ต้องยอมรับว่า ตั้งแต่เกิดโรคระบาดร้ายแรง หลายธุกิจได้รับผลกระทบ
ที่หนักสุด คือ ภาคการท่องเที่ยว ซึ่งสร้างรายได้เกินกว่า 10 % ของจีดีพี เป็นรองแค่ภาคการส่งออก
ไม่เฉพาะจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่ลดลง แต่นักท่องเที่ยวในประเทศก็ลดลง ทำให้รายได้ชุมชนลดลง
ธุรกิจหนึ่งที่ได้รับผลกระทบหนัก คือ ร้านอาหาร เพราะผู้คนหวั่นเกรงโรคร้าย เก็บตัวทำกินเองอยู่แต่ในบ้าน
บางร้านลดผลกระทบ ด้วยการสมัครแอ๊พพลิเคชั่นรับส่งอาหาร ร้านที่ปรับตัวไม่ทัน ก็อยู่ในสภาพที่ใกล้ปิดกิจการ
วันหนึ่งมีร้านอาหารที่ยอดขายตกมาก จนอยู่ในสภาพที่อยากปิดกิจการ ทั้งที่เคยขายดี
มาตั้งกระทู้ขอความช่วยเหลือในพันทิป ขอให้ฟู้ดบล็กเกอร์ช่วยไปรีวิวร้าน เพราะอาม่าไม่อยากปิดร้าน
สิ่งที่นักเขียนเรื่องกินเรื่องเที่ยวพอจะช่วยได้ ก็คือการช่วยแนะนำร้าน จึงส่งข้อความขอชื่อร้าน
จากนั้นนำไปหาข้อมูลเกี่ยวกับทางร้าน และลักษณะอาหารที่ขาย กลายเป็นว่าอาหารที่ขาย
เป็นอาหารที่นับวันจะหากินยากขึ้นทุกวัน เหลือเพียงไม่กี่ร้านที่ยังทำขาย คือ หัวปลาหม้อไฟ
แต่สิ่งที่ต้องทำความเข้าใจกับทางร้านก่อนก็คือ ถ้าไปชิมแล้วไม่ผ่านเกณฑ์ความอร่อยจะไม่เขียนให้
เมื่อต้องการความช่วยเหลือจึงเคลียร์คิวให้ แต่ไม่บอกว่าจะไปวันไหน
เพราะไม่ต้องการให้ทางร้านจัดเตรียมวัตถุดิบไว้เป็นพิเศษล่วงหน้า ปกติขายแบบไหนกินแบบนั้น
วันอาทิตย์ที่ 8-3-20 เที่ยงโทรฯ ไปหาทางร้านว่าจะเข้าไปห้าโมงเย็น ซึ่งเป็นเวลาเปิดร้าน
โดยแจ้งกับทางร้านว่าขายอย่างไรทำอย่างนั้น ไม่ต้องการวัตถุดิบพิเศษ
ไม่มีการเพิ่มปริมาณให้เป็นพิเศษ ไม่มีการตกแต่งจานเป็นพิเศษ โดยจะไปกันสามคน
เพื่อให้ชิมได้หลายอย่าง โดยให้ทางร้านคัดตัวเด่นของทางร้านมาให้ชิม 3 อย่าง ที่เหลือจะสุ่มสั่ง
ร้านตั้งอยู่ที่ถนนเจริญนคร ระหว่างซอย 57 และ 57/1 ตรงสะพานเจริญนคร 6 ข้ามคลองสำเหร่
สามารถเข้าได้ทั้งจากทางแยกบุคคโล ลงจากสะพานพระรามที่ 3 และสะพานกรุงเทพฯ
เลี้ยวขวาที่แยกบุคคโล ร้านอยู่ทางขวามือก่อนขึ้นสะพาน แต่ถ้ามาจากสะพานสาทร
วนซ้ายมาออกถนนเจริญนครแล้วเลี้ยวขวา ร้านจะอยู่ทางซ้ายมือ เลือกที่จะมาทางนี้
เพราะมีบีทีเอส สถานีกรุงธนบุรี ถึงสถานีลงทางด้านทางออกที่ 1 เพราะทางออกที่ 3
