สวัสดีค่าาา วันนี้มี่จะมาแบ่งปันวิธีการลดน้ำหนักของมี่นะคะ
จาก 60 เหลือ 54 ภายใน 2 เดือนนนนน!!
ซึ่งพุงมี่ลดไปเยอะมากๆเลยค่ะทุ้กกกคนนนนนนนน
(จริงๆตอนถ่ายรูปแอบเกร็งพุงเล็กน้อย เพื่อความสวยงามค่ะ)
ต้องขอเริ่มเกริ่นก่อนนะคะ ว่าตัวมี่เป็นคนอ้วนมาก่อน อ้วนตั้งแต่เกิดเลยก็ว่าได้
ทีนี้ช่วงปีที่แล้วก็ลดน้ำหนักมาได้แล้วค่ะ ผอมเพรียว แต่พอลดได้แล้วมี่ก็รู้สึกประสบความสำเร็จ
ขี้เกียจทำต่อแล้ว ก็กลับมากินถล่มยับเลยจ้า ชาบูแทบทุกวัน น้ำหนักก็สะสมขึ้นมาเรื่อยๆ
จนน้ำหนักถึง 60 กก. ทำให้พุงป่อง แก้ม แขน ขา ใหญ่ขึ้นมาหมดเลย
ตอนนั้นก็รู้สึกแย่นะคะ ที่ปล่อยน้ำหนักขึ้นมาขนาดนี้ แต่อีกใจก็รู้สึกดีค่ะ เค้กกับชาบูมันอร่อยจริงๆ เอ้ยยย!
แต่ไปๆมาๆ ก็รู้สึกอึดอัดตัวเอง หงุดหงิดบ่อย ไม่มั่นใจ ใส่เสื้อผ้าที่เคยใส่ตอนผอมไม่ได้
ไม่กล้าเจอใครเท่าไร เพราะชอบโดนทักว่าอ้วนขึ้น U___U นอยด์มากกกก เลยตัดสินใจลดน้ำหนัก ณ บัดนั้น!!
มาเริ่มกันเลยค่ะ วิธีที่มี่ใช้ลดน้ำหนักมาตลอด 2 เดือนนนนน
1.ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน
เวลามี่เริ่มทำอะไรสักอย่าง ไม่ว่าจะการเรียน ลดน้ำหนัก บลาๆๆ มี่มักจะตั้งแต่เป้าหมายไว้เสมอค่ะ
เพื่อที่ว่าเราจะไม่หลงทาง รู้ไปว่าเราทำไปเพื่ออะไร และเป้าหมายที่ต้องการคืออะไรกันแน่นะ เรามาถูกทางใช่มั้ย?
ซึ่งมี่ก็มานั่งทบทวนตัวเองนะคะว่ามี่ต้องการอะไร
คำตอบของมี่คือ
ต้องการลดพุงนะ อยากน้ำหนักลด เพราะจะได้ใส่เสื้อผ้าสวยๆ เอวลอยได้อย่างมั่นใจ
แบบลิซ่า Black Pink!! ซึ่งเป็นไอดอลที่มี่ชอบมากกก และเป็นกำลังใจในการลดน้ำหนักของมี่เลย
นอกจากนี้มี่ก็เสิร์ชรูปหุ่นสวยๆตาม Pinterest ว่ามี่อยากได้หุ่นแบบนี้จังเลยน้า เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ
ซึ่งมี่ก็เซฟรูปทั้งลิซ่ากับหุ่นสวยๆ มาอย่างเยอะมากกกก แล้วก็เอาไปปริ้นแปะฝาผนังเลยค่ะ 5555555
นอกจากที่แปะรูปใส่ฝาผนังแล้ว มี่ยังมีกระดาษอีกอย่างหนึ่งที่ไปแปะผนังอีกเช่นกัน
โดยมี่ใช้วิธีเขียนลงกระดาษเอง โดยแบ่งกระดาษออกเป็น 2 ช่อง นั่นก็คือ
1.ช่องที่เขียนว่า "ถ้าลดน้ำหนัก"
และ 2.ช่องที่เขียนว่า "ถ้าไม่ลดน้ำหนัก"
สิ่งนี้มี่เขียนไปเพื่ออะไร? เหตุผลก็คือ
เอาไว้เตือนตัวเอง ไม่อยากให้ล้มเลิก หรือยอมแพ้กลางทาง
ทุกอย่างมันต้องพึ่งเวลา และใช้ความพยายามเสมอค่ะ
ซึ่งสิ่งเหล่านี้เอง เป็นตัวช่วยที่ทำให้มี่ Keep การลดน้ำหนักได้มาโดยตลอด
2. การทำ Intermittent Fasting (IF)
มี่ใช้วิธีฟาสติ้งในการลดพุง ซึ่งมันเห็นผลได้ดีม้ากกกกกกกกก พุงยุบแบบไวมากๆเลยค่ะ
การฟาสติ้งน่าจะเป็นวิธีการลดน้ำหนักที่ทุกคนน่าจะรู้จักกันมาบ้าง นั่นก็คือการกินเป็นช่วงเวลาที่กำหนด
ตลอดระยะเวลาการทำฟาส มี่ใช้
วิธีการกิน 8 ชม. อด 16 ชม.
