แชร์ประสบการณ์การเคลมกระเป๋าเดินทางกับการบินไทย และประกัน SOMPO

ณ เวลาที่เราเขียน เราได้ผ่านกระบวนการในการเคลมทั้งหมดแล้วค่ะ เลยขอนำประสบการณ์มาแชร์ให้อ่านกัน ดังนี้ 

               กระเป๋าเดินทางเราขนาด 28 นิ้ว เราไปญี่ปุ่น ด้วยสายการบินไทย เดินทางแบบเที่ยวเอง ไม่ได้ไปกับทัวน์ ลากกระเป่าฝากโรงแรมที่เราไปพักแล้วออกเที่ยว โดยเดินทาง 23 พ.ย 67 กลับ 5 ธ.ค 67 ทริปนี้เดินทางทั้งหมด 13 วัน เที่ยวไปลงสนามบิน นาโงย่า  เที่ยวกลับสนามบินโตเกียว  เที่ยวไปลงนาโงย่า สนามบินชูบุ เซ็นแทร์ กระเป๋าออกจากสายพาน ล้อหลุดหายไป 1 ล้อ หาล้อไม่เจอ เราติดต่อเจ้าหน้าที่สนามบินที่ดูแลสายพานขณะนั้น โดยเราบอกว่าเราทำประกัน SOMPO ไว้ เจ้าหน้าที่สอบถามเพิ่มเติม อายุกระเป๋า,ราคา และออกใบเคลมมาให้ ซึ่งภายหลังจึงเห็นหัวใบเคลมออกจาก Japan-Airline (สนามบินชูบุ เซ็นแทร์ ไม่มีเคาร์เตอร์การบินไทย) ให้แจ้งกับ จนท.สนามบินที่อยู่บริเวณสายพานเลย ว่ากระเป๋าเราเสียหาย เขาจะพาไปจุดที่ออกใบเคลมความเสียหายให้ ให้เราเก็บใบความเสียหายไว้ เพื่อมาใช้ในการเคลมต่อไปค่ะ

               เราเดินทางต่อด้วยกระเป๋าเดินทางที่มี 3 ล้อ โดยหาทางลากและเข็นแบบ 3 ล้อ ทำยังไงให้เข็นไปสะดวกที่สุด เราบินสายๆ ถึงญี่ปุ่นก็ค่ำแล้ว และต้องเดินทางออกจากสนามบินเพื่อเข้าที่พักวันแรก กระเป๋าเราหนัก 15 กิโล มีของประมาณครึ่งกระเป๋า ขาไปก็ยังไม่หนักมาก แต่การเข็น 3 ล้อก็ทำให้ลำบากพอควร เราคิดว่าจะทำอย่างไรดี จะซื้อกระเป๋าใบใหม่ดีไหมแล้วใบเก่าจะทำอย่างไร เราไปเดินดูร้านขายกระเป๋าและได้คุยกับคนขาย เขาให้ข้อมูลมาว่า การกำจัดกระเป๋าใบเก่าที่ญี่ปุ่นนั้นยาก โดยเฉพาะกระเป๋าขนาดใหญ่ ต้องมีค่าใช้จ่าย และเราต้องคุยกับที่พักที่เราพักว่าเขายินดีจะกำจัดให้เราไหม และเราก็ติดต่อไปยังร้านที่ขายกระเป๋าให้เราที่เมืองไทย (ผ่าน facebook)  เอารูปความเสียหายให้ดู ร้านขายกระเป๋าบอกว่าเปลี่ยนล้อใหม่ได้ และเปลี่ยนไม่ยากด้วย ถ้าอยู่ระหว่างประกัน 5 ปี อะไหล่และค่าบริการฟรี กระเป๋าเราเพิ่งซื้อเมื่อปี 2023 และปีก่อนก็พาไปลุยญี่ปุ่น ฮอกไกโด 15 วัน บินการบินไทยเช่นเดิม แต่ปีนั้นเรียบร้อยดีไม่มีปัญหาอะไร สุดท้ายเราซื้อใบใหม่ก็ไม่ได้ เพราะทิ้งกระเป๋าใบเก่าไม่ได้ และถ้าเราทิ้ง เราก็จะเคลมกระเป๋าไม่ได้เลย เพราะต้องใช้กระเป๋าใบเก่าในการเคลมด้วย แนวทางหาที่ซ่อมล้อ ที่ญี่ปุ่นเราคิดว่ายาก เราก็เลยไม่ได้หาข้อมูลร้านซ่อม และจะเสียเวลาไปเที่ยวด้วย ดังนั้นเราจึงต้องไปต่อ กับน้อง 3 ล้อของเราค่ะทุกคน

