เพื่อไทยจ่อตั้งโต๊ะที่สภา ล่าชื่อขอเปิดสภาถกแก้โควิด ยันเพื่อระดมความเห็นเสนอรบ.
https://www.matichon.co.th/politics/news_2079739
 
สุทิน” ย้ำ ยังตั้งโต๊ะล่ารายชื่อ ส.ส.ขอเปิดสภาฯ ถกแก้โควิดอยู่ ชี้ ถ้าฝ่าย รบ. ไม่เอาด้วย จะดูความเหมาะสมเพื่อระดมความเห็นเสนอฝ่าย รบ.
  
เมื่อวันที่ 22 มีนาคม นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย (พท.) ฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้านหรือวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงกรณีการเตรียมเสนอยื่นญัตติเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ เพื่อถกเรื่องการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ว่า จนถึงขณะนี้พรรคพท. ยังคงตั้งโต๊ะที่สภาฯ เพื่อล่ารายชื่อ ส.ส.อยู่ แต่ก็ถือเป็นเรื่องยาก เพราะ ส.ส.ไม่ได้เข้าสภาฯ เนื่องจากทุกคนอยู่ในพื้นที่ ขณะนี้ก็จะสะสมรายชื่อต่อไป ในส่วนของพรรคร่วมฝ่ายค้านนั้น ทางนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรค พท.รับที่จะไปประสานกับทางพรรคร่วมซึ่งก็มีท่าทีเอาด้วย แต่ทางพรรคร่วมฝ่ายค้านก็มองว่า เสียงของเรารวมกันแล้วก็ยังไม่เพียงพอ จึงอยากรอให้ฝ่ายรัฐบาลเป็นฝ่ายเสนอขอเปิดประชุมเอง หากรัฐบาลยังไม่คิดจะเสนอขอเปิดประชุมเพื่อรับฟังข้อเสนอแนะต่างๆ รวมทั้งทางออกในการแก้ไขปัญหาจากทางฝ่ายค้าน เราก็คงต้องหาทางระดมความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน เพื่อสะท้อนให้รัฐบาลฟังอย่างมีน้ำหนัก ซึ่งการสัมมนายังคงเป็นทางเลือกหนึ่ง แต่คงต้องดูความเหมาะสมว่าจะทำอย่างไรไม่ให้สุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19
 

---

 
เพื่อไทยอัดรัฐใช้แต่อำนาจ-มาตรการล่าช้า ไม่ห่วงประชาชน ทำโควิดลาม 
https://www.khaosod.co.th/politics/news_3801433
 
โควิด / เมื่อวันที่ 22 มี.ค. นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล แกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กถึงสถานการณ์โควิด-19 ว่า
 
ขอบันทึกวันเวลาวันนี้ไว้ในความทรงจำ วันนี้เป็นวันที่ตกใจ ใจหาย เครียด และงงมากที่สุดวันหนึ่ง ในขณะที่สถานการณ์วิกฤตโควิดระบาดอย่างรุนแรงไปทั่วโลก และประเทศไทยโชคดีที่เป็นเมืองร้อน การระบาดเป็นไปอย่างช้าๆ อยู่ในสถานการณ์ที่น่าจะควบคุมได้ รัฐบาลดำเนินการควบคุมแบบเบาๆ อ้างว่าเกรงจะเกิดผลกระทบกับประชาชน ทำให้มาตรการดูล่าช้าไม่ทันใจ ตัวเลขประชาชนติดเชื้อเพิ่มขึ้นไม่หยุด
 
รัฐบาลให้การรักษาเฉพาะผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง ที่ไม่มีอาการป่วยไข้ตัวร้อนไม่ได้รับการรักษา ด้วยข้ออ้างว่าเป็นภาระต่อแพทย์ กลุ่มเสี่ยงก็เลยกลายเป็นพาหะติดเชื้อไปยังกลุ่มดารา ตำรวจ ทหาร นักการเมืองท้องถิ่น แม้กระทั่งคนใกล้ชิดรัฐมนตรีหรืออาจจะไปถึงรัฐมนตรี
 
