล่อนจำได้ว่ากระเป๋าใบที่เขาใช้ประจำเป็นสีน้ำตาลใบเล็กกว่านี้ แต่กระเป๋าสีดำใบนี้มันใหญ่ยังกับกระเป๋าเดินทาง
เขาบอกว่ากำลังทำงานใหญ่ นี่ก็คือกระเป๋าที่เขาใช้ทำงานใหญ่ที่ว่าใช่ไหม
ในนี้มีอะไรบ้างนะ จะมีสิ่งที่หล่อนไม่ควรรู้ไม่ควรเห็นหรือเปล่า
ความอยากรู้อยากเห็นของหล่อนมีมากกว่า หล่อนห้ามเขาเปิดของหล่อน แต่หล่อนจะเปิดของเขา แล้วมีอะไรมั้ย
หล่อนรูดซิปเปิดอ้าออก สิ่งที่หล่อนเห็น คือ ...
เสื้อ? หล่อนหยิบออกมากางดู เสื้อเชิ้ตที่เนื้อหนามาก นี่มัน ชุดสูท เคยแต่เห็น เพิ่งเคยจับของจริง มันหนักเหมือนกันนะเนี่ย อ้อ แล้วผ้ายาวสีเหลืองนั่นก็เนคไท อืม ทำงานใส่สูทผูกไท มีระดับซะด้วยแฮะ แล้วใต้เสื้อสูทนี่มัน ก้อนอะไร หือ ม้วนผ้า หล่อนแก้เชือกที่มัดม้วนผ้าออก ปรากฏว่าเชือกกับผ้ามันเป็นชิ้นเดียวกัน หล่อนคลี่มันสะบัดยกขึ้นดู นี่มัน เสื้อคลุม แล้วสายสะพายนี่มัน ชุดรับปริญญา? เขาไปรับปริญญาที่ไหนกัน สายสะพายนี่มันคณะอะไร
หล่อนวางเสื้อคลุมไว้ก่อน สนใจสมุดบันทึกปกหนังสีดำที่อยู่ข้างใต้ ใจตึกตัก ว่าข้างในจะมีบัญชีรายชื่ออยู่ซักกี่คน แต่เมื่อหยิบขึ้นมาจะเปิดดู ก็ไม่จำเป็นต้องเปิดแล้ว เพราะเห็นสิ่งที่อยู่ใต้สมุดบันทึกเล่มนั้น มันคือตั้งเอกสารที่กระดาษยาวผิดปกติ มีตราครุฑตรงกลางหัวกระดาษ มุมบนซ้ายมีคำว่า 'คำฟ้อง' มุมบนขวามีคำว่า 'คดีหมายเลขดำที่' หล่อนสะดุดตากับชื่อที่เขียนอยู่บนเอกสารนั้น ชื่อบนเขียนว่า 'พนักงานอัยการจังหวัด' ส่วนชื่อข้างล่าง เป็นชื่อของทายาทร้านขายยาชื่อดังที่เป็นข่าวอยู่ตอนนี้ เมื่อเอาไปรวมกับเสื้อคลุมนั่น หล่อนได้คำตอบทันที คิดอยู่ว่ามันดูคุ้นๆ
ชุดรับปริญญาอะไรเล่า นั่นมันชุดทนาย!
พนักงานทวงหนี้อะไรล่ะ ไอ้หมอนี่ มันเป็นทนาย มิน่า พูดเก่งนัก อ้อ ที่ว่างานช่วยคนไม่ให้ติดคุก ก็คดีนี้สินะ
หลอกกันได้นะ สมกับเป็นพ่อคนดี ที่มีข้อเสียอย่างเดียวคือชอบโกหก
หล่อนล้วงช่องลับในกระเป๋า เจอคลิปหนีบกระดาษ ยาอม กับสมุดเล่มเล็กคล้ายพาสปอร์ตแต่หน้าปกมีคำว่า'ใบอนุญาตให้เป็นทนายความ' เปิดดูข้างในก็เจอรูปเขาหรา ฮึ่ม ชัด ไอ้หมอนี่
หล่อนล้วงช่องที่เหลือ ก็เป็นบัตรประชาชน ...เดี๋ยวสิ ทำไมมีบัตรประชาชน 2 ใบ หล่อนหยิบออกมาดู ไม่ใช่บัตรของเขา แต่หนึ่งในนั้น หล่อนจำได้ มันคือไอ้เดนนรกที่จะข่มขืนหล่อน แล้วทำไมมาอยู่ในกระเป๋าของเขา
หล่อนชะงักค้างไปครู่หนึ่ง ก่อนจะทรุดนั่งลง
อาศัยประสบการณ์จากการอ่านข่าวและเสพนิยายมาหลายเรื่อง สมองหล่อนประมวลผลเสร็จสิ้นแล้ว
เฮอะ เรียกตำรวจมาช่วยอะไรกัน เขาเป็นคนจัดการพวกมันเองต่างหากล่ะ
หญิงสาวเพิ่งเข้าใจความรู้สึกของลูกสาวกำนัน เมื่อรู้ความจริงว่า จิ๊กโก๋ที่ตามตื๊อเป็นร้อยตำรวจเอกปลอมตัวมา
เสียงประตูเปิด ชายหนุ่มกลับเข้ามา
"ชะ อุ้ย" เขาคิดในใจว่า ถ้าไม่พร้อมจะไม่พายายนี่ไปที่ห้องเด็ดขาด ไม่งั้นหนังสือโป๊ที่เขาเก็บซ่อนไว้ได้โดนรื้อออกมากระจุยแน่ นี่เขาไม่อยู่แค่แป๊บเดียว ยังรื้อกระเป๋าเขาซะกระจายขนาดนี้ ทั้งสูท ครุย สมุดนัด สำนวน
หล่อนตวัดสายตามองเขา "นี่มันอะไรกันคะ"
ชายหนุ่มกลืนน้ำลายเอื๊อก "เอ่อ แล้วข้าวผัดของผมล่ะ"
...