ซึ่งตอนแรกมี่เริ่มจากการเริ่มกินตอนเช้าไปอดตอนเย็น แล้วมี่จะบ้าตายมากกก หิวข้าวสุดๆตอนเย็น ยิ่งตกดึกอยากวิ่งไปเปิดตู้เย็นด้วยค่ะ
ก็เลยเอาใหม่เลยค่ะ คือ
ปรับเวลาการกินให้เข้ากับ Lifestyle ตัวเอง จนได้เวลาที่เหมาะสมนั่นก็คือ เริ่มกินตอน 12.00 และเริ่มอด 20.00
ขอสรุปนะคะ สำหรับคนที่ต้องการทำฟาสติ้งแบบมี่
-ต้องเช็คสุขภาพตัวเองให้ดีๆนะคะ ว่าทำฟาสไหวจริงๆหรือเปล่า ลองปรึกษาผู้เชี่ยวชาญดูก็ได้ค่ะ
เพราะมีบางคนก็ทำฟาสติ้งไม่ไหว หน้ามืดเป็นลม และมีผลกับฮอร์โมน
-ถ้าเลือกที่จะทำฟาสติ้งแล้ว เลือกเวลาการกินให้เหมาะสมกับ Lifestyle ของตัวเองมากที่สุด
ใครอดตอนเย็นไหวก็เลือกเริ่มกินเช้า หรือใครต้องกลับมากินข้าวเย็นที่บ้าน ก็เริ่มกินตอนเที่ยงจะดีที่สุดค่าาา
3.วิธีการกิน(คลีน)
มี่ใช้วิธีการกินคลีนมาโดยตลอด แต่ไม่ถึงขั้นคลีนจ๋า รักสุขภาพ 100% ทุกมื้อขนาดนั้น
เพราะมี่เป็นคนเบื่อง่าย และชอบ
กินจุ๊บกินจิ๊บกินจุ๊บจิ๊บ (อักษรนี้มีเสียง)
มี่จึงไม่ใช้วิธีกินอะไรเดิมๆ เพราะว่าจะทำให้เบื่ออาหารคลีนและฝืนมากเกินไป
วิธีที่มี่ใช้แก้ปัญหาก็คือ ออกไปหาอาหารคลีนนอกบ้านบ่อยมากขึ้น
ร้านประจำของมี่คือ Salad Factory กับ Jones Salad
เพราะว่าสลัดเขาอร่อยมากกกกก เมื่อก่อนมี่กินสลัดแทบไม่ได้เลย มันขม ไม่อร่อย
แต่พอเจอสลัด 2 ร้านนี้เข้าไป เลยทำให้มี่เป็นคนกินผักเก่งมากขึ้นค่ะ
โดยร้านของลุงโจนส์มีบอกแคลอรี่ของอาหารแต่ละอย่างด้วย (ดีมากๆสำหรับคนนับแคล)
แต่ไม่ใช่ว่ามี่ไม่เข้าร้านอาหารอย่างอื่นเลยนะคะ มี่สั่งข้าวจากร้านอาหารตามสั่งเสมอ แต่ไม่ใช่ว่าจะกินอะไรก็ได้นะคะ
ขอให้จำ "Key Word" เวลาสั่งอาหารให้ขึ้นใจเลยนะคะว่า
"ไม่เอาหนัง ผัดน้ำ ไม่ใส่กระเทียมเจียว และขอผักเยอะๆค่ะ"
จะทำให้เรากินอาหารได้หลากหลายมากขึ้น อยากกินกระเพราก็กินได้ เพราะเป็นไก่ไม่มีหนัง และผัดน้ำ ทำให้อาหารมื้อนั้นแคลอรี่น้อยมากๆค่ะ
ทุกมื้อมี่จะพยายามกินผักเยอะๆ ลดแป้งลงแล้วไปเน้นที่โปรตีนแทน
เพราะว่าเวลาลดน้ำหนัก มี่อยากให้น้ำหนักที่หายไปเป็นน้ำหนักจากไขมัน ไม่ใช่น้ำหนักจากกล้ามเนื้อ
เลยพยายามที่จะกินโปรตีนอย่างน้อยให้เท่ากับร่างกายต้องการต่อวัน และพยายามสร้างกล้ามเนื้อไปในตัว
เพราะกล้ามเนื้อสำคัญมากกกๆๆ มีไว้เพื่อช่วยเรื่องระบบเผาผลาญ เป็นเตาเผาแคลอรี่เลยนะ
