ปฐมฌาน กามและอกุศลธรรมดับ มีวิตก วิจาร มีปีติและสุข

ปฐมฌาน กามและอกุศลธรรมดับ มีวิตก วิจาร มีปีติและสุข
...อานนท์ !
ครั้งก่อนแต่การตรัสรู้
เมื่อเรายังไม่ได้ตรัสรู้ ยังเป็นโพธิสัตว์อยู่,
ความรู้ได้เกิดขึ้นแก่เราว่า
เนกขัมมะ (ความหลีกออกจากกาม) เป็นทางแห่งความสำเร็จ,
ปวิเวก (ความอยู่สงัดจากกาม) เป็นทางแห่งความสำเร็จ ดังนี้,
แต่แม้กระนั้น
จิตของเราก็ยังไม่แล่นไป
ไม่เลื่อมใสไม่ตั้งอยู่ได้
ไม่หลุดออกไป ในเนกขัมมะ
ทั้งที่เราเห็นอยู่ ว่านั่นสงบ.
อานนท์ !
ความคิดได้เกิดขึ้นแก่เราสืบไปว่า
อะไรหนอ เป็นเหตุเป็นปัจจัย ที่ทำให้จิตของเรา เป็นเช่นนั้น.
อานนท์ !
ความรู้สึกได้เกิดขึ้นแก่เราว่า
เพราะว่าโทษในกามทั้งหลาย
เป็นสิ่งที่เรายังมองไม่เห็น ยังไม่ได้นำมาทำการคิดนึกให้มาก
และทั้งอานิสงส์แห่งการออกจากาม
เราก็ยังไม่เคยได้รับเลยยังไม่เคยรู้รสเลย;
จิตของเราจึงเป็นเช่นนั้น.
อานนท์ !
ความคิดได้เกิดขึ้นแก่เราสืบไปว่า
ถ้ากระไร เราได้เห็นโทษในกามทั้งหลาย
แล้วนำมาทำการคิดนึกในข้อนั้นให้มาก
ได้รับอานิสงส์ในการหลีกออกจากกามแล้ว
พึงเสพในอานิสงส์นั้นอย่างทั่วถึงไซร้,
ข้อนั้นแหละ
จะเป็นฐานะที่จะทำให้จิตของเราพึงแล่นไปพึงเลื่อมใส
ตั้งอยู่ได้ หลุดออกไป ในเนกขัมมะ
โดยที่เห็นอยู่ว่านั่น สงบ.
อานนท์ !
โดยกาลต่อมา
เราได้ทำเช่นนั้นแล้วอย่างทั่วถึง
จิตของเราจึงแล่นไปจึงเลื่อมใส ตั้งอยู่ได้ หลุดออกไป ในเนกขัมมะ
โดยที่เห็นอยู่ว่านั่น สงบ.
อานนท์ !
เมื่อเป็นเช่นนั้น, เราแล
เพราะสงัดจากกามและอกุศลธรรมทั้งหลาย จึงบรรลุฌานที่ ๑
อันมีวิตกวิจาร มีปีติและสุขอันเกิดแต่วิเวกแล้วแลอยู่.
(บาลี นวก. อํ. ๒๓/๔๕๗/๒๔๕
ตรัสแก่พระอานนท์
ที่อุรุเวลกัสสปนิคม ของชาวมัลละในมัลลกรัฐ.
เนื่องจาก ตปุสสคหบดี
ได้เข้าเผ้าและกราบทูลถึงข้อที่พวกฆราวาสย่อมมัวเมาติดในกามอยู่เป็นปรกติ,
เนกขัมมะคือการหลีกออกมาเสียจากกามนั้น
ปรากฏแก่พวกเขาดุจถ้ำหรือเหวลึกที่มืดยิ่ง เป็นที่น่าหวาดกลัวยิ่ง)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่