อยู่ระหว่างการก่อสร้างสถานีสายสีทองไปไอคอนสยาม จากนั้นเรียกแท็กซี่ไปที่ร้าน ค่ารถ 47 บาท
ข้อด้อยด้านทำเลของร้านนี้ คือร้านอยู่ติดทางลงสะพานเจริญนคร 6 ข้ามคลองสำเหร่
และไม่เห็นป้ายร้านเด่นชัดแบบสะดุดตา ทำให้ลูกค้าไม่เห็นร้าน
พอลงสะพานจะขับเลยและไม่ย้อนกลับมา แม้แต่วันนี้ยังนั่งรถเลยร้าน ต้องเดินย้อนกลับมา
หน้าร้านมีลักษณะเหมือนร้านขายอาหารตามสั่ง มากกว่าที่จะเป็นร้านขายหัวปลาหม้อไฟ
น่าจะตั้งตู้ที่หน้าร้าน แล้วแขวนหัวปลาจีนหัวโต ๆ ห้อยขึ้นช่ายเป็นมัด ๆ ให้เห็นเด่นสะดุดตา
มีโต๊ะนั่งในร้าน 5 โต๊ะ หน้าร้าน 2 โต๊ะ
และบนทางเดินสะพานอีก 3 โต๊ะ ซึ่งเทศกิจอนุญาตให้ตั้งได้
ตอนที่ไปถึงมีบริการรับสั่งส่งอาหาร 2 ราย
ผนังร้านด้านนอกอาคารอายุกว่า 30 ปีควรทาสีใหม่ และติดป้ายขนาดใหญ่ให้เห็นแต่ไกล
ยิ่งเป็นป้ายไฟยิ่งดี ให้เห็นชัดเวลากลางคืน เพราะร้านนี้สามารถนั่งยาว ๆ ถึง 5 ทุ่ม
โต๊ะเก้าอี้ทุกหัวได้รับการทำความสะอาดด้วยแอลกอฮอลทันที่ที่เก็บโต๊ะ
และมีเจลล้างมือให้ล้างมือก่อนกินอาหาร ลืมถามว่าหาซื้อที่ไหน เพราะมันหายากเหลือเกิน
รายการอาหารของทางร้าน
ดูจากรายการอาหารแล้ว ราคาไม่แรง
และท่าทางจะชำนาญการทำอาหารจากกระเพาะปลาสด
อาหารจานเดียว
ราคาเครื่องดื่มสามตัวบนไม่แรง
น้ำจิ้มเต้าเจี้ยวสำหรับเนื้อปลา เป็นแบบปั่นเนียนละเอียด
มีพริกสับกระเทียมสับให้เพิ่มความเข้มข้นของน้ำจิ้ม
มาร้านหัวปลาหม้อไฟ แน่นอนว่าต้องเริ่มต้นด้วยหัวปลาหม้อไฟ
ต้องร้านจัดเป็นหัวปลาต้มบ๊วยหม้อเล็ก 170 บาท ใส่ครบ 3 กษัตริย์ คือ หัวปลา+เนื้อ ไข่และกระเพาะปลาสด
ใช้หม้อไฟ หรือ "หยวนโล้ว" แบบโบราณ ซึ่งเป็นหม้อกลมที่มีปล่องตรงกลาง สำหรับใส่ถ่านคุ
แล้วเป่าด้วยพัดลมก้นหอยจนถ่านลุกโชน กระจายความร้อนจากตรงกลางไปรัศมีโดยรอบ
เพื่อให้ความร้อนกระจายทั่วอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ได้ซดน้ำแกงที่ร้อนอยู่ตลอดเวลา
ต่างจากการใช้เจลแอลกอฮอล ที่ให้ความร้อนแค่ช่วงเรื่มต้นเท่านั้น
น้ำแกงกำลังเดือดปุด ๆ
"ทิโป้ว" หรือปลาตาเดียวตากแห้งทอดกรอบ ตัวชูรสเพิ่มให้กับน้ำแกง
ปัจจุบันราคาค่อนข้างแพง บางร้านจึงใส่ของเทียม ซึ่งได้แค่ความกรอบ แต่ไม่ได้ความหอม
ชิ้นสีขาว คือ กระเพาะปลาสดจากปลาจีน ชิ้นเล็กเนื้อไม่หนาแต่กรุบกรอบ สดจริงล้างดี สะอาดไม่มีกลิ่นคาว