นอกจากนี้มี่มีของกินเล่นระหว่างมื้อด้วยนะคะ เพราะมี่ชอบกินจุกจิก เป็นคนหิวไวด้วยค่ะ
และไม่ใช่ว่าของกินเล่นระหว่างมื้อไม่มีประโยชน์เลยน้า มันไปช่วยเพิ่มการเผาผลาญของร่างกายอีกทางด้วย
เวลาเลือกของกินเล่น
ขอให้เลือกกินอย่างถูกวิธี เอาแบบไม่อ้วน และมีประโยชน์
ซึ่งมี่ก็เลยเลือกกินพวกพวกสมู้ทตี้ หรือถั่วมากินพลางๆระหว่างวันค่าาา
4.กินน้ำเยอะๆ
นอกจากเรื่องอาหารแล้ว การกินน้ำเยอะๆก็สำคัญมากกกกกก (ก.ล้านตัว) ขอให้สร้างนิสัยการกินน้ำเยอะๆนะคะ
เพราะกินน้ำมีส่วนช่วยในการลดความอ้วน จะช่วยลดปริมาณไขมันในร่างกายของเราให้ลงได้
และเวลาที่มี่หิวมากๆ มี่จะกระดกน้ำ อึกๆๆๆๆๆ ลดความอยากอาหารลงไปได้ค่าาา
ทริคนะคะ เวลาอยู่บ้านจะมีขวดน้ำวางไว้ข้างตัวมี่ตลอด เวลาเห็นก็จะยกขึ้นมาจิบๆทีละนิด
(ตอนเขียนทู้นี้ก็เช่นกัน มีขวดน้ำอยู่เป็นเพื่อนข้างๆ)
5. การขับถ่าย
การที่พุงจะยุบเนี่ย ก็ขึ้นอยู่กับการขับถ่ายด้วยใช่มั้ยล่ะคะ มี่เลยพยายามกินผักเยอะๆค่ะ
แต่มี่ไม่ใช่คนขับถ่ายง่าย เป็นคนธาตุหนัก ถึงจะกินผักมากๆ บางทีก็ไม่ได้ทำให้ขับถ่ายทุกวัน (แต่ก็ดีกว่าแต่ก่อนที่ไม่กินเลย)
มี่เลยใช้วิธีการกิน ไฟเบอร์ตามเซ่เว่นเลยค่ะ แต่!!! มี่ไม่กินบ่อยนะคะ อย่างมากอาทิตย์ละครั้ง
เพราะกลัวว่าร่างกายจะขับถ่ายเองไม่ได้ ต้องกินไฟเบอร์ช่วยตลอด จึงนานๆกินที เวลาที่แบบไม่ถ่ายเลยจริงๆค่ะ
ที่มี่กินบ่อยๆคือ 2 ซองนี้ เวลากินรู้สึกต่างกันอยู่ค่ะ
- NUUI มีใยอาหารสูงมากกกก คือถ้ากินวันนี้ พรุ่งนี้เข้าห้องน้ำอย่างเดียวเลยค่ะ ปวดท้องจู๊ดๆไม่ไหว เข้าห้องน้ำบ่อยมากกก
- Donutt รสชาติกินง่ายกว่า และมีความเบากว่า สามารถใช้ชีวิตได้ปกติมากกว่า NUUI
6. พักผ่อนให้เพียงพอ
เป็นเรื่องพื้นฐานมากๆเลยนะคะของการดูแลสุขภาพร่างกาย
จากการเริ่มทำ IF ทำให้มี่เป็นคนหิวง่ายมากๆ มี่เลยใช้วิธีนอนเร็วเพื่อแก้ปัญหาค่ะ จะได้ไม่หยิบอะไรเข้าปาก555555
มี่เคยอ่านบทความมาในหลายๆเว็บว่า การนอนน้อยเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำเสี่ยงโรคอ้วนและน้ำหนักเกิน
มี่เลยจะพยายามนอนไม่เกินเที่ยงคืน แต่มี่ก็ไม่ใช่คนหลับง่ายขนาดนั้นนะคะ พลิกไปพลิกมาบนเตียงตลอด
แต่ไม่ว่าจะนอนดึกยังไง มี่ก็จะเลื่อนเวลาการตื่นของมี่ให้นอนถึง 7-8 ชม. ค่ะ!
