JJNY : พท.จี้ทำ3เร่งด่วน ชี้กู้แล้วอย่าตีเช็คเปล่า/ก้าวไกลจ่อยื่นด่วน สอบใช้งบ/พท.เตือนปมข้อมูลโควิด/มวลชนทะลักร้อง5พัน

เพื่อไทย จี้ รบ.ทำ 3 เร่งด่วน ชี้กู้เงินแล้ว เงินต้องตกถึงมือ ปชช. อย่า "ตีเช็คเปล่า"
https://www.matichon.co.th/politics/news_2171356
 

 
เพื่อไทย จี้ รบ.ทำ 3 เร่งด่วน ชี้กู้เงินแล้ว เงินต้องตกถึงมือ ปชช. อย่า “ตีเช็คเปล่า”
 
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 5 พฤษภาคม ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคพท. แถลงถึงกรณีปัญหาการเยียวยาประชาชนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบไปทั้งประเทศ ว่า สิ่งที่รัฐบาลต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนในสถานการณ์นี้ 3 ด้าน คือ
 
1. ควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ควบคู่ไปกับการเยียวยาประชาชนทุกกลุ่มให้ทันสถานการณ์
 
2. พ.ร.ก.3 ฉบับให้อำนาจกระทรวงการคลัง-ธปท.กู้เงิน 1.9 ล้านล้านบาท จะต้องไม่เป็นการตีเช็คเปล่า งบฯส่วนนี้ต้องตกถึงมือประชาชนและเกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อลดความเสียหายทางธุรกิจ ฟื้นฟูเศรษฐกิจที่เสียหายจากโควิด-19
 
และ 3. รัฐบาลต้องลงทุนเพื่อธุรกิจสำหรับอนาคต และ รองรับ new normal
 
ทั้งนี้ ภาพที่ประชาชนแห่ไปกรมประชาสัมพันธ์ เพื่อขอให้กระทรวงการคลังทบทวนสิทธิเงินเยียวยา 5,000 บาท เป็นการประจานตัวรัฐบาลเองว่า ล้มเหลวและไร้ประสิทธิภาพในการเยียวยาประชาชน ถึงวันนี้รัฐบาลมีคำตอบหรือยังว่าจะเยียวยาประชาชนที่เข้าไม่ถึงการเยียวยาได้อย่างไร รวมถึงกรณีเปิดให้เกษตรกรขึ้นทะเบียนรับเงินเยียวยา เกิดคำถามว่ารัฐบาลมีข้อมูลทะเบียนเกษตรกรอยู่แล้ว ทำไมต้องมาลงทะเบียนให้ยุ่งยากเพิ่มขึ้นอีก ตอนคัดกรองเยียวยา 5,000 บาท มีการระบุสาเหตุของการไม่ได้รับการเยียวยาว่าเป็นเกษตรกร แต่พอเกษตรกรจะมารับการเยียวยากลับให้ไปลงทะเบียนใหม่เพิ่มขั้นตอนให้ยุ่งยากวุ่นวายทำไม จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ลดลงเรื่อยๆ ถ้าการเยียวยามีประสิทธิภาพ จะสามารถลดจำนวนคนฆ่าตัวตายรายวันได้
  

 
"ก้าวไกล" จ่อยื่นญัตติด่วน สอบการใช้งบรัฐบาล แก้ปัญหาโควิด!
https://www.khaosod.co.th/politics/news_4072619
  
“ก้าวไกล” ยื่นญัตติด่วนตรวจสอบการใช้งบ-มาตรการแก้ปัญหาโควิด-19 รบ. ลั่น ส.ส.ได้ยินเสียงร้องไห้ประชาชนแล้ว ยิ่งต้องได้เป็นวาระแรก
  
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 5 พ.ค. ที่รัฐสภา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและพรรคก้าวไกล ยื่นหนังสือต่อประธานสภาฯ เพื่อขอเสนอญัตติด่วนขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญติดตามตรวจสอบการใช้งบประมาณและมาตรการแก้ไขปัญหา ภายใต้วิกฤตการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพื่อติดตามสถานการณ์ความทุกข์ร้อน มาตรการเยียวยาดูแลประชาชน และการใช้จ่ายงบประมาณ
  
นายพิธา กล่าวว่า แม้มีการประกาศใช้ พ.ร.บ.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินซึ่งนายกรัฐมนตรีมีอำนาจเต็ม แต่ไม่ได้หมายความว่า จะสามารถใช้อำนาจได้เต็ม ต้องมีการถ่วงดุลการทำงานของฝ่ายบริหาร รักษาผลประโยชน์ของประชาชน ซึ่งอยู่ในอำนาจหน้าที่ของสภาผู้แทนราษฎร
   
โดยอีก 2 สัปดาห์จะมีการเปิดสมัยประชุมสามัญ โดยจะมีการพิจารณาพระราชกำหนด 4 ฉบับที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาโควิด-19 จึงขอให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการเพื่อติดตามตรวจสอบ รวมทั้งการพิจารณา พ.ร.บ.โอนงบประมาณฯ และ พ.ร.ก.กู้เงิน 1.9 ล้านล้านบาท ซึ่งทั้งหมดต้องดูว่า จะตอบสนองความต้องการของพี่น้องประชาชนได้จริงหรือไม่
  
นายพิธา กล่าวอีกว่า หวังว่าประธานสภาฯ จะมองเห็นถึงปัญหาและความเร่งด่วน ในการใช้งบประมาณที่อาจจะสูงมากที่สุดในประวัติการณ์หากไร้ซึ่งการตรวจสอบพี่น้องประชาชนก็จะเสียประโยชน์ ส่วนฝั่งส.ส.ฝ่ายรัฐบาลจะร่วมมือหรือไม่นั้น ตลอดเวลาที่เราต่างก็ได้ลงพื้นที่ ได้ยินเสียงร่ำไห้ของประชาชนขนาดนี้ คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ญัตติดังกล่าวเป็นเรื่องเร่งด่วน และควรนำมาเป็นวาระแรกๆ
  
ด้าน น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส. บัญชีรายชื่อ กล่าวว่า ในขณะที่ประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่ให้อำนาจเต็มกับนายกรัฐมนตรี และข้าราชการในการดำเนินงาน โดยไม่มีรัฐมนตรีคนไหนมีส่วนร่วม ตนจึงคาดว่า จะมีพรรคการเมืองทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลโดยเฉพาะพรรคร่วมเห็นชอบผ่านกลไกลนี้ หลังถูกริบอำนาจไป
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่