ไข่ปลาจีนต้มสุกจนถึงเนื้อใน จับตัวแข็งเป็นก้อน
ไม่กระจายในน้ำแกงเสียของ ทำให้เคี้ยวหนึบได้เต็มคำ
ร้านดังบางร้านความที่ขายดี บางครั้งด้านในยังแดงดิบ
ส่วนที่เป็นหัวปลาแฟนเหมาหมดห้ามแย่ง
แต่ไม่เป็นไร เพราะชอบเนื้อส่วนท้องปลาหุ้มพุงปลา
เพราะมีไขมันดีที่มีประโยขน์แบบไม่มันเลี่ยน
ธรรมชาติของเนื้อปลาจีนจะมีกลิ่นดินบาง ๆ เหมือนปลาน้ำจืดส่วนใหญ่
แต่ไม่มากเหมือนปลาดุก เพราะปลาดุกอาศัยในดินโคลน แต่ปลาจีนเลี้ยงในบึง
สมัยก่อนกลางกรุงเมพฯ มีบ่อเลี้ยงปลาจีนติดวัดปทุมวนารามฯ หลังซอยไทยไดมารู
ก่อนกลายเป็นเวิร์ลเทรดเซ็นเตอร์ หรือเซ็นทรัลเวิร์ลในปัจจุบัน
แหล่งจำหน่ายปลาจีนแหล่งใหญ่ในกรุงเทพฯ คือ ที่ตลาดเก่า เยาวราช ซึ่งรับมาจากแหล่งเลี้ยงที่ฉะเชิงเทรา
น้ำแกงใส่บ๊วยดองในปริมาณหอมพอเหมาะไม่เปรี้ยวแหลม
เพิ่มความหอมของน้ำแกงด้วยรากผักชีทุบ เป็นน้ำแกงที่ช่วยกระตุ้นความสดชื่น
พอ ๆ กับซดน้ำแกงหมูสับใส่เกี้ยมบ๊วยหลังออกกำลังกาย หรือน้ำบ๊วยร้อนตอกไข่ลวกเพิ่มพลัง
เหมือนร้านสุริยากาแฟ ตลาดกลาง หลังวัดจันทาราม หรือวัดกลาง ตลาดพลู
กระเพาะปลาสดอร่อย แม้ว่าจะชิ้นเล็กไปหน่อย
เห็นแล้วอดคิดถึงกระเพาะปลาน้ำแดง ร้านข้าวมันไก่โกตา ถนนวิสุทธิกษัตริย์
ซึ่งขายเฉพาะวันอังคาร เพราะต้องใช้เวลารวบรวมกระเพาะปลาสดไปตากแห้งทั้งอาทิตย์
จนได้ปริมาณพอขาย จากนั้นจึงนำไปทอดจนพอง และทำกระเพาะปลาน้ำแดง
แต่ต้องรอชมใน "เที่ยวไปกินไป by laser @ ถนนวิสุทธิ์กษัตริย์"
ซดน้ำแกงจนคอด ต้องขอเติมอีกหน่อย
จานนำเสนอจากร้านหัวปลาหม้อไฟ ส.วังทอง รายการที่สอง ผัดหมี่ซั่วจานเล็ก 120 บาท
ดูจะเป็นจานพื้นๆไม่น่าอวด แต่ยกมาพร้อมกลิ่นหอมกระทะบาง ๆ เส้นลวกต้มได้ดียังมีความหยุ่น
แบบที่เรียกกันว่า อัล เดนเต้ (Al Dente) ของอิตาลี ที่สำคัญ คือ ผัดมาแห้งไม่อมน้ำมัน
ไม่มีน้ำมันนองใต้ก้นจานให้เลี่ยน รสชาติลงตัว อร่อยโดยไม่จำเป็นต้องเติมซ้อสเปรี้ยว
รายการความมั่นใจของทางร้านรายการที่สาม อ่อส่วนกระทะร้อน 100 บาท
หอยตัวเล็กไปนิด อาจเพราะหดตัวจากความร้อน แป้งหอมแต่ข้นไปนิด ทำให้เมื่อเย็นแล้วเหนียว
ดีที่ใส่แป้งไม่มาก โดยรวมถือว่ารสชาติผ่าน
มาถึงอาหารที่จิ้มลองเองรอบแรกสามอย่าง
เริ่มด้วยกระเพาะปลาน้ำแดงในหม้อแบบหม้อดิน 150 บาท