               สรุปเราเดินทางไปเที่ยวลากกระเป๋า 13 วัน ลากไปตามฟุตบาท บนถนน ฝ่าหิมะที่ hakuba หิมะเพิ่งตกพอดี ลากไปฝากไว้ตามที่พักต่างๆ ด้วยกระเป๋าที่มี 3 ล้อ  บางที่ก็ต้องแบก ต้องยกขึ้นชั้น 2 แบกขึ้นสะพานข้ามรถไฟ ต่างจังหวัดไม่มีลิฟท์ เราลุ้นทุกวันให้กระเป๋าเราล้อไม่หลุดเพิ่ม เพราะถ้าหลุดเพิ่ม เราจะไปต่ออย่างไร กับกระเป๋าใบใหญ่ และเริ่มหนักขึ้นตามเวลาที่ผ่านไป และวันสุดท้ายเราอยู่โตเกียว กลับสนามบินนาริตะ ตอนถึงสุวรรณภูมิ เราลุ้นอีกว่ากระเป๋าเราจะพังเพิ่มไหม

                 เมื่อน้องกระเป๋าออกมาจากสายพาน (สนามบินสุวรรณภูมิ)  ยกขึ้นมา สิ่งที่เกิดขึ้น คือ มุมกระเป๋าด้านหนึ่งแตกออกมา โดนอีกเป็นครั้งที่ 2 ในทริปเดียวกัน ทั้งขาไป และขากลับ เราเดินไปที่ Buggage Service ของการบินไทย ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสายพานเบอร์ 10 เจ้าหน้าที่สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและดูความเสียหายบนกระเป๋า ขอ BOARDING PASS และออกใบ DAMAGE REPORT ให้ พร้อม REPAIR SHOP LIST ร้านซ่อมประเป๋า จำนวน 5 ร้าน พร้อมช่องทางติดต่อให้เราเลือกติดต่อร้านที่สะดวก ร้านจะมารับที่บ้านเอาไปซ่อม นัดวันเวลารับกระเป๋ากับร้านได้เลย ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม บ้านเราอยู่ปริมณฑล ร้านจะมารับที่บ้านได้ กรณีต่างจังหวัด สามารถส่งทางไปรษณีย์ เรียกเก็บเงินปลายทาง หรือนำกระเป๋ามายังสนามบินที่การบินไทยทำการบิน ส่งมาซ่อม กทม.ได้ 

