สวัสดีครับเพื่อนๆ วันนี้เรามาเจอกันกับร้านประจำของผมร้านหนึ่ง ร้านนี้ มากับเพื่อนก็เคย วันไหนครึ้มอกครึ้มใจมานั่งกินคนเดียวก็บ่อย เป็นร้านที่ไม่ได้หวือหวามาก อาหารก็ค่อยข้างจะพื้นฐาน ราคากลางๆ แต่มันก็ไม่เคยทำผมผิดหวังนะ ^^ ร้านนี้ก็คือ... Okami Sushi สาขาพหลโยธินนั่นเอง ร้านอยู่ใกล้ม.เกษตร อยู่หน้าพรรคภูมิใจไทย สามารถจอดรถที่ที่จอดของพรรคได้เลย ปล.กระทู้นี้เอาเฉพาะเรื่องกินพอนะ เรื่องการเมืองเอาไว้ก่อน 555+ ร้านเปิดทุกวัน 10.30-22.00 น. ต้องเตือนไว้อย่างนึงว่า ผมเคยมาตอนเย็นวันศุกร์ปรากฏว่าคนเยอะมาก เสริฟไม่ทัน รออาหารนานมากอาหารก็ขาดๆหายๆ แต่ครั้งอื่นก็ไม่เคยมีปัญหาอะไรนะครับ
สำหรับราคาจะมี 499+ กับ 599+ จ่ายบัตรเครดิตเค้าชาร์จเพิ่มด้วยนะ ราคาเด็กก็อีกราคานึง ดูตามใบราคาด้านล่างได้เลย แต่ถ้าใครยังไม่จุใจ ยังสามารถเพิ่มเงินอีก 299 เพื่อรับฟัวกราส์ซูชิไม่อั้นได้ด้วย และสำหรับสาวกหอยทั้งหลาย คุณสามารถเพิ่มอีก 299 เพื่อ Hotate, หอยนางรม และ Engawa ไม่อั้นได้อีกด้วย! วันนี้ ผมเอาแค่หอมปากหอมคอ ตับเติบหอยเหยอะไรไม่สนเว้ย ไม่มีตัง 555+ เดี๋ยวกลับไปกินตับหวานที่บ้านเอาละกัน เลยเลือกราคา 599+ ไม่ต้องเพิ่มเติม ส่วนเครื่องดื่มนั้น เราต้องซื้อเพิ่มเองนะครับ มีชาเขียวรีฟิล และมีเบียร์รีฟิลด้วย! แต่ไม่สนับสนุนให้กินเบียร์เพราะกินแล้วเมา พี่ตำรวจไม่ต้องมาจับเราแค่นี้ก็ไม่มีตังกินหอยแล้ว
สำหรับการสั่งอาหารนั้น ให้เราเขียนจำนวนที่ต้องการลงในใบออเดอร์ได้เลย เหมือนจะสะดวกดี แต่ให้ตายสิพับผ่า ไม่เขียนเลขกำกับมาให้ เวลาดูใบออเดอร์แล้วจะหารูปในเมนูก็หากันตาเหลือกดิ คนยิ่งหิวๆอยู่ เดี๋ยวแ๑กเมนูllม่Jเลย ไอ่นี่ ไม่เป็นไรทำใจร่มๆแล้วค่อยๆหาค่อยๆเขียนไป คิดซะว่าทำข้อสอบ
พอทำข้อสอบ(จดออเดอร์) เสร็จแล้ว รอผลสอบแปปนึงเราก็มาเริ่มฉลองกันเลย วู้วฮุ้ว
เริ่มจากออเดิฟกันก่อนนะแจ๊ะ เมนูแรก หมึกเช้าน้ำมันงา เฮ้ย!หมึกบ่ายน้ำมันงา เฮ้ย!หมึกสายน้ำมันงา เฮ้ย! ถูกแล้ว! จานนี้ใช้ได้เลย เนื้อหมึกมีความนุ่มหนึบเคี้ยวเพลินกำลังดี แต่มันจะเหนียวนิดๆไม่กรอบนะ รสชาติหวานนำ เผ็ดเล็กน้อย มีกลิ่นงาเล็กน้อย อ่าว แล้วกลิ่นอะไรเยอะล่ะ... คำตอบคือกลิ่นซอสที่เหมือนน้ำพริกเผานั่นเอง ถ้าให้หลับตากินผมจะคิดว่าหมึกสายน้ำพริกเผา แต่โอเคแหละ อร่อยอยู่