กระเพาะ (ถุงลม) ปลาชิ้นใหญ่เป็นหลอดสมราคา น้ำแกงออกหวานนิด ๆ
แต่พอเติมซ้อสเปรี้ยวลงไปกลับลงตัว ถ้าทำน้ำแกงรสชาติแบบหูฉลาม
ด้วยการใส่รากผักชีทุบมากหน่อยจะยิ่งอร่อย น้ำแกงหนักพริกไทยจึงควรชิมก่อนเติมพริกไทยเพิ่ม
ใส่เห็ดหอม ไม่ใส่เนื้อปู แต่ทดแทนด้วยกุ้งสับ ซึ่งแปลกไปอีกแบบ
ในเมื่อทางร้านเน้นกระเพาะปลาสด แต่อยากลองผัดฉ่า ซึ่งไม่มีในรายการอาหาร
จึงสั่งเป็นกระเพาะปลาสดผัดฉ่า 150 บาท ทางร้านนำกระเพาะปลาสดไปชุบแป้ง
แล้วทอดจนกรอบด้านนอก จากนั้นทำผัดฉ่ารสจัดพอเหมาะ ใส่มะเขือพวงและมะเขือเปราะสดกรอบ
ก่อนนำกระเพาะปลาสดชุบแป้งทอดลงไปคลุก ได้ความหอมของพริกตำ ใบกะเพรา
ใบมะกรูดซอยและกระชายซอย กระเพาะปลาสดชุบแป้งทอดกรอบบางๆ เนื้อหนึบหนับเคี้ยวเพลิน
เผ็ดร้อนอร่อย ขนาดไม่ได้ใส่พริกไทยสด
จนต้องร้องขอน้ำเก๊กฮวยหมัก ยี่ห้อดาวแดงขวดใหญ่ 90 บาท
แฟนอยากลองจึงสั่งกุ้งผัดพริกเกลือจานเล็ก 120 บาท
ได้กุ้งก้ามกรามสดขนาดกำลังดีเนื้อเด้งหัวมันเยิ้มสามตัว
ออกจะเน้นกระเทียมสับมากไปนิด อยากได้ความเค็มจากเกลือสมชื่ออาหารอีกหน่อย
[CR] เที่ยวไปกินไป by laser @ หัวปลาหม้อไฟ ส. วังใหม่
ที่หนักสุด คือ ภาคการท่องเที่ยว ซึ่งสร้างรายได้เกินกว่า 10 % ของจีดีพี เป็นรองแค่ภาคการส่งออก
ไม่เฉพาะจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่ลดลง แต่นักท่องเที่ยวในประเทศก็ลดลง ทำให้รายได้ชุมชนลดลง
ธุรกิจหนึ่งที่ได้รับผลกระทบหนัก คือ ร้านอาหาร เพราะผู้คนหวั่นเกรงโรคร้าย เก็บตัวทำกินเองอยู่แต่ในบ้าน
บางร้านลดผลกระทบ ด้วยการสมัครแอ๊พพลิเคชั่นรับส่งอาหาร ร้านที่ปรับตัวไม่ทัน ก็อยู่ในสภาพที่ใกล้ปิดกิจการ
วันหนึ่งมีร้านอาหารที่ยอดขายตกมาก จนอยู่ในสภาพที่อยากปิดกิจการ ทั้งที่เคยขายดี
มาตั้งกระทู้ขอความช่วยเหลือในพันทิป ขอให้ฟู้ดบล็กเกอร์ช่วยไปรีวิวร้าน เพราะอาม่าไม่อยากปิดร้าน
สิ่งที่นักเขียนเรื่องกินเรื่องเที่ยวพอจะช่วยได้ ก็คือการช่วยแนะนำร้าน จึงส่งข้อความขอชื่อร้าน
จากนั้นนำไปหาข้อมูลเกี่ยวกับทางร้าน และลักษณะอาหารที่ขาย กลายเป็นว่าอาหารที่ขาย
เป็นอาหารที่นับวันจะหากินยากขึ้นทุกวัน เหลือเพียงไม่กี่ร้านที่ยังทำขาย คือ หัวปลาหม้อไฟ
แต่สิ่งที่ต้องทำความเข้าใจกับทางร้านก่อนก็คือ ถ้าไปชิมแล้วไม่ผ่านเกณฑ์ความอร่อยจะไม่เขียนให้