CLAIM CONTACT : แผนกเรียกร้องค่าเสียหาย E-MAIL : buggageclaim@thaiairways.com

จาก list 5 ร้านที่การบินไทยส่งให้ เราเลือกร้าน ชื่อ sun Smile ติดต่อทางไลน์ไป ซึ่งร้านก็ตอบกลับมา ให้ส่งรายละเอียดเพิ่มเติม ได้แก่ รูปถ่ายหน้าใบเคลม รูปกระเป๋าเต็มใบ/จุดที่ได้รับความเสียหาย เบอร์โทรติดต่อ แชร์พิกัดที่ให้รับกระเป๋า แจ้งวัน/เวลา ที่สะดวกให้รับกระเป๋า รอแอดมินคอนเฟิร์มวันนัดเบื้องต้น  ภายในวันนั้น ร้านได้โทร.ติดต่อกลับมา สอบถามขนาดกระเป๋า เราจึงได้สอบถามว่าจากความเสียหายตัว body ของกระเป๋าด้วย ทางร้านตอบมาว่าจะชดใช้กระเป๋าใบใหม่ ที่มีขนาด สี และ สเปค ใกล้เคียงกับของเดิมให้ เราได้ขอให้ส่งรูปให้ดูด้วย ซึ่งร้านก็ได้ส่งรูปให้ดูก่อน และนัดวันส่งมอบกระเป๋าใบเก่า และกระเป๋าใบใหม่ โดยเราให้มารับที่ทำงาน (อยู่แถวดินแดง) แต่ใครสะดวกบ้านก็ให้รับได้ที่บ้าน บริการรับ-ส่ง ฟรีค่ะ โดยให้เอา DAMAGE REPORT ใบเคลมที่ออกโดยการบินไทยตัวจริง และกระเป๋าที่เสียหาย มาให้ร้านด้วย

ก่อนรับกระเป๋ามาเราได้ตรวจสอบกระเป๋า เป็นของใหม่ และได้สเปคที่ใกล้เคียงของเดิม ลองเปิดและปิด ลองเข็น ซึ่งก็ ok ทุกอย่างค่ะ จบเรื่องการเคลมกับการบินไทย 

ไปต่อกับการเคลมประกันกับ SOMPO ต่อค่ะ

ปกติเราไปญี่ปุ่นไม่เคยทำประกันเลย แต่ปีนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพ โดยหาจาก internet และซื้อก่อนเดินทาง 1 วัน โดยซื้อเป็นแบบ online ซึ่งหลังจากจ่ายเงินเรียบร้อย จะแจ้งเลขกรมธรรม์ผ่านมือถือ และส่งกรมธรรม์ทาง e-mail ซึ่งประกันที่เราซื้อเป็นแบบ เที่ยวเดียว ไป-กลับ Plan B ค่าเบี้ย 500 กว่าบาท โดยประกันครอบคลุม หลักๆ ก็ เครื่องบินตก  ประกันสุขภาพเจ็บป่วยอุบัติเหตุ และความเสียหายของกระเป๋าเดินทาง หาย หรือโดนขโมยของมีค่าในกระเป๋า 

เนื่องด้วยประกันที่เราซื้อครอบคลุมความเสียหายของกระเป๋าด้วย เราจึงได้ติดต่อ SOMPO อีกช่องทางหนึ่ง โดย add Line ไป ก็จะมีรายละเอียดให้เราส่งเอกสารการเคลมประกัน
Line Official: @sompothailand หรือคลิก! https://lin.ee/AkqJrSF
Facebook Page: Sompo Thailand คลิก! m.me/SompoThailand

วิธีเตรียมเอกสารกระเป๋าเสียหาย/สูญหาย คลิก http://welcome.sompo.co.th/claim-damage-or-loss-of-baggage  ติดต่อฝ่ายสินไหมโทร 02-119-3000 กด 4 ในวันและเวลาทำการ (จันทร์-ศุกร์ 08:30-17:00 น.)
กด link ไปก็บอกให้ส่งเอกสารประกอบการเรียกร้องสินไหม ดังนี้
1. แบบฟอร์มการเรียกร้องสินไหมประกันอุบัติเหตุการเดินทาง (มี link download ด้านบน)
2. สำเนาหนังสือเดินทางของผู้ประกันภัย
3. สำเนาบัตรโดยสารสายการบินหรือ Boarding Pass ของผู้เอาประกันภัย
4. ภาพถ่ายความเสียหายของกระเป๋าเดินทาง และภาพถ่ายกระเป๋าเดินทางเต็มใบ
5. หนังสือยืนยันความสูญเสียหรือความเสียหายที่ออกให้โดยบริษัทขนส่ง หรือผู้บริหารโรงแรม โดยระบุรายละเอียดของความสูญเสียหรือความเสียหายที่เกิดขึ้น
6. ใบเสร็จรับเงินต้นฉบับหรือหลักฐานการซื้อกระเป๋าเดินทางใบที่เสียหาย ** หากไม่มีรบกวนระบุชื่อยี่ห้อ,รุ่น,ขนาด,ปีที่ซื้อ,ราคากระเป๋าเดินทาง **
7. สำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคาร ** กรณีต้องการให้โอนเงินเข้าบัญชี **
8. เอกสารหรือหลักฐานตามที่บริษัทต้องการตามความจำเป็น (ถ้ามี)