เพราะจากการที่มี่ต้องตื่นแต่เช้ามาออกกำลังกาย ถ้าวันไหนนอนน้อยเมื่อไร ร่างกายจะออกกำลังกายไม่ไหวเลยค่ะ U_U
7. การออกกำลังกาย
อย่างที่มี่บอกไปข้างต้นนะคะว่ามี่จะตื่นมาออกกำลังกายทุกเช้า
ในตอนแรกที่มี่เริ่มออกกำลังกาย มี่เล่นแค่ Cardio แบบ Beginner ก่อน
เพราะว่าถ้าไปทำยากๆเลยจะท้อ ล้มพับโปรเจคไปก่อนค่ะ เลยพยายามที่จะทำแค่ 20 30 นาทีตามคลิปให้รอดก่อน
คลิปที่มี่ทำตามบ่อยๆ สนุกดีเพลินๆ คือคลิปนี้ค่ะ
พอทำไปทำมา ก็รู้สึกแบบอุ้ยง่ายจัง หายเหนื่อยและ เริ่มซ่าจ้า มีไรโหดกว่านี้มั้ยนะ!!??
ก็เลยหันมาทำตามคลิปของ Chloe Ting สัมผัสได้ถึงความโหดของจริง
ปัญหาของมี่เนี่ยคือ
พุงใหญ่มาก โดยเฉพาะพุงด้านล่างค่ะ ย้อยออกมาเลย
มี่เลยเลือกทำชาเลนจ์ Flat Belly Program ให้ครบ ซึ่งชาเลนจ์เนี้ยทำให้พุงลดดีมากกก และเหนื่อยมากเช่นเดียวกัน แง้
ข้อดีของการทำตาม Chloe Ting (ขออวยเลยนะคะ) คือเขาแจกตารางออกกำลังกายฟรีค่ะทุกคน
ทำให้เรารู้ว่าวันนี้ต้องออกกำลังกายนะ วันนี้ว่าง ทำให้จัตดารางเวลาไปทำอย่างอื่นสะดวกดีค่ะ
Chloe Ting - Flat Belly Program <<< ลิ้งค์ตารางออกกำลังกาย
ต่อมาพอทำชาเลนจ์ Flat Belly Program หมดแล้ว มี่ก็รู้สึกว่าพุงมันลดลงแหละ
แต่ยังไม่ค่อยลีน ยังมีเนื้อมีหนังมากอยู่ มี่ก็เลยเริ่มทำ 2 Weeks Shred Challenge
Chloe Ting - 2 Weeks Shred Challenge
ซึ่งผลลัพธ์ก็คือดีมากค่ะ แต่เหนื่อยมาก หอบแฮ่กจริงๆค่ะ ต้องทรหดอดทนไปกับมัน
แต่ผลลัพธ์หน้าท้องลดดีจริงค่ะ และลีนขึ้นมาก แล้วร่องมันขึ้นจริงๆค่ะทั่นนนนผู้ช้มมมมมมมม
สรุปตารางเวลาการออกกำลังกาย + IF
มี่จะตื่นมาเริ่มออกกำลังกายเลยตอน 10 โมง โดยให้เวลาเต็มๆในการออก 1 ชม.
11 โมง อาบน้ำ ดูหนัง อ่านหนังสือ
และเที่ยงเริ่มกินอาหารมื้อแรก ชีวิตประจำวันจะเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆนั่นเอง
8. อย่าเครียดและไม่เอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น
ข้อสุดท้ายแล้วค่ะ ข้อนี้สำคัญมากจริงๆเลย
อย่าเครียดนะคะว่าทำไมเราลงทุนเหนื่อยขนาดนี้ กินคลีนทำไมน้ำหนักไม่ลด
ต้องเข้าใจเลยนะคะว่า
การลดน้ำหนักมันต้องใช้เวลาค่ะ อดทนกับมัน และผลลัพธ์ที่ได้กลับมามันคุ้มค่ามากจริงๆ
นอกจากนี้อย่าเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น ตัวมี่เองนี่แหละค่ะชอบเอาตัวเองไปเปรียบเทียบ ให้ตัวเองช้ำใจ
ประมาณว่า เห้ยทำไมคนอื่นไม่เห็นต้องเหนื่อยขนาดเราเลย ทำไมเขาถึงผอม หุ่นดี ขาเล็ก
พอเลยค่ะ!! หยุดคิดแบบนั้น การคิดแบบนั้นมันทำให้ท้อและอยากล้มเลิกกลับไปกินขาหมู
ต้องคิดว่าเรากำลังทำให้ตัวเองดีขึ้น มันต้องดีขึ้นแน่ๆ เราจะต้องเจอ Best Version ที่เป็นของตัวเอง
ทุกคนมีความสวยในแบบของตัวเอง เรากำลังพัฒนามันอยู่ค่ะ!!
ผลสรุปพุงลดแล้วจ้า กล้าใส่เอวลอยตามลิซ่าแล้ว ตัดหน้าม้าเพิ่มด้วย วี้ดว้าย
จากนี้ไปมี่จะ Set เป้าหมายในการลดนน.ใหม่ จะไม่หยุดพัฒนาตัวเองแน่นอนค่าาา
ลดน้ำหนัก 6 กก. ภายใน 2 เดือน พุงยุบลงเยอะมาก!!