เท่านี้ก็น่าจะรู้แล้วว่าการคัดกรองเฉพาะผู้ป่วยนั้นไม่ได้ผล ใครรู้ว่าตัวเอง ตัวร้อนก็รีบไปรักษาที่โรงพยาบาลหมดแล้ว แล้วการติดเชื้อมาจากไหน ก็กลุ่มเสี่ยงที่เป็นพาหะไง แล้วอะไรเกิดขึ้น แทนที่จะเลือกวิธีการขยายผลการรักษาไปยังกลุ่มเสี่ยง เพื่อคัดกรองเอาคนที่เจ็บป่วยติดเชื้อแต่ยังไม่มีอาการ ออกจากประชาชนโดยทั่วไป
 
นายวรวัจน์ ระบุต่อว่า วันนี้รัฐบาลปิดสถานบันเทิง กทม.ปิดห้างสรรพสินค้า คนได้ผลกระทบจำนวนมาก ปี 40 เศรษฐกิจคนชั้นกลางได้รับผลกระทบ ปี 57-62 เศรษฐกิจชนรากหญ้ามีปัญหา 2563 วันนี้ทุกคนในประเทศได้รับผลกระทบ หลายคนคิดว่าทนเอาหน่อย ยอมเจ็บ เดี๋ยวก็หาย ปิดประเทศเลยก็ได้เพราะกลัวโรคระบาด ต่างจังหวัด ผู้ว่าฯ ทยอยประกาศปิดสถานบันเทิงตามกรุงเทพฯ ไป ปิดทีละจังหวัดไม่พร้อมกัน
 
ท่านที่เป็นพาหะเหล่านั้นไปที่ไหน ในเมื่อกรุงเทพฯ ปิดไม่มีรายได้ ก็ไปต่างจังหวัดกลับไปหาครอบครัว โดยอาจจะไม่รู้ว่าได้นำพาเชื้อต่างๆ เหล่านั้นกลับไปด้วย ถ้ารู้ว่าป่วยใครจะนำเชื้อเหล่านั้นติดไประบาดให้กับครอบครัว แต่วันนี้เมื่อรัฐบาลประกาศปิดกรุงเทพฯ โดยไม่มีมาตรการชัดเจน คนกลับต่างจังหวัด โควิดขยายตัวไปต่างจังหวัด หลังจากนี้การควบคุมไวรัสโควิดน่าจะยากขึ้นเรื่อยๆ การที่ผู้ประกอบการถูกสั่งให้ปิดงาน คนตกงานจำนวนมาก ถูกลดเงินเดือน วันนี้เคว้งคว้างมาก เหลียวมองไปทางไหนก็ไม่เห็นแสงสว่างที่จะช่วยเหลือครอบครัวได้เลย
 
“อำนาจเป็นสิ่งที่ทรงอิทธิพล ผู้ถือครองอำนาจใช้สั่งการได้ทุกอย่าง แต่ถ้าใช้โดยปราศจากความรู้ความเข้าใจ ใช้ไปโดยขาดความระมัดระวัง ใช้ไปทำให้ประชาราษฎร์บาดเจ็บ รอยแผลนี้จะบาดลึกในความทรงจำ หวังว่าผมคงทำนายผิด หลงคิดไปว่าไวรัสอาจจะระบาดหนัก หวั่นเกรงไปว่าเศรษฐกิจประชาชนจะล่มสลาย หวาดกลัวไปเองว่าถึงขั้นเศรษฐกิจ ประเทศจะล้มละลาย แต่วันนี้ไม่เห็นความหวังเลยจริงๆ เศร้ามากสำหรับประเทศไทยวันนี้ ประเทศที่มีแต่ใช้อำนาจแต่ไม่ห่วงใยประชาชน” นายวรวัจน์ ระบุ
 
https://www.facebook.com/Support.Woravat.Auapinyakul/posts/3145666842134227