กระทู้นี้ตั้งใจมาแชร์การเคลมประกันการเดินทาง ขั้นตอนและหลักฐานที่ต้องใช้ จากประสบการณ์ที่ได้เคลมประกัน ของพี่สาวที่ร่วมทริปด้วยกันค่ะ ตามปกติส่วนตัวจะหิ้วกระเป๋าขึ้นเครื่องขาไป และโหลดกระเป๋าขากลับในเกือบทุกๆ ทริป เผื่อว่าจะช้อปปิ้งกันเพลิน
ที่ผ่านมาเราจะซื้อประกันการเดินทางกันไว้อยู่แล้ว โดยไม่เคยคิดว่าจะต้องเคลม ซึ่งทุกคนน่าจะคิดเหมือนกัน 55
แต่รอบนี้ไม่รู้ด้วยฟ้าฝนเป็นใจอะไร เรามารอรับกระเป๋ากันอยู่เห็นกระเป๋าวิ่งมาตามสายพานก็ดูปกติ แต่พอยกลงมาเอ๊ะแปลกๆ วางลงพื้นก็เอ๊ะไม่ปกติ สรุปสภาพกระเป๋าออกมาเป็นแบบนี้
เมื่อสภาพกระเป๋าเป็นแบบนี้ อย่างแรกเลยลากกระเป๋าตามสภาพไปยังสายการบินของเราเลยค่ะ หากใครทำประกันกับสายการบินอยู่แล้วจะได้ติดต่อเรื่องเคลมประกันได้เลย ส่วนคนที่ไม่ได้ทำประกันกับสายการบินไว้ก็ต้องนำสภาพกระเป๋าไปขอออกใบยืนยันความเสียหายนะคะ
ประคองกระเป๋าไปที่เคาท์เตอร์สายการบิน สายการบินจะทำการขอแท็กกระเป๋าเพื่อทำการตรวจสอบ ว่ากระเป๋าเราได้ทำการโหลดมาจริง ใบบาร์โค้ดเล็กๆ ที่ได้มาตอนโหลดกระเป๋าอย่าลืมเก็บไว้นะคะ แล้วก็มาเทียบกับแท็กที่ติดอยู่กับกระเป๋าอีกที
เนื่องจากของเราไม่ได้ทำประกันกับสายการบินไว้ สายการบินจึงชดเชยให้ได้ 500 บาท ซึ่งเขาจะถามความสมัครใจเราอีกทีว่าตกลงมั้ย ซึ่งเราไม่ได้คิดว่าจะต้องได้จากสายการบินอยู่แล้วด้วยจึงไม่มีปัญหาอะไร และแจ้งเพิ่มเติมว่าเรามีประกันแยกอยู่ ขอออกใบรับรอง ซึ่งน้องพนักงานก็ดูแลให้อย่างดีค่ะ ถึงตอนนั้นจะดึกแบบล่วงเข้าอีกวัน ก็ได้ใบรับรองความเสียหายแบบนี้มา
บอกความเสียหายประมาณนี้
พร้อมรับเงินสดที่เป็นค่าชดเชย กลับบ้านค่ะ
เนื่องจากติดวันหยุด ถ้าไม่ใช่เหตุฉุกเฉินต้องรอติดต่อประกันในวันเวลาทำการนะคะ พอถึงวันทำการก็โทรติดต่อกับประกันค่ะ ภายในวันนั้นประกันก็จะเมล์มาแจ้งว่าต้องใช้หลักฐานอะไรบ้าง ดังนี้
1. เคลมฟอร์มเรียกร้องสินไหมประกันการเดินทาง (แนบมากับอีเมล์)
2. หนังสือยืนยันความเสียหายที่ออกโดยผู้ขนส่ง (ใช้ใบที่ออกจากสายการบิน)
3. ใบแจ้งความหรือประจำวันของเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ที่เกิดเหตุ โดยระบุรายการทรัพย์สินที่สูญหาย (กรณีสูญหาย)