จาก 60 เหลือ 54 ภายใน 2 เดือนนนนน!!
ซึ่งพุงมี่ลดไปเยอะมากๆเลยค่ะทุ้กกกคนนนนนนนน
(จริงๆตอนถ่ายรูปแอบเกร็งพุงเล็กน้อย เพื่อความสวยงามค่ะ)
ต้องขอเริ่มเกริ่นก่อนนะคะ ว่าตัวมี่เป็นคนอ้วนมาก่อน อ้วนตั้งแต่เกิดเลยก็ว่าได้
ทีนี้ช่วงปีที่แล้วก็ลดน้ำหนักมาได้แล้วค่ะ ผอมเพรียว แต่พอลดได้แล้วมี่ก็รู้สึกประสบความสำเร็จ
ขี้เกียจทำต่อแล้ว ก็กลับมากินถล่มยับเลยจ้า ชาบูแทบทุกวัน น้ำหนักก็สะสมขึ้นมาเรื่อยๆ
จนน้ำหนักถึง 60 กก. ทำให้พุงป่อง แก้ม แขน ขา ใหญ่ขึ้นมาหมดเลย
ตอนนั้นก็รู้สึกแย่นะคะ ที่ปล่อยน้ำหนักขึ้นมาขนาดนี้ แต่อีกใจก็รู้สึกดีค่ะ เค้กกับชาบูมันอร่อยจริงๆ เอ้ยยย!
แต่ไปๆมาๆ ก็รู้สึกอึดอัดตัวเอง หงุดหงิดบ่อย ไม่มั่นใจ ใส่เสื้อผ้าที่เคยใส่ตอนผอมไม่ได้
ไม่กล้าเจอใครเท่าไร เพราะชอบโดนทักว่าอ้วนขึ้น U___U นอยด์มากกกก เลยตัดสินใจลดน้ำหนัก ณ บัดนั้น!!
มาเริ่มกันเลยค่ะ วิธีที่มี่ใช้ลดน้ำหนักมาตลอด 2 เดือนนนนน
1.ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน
เวลามี่เริ่มทำอะไรสักอย่าง ไม่ว่าจะการเรียน ลดน้ำหนัก บลาๆๆ มี่มักจะตั้งแต่เป้าหมายไว้เสมอค่ะ
เพื่อที่ว่าเราจะไม่หลงทาง รู้ไปว่าเราทำไปเพื่ออะไร และเป้าหมายที่ต้องการคืออะไรกันแน่นะ เรามาถูกทางใช่มั้ย?
ซึ่งมี่ก็มานั่งทบทวนตัวเองนะคะว่ามี่ต้องการอะไร
คำตอบของมี่คือ ต้องการลดพุงนะ อยากน้ำหนักลด เพราะจะได้ใส่เสื้อผ้าสวยๆ เอวลอยได้อย่างมั่นใจ
แบบลิซ่า Black Pink!! ซึ่งเป็นไอดอลที่มี่ชอบมากกก และเป็นกำลังใจในการลดน้ำหนักของมี่เลย
นอกจากนี้มี่ก็เสิร์ชรูปหุ่นสวยๆตาม Pinterest ว่ามี่อยากได้หุ่นแบบนี้จังเลยน้า เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ
ซึ่งมี่ก็เซฟรูปทั้งลิซ่ากับหุ่นสวยๆ มาอย่างเยอะมากกกก แล้วก็เอาไปปริ้นแปะฝาผนังเลยค่ะ 5555555
นอกจากที่แปะรูปใส่ฝาผนังแล้ว มี่ยังมีกระดาษอีกอย่างหนึ่งที่ไปแปะผนังอีกเช่นกัน
โดยมี่ใช้วิธีเขียนลงกระดาษเอง โดยแบ่งกระดาษออกเป็น 2 ช่อง นั่นก็คือ
1.ช่องที่เขียนว่า "ถ้าลดน้ำหนัก"
และ 2.ช่องที่เขียนว่า "ถ้าไม่ลดน้ำหนัก"
สิ่งนี้มี่เขียนไปเพื่ออะไร? เหตุผลก็คือ เอาไว้เตือนตัวเอง ไม่อยากให้ล้มเลิก หรือยอมแพ้กลางทาง
ทุกอย่างมันต้องพึ่งเวลา และใช้ความพยายามเสมอค่ะ
ซึ่งสิ่งเหล่านี้เอง เป็นตัวช่วยที่ทำให้มี่ Keep การลดน้ำหนักได้มาโดยตลอด
2. การทำ Intermittent Fasting (IF)
มี่ใช้วิธีฟาสติ้งในการลดพุง ซึ่งมันเห็นผลได้ดีม้ากกกกกกกกก พุงยุบแบบไวมากๆเลยค่ะ
การฟาสติ้งน่าจะเป็นวิธีการลดน้ำหนักที่ทุกคนน่าจะรู้จักกันมาบ้าง นั่นก็คือการกินเป็นช่วงเวลาที่กำหนด
ตลอดระยะเวลาการทำฟาส มี่ใช้วิธีการกิน 8 ชม. อด 16 ชม.
