"เพื่อไทย” อัด รบ.ไม่ควรฉวยเอาประโยชน์บนความทุกข์ยาก-ความเสียสละของปชช.
https://www.matichon.co.th/politics/news_2187114
“ยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย” อัด รบ.ไม่ควรฉวยเอาประโยชน์บนความทุกข์ยาก-ความเสียสละของปชช.
เมื่อวันที่ 14 พฤษถาคม นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า คณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคพท. ได้ประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่า การที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 คลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลง ตัวเลขสะสมของผู้ติดเชื้อลดลง มีผู้ที่รักษาหายมากขึ้น มาจาก 4 ปัจจัยหลัก คือ
1. ความร่วมมือและการเสียสละของพี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศ
2. คุณภาพบุคลากรสาธารณสุขไทย
3. ระบบสาธารณสุขที่เข้มแข็งของไทย
4. สภาพอากาศร้อนทำให้การระบาดของโรคไม่รุนแรงเช่นในแถบยุโรปและอเมริกาเหนือที่อยู่ในช่วงฤดูหนาว
แม้ยังไม่มีวัคซีนแต่คนไทยมีภูมิคุ้มกันตระหนักรู้ในการป้องกันตนเอง ให้รอดพ้นจากการติดเชื้อ ไม่เชื่อว่าจะมีการติดเชื้อหนักระลอกที่ 2 หากทุกคนเสียสละ ร่วมแรง ร่วมใจกันป้องกันตนเองให้ห่างไกลจากโควิด-19 จึงไม่ควรมีใครฉวยเอาความเสียสละ ความเดือดร้อน ทุกข์ยากของประชาชนไปตีกินทางการเมือง เมื่อเปิดการประชุมสภาฯ สมัยสามัญ พรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมฝ่ายค้าน จะร่วมกันตรวจสอบ พ.ร.ก.เงินกู้ 1.9 ล้านล้านบาทอย่างใกล้ชิด ต้องนำไปใช้เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประเทศชาติและประชาชนให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด โปร่งใส ตรวจสอบได้ ไม่ให้มีการตีเช็คเปล่าให้รัฐบาล วิกฤตเศรษฐกิจติดโควิด อาจทำให้คนตกงานสูงถึง 10 ล้านคน จีดีพีอาจติดลบ 9% รัฐบาลจะแก้อย่างไร การขึ้นเบี้ยประชุม ค่าตอบแทนคณะกรรมการปฏิรูปประเทศและคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ เป็นการสารภาพว่ารัฐบาลจัดลำดับความสำคัญของปัญหาผิด ทำงานแบบตาบอดคลำช้างมาโดยตลอด
“คนไทยโชคดีจาก 4 ปัจจัย ที่ทำให้การควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 มีแนวโน้มที่ดีขึ้น รัฐบาลไม่ควรลิงโลดจนเกิดสภาพย่ามใจ ตีกินทางการเมือง ฉวยเอาความสำเร็จจากการเสียสละ ความเดือดร้อน ทุกข์ยากของประชาชน มาอ้างเป็นผลงานของตัวเอง” นาย
อนุสรณ์ กล่าว
ส.ส.ก้าวไกล บี้ รัฐเร่งสำรวจ จ่าย 5พันเกษตรกร พบ หลายรายเข้าไม่ถึงอินเตอร์เน็ต
https://www.matichon.co.th/politics/news_2187333
โครงการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยจ่ายเงินช่วยเหลือผ่านบัญชีธนาคาร จำนวน 5,000 บาท เป็นระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม 2563 ให้แก่เกษตรกรไม่เกิน 10 ล้านราย ซึ่งไม่ซ้ำซ้อนกับผู้ได้รับความช่วยเหลือจากโครงการเราไม่ทิ้งกัน และหลักเกณฑ์อื่นๆ ตามที่กระทรวงการคลังกำหนด รวมวงเงินไม่เกิน 150,000 ล้านบาทนั้น ล่าสุด สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) แจ้งว่า สศก.ได้รับงบประมาณจากสำนักงบประมาณแล้ว 150,000 ล้านบาท โดย สศก.ได้จ่ายเช็คให้ ธ.ก.ส.แล้วเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคมที่ผ่านมาเป็นรอบแรก จำนวน 25,000 ล้านบาท และรอบต่อไปในวันที่ 20 พฤษภาคม 25,000 ล้านบาท หลังจากนั้น จะจ่ายให้กับ ธ.ก.ส.ทุกอาทิตย์ รวม 6 งวด เพื่อให้ ธ.ก.ส.จ่ายเงินให้แก่เกษตรกรต่อไป โดย ธ.ก.ส.จะดำเนินการจ่ายเงินเยียวยาให้แก่เกษตรกรรอบแรกในวันที่ 15 พฤษภาคมนี้ จำนวน 1 ล้านราย เป็นเงิน 5,000 ล้านบาท และดำเนินการจ่ายเงินให้เกษตรกรทุกวัน วันละ 1 ล้านราย
วันนี้ (15 พ.ค.) น.ส.
สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา โฆษกพรรคก้าวไกล เปิดเผยว่า ก่อนจะมีการเยียวยาเกษตรกรในวันพรุ่งนี้ (16 พฤษภาคม) อยากถามไปยังรัฐบาลว่า ได้ลงพื้นที่สำรวจพูดคุยกับเกษตรกรบ้างหรือไม่ ตนในฐานะส.ส.เขตได้ลงพื้นที่เพื่อพูดคุยสอบถามผู้ใหญ่บ้านพบว่า ยังมีเกษตรกรหลายรายที่เข้าไม่ถึงข้อมูลข่าวสาร เข้าไม่ถึงเทคโนโลยี ไม่มีสมาร์ทโฟน ไม่มีคอมพิวเตอร์ ไม่มีอินเตอร์เน็ต จึงไม่สามารถเข้าเว็บไซต์ต่างๆ ของทางภาครัฐเพื่อตรวจสอบข้อมูลเรื่องเงินเยียวยา บางคนเป็นเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนก่อนปี 2562 ที่ยังไม่ได้ปรับปรุงข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน จึงไม่สามารถเข้า Application Farmbook เพื่อปรับปรุงข้อมูลการเกษตรได้ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเกษตรกรที่ทำไร่ ปลูกผักและผลไม้ ที่นานๆ ทีจะปรับปรุงข้อมูลกับทางเกษตรอำเภอ ส่วนเกษตรกรที่ทำนาปลูกข้าวจะปรับปรุงข้อมูลเป็นประจำอยู่แล้ว ทางผู้ใหญ่บ้านก็มีการให้ความช่วยเหลือในการรวบรวมข้อมูล แต่ก็อาจจะยังไม่ทั่วถึง
น.ส.
สุทธวรรณ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังมีคนที่ลงทะเบียนในโครงการเราไม่ทิ้งกัน และถูกปฏิเสธเนื่องจากมีครอบครัวเป็นเกษตรกร แต่พอมาตรวจสอบทะเบียนเกษตรกรก็ติดเงื่อนไข ไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่ทางรัฐกำหนดไว้ จึงทำให้เสียสิทธิทั้ง 2 โครงการ ทั้งนี้ พรรคก้าวไกลหวังว่า การเยียวยาเกษตรกรจะเป็นไปอย่างราบรื่น และหวังว่ารัฐบาลจะมีประสบการณ์จากโครงการเยียวยา 5,000 บาท โดยทางพรรคจะติดตามการดำเนินงานอย่างใกล้ชิด
JJNY : 4in1 พท.อัดรบ.ไม่ควรฉวยประโยชน์/ก้าวไกลบี้สำรวจจ่ายเกษตรกร/ไร้เงาอุตตม-สนธิรัตน์ร่วมศบค./ไม่มีเน็ต มีแต่ดงกล้วย
https://www.matichon.co.th/politics/news_2187114
เมื่อวันที่ 14 พฤษถาคม นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า คณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคพท. ได้ประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่า การที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 คลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลง ตัวเลขสะสมของผู้ติดเชื้อลดลง มีผู้ที่รักษาหายมากขึ้น มาจาก 4 ปัจจัยหลัก คือ
1. ความร่วมมือและการเสียสละของพี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศ
2. คุณภาพบุคลากรสาธารณสุขไทย
3. ระบบสาธารณสุขที่เข้มแข็งของไทย
4. สภาพอากาศร้อนทำให้การระบาดของโรคไม่รุนแรงเช่นในแถบยุโรปและอเมริกาเหนือที่อยู่ในช่วงฤดูหนาว
แม้ยังไม่มีวัคซีนแต่คนไทยมีภูมิคุ้มกันตระหนักรู้ในการป้องกันตนเอง ให้รอดพ้นจากการติดเชื้อ ไม่เชื่อว่าจะมีการติดเชื้อหนักระลอกที่ 2 หากทุกคนเสียสละ ร่วมแรง ร่วมใจกันป้องกันตนเองให้ห่างไกลจากโควิด-19 จึงไม่ควรมีใครฉวยเอาความเสียสละ ความเดือดร้อน ทุกข์ยากของประชาชนไปตีกินทางการเมือง เมื่อเปิดการประชุมสภาฯ สมัยสามัญ พรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมฝ่ายค้าน จะร่วมกันตรวจสอบ พ.ร.ก.เงินกู้ 1.9 ล้านล้านบาทอย่างใกล้ชิด ต้องนำไปใช้เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประเทศชาติและประชาชนให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด โปร่งใส ตรวจสอบได้ ไม่ให้มีการตีเช็คเปล่าให้รัฐบาล วิกฤตเศรษฐกิจติดโควิด อาจทำให้คนตกงานสูงถึง 10 ล้านคน จีดีพีอาจติดลบ 9% รัฐบาลจะแก้อย่างไร การขึ้นเบี้ยประชุม ค่าตอบแทนคณะกรรมการปฏิรูปประเทศและคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ เป็นการสารภาพว่ารัฐบาลจัดลำดับความสำคัญของปัญหาผิด ทำงานแบบตาบอดคลำช้างมาโดยตลอด