4. รูปถ่ายความเสียหายของกระเป๋าเดินทาง
5. ชื่อ รุ่น ยีห้อ และ ราคา ของกระเป๋าที่เสียหาย
6. สำเนา Passport
ของเราจะไม่มีข้อ 3 นะคะ เนื่องจากไม่ได้สูญหาย และนอกจากนี้ก็คือส่งหน้า book bank กับสำเนาบัตร สำหรับให้โอนเงินเข้าบัญชี
การส่งเคลมของบริษัทที่เราทำไว้สามารถส่งได้ทางอีเมล์ Fax และไปรษณีย์ค่ะ ทางบริษัทจะแจ้งว่าระยะเวลาการพิจารณาสินไหมประกันภัยไม่เกิน 30 วัน ระยะเวลาการชดใช้ค่าสินไหม 15 วันนับจากวันที่ผู้เรียกร้องตอบตกลงข้อเสนอจากทางบริษัท
แต่หลังจากนั้นก็ยุ่งๆ กันกว่าจะส่งหลักฐานก็ผ่านไปแล้วหลายวัน โดยเราส่งหลักฐานไปทางไปรษณีย์ค่ะ เนื่องจากติดวันหยุดยาว ผ่านไป 1 อาทิตย์จึงมี SMS มาแจ้งว่าได้รับเอกสารเรียบร้อยแล้ว และอีกไม่ถึงอาทิตย์ก็มีอีเมล์มาจากธนาคารว่าเตรียมโอนเงินเข้าบัญชีให้ค่ะ สรุปได้ยอดสูงสุดตามวงเงินที่ทำประกันไว้ และเงินก็เข้าบัญชีภายใน 2 วันทำการค่ะ ถือว่าพอเอกสารถึงบริษัทก็รวดเร็วเลยทีเดียว ประทับใจทั้งในความไม่ยุ่งยากและรวดเร็วค่ะ
สรุปคือ
1. การโหลดกระเป๋าเดินทางยังไงก็ยังคงต้องทำใจกันต่อไปว่าจะพังอีกเมื่อไหร่
2. ทำประกันเดินทางไว้อุ่นใจกว่าค่ะ
แชร์ประสบการณ์การเคลมประกันการเดินทางกรณีความเสียหายของกระเป๋าเดินทาง
ที่ผ่านมาเราจะซื้อประกันการเดินทางกันไว้อยู่แล้ว โดยไม่เคยคิดว่าจะต้องเคลม ซึ่งทุกคนน่าจะคิดเหมือนกัน 55
แต่รอบนี้ไม่รู้ด้วยฟ้าฝนเป็นใจอะไร เรามารอรับกระเป๋ากันอยู่เห็นกระเป๋าวิ่งมาตามสายพานก็ดูปกติ แต่พอยกลงมาเอ๊ะแปลกๆ วางลงพื้นก็เอ๊ะไม่ปกติ สรุปสภาพกระเป๋าออกมาเป็นแบบนี้
เมื่อสภาพกระเป๋าเป็นแบบนี้ อย่างแรกเลยลากกระเป๋าตามสภาพไปยังสายการบินของเราเลยค่ะ หากใครทำประกันกับสายการบินอยู่แล้วจะได้ติดต่อเรื่องเคลมประกันได้เลย ส่วนคนที่ไม่ได้ทำประกันกับสายการบินไว้ก็ต้องนำสภาพกระเป๋าไปขอออกใบยืนยันความเสียหายนะคะ
ประคองกระเป๋าไปที่เคาท์เตอร์สายการบิน สายการบินจะทำการขอแท็กกระเป๋าเพื่อทำการตรวจสอบ ว่ากระเป๋าเราได้ทำการโหลดมาจริง ใบบาร์โค้ดเล็กๆ ที่ได้มาตอนโหลดกระเป๋าอย่าลืมเก็บไว้นะคะ แล้วก็มาเทียบกับแท็กที่ติดอยู่กับกระเป๋าอีกที