ซึ่งตอนแรกมี่เริ่มจากการเริ่มกินตอนเช้าไปอดตอนเย็น แล้วมี่จะบ้าตายมากกก หิวข้าวสุดๆตอนเย็น ยิ่งตกดึกอยากวิ่งไปเปิดตู้เย็นด้วยค่ะ
ก็เลยเอาใหม่เลยค่ะ คือ ปรับเวลาการกินให้เข้ากับ Lifestyle ตัวเอง จนได้เวลาที่เหมาะสมนั่นก็คือ เริ่มกินตอน 12.00 และเริ่มอด 20.00
ขอสรุปนะคะ สำหรับคนที่ต้องการทำฟาสติ้งแบบมี่
-ต้องเช็คสุขภาพตัวเองให้ดีๆนะคะ ว่าทำฟาสไหวจริงๆหรือเปล่า ลองปรึกษาผู้เชี่ยวชาญดูก็ได้ค่ะ
เพราะมีบางคนก็ทำฟาสติ้งไม่ไหว หน้ามืดเป็นลม และมีผลกับฮอร์โมน
-ถ้าเลือกที่จะทำฟาสติ้งแล้ว เลือกเวลาการกินให้เหมาะสมกับ Lifestyle ของตัวเองมากที่สุด
ใครอดตอนเย็นไหวก็เลือกเริ่มกินเช้า หรือใครต้องกลับมากินข้าวเย็นที่บ้าน ก็เริ่มกินตอนเที่ยงจะดีที่สุดค่าาา
3.วิธีการกิน(คลีน)
มี่ใช้วิธีการกินคลีนมาโดยตลอด แต่ไม่ถึงขั้นคลีนจ๋า รักสุขภาพ 100% ทุกมื้อขนาดนั้น
เพราะมี่เป็นคนเบื่อง่าย และชอบกินจุ๊บกินจิ๊บกินจุ๊บจิ๊บ (อักษรนี้มีเสียง)
มี่จึงไม่ใช้วิธีกินอะไรเดิมๆ เพราะว่าจะทำให้เบื่ออาหารคลีนและฝืนมากเกินไป
วิธีที่มี่ใช้แก้ปัญหาก็คือ ออกไปหาอาหารคลีนนอกบ้านบ่อยมากขึ้น
ร้านประจำของมี่คือ Salad Factory กับ Jones Salad
เพราะว่าสลัดเขาอร่อยมากกกกก เมื่อก่อนมี่กินสลัดแทบไม่ได้เลย มันขม ไม่อร่อย
แต่พอเจอสลัด 2 ร้านนี้เข้าไป เลยทำให้มี่เป็นคนกินผักเก่งมากขึ้นค่ะ
โดยร้านของลุงโจนส์มีบอกแคลอรี่ของอาหารแต่ละอย่างด้วย (ดีมากๆสำหรับคนนับแคล)
แต่ไม่ใช่ว่ามี่ไม่เข้าร้านอาหารอย่างอื่นเลยนะคะ มี่สั่งข้าวจากร้านอาหารตามสั่งเสมอ แต่ไม่ใช่ว่าจะกินอะไรก็ได้นะคะ
ขอให้จำ "Key Word" เวลาสั่งอาหารให้ขึ้นใจเลยนะคะว่า "ไม่เอาหนัง ผัดน้ำ ไม่ใส่กระเทียมเจียว และขอผักเยอะๆค่ะ"
จะทำให้เรากินอาหารได้หลากหลายมากขึ้น อยากกินกระเพราก็กินได้ เพราะเป็นไก่ไม่มีหนัง และผัดน้ำ ทำให้อาหารมื้อนั้นแคลอรี่น้อยมากๆค่ะ
ทุกมื้อมี่จะพยายามกินผักเยอะๆ ลดแป้งลงแล้วไปเน้นที่โปรตีนแทน
เพราะว่าเวลาลดน้ำหนัก มี่อยากให้น้ำหนักที่หายไปเป็นน้ำหนักจากไขมัน ไม่ใช่น้ำหนักจากกล้ามเนื้อ
เลยพยายามที่จะกินโปรตีนอย่างน้อยให้เท่ากับร่างกายต้องการต่อวัน และพยายามสร้างกล้ามเนื้อไปในตัว
เพราะกล้ามเนื้อสำคัญมากกกๆๆ มีไว้เพื่อช่วยเรื่องระบบเผาผลาญ เป็นเตาเผาแคลอรี่เลยนะ