“คนไทยโชคดีจาก 4 ปัจจัย ที่ทำให้การควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 มีแนวโน้มที่ดีขึ้น รัฐบาลไม่ควรลิงโลดจนเกิดสภาพย่ามใจ ตีกินทางการเมือง ฉวยเอาความสำเร็จจากการเสียสละ ความเดือดร้อน ทุกข์ยากของประชาชน มาอ้างเป็นผลงานของตัวเอง” นายอนุสรณ์ กล่าว
ส.ส.ก้าวไกล บี้ รัฐเร่งสำรวจ จ่าย 5พันเกษตรกร พบ หลายรายเข้าไม่ถึงอินเตอร์เน็ต
https://www.matichon.co.th/politics/news_2187333
โครงการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยจ่ายเงินช่วยเหลือผ่านบัญชีธนาคาร จำนวน 5,000 บาท เป็นระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม 2563 ให้แก่เกษตรกรไม่เกิน 10 ล้านราย ซึ่งไม่ซ้ำซ้อนกับผู้ได้รับความช่วยเหลือจากโครงการเราไม่ทิ้งกัน และหลักเกณฑ์อื่นๆ ตามที่กระทรวงการคลังกำหนด รวมวงเงินไม่เกิน 150,000 ล้านบาทนั้น ล่าสุด สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) แจ้งว่า สศก.ได้รับงบประมาณจากสำนักงบประมาณแล้ว 150,000 ล้านบาท โดย สศก.ได้จ่ายเช็คให้ ธ.ก.ส.แล้วเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคมที่ผ่านมาเป็นรอบแรก จำนวน 25,000 ล้านบาท และรอบต่อไปในวันที่ 20 พฤษภาคม 25,000 ล้านบาท หลังจากนั้น จะจ่ายให้กับ ธ.ก.ส.ทุกอาทิตย์ รวม 6 งวด เพื่อให้ ธ.ก.ส.จ่ายเงินให้แก่เกษตรกรต่อไป โดย ธ.ก.ส.จะดำเนินการจ่ายเงินเยียวยาให้แก่เกษตรกรรอบแรกในวันที่ 15 พฤษภาคมนี้ จำนวน 1 ล้านราย เป็นเงิน 5,000 ล้านบาท และดำเนินการจ่ายเงินให้เกษตรกรทุกวัน วันละ 1 ล้านราย
วันนี้ (15 พ.ค.) น.ส.สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา โฆษกพรรคก้าวไกล เปิดเผยว่า ก่อนจะมีการเยียวยาเกษตรกรในวันพรุ่งนี้ (16 พฤษภาคม) อยากถามไปยังรัฐบาลว่า ได้ลงพื้นที่สำรวจพูดคุยกับเกษตรกรบ้างหรือไม่ ตนในฐานะส.ส.เขตได้ลงพื้นที่เพื่อพูดคุยสอบถามผู้ใหญ่บ้านพบว่า ยังมีเกษตรกรหลายรายที่เข้าไม่ถึงข้อมูลข่าวสาร เข้าไม่ถึงเทคโนโลยี ไม่มีสมาร์ทโฟน ไม่มีคอมพิวเตอร์ ไม่มีอินเตอร์เน็ต จึงไม่สามารถเข้าเว็บไซต์ต่างๆ ของทางภาครัฐเพื่อตรวจสอบข้อมูลเรื่องเงินเยียวยา บางคนเป็นเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนก่อนปี 2562 ที่ยังไม่ได้ปรับปรุงข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน จึงไม่สามารถเข้า Application Farmbook เพื่อปรับปรุงข้อมูลการเกษตรได้ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเกษตรกรที่ทำไร่ ปลูกผักและผลไม้ ที่นานๆ ทีจะปรับปรุงข้อมูลกับทางเกษตรอำเภอ ส่วนเกษตรกรที่ทำนาปลูกข้าวจะปรับปรุงข้อมูลเป็นประจำอยู่แล้ว ทางผู้ใหญ่บ้านก็มีการให้ความช่วยเหลือในการรวบรวมข้อมูล แต่ก็อาจจะยังไม่ทั่วถึง
น.ส.สุทธวรรณ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังมีคนที่ลงทะเบียนในโครงการเราไม่ทิ้งกัน และถูกปฏิเสธเนื่องจากมีครอบครัวเป็นเกษตรกร แต่พอมาตรวจสอบทะเบียนเกษตรกรก็ติดเงื่อนไข ไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่ทางรัฐกำหนดไว้ จึงทำให้เสียสิทธิทั้ง 2 โครงการ ทั้งนี้ พรรคก้าวไกลหวังว่า การเยียวยาเกษตรกรจะเป็นไปอย่างราบรื่น และหวังว่ารัฐบาลจะมีประสบการณ์จากโครงการเยียวยา 5,000 บาท โดยทางพรรคจะติดตามการดำเนินงานอย่างใกล้ชิด