เพื่อนๆวันนี้เรามาเล่าประสบการณ์ลดน้ำหนักที่เราพยายามมาตลอดชีวิตเนี้ยละ 55
คือต้องบอกว่าจริงๆแล้วเราน้ำหนักไม่ได้เยอะมาก ประมาณ 53-54 กิโล สูง 159 
 แต่เรารู้สึกว่าอยากลดอีกสักหน่อยเพราะเวลาใส่เสื้อผ้าแล้วไม่ค่อยมั่นใจ อยากใส่เสื้อเข้ารูปบ้างอะ
ตัวเราเองเคยลดน้ำหนักโดยการที่อดอาหารมาแล้วแต่อดผิดวิธีไปหน่อย คือ กินเช้า กินกลางวัน และเย็นหักดิบ แต่สรุปชอบไปตบะแตกตอนกลางคืน กินพวกผลไม้บ้างหรือโยเกิร์ตบ้าง วิธีนี้จริงๆเราก็น้ำหนักลงอยู่นะ ประมาณเดือนละ 0.5-1 กิโล แต่แค่รู้สึกไม่ค่อยแฮปปี้กับการลดเท่าไร จนกระทั่งนั่งดูยูทูปเกี่ยวกับลดน้ำหนักเนี้ยละ แล้วไปเจอวิธีอดอาหารแบบ IF16/8 ตอนแรกก็ไม่ค่อยอินกับวิธีนี้เท่าไร เลยพยายามหาข้อมูลเพิ่มเพราะเห็นว่าดาราก็หันมาทำเยอะ เลยเริ่มรู้จักว่ามันคือ Intermittent Fasting คือการลดน้ำหนักแบบ กินอาหารได้ตามเวลาที่กำหนด และ หยุดกินในเวลาที่กำหนด อย่าง IF 16/8 ก็คือ การที่เรากินได้ในระยะเวลา 8 ชั่วโมง และ อดอาหารต่อเนื่อง 16 ชั่วโมง เพื่อนๆอาจจะคิดว่ายากใช่ไหม (เราก็คิดเหมือนกัน 555)
และพอได้เริ่มแล้วก็รู้สึกยากจริงๆนั้นละ แต่พอทำไปสัก 4-5 วัน เหมือนจะปรับตัวเริ่มได้ (หิวน้อยลงเวลาที่อดอาหารจริงๆด้วยอะ ไม่น่าเชื่อ) วันนี้เราจะมารีวิวที่เราลดเองอย่างตั้งใจ ไม่พึ่งยา พึ่งใจตัวเองล้วนๆเลย555
วันแรกที่เริ่ม เราเริ่ม 10 โมงเช้า เพราะเราทำงานไม่เช้าแบบคนอื่นๆเค้า ตอนแรกตื่นมารู้สึกหิวตั้งแต่ 9.00 โมงเช้าแล้ว ปกติก็จะกินประมาณ 8.30-9.00 โมงเนี้ยละ แล้วแต่วันนั้น แต่เราตั้งใจเริ่ม 10.00 โมง เพราะต้องการให้กินได้ถึง 6.00 โมงเย็นละ กลัวทำเร็วกว่านั้นแล้วหยุดก่อนจะขาดใจตาย 55

(กินขนมปังโฮทวีต 2 แผ่น ไข่ดาวทอดน้ำ 2 ฟอง กาแฟดำ และฝรั่ง 1ลูก )

กินเสร็จก็รู้สึกอิ่มอยู่นะ อาจจะเพราะเรากินผลไม้ด้วย มานั่งหน้าคอมทำงานต่อ (งานเรานั่งหน้าคอมเป็นหลัก มีเดินไปมา เล็กน้อยแล้วแต่วัน) ไม่ได้รู้สึกหิวเท่าไร แต่ความอยากที่ปกติเราจะชอบหยิบของจุกจิกกันยังมีอยู่ ยังอยากหาอะไรมากินเล่นระหว่างทำงานอะ แต่จะอดทนไปก่อนเพราะอีกพักก็มื้อกลางวันละ
กลางวันนี้สั่งอาหารตามสั่ง สั่งเป็นสุกกี้น้ำไก่ แต่ขอสั่งพิเศษนะ กลัวไม่อิ่มอะ
(กินสุกกี้น้ำไก่) 