เนื่องจากของเราไม่ได้ทำประกันกับสายการบินไว้ สายการบินจึงชดเชยให้ได้ 500 บาท ซึ่งเขาจะถามความสมัครใจเราอีกทีว่าตกลงมั้ย ซึ่งเราไม่ได้คิดว่าจะต้องได้จากสายการบินอยู่แล้วด้วยจึงไม่มีปัญหาอะไร และแจ้งเพิ่มเติมว่าเรามีประกันแยกอยู่ ขอออกใบรับรอง ซึ่งน้องพนักงานก็ดูแลให้อย่างดีค่ะ ถึงตอนนั้นจะดึกแบบล่วงเข้าอีกวัน ก็ได้ใบรับรองความเสียหายแบบนี้มา
บอกความเสียหายประมาณนี้
พร้อมรับเงินสดที่เป็นค่าชดเชย กลับบ้านค่ะ
เนื่องจากติดวันหยุด ถ้าไม่ใช่เหตุฉุกเฉินต้องรอติดต่อประกันในวันเวลาทำการนะคะ พอถึงวันทำการก็โทรติดต่อกับประกันค่ะ ภายในวันนั้นประกันก็จะเมล์มาแจ้งว่าต้องใช้หลักฐานอะไรบ้าง ดังนี้
1. เคลมฟอร์มเรียกร้องสินไหมประกันการเดินทาง (แนบมากับอีเมล์)
2. หนังสือยืนยันความเสียหายที่ออกโดยผู้ขนส่ง (ใช้ใบที่ออกจากสายการบิน)
3. ใบแจ้งความหรือประจำวันของเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ที่เกิดเหตุ โดยระบุรายการทรัพย์สินที่สูญหาย (กรณีสูญหาย)
4. รูปถ่ายความเสียหายของกระเป๋าเดินทาง
5. ชื่อ รุ่น ยีห้อ และ ราคา ของกระเป๋าที่เสียหาย
6. สำเนา Passport
ของเราจะไม่มีข้อ 3 นะคะ เนื่องจากไม่ได้สูญหาย และนอกจากนี้ก็คือส่งหน้า book bank กับสำเนาบัตร สำหรับให้โอนเงินเข้าบัญชี
การส่งเคลมของบริษัทที่เราทำไว้สามารถส่งได้ทางอีเมล์ Fax และไปรษณีย์ค่ะ ทางบริษัทจะแจ้งว่าระยะเวลาการพิจารณาสินไหมประกันภัยไม่เกิน 30 วัน ระยะเวลาการชดใช้ค่าสินไหม 15 วันนับจากวันที่ผู้เรียกร้องตอบตกลงข้อเสนอจากทางบริษัท
แต่หลังจากนั้นก็ยุ่งๆ กันกว่าจะส่งหลักฐานก็ผ่านไปแล้วหลายวัน โดยเราส่งหลักฐานไปทางไปรษณีย์ค่ะ เนื่องจากติดวันหยุดยาว ผ่านไป 1 อาทิตย์จึงมี SMS มาแจ้งว่าได้รับเอกสารเรียบร้อยแล้ว และอีกไม่ถึงอาทิตย์ก็มีอีเมล์มาจากธนาคารว่าเตรียมโอนเงินเข้าบัญชีให้ค่ะ สรุปได้ยอดสูงสุดตามวงเงินที่ทำประกันไว้ และเงินก็เข้าบัญชีภายใน 2 วันทำการค่ะ ถือว่าพอเอกสารถึงบริษัทก็รวดเร็วเลยทีเดียว ประทับใจทั้งในความไม่ยุ่งยากและรวดเร็วค่ะ
สรุปคือ
1. การโหลดกระเป๋าเดินทางยังไงก็ยังคงต้องทำใจกันต่อไปว่าจะพังอีกเมื่อไหร่
2. ทำประกันเดินทางไว้อุ่นใจกว่าค่ะ