นอกจากนี้มี่มีของกินเล่นระหว่างมื้อด้วยนะคะ เพราะมี่ชอบกินจุกจิก เป็นคนหิวไวด้วยค่ะ
และไม่ใช่ว่าของกินเล่นระหว่างมื้อไม่มีประโยชน์เลยน้า มันไปช่วยเพิ่มการเผาผลาญของร่างกายอีกทางด้วย
เวลาเลือกของกินเล่น ขอให้เลือกกินอย่างถูกวิธี เอาแบบไม่อ้วน และมีประโยชน์
ซึ่งมี่ก็เลยเลือกกินพวกพวกสมู้ทตี้ หรือถั่วมากินพลางๆระหว่างวันค่าาา
4.กินน้ำเยอะๆ
นอกจากเรื่องอาหารแล้ว การกินน้ำเยอะๆก็สำคัญมากกกกกก (ก.ล้านตัว) ขอให้สร้างนิสัยการกินน้ำเยอะๆนะคะ
เพราะกินน้ำมีส่วนช่วยในการลดความอ้วน จะช่วยลดปริมาณไขมันในร่างกายของเราให้ลงได้
และเวลาที่มี่หิวมากๆ มี่จะกระดกน้ำ อึกๆๆๆๆๆ ลดความอยากอาหารลงไปได้ค่าาา
ทริคนะคะ เวลาอยู่บ้านจะมีขวดน้ำวางไว้ข้างตัวมี่ตลอด เวลาเห็นก็จะยกขึ้นมาจิบๆทีละนิด
(ตอนเขียนทู้นี้ก็เช่นกัน มีขวดน้ำอยู่เป็นเพื่อนข้างๆ)
5. การขับถ่าย
การที่พุงจะยุบเนี่ย ก็ขึ้นอยู่กับการขับถ่ายด้วยใช่มั้ยล่ะคะ มี่เลยพยายามกินผักเยอะๆค่ะ
แต่มี่ไม่ใช่คนขับถ่ายง่าย เป็นคนธาตุหนัก ถึงจะกินผักมากๆ บางทีก็ไม่ได้ทำให้ขับถ่ายทุกวัน (แต่ก็ดีกว่าแต่ก่อนที่ไม่กินเลย)
มี่เลยใช้วิธีการกิน ไฟเบอร์ตามเซ่เว่นเลยค่ะ แต่!!! มี่ไม่กินบ่อยนะคะ อย่างมากอาทิตย์ละครั้ง
เพราะกลัวว่าร่างกายจะขับถ่ายเองไม่ได้ ต้องกินไฟเบอร์ช่วยตลอด จึงนานๆกินที เวลาที่แบบไม่ถ่ายเลยจริงๆค่ะ
ที่มี่กินบ่อยๆคือ 2 ซองนี้ เวลากินรู้สึกต่างกันอยู่ค่ะ
- NUUI มีใยอาหารสูงมากกกก คือถ้ากินวันนี้ พรุ่งนี้เข้าห้องน้ำอย่างเดียวเลยค่ะ ปวดท้องจู๊ดๆไม่ไหว เข้าห้องน้ำบ่อยมากกก
- Donutt รสชาติกินง่ายกว่า และมีความเบากว่า สามารถใช้ชีวิตได้ปกติมากกว่า NUUI
6. พักผ่อนให้เพียงพอ
เป็นเรื่องพื้นฐานมากๆเลยนะคะของการดูแลสุขภาพร่างกาย
จากการเริ่มทำ IF ทำให้มี่เป็นคนหิวง่ายมากๆ มี่เลยใช้วิธีนอนเร็วเพื่อแก้ปัญหาค่ะ จะได้ไม่หยิบอะไรเข้าปาก555555
มี่เคยอ่านบทความมาในหลายๆเว็บว่า การนอนน้อยเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำเสี่ยงโรคอ้วนและน้ำหนักเกิน
มี่เลยจะพยายามนอนไม่เกินเที่ยงคืน แต่มี่ก็ไม่ใช่คนหลับง่ายขนาดนั้นนะคะ พลิกไปพลิกมาบนเตียงตลอด
แต่ไม่ว่าจะนอนดึกยังไง มี่ก็จะเลื่อนเวลาการตื่นของมี่ให้นอนถึง 7-8 ชม. ค่ะ!