เวลาสั่งอาหารตามร้านบางที่เค้าไม่มีข้าวกล้อง เราก็ยังกินข้าวขาวอยู่นะ คิดว่าบางทีก็ต้องเอาสะดวกด้วย
ช่วงบ่ายเย็นประมาณ 4 โมงเย็น รู้สึกหิวนิดนึง เลยไปหยิบพวกถั่วมากินแต่กินไม่เยอะนะ คือเราชอบกินถั่วเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว แต่เพราะกลัวแคลอรีเกิน ก็เบาๆมือหน่อย55
ลืมบอกเพื่อนๆไป เรากะว่าวันนี้เราจะกินแคลอรี ประมาณ 1,200 – 1,300 ไม่เกินนี้ละ จะลองดูว่าร่างกายและตัวเราจะไหวมั้ย และค่อยปรับดูอีกที (หาข้อมูลจากเว็บสุขภาพทั่วไป คำนวณค่า BMR ให้)
มาดูมื้อเย็นวันแรกกัน 55 เรากินตอนประมาณ 5 โมงเย็นนะ จะได้จบก่อน 6 โมงเย็น
วันนี้เรากินเป็น ผัดผักหมูชิ้นกับน้ำ  แต่ก่อนกินขอดื่มน้ำไปเต็มๆแก้ว 1 แก้วก่อนนะ จะได้ช่วยให้เราอิ่มเร็วขึ้น เพราะเราไม่ได้กินข้าวหรือพวกแป้งช่วงเย็นละ 
(กิน ผัดผักหมูชิ้น (ผัดกับน้า))

ตอนกลางคืนวันแรก มีความหิวอยู่ท้องนี้ร้องจ๊อกๆ เรานะอยากจะเดินไปตู้เย็นจริงๆ แต่ก็พยายามแข็งใจไว้ เพราะเริ่มทำวันนี้แล้ว ไม่อยากไปเริ่มใหม่อีก
พอเรากินแบบนี้มาประมาณ 3-4 วันรู้สึกร่างกาย น่าจะปรับตัวได้นะ เพราะตอนเช้าจะไม่หิวช่วง 8-9 โมงแล้ว เหมือนจะชินกับการกินตอน 10 โมงแทนละ ส่วนระหว่างวันก็ดีขึ้นนะ แต่เราต้องบอกก่อนนะว่าเรายังพยายามที่จะกินคลีนหรือกินอาหารให้ดี ไม่หลุด พอตกกลางวันเดี๋ยวนี้บางทีก็สั่งอาหาร บางทีก็ทำอาหารเองบ้าง ปกติถ้าเราเตรียมเอง เราก็จะกินง่ายๆเลย ข้าวกล้อง + อกไก่ + น้ำพริก นิดๆหน่อยๆ ส่วนตอนเย็นก็จะกินเป็นสลัดผัก ทูน่า บ้างหรือกินเป็นข้าว 1 ทัพพีกับปลานึ่งหรือไข่ต้มบ้าง (ทีต้องกินข้าวมื้อเย็นเพราะว่าบางทีเรามีออกไปข้างนอกทำธุระเดินเยอะ แล้วรู้สึกหิวอะ)
(มื้อเช้า /โจ๊ก หมูสับ + กาแฟดำ + ไข่ / ข้าวกล้อง + อกไก่ + ไข่ต้ม/ข้าวไรซเบอรรี + อกไก่ปิ้ง / ข้าว + ผัดผักหมูชิ้น)
       

(มื้อกลางวัน / ข้าวกล้อง + ปลากระป๋อง+ น้ำพริกกระปุก + ไข่ต้ม / ข้าว + แกงจืดหมูสับ + ไข่ต้ม /ข้าว+หมูแดง +กุนเชียงนิดนึง ไม่ราดน้ำ) 

   
           
(มื้อเย็น / สลักผักกับอกไก่ / ข้าวไรซ์เบอรรี + อกไก่ / ข้าวไรซ์เบอรรี + ผัดผักกับหมู+ ฝรั่ง / ส้มตำไม่ใส่ผงชูรส + ไก่เส้น)