จานต่อไป แซลม่อนยำญี่ปุ่น จานนี้เผ็ดเอาเรื่อง หวานเล็กน้อย แต่หอมมากๆ ความดีของมันคือไม่มีกลิ่นคาว บางร้านจะใช้แซลม่อนเก่ามายำเพื่อกลบเกลื่อนความไม่สด แต่อันนี้สดครับ กลิ่นจะออกเป็นเครื่องปรุงแบบญี่ปุ่น คล้ายๆผงโรยข้าวหรือกลิ่นข้าวคั่วอันนี้ไม่แน่ใจต้องขออภัย อบอวลด้วยกลิ่นกระเทียมและหัวหอม อันนี้จะช่วยตัดเลี่ยนได้โดยยังคงสไตล์ญี่ปุ่นไว้ ไม่ต้องสลับอารมณ์มาเป็นอาหารไทยแบบแซลมอนยำไทย ว่าแต่ผมพูดเองว่าเอาไว้ตัดเลี่ยน แต่ดันสั่งมากินเป็นจานที่สอง เอ่อ...ฉลาดอีกแล้วตู 555+
ต่อมาเป็นซูชิหน้าเนื้อสไลด์ซอสเทอริยากิ เนื้อชิ้นเล็กไปนิด มันไม่ถึงกับละลายในปาก แต่นุ่มใช้ได้อยู่ ไม่เหนียว หอม หวาน กลิ่นเบิร์นของเนื้อบวกกับซอสเทอริยากิลงตัวกำลังดีเลย
ตามด้วยซูชิหน้าเนื้อสไลด์ซอสทาทาร์ แต่สองคำนี้ถ่ายรวบไปรูปเดียวเพราะหน้าตามันเหมือนกันมาก 555 แยกไม่ออก คำนี้ก็คล้ายๆเทอริครับ เนื้อชิ้นเล็กไปนิด แต่ความหวานถูกแทนที่ด้วยความเปรี้ยว และกลายเป็นว่ามันไม่ค่อยหอมเท่าไหร่ ผมชอบเทอริมากกว่า แต่จริงๆอันนี้ก็ตัดเลี่ยนได้ดี ถ้าเราสั่งมาตอนใกล้ๆอิ่มเลือกคำนี้ก็น่าจะโอเคกว่า
เรามาต่อกันที่ ซูชิหน้าแซลมอนเบิร์นชีส หน้าตาช่างเย้ายวนใจเหลือเกิน ชีสก้อนนั้น ละลายเยิ้มนิดๆ เกรียมหน่อยๆ แต่รสชาติกลับกันเฉยเลย ไม่ผ่านๆๆ ชีสมันไม่หอมกลิ่นอาบุริแบบที่ผมคาดหวัง แต่ออกกลิ่นเปรี้ยวๆบูดๆแทน คือมันอาจจะไม่บูดหรอกครับ แต่กลิ่นของชีสมันเป็นแบบนั้น ส่วนตัวผมไม่ชอบ
ต่อเนื่องกันเลยกับซูชิหน้าปลาไหล อันนี้ดีงามมม นุ่ม หนังหนึบกำลังดี ซอสหอมหวานกำลังพอเหมาะ ไม่มีกลิ่นเหม็นเลยแม้แต่นิดเดียว ไม่มีก้างมากวนใจ แหล่มมากกก
ซูชิหน้ากุ้งหวานอันนี้ขอประทานอภัย ลืมถ่ายรูป TT มันคือชิ้นที่อยู่ด้านขวาของปลาไหลครับ อันนี้ก็ยอดเยี่ยมกระเทียมดอง ผมชอบทานกุ้งดิบเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ละเจอกุ้งตัวนี้เข้าไป ถึงจะเล็กหน่อยแต่เนื้อเด้ง หวานมาก เนื้อคล้ายกุ้งโบตั๋นที่แพงๆเลย
ต่อมา คำนี้คือ ซูชิหน้ามันปูมิโสะ หน้าตาก็... อย่าไปพยายามเปรียบเทียบว่ามันดูเหมือนอะไรแล้วกัน 555+ มันปูมันก็ต้องหน้าตาประมาณนี้แหละถ้าไม่ได้เสริฟในกระดองมา อันนี้อร่อยกว่าที่คาดไว้พอสมควรเลย ตอนแรกคิดว่าร้านบุฟแบบนี้ มันน่าจะเหม็น ไม่น่าจะสดมาก แต่เอาเข้าจริงๆ มีกลิ่นเหม็นแค่เล็กน้อย แต่มีกลิ่นหอมแทรกมาด้วย ปนกับกลิ่นสาหร่ายที่ห่อ มันลงตัวมาก มันปูปรุงรสมากลมกล่อมกำลังดี สำหรับผมกลิ่นเท่านี้ ผมรับได้และชอบเลย แต่ถ้าคนที่ไม่เอากลิ่นคาวทะเลเลย อาจจะรับไม่ได้นะ เตือนแล้วน้า!