เพราะจากการที่มี่ต้องตื่นแต่เช้ามาออกกำลังกาย ถ้าวันไหนนอนน้อยเมื่อไร ร่างกายจะออกกำลังกายไม่ไหวเลยค่ะ U_U
7. การออกกำลังกาย
อย่างที่มี่บอกไปข้างต้นนะคะว่ามี่จะตื่นมาออกกำลังกายทุกเช้า
ในตอนแรกที่มี่เริ่มออกกำลังกาย มี่เล่นแค่ Cardio แบบ Beginner ก่อน
เพราะว่าถ้าไปทำยากๆเลยจะท้อ ล้มพับโปรเจคไปก่อนค่ะ เลยพยายามที่จะทำแค่ 20 30 นาทีตามคลิปให้รอดก่อน
คลิปที่มี่ทำตามบ่อยๆ สนุกดีเพลินๆ คือคลิปนี้ค่ะ
พอทำไปทำมา ก็รู้สึกแบบอุ้ยง่ายจัง หายเหนื่อยและ เริ่มซ่าจ้า มีไรโหดกว่านี้มั้ยนะ!!??
ก็เลยหันมาทำตามคลิปของ Chloe Ting สัมผัสได้ถึงความโหดของจริง
ปัญหาของมี่เนี่ยคือพุงใหญ่มาก โดยเฉพาะพุงด้านล่างค่ะ ย้อยออกมาเลย
มี่เลยเลือกทำชาเลนจ์ Flat Belly Program ให้ครบ ซึ่งชาเลนจ์เนี้ยทำให้พุงลดดีมากกก และเหนื่อยมากเช่นเดียวกัน แง้
ข้อดีของการทำตาม Chloe Ting (ขออวยเลยนะคะ) คือเขาแจกตารางออกกำลังกายฟรีค่ะทุกคน
ทำให้เรารู้ว่าวันนี้ต้องออกกำลังกายนะ วันนี้ว่าง ทำให้จัตดารางเวลาไปทำอย่างอื่นสะดวกดีค่ะ
Chloe Ting - Flat Belly Program <<< ลิ้งค์ตารางออกกำลังกาย
ต่อมาพอทำชาเลนจ์ Flat Belly Program หมดแล้ว มี่ก็รู้สึกว่าพุงมันลดลงแหละ
แต่ยังไม่ค่อยลีน ยังมีเนื้อมีหนังมากอยู่ มี่ก็เลยเริ่มทำ 2 Weeks Shred Challenge
Chloe Ting - 2 Weeks Shred Challenge
ซึ่งผลลัพธ์ก็คือดีมากค่ะ แต่เหนื่อยมาก หอบแฮ่กจริงๆค่ะ ต้องทรหดอดทนไปกับมัน
แต่ผลลัพธ์หน้าท้องลดดีจริงค่ะ และลีนขึ้นมาก แล้วร่องมันขึ้นจริงๆค่ะทั่นนนนผู้ช้มมมมมมมม
สรุปตารางเวลาการออกกำลังกาย + IF
มี่จะตื่นมาเริ่มออกกำลังกายเลยตอน 10 โมง โดยให้เวลาเต็มๆในการออก 1 ชม.
11 โมง อาบน้ำ ดูหนัง อ่านหนังสือ
และเที่ยงเริ่มกินอาหารมื้อแรก ชีวิตประจำวันจะเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆนั่นเอง
8. อย่าเครียดและไม่เอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น
ข้อสุดท้ายแล้วค่ะ ข้อนี้สำคัญมากจริงๆเลย
อย่าเครียดนะคะว่าทำไมเราลงทุนเหนื่อยขนาดนี้ กินคลีนทำไมน้ำหนักไม่ลด
ต้องเข้าใจเลยนะคะว่า การลดน้ำหนักมันต้องใช้เวลาค่ะ อดทนกับมัน และผลลัพธ์ที่ได้กลับมามันคุ้มค่ามากจริงๆ
นอกจากนี้อย่าเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น ตัวมี่เองนี่แหละค่ะชอบเอาตัวเองไปเปรียบเทียบ ให้ตัวเองช้ำใจ
ประมาณว่า เห้ยทำไมคนอื่นไม่เห็นต้องเหนื่อยขนาดเราเลย ทำไมเขาถึงผอม หุ่นดี ขาเล็ก
พอเลยค่ะ!! หยุดคิดแบบนั้น การคิดแบบนั้นมันทำให้ท้อและอยากล้มเลิกกลับไปกินขาหมู
ต้องคิดว่าเรากำลังทำให้ตัวเองดีขึ้น มันต้องดีขึ้นแน่ๆ เราจะต้องเจอ Best Version ที่เป็นของตัวเอง
ทุกคนมีความสวยในแบบของตัวเอง เรากำลังพัฒนามันอยู่ค่ะ!!
ผลสรุปพุงลดแล้วจ้า กล้าใส่เอวลอยตามลิซ่าแล้ว ตัดหน้าม้าเพิ่มด้วย วี้ดว้าย
จากนี้ไปมี่จะ Set เป้าหมายในการลดนน.ใหม่ จะไม่หยุดพัฒนาตัวเองแน่นอนค่าาา