จริงๆก็เริ่มชินขึ้นนะ แล้วเราเองก็เป็นโรคจิตชอบชั่งน้ำหนักทุกวัน ตอน 2-3 วันแรกตัวเลขมันไม่ขยับหรอก (ก็นะเพิ่งเริ่มลดเองนิ เราคงใจร้อนไปหน่อย 55) แต่พอเริ่มเข้าวันที่ 4 -5 มันลงมานิสสนึงง ลงมาประมาณ 0.5 กิโล ซึ่งเราก็โอเคนะ ที่โอเคอะไม่ใช่ตัวเลขที่ตาชั่งหรอกแต่พอดีหยิบกางเกงที่ใส่ประจำมาใส่ มันสบายตัวขึ้นนะ OMG เลยรู้สึกดี บวกกับใส่กางเกงแล้วไม่อึดอัดเหมือนเดิม (อาจจะไม่ได้เยอะมากแต่เราใส่เองเรารู้ว่ามันสบายขึ้น) เราก็เลยคิดว่าเราจะทำต่ออีกสัก 10 วัน แล้วกัน รวมเป็น 15 วัน อยากรู้ว่ามันจะเห็นผลยังไงบ้าง เราคิดว่าน่าจะเป็นเพราะเรากินอาหารตามช่วงเวลาที่กำหนดและอดในเวลาที่กำหนดแน่ๆเลย เพราะก่อนหน้าเราก็พยายามลด และอดอาหารมาตลอดนะ แต่ไม่รู้สึกใส่กางเกงไม่อึดอัดแบบตอนนี้อะ (ขอลองดูอีกสักหน่อยสิว่า IF 16/8 จะเหมาะกับเราไหม) ลืมบอกเพื่อนๆไปว่า ช่วงเวลาที่อดอาหารอะ เรายังกินชา กาแฟ ไม่ใส่นมมาใส่น้ำตาล บ้างนะ บางทีเราก็ยังไม่ชนะกับความอยาก หรือ ความหิวของตัวเองได้ละ เลยกินชา กาแฟ ที่เค้าไม่ให้ใส่นมและน้ำตาลแทน มันก็ช่วยได้อยู่นะ แต่จริงๆแล้วจากที่เราเห็นคนอื่นทำ เค้าก็จะเน้นให้ดื่มน้ำเยอะๆ ซึ่งเราว่าดื่มน้ำเยอะๆก็ช่วยเรามากเลยละ เพราะจากที่เป็นคนกินน้ำไม่ค่อยเยอะ พอมากินวิธีนี้ทำให้เราดื่มน้ำเยอะขึ้น
(ภาพ Before & After)
   

เราทำมาสักระยะแล้วรู้สึกตัวเองใส่เสื้อสบายขึ้นจริงๆละ ตอนนี้ทำมาก็ครึ่งทางแล้ว เหลือ อีก 5 วัน อัพเดทน้ำหนักให้เพื่อนๆรู้กันดีกว่า พอเข้า 10 วัน น้ำหนักเราไม่ได้ลงเยอะเหมือนเดิมนะ ประมาณ 52.5-53 กิโล แต่ทีเรารู้สึกดีคือใส่เสื้อผ้าสบายขึ้นละ ไม่แน่นเท่าเมื่อก่อนนะ55  ก็หากครบวันแล้วถ้าเรายังรอด เราจะลองทำต่อไปนะ เพราะแค่นี้เราก็รู้สึกพอใจนะที่อย่างน้อยใส่เสื้อผ้าชุดเดิมได้แล้วว😊
แต่ก็ต้องสารภาพนะว่าเรายังคงลดขนมไม่ได้จริงๆอะ มีกินบ้างตามความหิวและความอยาก แต่เปลี่ยนเป็นนขนมที่กินแล้วมีประโยชน์กับตัวเองมากขึ้นหน่อย (เมื่อก่อนชอบกินพวกเบเกอรี พวกขนมปังไส้นมแบบ Little C หรือบางทีอยากขนมมากก็กินพวกเลย์เลยอะ ...จริงๆลดน้ำหนักก็ควรจะงดหรือลดอะนะ แต่ตอนนั้นคิดว่าไม่เป็นไรนิดหน่อยเอง ยังไงเย็นก็กินน้อย ไม่น่าจะเป็นไร... สรุปก็ว่าแล้วเชียวใส่เสื้ออึดอัดตลอดเลยย หลอกตัวเองได้ แต่หลอกเสื้อผ้าไม่ได้อะ 55
เราเลยหันมาหาขนมสุขภาพกินแทนอะ เมื่อก่อนไม่ค่อยได้เข้าร้านสุขภาพหรอก แต่เพราะลดน้ำหนักแบบ IF16/8 แล้วเลยหันมาใส่ใจมากขึ้น อาจเพราะเราเริ่มอินกับ IF ด้วยละมั้ง
คือเวลาเราหิวอยากกินขนมอะ จริงๆก็จะกินพวกถั่วอัลมอนด์ นั้นละ (เพราะชอบถั่วอยู่แล้ว แต่เมื่อก่อนกินถั่วลิสง 555) ส่วนใหญ่จะเลือกยี่ห้อที่มันไม่ใส่เกลือ แบบถั่วอัลมอนด์ของโก๋แก่ละ ประมาณ 15 เม็ดอะ 
แต่ถ้าวันไหนเบื่อๆและอยากหวานๆรสชาติอร่อยๆหน่อยจะเลือกเป็น ถั่วอัลมอนด์เกาหลี  มีสองรสอะ น้ำผึ้งอบเนย กับวาซาบิ