เมื่อต้องการความช่วยเหลือจึงเคลียร์คิวให้ แต่ไม่บอกว่าจะไปวันไหน
เพราะไม่ต้องการให้ทางร้านจัดเตรียมวัตถุดิบไว้เป็นพิเศษล่วงหน้า ปกติขายแบบไหนกินแบบนั้น
วันอาทิตย์ที่ 8-3-20 เที่ยงโทรฯ ไปหาทางร้านว่าจะเข้าไปห้าโมงเย็น ซึ่งเป็นเวลาเปิดร้าน
โดยแจ้งกับทางร้านว่าขายอย่างไรทำอย่างนั้น ไม่ต้องการวัตถุดิบพิเศษ
ไม่มีการเพิ่มปริมาณให้เป็นพิเศษ ไม่มีการตกแต่งจานเป็นพิเศษ โดยจะไปกันสามคน
เพื่อให้ชิมได้หลายอย่าง โดยให้ทางร้านคัดตัวเด่นของทางร้านมาให้ชิม 3 อย่าง ที่เหลือจะสุ่มสั่ง
ร้านตั้งอยู่ที่ถนนเจริญนคร ระหว่างซอย 57 และ 57/1 ตรงสะพานเจริญนคร 6 ข้ามคลองสำเหร่
สามารถเข้าได้ทั้งจากทางแยกบุคคโล ลงจากสะพานพระรามที่ 3 และสะพานกรุงเทพฯ
เลี้ยวขวาที่แยกบุคคโล ร้านอยู่ทางขวามือก่อนขึ้นสะพาน แต่ถ้ามาจากสะพานสาทร
วนซ้ายมาออกถนนเจริญนครแล้วเลี้ยวขวา ร้านจะอยู่ทางซ้ายมือ เลือกที่จะมาทางนี้
เพราะมีบีทีเอส สถานีกรุงธนบุรี ถึงสถานีลงทางด้านทางออกที่ 1 เพราะทางออกที่ 3
อยู่ระหว่างการก่อสร้างสถานีสายสีทองไปไอคอนสยาม จากนั้นเรียกแท็กซี่ไปที่ร้าน ค่ารถ 47 บาท
ข้อด้อยด้านทำเลของร้านนี้ คือร้านอยู่ติดทางลงสะพานเจริญนคร 6 ข้ามคลองสำเหร่
และไม่เห็นป้ายร้านเด่นชัดแบบสะดุดตา ทำให้ลูกค้าไม่เห็นร้าน
พอลงสะพานจะขับเลยและไม่ย้อนกลับมา แม้แต่วันนี้ยังนั่งรถเลยร้าน ต้องเดินย้อนกลับมา
หน้าร้านมีลักษณะเหมือนร้านขายอาหารตามสั่ง มากกว่าที่จะเป็นร้านขายหัวปลาหม้อไฟ
น่าจะตั้งตู้ที่หน้าร้าน แล้วแขวนหัวปลาจีนหัวโต ๆ ห้อยขึ้นช่ายเป็นมัด ๆ ให้เห็นเด่นสะดุดตา
มีโต๊ะนั่งในร้าน 5 โต๊ะ หน้าร้าน 2 โต๊ะ
และบนทางเดินสะพานอีก 3 โต๊ะ ซึ่งเทศกิจอนุญาตให้ตั้งได้
ตอนที่ไปถึงมีบริการรับสั่งส่งอาหาร 2 ราย
ผนังร้านด้านนอกอาคารอายุกว่า 30 ปีควรทาสีใหม่ และติดป้ายขนาดใหญ่ให้เห็นแต่ไกล
ยิ่งเป็นป้ายไฟยิ่งดี ให้เห็นชัดเวลากลางคืน เพราะร้านนี้สามารถนั่งยาว ๆ ถึง 5 ทุ่ม
โต๊ะเก้าอี้ทุกหัวได้รับการทำความสะอาดด้วยแอลกอฮอลทันที่ที่เก็บโต๊ะ
และมีเจลล้างมือให้ล้างมือก่อนกินอาหาร ลืมถามว่าหาซื้อที่ไหน เพราะมันหายากเหลือเกิน
รายการอาหารของทางร้าน
ดูจากรายการอาหารแล้ว ราคาไม่แรง