"ชั้นถามว่ามันคืออะไร" หญิงสาวถามซ้ำ
ชายหนุ่มเกาหัว
"ก็เครื่องแบบกับอุปกรณ์ในการทำงาน"
เขาคิดว่าจะเก็บเป็นความลับได้นานกว่านี้นะเนี่ย
"ไม่ใช่" หล่อนชูบัตรประชาชน 2 ใบในมือให้เขาดู "ชั้นหมายถึงนี่"
อืม ขนาดเรื่องนี้ก็เก็บไม่อยู่ เขาเกาหัวอีกครั้ง
"ก็ของที่เก็บไว้รับประกันความปลอดภัย"
"แล้วทำไมถึงไม่บอก"
"ก็มัน...ไม่จำเป็น"
"คุณเป็นคนช่วยชั้นไว้ มันไม่จำเป็นยังไง"
ฮึ่ม ทำไมต้องปิดบังตัวตนที่เป็นอัศวินขี่ม้าขาวของหล่อนด้วย
"ก็ไม่จำเป็นจริงๆนี่" ชายหนุ่มยักไหล่ "สำหรับผมมันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย ...แล้วผมอยากให้เกดรักผม เพื่อตอบแทนที่ผมรักเกด ไม่ใช่รักผม เพราะตอบแทนที่ผมช่วยเกด ไม่งั้นต่อไปมีใครมาช่วยเกด แล้วเกดไปรักเขา ผมจะทำยังไงล่ะ"
อ้อ ก็เลยคิดจะปลอมเป็นคนธรรมดา เอาชนะใจเจ้าหญิง พิสูจน์รักแท้รึไง
"โธ่เอ๊ย ก็เป็นอัศวินจริงๆนี่นา จะมัวเป็นคนธรรมดาทำไมล่ะ ..อ๊ะ" หล่อนเผลอโพล่งความคิดในหัวออกไปอีกแล้ว
"หืม" ชายหนุ่มเอานิ้วจิ้มหน้าผากหล่อน
"คิดอะไรอยู่น่ะ ผมน่ะนะ เป็นคนในโลกความเป็นจริง เป็นแค่คนธรรมดาอย่างที่คุณเห็นนี่แหละ ไม่ใช่อัศวินที่ไหน มองให้เห็นตัวตนที่แท้จริงของผมหน่อย อย่ามัวแต่เพ้อฝันอยู่"
หญิงสาวจิ้มหน้าผากเขาคืน
"ชั้นจะเพ้อฝันแล้วมีอะไรมั้ย คุณมันไม่เคยมีความฝันของลูกผู้หญิงจะไปรู้อะไร คุณคิดว่าตัวคุณเป็นอะไรมันก็เรื่องของคุณ แต่ถ้าตัวชั้นเป็นเจ้าหญิง คุณจะมาอยู่ในดินแดนของชั้น เป็นอัศวินของชั้นมั้ย"
ชายหนุ่มกะพริบตาปริบๆ เอาวะ เล่นกับยายนี่หน่อย
"ผมจะเป็น ถ้าเกดต้องการ"
หล่อนหัวเราะร่า เข้าสวมกอด อยู่ในอ้อมอกเขา ชายเจ้าของแผ่นหลังนั่น อยู่ตรงนี้มาตลอด
หญิงสาวเงยหน้าพูด
"เกดค่ะ นันทิกา แท่นสุข อายุ 20 ปี ที่อยู่ oxoox...ooxxxoxx โทรศัพท์ xooxoxo"
หล่อนว่าเขาคงเข้าใจความหมายนะ
เขาอึ้งไปซักพัก โอบแขนกอดตอบหล่อน ก่อนพูดว่า
"เรารู้จักกันดีแล้วใช่มั้ย"
หล่อนยิ้มตอบ
"อยากรู้อะไรก็ถามสิ"
เขามองตาหล่อน สบตาผ่านเลนส์อย่างมีความหมาย
"ผมอยากรู้มานานแล้ว..." ชายหนุ่มรัดวงแขนให้กระชับขึ้น โน้มหน้าเข้าไปใกล้ "ตอนจูบกัน แว่นนี่มันจะเกะกะหรือเปล่า"
ใครบอก ว่าผู้หญิงใส่แว่นแล้วต้องขี้อาย
หญิงสาวพริ้มตา กระซิบอยู่ชิดริมฝีปากเขา
"...ก็ลองดูสิ"
..........................................................................................................................................................................................................