 
 
   

ถ้าเป็นถั่วอัลมอนด์เกาหลีอะ เราจะนานๆกินทีนะ แบบอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง ไม่เกิน กินประมาณ 8-10 ให้หายยาก เพราะจริงๆแล้วมันแคลเยอะ กินมากรับรองเราลดคงไม่ลง เพราะมันกินแล้วอร่อยมากอะ จะกินทีต้องเทใส่ถ้วยเล็กๆเลยอะ ไม่งั้นหมดแน่ๆ55
ส่วนอย่างอื่นที่เวลากินแล้วก็พยายามหาขนมที่มีประโยชน์นะ อย่างพวก ขนมสุขภาพพวกที่ทำจากฟักทอง (ได้ยินมาว่าของเบเบ้เอง) ทำจากฟักทอง แคลน้อย เรากินแล้วว่ากินแทนขนมเบเกอรีได้อยู่นะ ไม่ได้รู้สึกว่าคลีนจนกินไม่ได้ เป็นทางเลือกที่ดียามหิวขนมเลยละ

   
และก็เรามีกินขนมอบกรอบเวลาที่แบบอยากกินไรกรอบๆ อะ เลยลองไปหาตามร้านสุขภาพ เราเห็นเจ้านี้เป็นไก่เส้น หมูเส้น แบบอบ เห็นมาสักพักละละ แต่ก็ไม่ได้เลือกซื้อเพราะตอนนั้นเรายังมีความคิดว่าขนมสุขภาพรสชาติไม่อร่อยถ้าเราเลือกเราหยิบเลย์ละ 555 แต่ตอนนี้ทำ IF ละไม่อยากเหนื่อยฟรี 
เราอยากขนมกรอบๆอะ เห็นอันนี้เค้าบอกว่าอบไม่ทอด เป็นหมูเส้น ไก่เส้น เห็นว่าให้โปรตีนสูงอยู่ก็เลยเลือกมา เวลากินเราจะได้ไม่ต้องรู้สึกผิด 55 ตอนแรกเปิดมาเห็นขนมเค้า ไม่ค่อยเยอะเท่าไร แต่ก็ไม่ได้น้อยหรอกนะ (แค่กลัวไม่พอท้องของเรา 55)  พอกินๆไปรู้เลยว่ามันทำจากเนื้อสัตว์ล้วนๆ อบจนแห้งกรอบเลยอะ คือแอบตกใจที่มันไม่มีน้ำมันเลยจริงๆ แต่สิ่งที่เราชอบที่สุดคือมันไม่มีแป้งผสมเลยและไขมันต่ำ กินแล้วรสชาติดีนะเพลินๆดี 55 ก็ไม่คิดว่าขนมเค้าจะไม่ใช้น้ำมันแล้วกรอบขนาดนี้ และแล้ว 1 ห่อก็ไม่พอสำหรับจริงๆด้วย บางทีเราก็กินไป 2 ห่อละ แต่ดีที 1 ห่อของเค้าแคลไม่เยอะเกิน (กิน 2 ห่อก็ยังไม่รู้สึกผิด) กินเป็นขนมแก้หายความอยากขนม เราว่าโอเคเลย ให้ผ่านนน จริงๆเห็นมีอยู่หลายตัวแต่เราซื้อมาแค่ 2 แบบนี้ละ
            
    
ขอต่อในคอมเม้นนะ