และท่าทางจะชำนาญการทำอาหารจากกระเพาะปลาสด
อาหารจานเดียว
ราคาเครื่องดื่มสามตัวบนไม่แรง
น้ำจิ้มเต้าเจี้ยวสำหรับเนื้อปลา เป็นแบบปั่นเนียนละเอียด
มีพริกสับกระเทียมสับให้เพิ่มความเข้มข้นของน้ำจิ้ม
มาร้านหัวปลาหม้อไฟ แน่นอนว่าต้องเริ่มต้นด้วยหัวปลาหม้อไฟ
ต้องร้านจัดเป็นหัวปลาต้มบ๊วยหม้อเล็ก 170 บาท ใส่ครบ 3 กษัตริย์ คือ หัวปลา+เนื้อ ไข่และกระเพาะปลาสด
ใช้หม้อไฟ หรือ "หยวนโล้ว" แบบโบราณ ซึ่งเป็นหม้อกลมที่มีปล่องตรงกลาง สำหรับใส่ถ่านคุ
แล้วเป่าด้วยพัดลมก้นหอยจนถ่านลุกโชน กระจายความร้อนจากตรงกลางไปรัศมีโดยรอบ
เพื่อให้ความร้อนกระจายทั่วอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ได้ซดน้ำแกงที่ร้อนอยู่ตลอดเวลา
ต่างจากการใช้เจลแอลกอฮอล ที่ให้ความร้อนแค่ช่วงเรื่มต้นเท่านั้น
น้ำแกงกำลังเดือดปุด ๆ
"ทิโป้ว" หรือปลาตาเดียวตากแห้งทอดกรอบ ตัวชูรสเพิ่มให้กับน้ำแกง
ปัจจุบันราคาค่อนข้างแพง บางร้านจึงใส่ของเทียม ซึ่งได้แค่ความกรอบ แต่ไม่ได้ความหอม
ชิ้นสีขาว คือ กระเพาะปลาสดจากปลาจีน ชิ้นเล็กเนื้อไม่หนาแต่กรุบกรอบ สดจริงล้างดี สะอาดไม่มีกลิ่นคาว
ไข่ปลาจีนต้มสุกจนถึงเนื้อใน จับตัวแข็งเป็นก้อน
ไม่กระจายในน้ำแกงเสียของ ทำให้เคี้ยวหนึบได้เต็มคำ
ร้านดังบางร้านความที่ขายดี บางครั้งด้านในยังแดงดิบ
ส่วนที่เป็นหัวปลาแฟนเหมาหมดห้ามแย่ง
แต่ไม่เป็นไร เพราะชอบเนื้อส่วนท้องปลาหุ้มพุงปลา
เพราะมีไขมันดีที่มีประโยขน์แบบไม่มันเลี่ยน
ธรรมชาติของเนื้อปลาจีนจะมีกลิ่นดินบาง ๆ เหมือนปลาน้ำจืดส่วนใหญ่
แต่ไม่มากเหมือนปลาดุก เพราะปลาดุกอาศัยในดินโคลน แต่ปลาจีนเลี้ยงในบึง
สมัยก่อนกลางกรุงเมพฯ มีบ่อเลี้ยงปลาจีนติดวัดปทุมวนารามฯ หลังซอยไทยไดมารู
ก่อนกลายเป็นเวิร์ลเทรดเซ็นเตอร์ หรือเซ็นทรัลเวิร์ลในปัจจุบัน
แหล่งจำหน่ายปลาจีนแหล่งใหญ่ในกรุงเทพฯ คือ ที่ตลาดเก่า เยาวราช ซึ่งรับมาจากแหล่งเลี้ยงที่ฉะเชิงเทรา
น้ำแกงใส่บ๊วยดองในปริมาณหอมพอเหมาะไม่เปรี้ยวแหลม
เพิ่มความหอมของน้ำแกงด้วยรากผักชีทุบ เป็นน้ำแกงที่ช่วยกระตุ้นความสดชื่น
พอ ๆ กับซดน้ำแกงหมูสับใส่เกี้ยมบ๊วยหลังออกกำลังกาย หรือน้ำบ๊วยร้อนตอกไข่ลวกเพิ่มพลัง
เหมือนร้านสุริยากาแฟ ตลาดกลาง หลังวัดจันทาราม หรือวัดกลาง ตลาดพลู
กระเพาะปลาสดอร่อย แม้ว่าจะชิ้นเล็กไปหน่อย
