ทางสายเอก ที่เป็นของพระพุทธเจ้าคือ
ตั้งกายให้ตรงดำรงสติมั่น
จิตคิดละอกุศลแล้วเข้าปฐมฌาน
จิตจะระงับ ความ ความง่วง ความสงสัย
จิตจะจดจ่ออยู่ที่
ลมหายใจเข้า
ลมหายใจออก
สมาธิทำให้เกิด สติระลึกที่ฐานกายในกาย คือ
ลมหายใจเข้า ยาว ออกยาว ก็รู้
ลมหายใจเข้า สั้น ออกสั้น ก็รู้
จนกองลมสงบ
จิตก็ละเอียด เข้าทุติยฌาน
จิตจะระงับ ความพยาบาทได้
จิตเกิดความซาบซ่าน ปิติยินดี
สมาธิ ทำให้เกิดสติที่ฐาน เวทนาในเวทนา
ปิติคือเวทนา
หายใจเข้า ออก ก็มีสติรู้ถึงเวทนา รู้ถึงปิติ
เมื่อจิตละเอียดขึ้น
จิตจะเข้าสู่ ตติยฌาน
จิตจะระงับ
ความฟุ้งซ่านได้
จิตจะจดจ่อที่ความสุขในฌาน
กายเบา ใจเบา เป็นสุข
สมาธิจะทำให้เกิดสติที่
ฐาน เวทนาในเวทนา และ
ฐาน จิตในจิต
มีสตะรู้ว่าลมหายใจเข้า ออก
เกิดเวทนา จิตเป็นสุขก็รู้
เกิดจิตเบาสบาย ก็รู้
เมื่อจิตละเอียดขึ้นไปอีก
จิตจะเข้าสู่ จตุตภฌาน
จิตจะระงับ กามฉันทะได้
จิตจะเป็นอุเบกขา ปล่อยวางธรรมารมณ์ทั้งหมด
สมาธิจะทำให้เกิดสติที่
ฐานธรรมารมณ์ในธรรมารมณ์
จิตจะมีสติพิจารณา ลมหายใจเข้าออก สละคืน ปล่อยวางธรรมารมณ์ทั้งหมด
ไม่ยึดมั่นถือมั่นในธรรมารมณ์
เอโกธัมโม เป็นแบบนี้