โอคามิวันทัน คือคำนี้น่าจะแปลว่าเกี๊ยวนะครับ จานนี้มีสตั๊นเล็กน้อย ตรงชื่อเป็นจีนส่วนผสมเป็นญี่ปุ่นกับแม็กซิโก จะลูกครึ่งหรือลูกเสี้ยวดี เพราะจริงๆมันคือนาโช่วางเนื้อปลาแซลม่อนหั่นเต๋าไว้ข้างบน ซ้อนกัน 2 ชั้น ราดด้วยซอสสไปซี่ มันอร่อยย เท็กเชอร์กรอบของนาโช่ถูกจับมารวมกับเนื้อแซลม่อนนุ่มๆที่มาจากคนละซีกโลกแต่มันกลับเข้ากันได้แบบงงๆ และยังได้ความแซ่บนิดๆของซอสมาตัดเลี่ยน กินเพลินเลยแน่นอน
จานต่อมา เป็นเซ็ตกุงกัง 3 ชิ้น โปะหน้าด้วยแซลมอนสไปซี่ แต่ชิ้นแรกพันรอบด้วยปลาหมึก ชิ้นที่สองเป็นแซลมอน ชิ้นที่สามน่าจะเป็นปลาอาจิ จานนี้ผมว่ากลางๆ มันไม่ค่อยมีรสชาติอะไรเท่าไหร่ เนื้อปลาอาจิเหนียวไปหน่อย ชิ้นปลาหมึกก็เหนียว ชิ้นแซลม่อนลงตัวดี แป้งทอดไม่กรอบเท่าที่ควร ถ้าขึ้นจากเตาใหม่ๆอาจจะดีกว่านี้
ถ้วยนี้คือ ซุปปลา กะจะเอามาซดเล่น คั่นรายการ เมื่อซดเข้าไปต้องบอกว่า โอ๊ะโนโนโน แบบนี้ไม่ดี ออกไปทางเฮียเลย มันเหม็นคาวมากอะ คุณเอ้ย นึกว่าน้ำล้างหอย หอยก็เหม็น หรือว่าผมโชคร้ายไปได้หม้อที่กำลังจะเน่าไม่รู้นะ แต่ไม่เป็นไร มันมีจานอื่นดีๆหลายอันอยู่ ให้อภัยเค้าละกัน
มาถึงจานเด็ดของที่นี่ ที่ไม่เคยเจอที่ไหนมาก่อน นั่นก็คือกุ้งแช่เบียร์ ผมเดาว่าเป็นกุ้งไทย เพราะมันไม่ได้มีความหวานแบบกุ้งญี่ปุ่น มีความเปรี้ยวและซ่าของเบียร์เล็กๆ ให้พอสดชื่นถ้าทานเปล่าๆจะสัมผัสได้ แต่อย่าเลยครับมันจืด จิ้มวาซาบิกับโชยุปุ๊บ ลงตัว จัดว่าเด็ด ไม่มีกลิ่นคาวเลย อาจจะเป็นอานิสงค์ของเบียร์ แต่อย่าลืมว่าผมเป็นคนชอบกุ้งดิบเป็นทุนเดิมอยู่แล้วนะ อาจจะอวยเกินจริง ฮ่าๆ
และส้มๆที่อยู่ข้างๆกันในชามซาชิมินั้นก็คือ ท้าด๊า แซลม่อน ต้าวความรัก อันนี้ดีงามตามท้องเรื่อง ดีแบบแซลม่อนเกรดบุฟเฟ่ต์ระดับแพงๆเลย หวาน มันแทรกเยอะ อืมม~เฟิน -3- แต่กินเยอะๆก็แอบเลี่ยนนะ กำลังจะอวยไส้แตกแล้วเชียวดันเจอก้างเข้า เชฟนะเชฟขัดใจพี่ แต่เจอแค่ชิ้นเดียวเท่านั้นแหละครับ หลังจากนั้นก็ฟินต่อ
ต่อมา น้องขาวหมวยโรยไข่กุ้งคนนี้คือ หมึกหอม หวานมันใช้ได้ เหนียวเล็กน้อยกำลังดี อันนี้ผมถือว่าผ่านเลยนะ ไม่มีกลิ่นด้วย ไม่เหนียวเหมือนในเซ็ตกุงกัง ดีงามม ดีต่อใจคนชอบกินของดิบแบบผมเลย
