ฝ่ายค้านยื่นนายกฯขอเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ
https://www.innnews.co.th/politics/news_656477/
พรรคฝ่ายค้าน ยื่นนายกฯขอเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ รับต้องเร่งหาอีก 32 รายชื่อ ให้ตรบตามกฎหมายกำหนด ต้องมีสมาชิก 1ใน 3 เข้าชื่อ
ตัวแทนพรรคฝ่ายค้าน นำโดย น.อ.
อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย, นายแพทย์
ชลน่าน ศรีแก้ว รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย, นาย
นิคม บุญวิเศษ หัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย และนาย
ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ยื่นหนังสือผ่านศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาลถึงนายกรัฐมนตรีให้เปิดการประชุมสภาสมัยวิสามัญเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับงบประมาณที่จะมาแก้ไขปัญหาโควิด-19
โดยน.อ.
อนุดิษฐ์ กล่าวว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านได้ยื่นหนังสือ ซึ่งเป็นจดหมายที่เปิดผนึกโดยเนื้อหาของจดหมายเป็นการลงนามร่วมกันตามมติของพรรคร่วมฝ่ายค้านในการให้นายกรัฐมนตรีนำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อขอมติจากครม.เปิดประชุมสมัยวิสามัญ ภายในเดือนพฤษภาคม เพื่อเร่งพิจารณา พ.ร.ก.เป็นการเร่งด่วน ตามมตรา 172 พรรค 3 ในการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน เนื่องจากรัฐบาลได้ออกพระราชกำหนดเงินกู้ 1.9 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นยอดการกู้ที่มากที่สุด
นอกเหนือจากรัฐบาลได้ฟังเสียงของผู้เกี่ยวข้องหลายๆฝ่ายโดยสภาผู้แทนราษฎรเป็นตัวแทนของประชาชน ซึ่งขณะนี้ฝ่ายค้านมีการล่ารายชื่อของสภาชิกรัฐสภาให้ได้ 1 ใน 3 หรือ 246 เสียง ซึ่งขณะนี้เองฝ่ายค้านจะต้องหาอีก 32 เสียงเพื่อยื่นต่อประธานรัฐสภา ซึ่งตนคาดว่าพรรคร่วมรัฐบาลเองก็ให้การสนับสนุน โดยจะสามารถยื่นได้เร็วที่สุดในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม
ด้านนาย
ชัยธวัช กล่าวย้ำว่า ในการขอยื่นเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญเป็นการเร่งด่วนถือเป็นประโยชน์ของรัฐ ซึ่งรัฐสามารถขอเปิดประชุมสภาสมับวิสามัญเช่นเดียวกับการขอพ.ร.บ.งบประณรายจ่ายประจำปี 63 ซึ่งกรณีการออก พ.ร.ก.กู้เงิน ถือว่ามีความเร่งด่วนเช่นเดียวกัน พร้อมกับมองว่าการตัดงบประมาณรายจ่ายของแต่ละกระทรวงที่รัฐบาลทำอยู่มีความไม่เหมาะสมอย่างสาธารณสุขที่ไม่ควรตัดแต่ต้องเพิ่มงบประมาณไปให้ด้วยซ้ำ ซึ่งหากมีการประชุมตนจะเสนอให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการใช้งบประมาณในการแก้ไขปัญหาโควิด- 19
ทั้งนี้นาย
ชัยธวัช กล่าวอีกว่า นาย
ชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ก็ออกมายืนยันแล้วว่าทางรัฐสภามีความพร้อมในการเปิดสมัยประชุมวิสามัญทั้งการออกมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม ซึ่งบทบาทสำคัญของสภาคือการกำหนดใช้งบประมาณได้อย่างตรงเป้า
“อนุสรณ์” แนะ รบ.คลายล็อกอย่างปลอดภัย ให้ปชช.กลับทำมาหากิน
https://www.matichon.co.th/politics/news_2155192
“อนุสรณ์” แนะ รบ.คลายล็อก หวั่น เป็นวิกฤตเศรษฐกิจที่ลามถึงปากท้องความอยู่รอดของปชช.