แบบฟอร์มการเรียกร้องค่าทดแทนสามารถดาวน์โหลดได้ที่ link ด้านล่าง 
https://welcome.sompo.co.th/claim-damage-or-loss-of-baggage
ส่งเอกสารเรียกร้องสินไหมที่ Email: claim_health@sompo.co.th

เนื่องจากต้องมีการกรอกแบบฟอร์มเรียกร้องด้วย เราไม่สะดวกกรอกที่ญี่ปุ่น พอกลับมาไทยวันที่ 6 ธ.ค. 67 เราก็กรอกเอกสารและส่งเอกสารให้ไปทาง E-mail ซึ่ง บ.บอกว่าจะตอบกลับ mail ภายใน 3 วันทำการ แต่เอกสารเราไม่ครบถ้วนตรงหน้าลายเซ็นต์ เลยต้องเซ็นต์แล้วส่งไปเพิ่มเติม

          11 ธ.ค. 67 SOMPO ส่ง e-mail ผลการพิจารณาจ่ายค่าสินไหมราคา โดยมีการคิดค่าเสื่อม 20% ต่อปีอ้างอิงตามประมวลรัษฎากร และให้เรา ยืนยันกลับไปว่าจะตกลงรับสินไหมจำนวนเท่านี้หรือไม่ โดยตอบกลับไปทาง mail

          หลังจากยืนยันรับค่าสินไหมไป SOMPO ส่งเมล์ตอบกลับในวันที่ 17 ธ.ค. 2567  แจ้งว่าขณะนี้อยู่ในขั้นตอนดำเนินการจ่ายสินไหม โดยจะโอนค่าสินไหมให้แก่ท่านภายใน 15 วัน หากมีความคืบหน้าจะแจ้งให้ท่านทราบต่อไป

          วันที่ 23 ธ.ค. 67 มี e-mail แจ้งว่าอนุมัติจ่ายค่าสินไหมแล้วและจะจ่ายเงินเข้า บช. ธนาคารตามที่แจ้งไว้ ในวันที่ 24 ธ.ค. 67 และในวันที่ 24 ธ.ค. 67 เวลา เวลา 03.02 น. เงินก็เข้า บช. เรียบร้อย

          จากประสบการณ์นี้เอง ทำให้เราต้องหันมาสนใจกับการเช็คกระเป๋าเดินทางก่อนออกจากสายพาน (ซึ่งเดิมไม่เคยดูเลย) หากกระเป๋าเราเสียหายต้องรีบแจ้งสายการบิน ออกใบเคลมให้ทันที เพื่อความสะดวกของเรา ถ้าเราไม่ทำทันทีแต่มาทำภายหลัง (ไม่เกิน 7 วัน) จะต้องหอบกระเป๋ามาให้เจ้าหน้าที่ดูด้วย และให้เก็บ Boarding Pass หนังสือยืนยันความสูญเสียหรือความเสียหายไว้ด้วย กรณีบินกับการบินไทยจะสามารถเคลมกับสายการบินได้ สำหรับสายการบินอื่นต้องเช็คกับสายการบินค่ะว่าครอบคลุมไหม และถ้าทำประกันที่ครอบคลุมกระเป๋าเสียหายก็สามารถเคลมกับประกันได้อีกช่องทางหนึ่งด้วย จึงได้รวบรวมข้อมูลที่เจอมาเขียนมาแชร์ให้กับทุกคน หวังว่าประสบการณ์นี้คงมีประโยชน์และเป็นข้อมูลสำหรับคนที่เกิดปัญหาเดียวกับที่เราเจอค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่