ส่วนปลาสีตุ่นๆติดหนังที่อยู่ข้างล่างน้องก็คือ ปลาอาจิ มันคือปลาทูชนิดหนึ่งที่นิยมมาทำซูชิ อันนี้ผมว่ามันคาวไปหน่อย มีกลิ่นคล้ายๆปลาทูน่ะแหละ แต่แค่นิดเดียวนะไม่ได้โหดเท่าปลาทูนึ่งตลาดนัด 555+ มีรสเค็มในตัว มัน แต่เส้นใยค่อนข้างเหนียว อันนี้ผมไม่ชอบแหละมันเหนียวไปหน่อย ไม่สดเท่าที่ควรด้วย
ต่อมาน้องขาวอมชมพูคนนี้ชื่อปลากระพง อันนี้ผมว่าใช้ได้อยู่ มันมาก มีความกรุบๆเด้งๆแทรกเล็กน้อย กำลังดี แต่บางชิ้นก็เจอเส้นใยเหนียวบ้าง พอรับได้ แต่ถ้าเทียบกับปลาอื่นๆ มันจะไม่ค่อยมีรสชาติแหละ
แล้วก็มาถึงจานฟิวชั่นที่ทำให้สตั๊นอีกแล้ว ข้าวตังปลาแซลมอนซอสทาทาร์ มันคือข้าวตังแบบไทยๆเลยแหละ กับแซลมอนสับคลุกซอสทาทาร์ท็อปด้วยไข่แดงนกกระทา ความกรอบของข้าวตังมันเข้ากับความ Juicy และรสชาติที่กลมกล่อมของแซลมอนซอสทาทาร์ได้ดี แต่ข้าวตังแม่Jแข็งมาก เหงือกจะแหกเอา ถ้าข้าวตังเปราะกว่านี้หน่อยจะดีงามมาก
ชีสทอด หน้าตาไม่ผ่านครับ ดูเหมือนขนมหลอกเด็กตามตลาดนัด มีกะหล่ำรำไรเพื่ออะไรเนี่ย รสชาติเฉยๆ ไม่ยืด ไม่หอม แต่นุ่มหนึบเล็กน้อย จริงๆถ้าลองขอซอสหวานญี่ปุ่นมาราดแทนซอสมะเขือเทศ น่าจะดีขึ้นเยอะ
จานสุดท้าย โรลปลาไทยถั่วลิสง กลิ่นถั่วลิสงตีหน้าอย่างแรง ปลากระพงไทยมีความหนึบๆ ราดด้วยมายองเนสทั่วๆไป ผมว่ามันไม่เชิงอร่อย ออกแนวประหลาดมากกว่า ไม่มีอะไรเข้ากันเลย ใครชอบของแปลกก็ลองดูนะครับ 555+ รองพื้นด้วยถั่วลิสงบดให้ความรู้สึกเหมือนนอนกลางดินกินกลางทรายยังไงไม่รู้ 555+ พอดีกว่า ยิ่งพูดยิ่งชิหาE
และก็จบไปแล้ว ต้องบอกก่อนนะครับว่า ผมมากินคนเดียวเลยไม่ได้สั่งครบทุกอย่าง สรุปว่ามันเป็นร้านที่ดีร้านหนึ่งเลยครับ ราคาสมเหตุสมผล ไม่หวือหวา แต่ก็ไม่ทำให้ผิดหวังอยู่ดี มีบางเมนูที่แปลกๆไม่อร่อยบ้าง แต่ส่วนใหญ่อร่อยครับ มาลองซะ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านครับ ^^
[CR] นายแตงโม รีวิวบุฟเฟ่ต์อาหารญี่ปุ่นร้าน "Okami Sushi "
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น