เมื่อวันที่ 24 เมษายน นาย
อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีมีกระแสข่าวรัฐบาลเตรียมขยายพ.ร.ก.ฉุกเฉินและเคอร์ฟิวออกไปไม่ต่ำกว่า 1 เดือน ว่า ระหว่างสถานการณ์การติดเชื้อโควิด กับ วิกฤตเศรษฐกิจที่ลามถึงปากท้องความอยู่รอดของประชาชน อย่างไหนหนักกว่ากัน ในขณะเฝ้าติดตามยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่จะกลายเป็นศูนย์เมื่อไหร่ สถิติการฆ่าตัวตายรายวันจากการล็อกดาวน์อาจพุ่งแซงผู้ติดเชื้อรายใหม่ก็ได้ ไม่ใช่ทุกอาชีพสามารถเวิร์คฟอร์มโฮม ทำงานจากที่บ้านได้ทั้งหมด แม้แต่เคอร์ฟิวก็เกิดปัญหาในการบังคับใช้ มาตรฐานในการตั้งด่านเคอร์ฟิวแต่ละพื้นที่ แต่ละจังหวัดก็ไม่เหมือนกัน มีหลายกรณีสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่ต้องผ่านด่านเป็นอย่างมาก บางด่านมีการใช้อำนาจเกินความจำเป็น อย่างเช่นกรณีจับรถขนผักที่จะมาตลาดสี่มุมเมือง หรือ กรณีฉีกใบอนุญาตคนงานก่อสร้าง บางพื้นที่บอกว่าหนังสือขออนุญาตผ่านด่านเคอร์ฟิวต้องให้ผู้ว่าราชการจังหวัดหรือฝ่ายปกครองลงนาม แต่บางพื้นที่ให้ต้นสังกัดลงนามก็ใช้ได้ ประเด็นเหล่านี้ เป็นการซ้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชน เพราะลำพังแค่การต้องรีบกลับก่อน 4 ทุ่ม ก็กระทบมากอยู่แล้ว เช่น กลุ่มแท็กซี ยังต้องมาเจอปัญหาการบังคับใช้ มาตรฐานที่แตกต่างกันของเจ้าหน้าที่อีก ปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อาจอยู่อีกเป็นปี แต่ถ้าคลายล็อกอย่างปลอดภัย ร่วมกันปรับเปลี่ยนพฤติกรรม รักษาการเว้นระยะห่างทางสังคม ใส่หน้ากาก ใช้เจลล้างมือ ฆ่าเชื้อทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัส เพื่อให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจบางประเภทดำเนินต่อไปได้ โดยเฉพาะการคลายล็อกให้กับประเภทธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับผู้มีรายได้น้อยและไม่สุ่มเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ
“
โควิด-19 ทำลายปอด แต่ล็อกดาวน์ ทำลายเงินในกระเป๋าสตางค์ทุกวัน ความทุกข์ของประชาชนรอไม่ได้ รัฐบาลต้องคลายล็อก อย่างปลอดภัย ประชาชนจะได้กลับไปทำมาหากิน อย่างมีศักดิ์ศรี ปลอดโรค ปลอดภัย” นาย
อนุสรณ์ กล่าว
JJNY : ยื่นขอเปิดประชุมสภาวิสามัญ/อนุสรณ์แนะคลายล็อกอย่างปลอดภัย/ก้าวไกลจัดทัวร์ลงเว็บสำนักงบฯ/แฟนคลับทักษิณถามหาสเปรย์
https://www.innnews.co.th/politics/news_656477/
พรรคฝ่ายค้าน ยื่นนายกฯขอเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ รับต้องเร่งหาอีก 32 รายชื่อ ให้ตรบตามกฎหมายกำหนด ต้องมีสมาชิก 1ใน 3 เข้าชื่อ
ตัวแทนพรรคฝ่ายค้าน นำโดย น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย, นายแพทย์ ชลน่าน ศรีแก้ว รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย, นายนิคม บุญวิเศษ หัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย และนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ยื่นหนังสือผ่านศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาลถึงนายกรัฐมนตรีให้เปิดการประชุมสภาสมัยวิสามัญเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับงบประมาณที่จะมาแก้ไขปัญหาโควิด-19
โดยน.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านได้ยื่นหนังสือ ซึ่งเป็นจดหมายที่เปิดผนึกโดยเนื้อหาของจดหมายเป็นการลงนามร่วมกันตามมติของพรรคร่วมฝ่ายค้านในการให้นายกรัฐมนตรีนำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อขอมติจากครม.เปิดประชุมสมัยวิสามัญ ภายในเดือนพฤษภาคม เพื่อเร่งพิจารณา พ.ร.ก.เป็นการเร่งด่วน ตามมตรา 172 พรรค 3 ในการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน เนื่องจากรัฐบาลได้ออกพระราชกำหนดเงินกู้ 1.9 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นยอดการกู้ที่มากที่สุด