เห็นแล้วอดคิดถึงกระเพาะปลาน้ำแดง ร้านข้าวมันไก่โกตา ถนนวิสุทธิกษัตริย์
ซึ่งขายเฉพาะวันอังคาร เพราะต้องใช้เวลารวบรวมกระเพาะปลาสดไปตากแห้งทั้งอาทิตย์
จนได้ปริมาณพอขาย จากนั้นจึงนำไปทอดจนพอง และทำกระเพาะปลาน้ำแดง
แต่ต้องรอชมใน "เที่ยวไปกินไป by laser @ ถนนวิสุทธิ์กษัตริย์"
ซดน้ำแกงจนคอด ต้องขอเติมอีกหน่อย
จานนำเสนอจากร้านหัวปลาหม้อไฟ ส.วังทอง รายการที่สอง ผัดหมี่ซั่วจานเล็ก 120 บาท
ดูจะเป็นจานพื้นๆไม่น่าอวด แต่ยกมาพร้อมกลิ่นหอมกระทะบาง ๆ เส้นลวกต้มได้ดียังมีความหยุ่น
แบบที่เรียกกันว่า อัล เดนเต้ (Al Dente) ของอิตาลี ที่สำคัญ คือ ผัดมาแห้งไม่อมน้ำมัน
ไม่มีน้ำมันนองใต้ก้นจานให้เลี่ยน รสชาติลงตัว อร่อยโดยไม่จำเป็นต้องเติมซ้อสเปรี้ยว
รายการความมั่นใจของทางร้านรายการที่สาม อ่อส่วนกระทะร้อน 100 บาท
หอยตัวเล็กไปนิด อาจเพราะหดตัวจากความร้อน แป้งหอมแต่ข้นไปนิด ทำให้เมื่อเย็นแล้วเหนียว
ดีที่ใส่แป้งไม่มาก โดยรวมถือว่ารสชาติผ่าน
มาถึงอาหารที่จิ้มลองเองรอบแรกสามอย่าง
เริ่มด้วยกระเพาะปลาน้ำแดงในหม้อแบบหม้อดิน 150 บาท
กระเพาะ (ถุงลม) ปลาชิ้นใหญ่เป็นหลอดสมราคา น้ำแกงออกหวานนิด ๆ
แต่พอเติมซ้อสเปรี้ยวลงไปกลับลงตัว ถ้าทำน้ำแกงรสชาติแบบหูฉลาม
ด้วยการใส่รากผักชีทุบมากหน่อยจะยิ่งอร่อย น้ำแกงหนักพริกไทยจึงควรชิมก่อนเติมพริกไทยเพิ่ม
ใส่เห็ดหอม ไม่ใส่เนื้อปู แต่ทดแทนด้วยกุ้งสับ ซึ่งแปลกไปอีกแบบ
ในเมื่อทางร้านเน้นกระเพาะปลาสด แต่อยากลองผัดฉ่า ซึ่งไม่มีในรายการอาหาร
จึงสั่งเป็นกระเพาะปลาสดผัดฉ่า 150 บาท ทางร้านนำกระเพาะปลาสดไปชุบแป้ง
แล้วทอดจนกรอบด้านนอก จากนั้นทำผัดฉ่ารสจัดพอเหมาะ ใส่มะเขือพวงและมะเขือเปราะสดกรอบ
ก่อนนำกระเพาะปลาสดชุบแป้งทอดลงไปคลุก ได้ความหอมของพริกตำ ใบกะเพรา
ใบมะกรูดซอยและกระชายซอย กระเพาะปลาสดชุบแป้งทอดกรอบบางๆ เนื้อหนึบหนับเคี้ยวเพลิน
เผ็ดร้อนอร่อย ขนาดไม่ได้ใส่พริกไทยสด
จนต้องร้องขอน้ำเก๊กฮวยหมัก ยี่ห้อดาวแดงขวดใหญ่ 90 บาท
แฟนอยากลองจึงสั่งกุ้งผัดพริกเกลือจานเล็ก 120 บาท
ได้กุ้งก้ามกรามสดขนาดกำลังดีเนื้อเด้งหัวมันเยิ้มสามตัว
ออกจะเน้นกระเทียมสับมากไปนิด อยากได้ความเค็มจากเกลือสมชื่ออาหารอีกหน่อย
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น