นอกเหนือจากรัฐบาลได้ฟังเสียงของผู้เกี่ยวข้องหลายๆฝ่ายโดยสภาผู้แทนราษฎรเป็นตัวแทนของประชาชน ซึ่งขณะนี้ฝ่ายค้านมีการล่ารายชื่อของสภาชิกรัฐสภาให้ได้ 1 ใน 3 หรือ 246 เสียง ซึ่งขณะนี้เองฝ่ายค้านจะต้องหาอีก 32 เสียงเพื่อยื่นต่อประธานรัฐสภา ซึ่งตนคาดว่าพรรคร่วมรัฐบาลเองก็ให้การสนับสนุน โดยจะสามารถยื่นได้เร็วที่สุดในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม
ด้านนายชัยธวัช กล่าวย้ำว่า ในการขอยื่นเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญเป็นการเร่งด่วนถือเป็นประโยชน์ของรัฐ ซึ่งรัฐสามารถขอเปิดประชุมสภาสมับวิสามัญเช่นเดียวกับการขอพ.ร.บ.งบประณรายจ่ายประจำปี 63 ซึ่งกรณีการออก พ.ร.ก.กู้เงิน ถือว่ามีความเร่งด่วนเช่นเดียวกัน พร้อมกับมองว่าการตัดงบประมาณรายจ่ายของแต่ละกระทรวงที่รัฐบาลทำอยู่มีความไม่เหมาะสมอย่างสาธารณสุขที่ไม่ควรตัดแต่ต้องเพิ่มงบประมาณไปให้ด้วยซ้ำ ซึ่งหากมีการประชุมตนจะเสนอให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการใช้งบประมาณในการแก้ไขปัญหาโควิด- 19
ทั้งนี้นายชัยธวัช กล่าวอีกว่า นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ก็ออกมายืนยันแล้วว่าทางรัฐสภามีความพร้อมในการเปิดสมัยประชุมวิสามัญทั้งการออกมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม ซึ่งบทบาทสำคัญของสภาคือการกำหนดใช้งบประมาณได้อย่างตรงเป้า
“อนุสรณ์” แนะ รบ.คลายล็อกอย่างปลอดภัย ให้ปชช.กลับทำมาหากิน
https://www.matichon.co.th/politics/news_2155192
“อนุสรณ์” แนะ รบ.คลายล็อก หวั่น เป็นวิกฤตเศรษฐกิจที่ลามถึงปากท้องความอยู่รอดของปชช.
เมื่อวันที่ 24 เมษายน นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีมีกระแสข่าวรัฐบาลเตรียมขยายพ.ร.ก.ฉุกเฉินและเคอร์ฟิวออกไปไม่ต่ำกว่า 1 เดือน ว่า ระหว่างสถานการณ์การติดเชื้อโควิด กับ วิกฤตเศรษฐกิจที่ลามถึงปากท้องความอยู่รอดของประชาชน อย่างไหนหนักกว่ากัน ในขณะเฝ้าติดตามยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่จะกลายเป็นศูนย์เมื่อไหร่ สถิติการฆ่าตัวตายรายวันจากการล็อกดาวน์อาจพุ่งแซงผู้ติดเชื้อรายใหม่ก็ได้ ไม่ใช่ทุกอาชีพสามารถเวิร์คฟอร์มโฮม ทำงานจากที่บ้านได้ทั้งหมด แม้แต่เคอร์ฟิวก็เกิดปัญหาในการบังคับใช้ มาตรฐานในการตั้งด่านเคอร์ฟิวแต่ละพื้นที่ แต่ละจังหวัดก็ไม่เหมือนกัน มีหลายกรณีสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่ต้องผ่านด่านเป็นอย่างมาก บางด่านมีการใช้อำนาจเกินความจำเป็น อย่างเช่นกรณีจับรถขนผักที่จะมาตลาดสี่มุมเมือง หรือ กรณีฉีกใบอนุญาตคนงานก่อสร้าง บางพื้นที่บอกว่าหนังสือขออนุญาตผ่านด่านเคอร์ฟิวต้องให้ผู้ว่าราชการจังหวัดหรือฝ่ายปกครองลงนาม แต่บางพื้นที่ให้ต้นสังกัดลงนามก็ใช้ได้ ประเด็นเหล่านี้ เป็นการซ้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชน เพราะลำพังแค่การต้องรีบกลับก่อน 4 ทุ่ม ก็กระทบมากอยู่แล้ว เช่น กลุ่มแท็กซี ยังต้องมาเจอปัญหาการบังคับใช้ มาตรฐานที่แตกต่างกันของเจ้าหน้าที่อีก ปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อาจอยู่อีกเป็นปี แต่ถ้าคลายล็อกอย่างปลอดภัย ร่วมกันปรับเปลี่ยนพฤติกรรม รักษาการเว้นระยะห่างทางสังคม ใส่หน้ากาก ใช้เจลล้างมือ ฆ่าเชื้อทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัส เพื่อให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจบางประเภทดำเนินต่อไปได้ โดยเฉพาะการคลายล็อกให้กับประเภทธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับผู้มีรายได้น้อยและไม่สุ่มเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ
“โควิด-19 ทำลายปอด แต่ล็อกดาวน์ ทำลายเงินในกระเป๋าสตางค์ทุกวัน ความทุกข์ของประชาชนรอไม่ได้ รัฐบาลต้องคลายล็อก อย่างปลอดภัย ประชาชนจะได้กลับไปทำมาหากิน อย่างมีศักดิ์ศรี ปลอดโรค ปลอดภัย” นายอนุสรณ์ กล่าว